ตอนที่ 934
นี่คือการตอบแทนอย่างสาสม
เครื่องเรือนภายในห้องถูกกระแสลมกวาดผ่าน กลายเป็นฝุ่นผงทั้งหมด ปิดบังทัศนวิสัยในห้องจนพร่าเลือน
ดวงตาทั้งคู่ของชายอักขระสีทองหดลงอย่างรวดเร็ว ประหลาดใจต่อการโจมตีที่ไม่ลังเลของคนทั้งสอง
เดิมเขาคิดว่า หลังจากถูกพบเห็นแล้ว คนทั้งสองจะเลือกวิ่งหนี ไม่ใช่ต่อสู้
ซือมั่วกับมู่ชิงเกอมาถึงในชั่วพริบตา และข้างนอกก็มีเสียงฝีแท้าดังขึ้นมากำลังวิ่งมาทางฝั่งนี้ด้วยความรวดเร็ว ชายอักขระสีทองขวางการโจมตีของคนทั้งสองไว้
หนึ่งต่อสองทำให้เขารู้สึกเปลืองแรง รู้สึกยากจะต้านทานชนิดหนึ่ง
เป็นพวกเจ้าสองคนดังคาด” เขายิ้มอย่างดุร้าย คิดจะใช้คำพูดทำลายเจตนาสังหารของคนทั้งสอง ถ่วงเวลาไว้
ทว่า มู่ชิงเกอกับซือมั่วเป็นใคร
ลูกไม้แค่นี้จะมองไม่ออกได้อย่างไร
ไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ตอบแทนก็คือฝ่ามือเหี้ยมโหดที่ตกลงบนอกเขา พลังฝ่ามือนั้นเข้าไปในร่างกายของเขา ทำให้เขาสัมผัสถึงการสูญสลายของชีวิต
“อ๊าก” ชายอักขระสีทองร้องตะโกนดัง อักขระสีทองกลางหน้าผากส่องแสงจ้าในชั่วพริบตา ยิงออกมาจากหว่างคิ้ว
อักขระที่ยิงออกมาขยายใหญ่ในชั่วขณะ โจมตีไปยังมู่ชิงเกอกับซือมั่ว ผู้ที่ปะทะอยู่ข้างหน้าคือมู่ชิงเกอ เมื่ออักขระสีทองนั้นปรากฎขึ้น นางก็รู้สึกถึงพลังที่มนุษย์ไม่อาจควบคุมชนิดหนึ่งโผเข้ามาตรงหน้า
ราวกับว่า พลังที่แฝงอยู่ในอักขระ มาจากจักรวาลยุคบุกเบิก เพียงแต่ถูกสะกดไว้ในร่างกายของคนเผ่าฝู
ทุกสิ่งทุกอย่างข้างหน้าพลังกลุ่มนี้ล้วนแต่ถูกพังทลาย ต่อให้จะเป็นในดวงตาของมู่ชิงเกอปรากฎความตกใจ
นางตอบสนองอย่างรวดเร็วถอยไปข้างหลัง ทว่าความเร็วของอักขระสีทองนั้นกลับเร็วยิ่งขึ้นชั่วพริบตาก็อยู่ตรงหน้านาง ตอนนี้ ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นเข้ามา คว้าเสื้อตรงไหล่ของนางไว้ ออกแรงยกนางขึ้น
ตอนที่ร่างตัวเองถูกยกขึ้นมาหลบออกจากวงโจมตี มู่ชิงเกอมองเห็นภาพภาพเดียว
นางเห็นหลังมือของซือมั่วถูกพลังของอักขระสีทองลวกจนบาดเจ็บ เลือดเนื้อถูกเฉือนออก กลิ่นคาวเลือดในอากาศแทบจะทำให้มู่ชิงเกอระเบิดโทสะ
นางไม่ยอมให้ตนเป็นต้นเหตุทำให้ซือมั่วต้องมาบาดเจ็บ
ชั่วพริบตาเดียว นางก็หล่นลงข้างหลังซือมั่วอย่างปลอดภัย แต่อักขระสีทองที่พุ่งเข้ามาหานางทุกสิ่งทุกอย่างแตกละเอียดทันที ทำลายห้องไปเกินครึ่ง แม้แต่ผนังก็ถล่ม
“อามั่ว” มู่ชิงเกอมองมือของซือมั่ว
เลือดเนื้อเลือนราง กระดูกขาวปรากฎให้เห็น ทำให้ความอาฆาตในดวงตาของนางเย็นเยียบยิ่งขึ้น
นางหยิบยาระดับมหาเทพหนึ่งเม็ดออกมายัดเข้าไปในปากของซือมั่ว บาดแผลบนหลังมือเขาก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
“เจ้าพวกโง่ทั้งสอง นึกไม่ถึงว่าจะวิ่งมาลอบสังหารข้าถึงอาณาเขตของข้า รนหาที่ตายแท้ๆ” ชายอักขระสีทองกุมอก หัวเราะกล่าวอย่างดุร้าย
ภายในร่างกายของเขา พลังที่ทำลายพลังชีวิตเขากลุ่มนั้นยังคงอยู่ เพียงแต่ไม่ได้เร็วแรงอย่างในตอนแรกแล้ว
พอเห็นซือมั่วบาดเจ็บ แววตาเขาก็มีความดีใจขึ้นมา
เสียงฝีเท้ากลุ่มใหญ่วิ่งมาถึงแล้ว ราชองครักษ์อักขระสีดำ ทหารอารักขาอักขระสีแดง ปรากฎตัวอยู่ข้างหน้าซากปรักหักพังย่อยยับ มองเห็นราชาของพวกถูกโจมตี คนอักขระสีดำผู้หนึ่งในนั้นก็ตะโกนทันที “พายักษ์กับ โถวถัว…”
“หุบปาก สัตว์พวกนั้นทำอะไรพวกเขาไม่ได้” ชายอักขระสีทองยิ้มอย่างป่าเถื่อน ตัดบทพูดของผู้ใต้บังคับบัญชา
คำพูดของเขา ทำให้ดวงตาของคนที่วิ่งเข้ามาเต็มไปด้วยความตื่นตัวและดุร้าย
สายตาซือมั่วกวาดผ่านบริเวณที่ถูกทำลาย เห็นข้างล่างหอสูง ถูกการต่อสู้ฝั่งนี้รบกวน นอกหอ ยังมีเผ่าฝูที่หลั่งไหลไม่ขาดสายวิ่งเข้ามา
เขาเก็บสายตากลับมา กล่าวกับมู่ชิงเกอ “ข้าจะไปฆ่าเขา ที่เหลือเจ้า ขวางไว้ให้ข้าพลางๆ”
มู่ชิงเกอเม้มปากพยักหน้า
ทั้งสองสบสายตากันปราดหนึ่ง เอ่ยปากพร้อมกัน “ระวังตัวด้วย”
ความแปลกประหลาด ในการโจมตีของเผ่าฝู ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเตือนฝ่ายตรงข้าม
ทั้งสองปรึกษาเละตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เงาร่างซือมั่วกะพริบวาบ โถมตัวลงไปหาชายอักขระสีทองผู้นั้น ดวงตาทั้งคู่หดลง สังเกตเห็นเจตนาของซือมั่ว ลุกขึ้นรับมือ ออกคำสั่งทันที “จับหญิงผู้นั้นไว้”
เขาทราบดีว่าจุดอ่อนของซือมั่ว ก็คือมู่ชิงเกอ
เมื่อมู่ชิงเกอถูกจับ ซือมั่วก็จะกลายเป็นนักโทษของเขา
บนหน้าชายอักขระลีทองมีรอยยิ้มดุร้ายแวบผ่านวิ่งออกจากหอสูง พร้อมกับซือมั่ว เข้าไปในอากาศ เริ่มต่อสู้อย่างดุเดือด
ทว่า มู่ชิงเกอจะจับง่ายเพียงนั้นหรือ
เมื่อเห็นคนที่วิ่งเข้ามาหาตน สายตาที่ใสสะอาดของมู่ชิงเกอก็ปรากฎความเย็นเยียบ มุมปากยกยิ้มคล้ายมีคล้ายไม่มี
ทวนหลิงหลงพุ่งออกมาจากข้างหลังนางกลายร่างเป็นหยวนหยวน
“ลูกพี่” เมื่อหยวนหยวนปรากฎตัวก็สังเกตเห็นว่าผิดปกติ ดวงตาคู่งามของเขากวาดผ่านเผ่าฝูที่วิ่งเข้ามา แต่กลับหยุดชะงักเพราะการปรากฎตัวของเขา ร้องเสียงประหลาดหนึ่งครา “บัดซบ พวกที่สลักลายบนหน้าผาก เหล่านี้เป็นใครกัน”
“เผ่าฝู กล่าวกันว่าหนึ่งร่างมีสองชีวิต ฆ่าพวกเขาต้องฆ่าสองครั้ง อย่าประมาท อีกทั้งอักขระกลางหน้าผากพวกเขาประหลาดอย่างถึงที่สุด คล้ายสามารถส่งพลังที่ไม่ใช่ของพวกเขาเองออกมาได้” มู่ชิงเกอกำชับเสียงตํ่า
หยวนหยวนคือวิญญาณยุทธภัณฑ์ของทวนหลิงหลงคืออาวุธของมู่ชิงเกอ
ดังนั้น ต่อให้ตอนนี้นางจะไม่มีโลกใบเล็กที่เหมิงเหมิงเป็นตัวแทน
ต่อให้โลกใบเล็กในตอนนี้ขอนางจะเป็นเพียงสภาวะบุกเบิกแรกเริ่ม แต่ก็สามารถพาหยวนหยวนมาได้เช่นกัน
เมื่อฟังคำพูดของมู่ชิงเกอจบ ในดวงตาของหยวนหยวนก็ปรากฎความเคร่งขรึมเล็กน้อย เก็บสีหน้าซุกซนลง พยักหน้าอย่างจริงจัง
มีคนเพิ่มเข้ามาหนึ่งคนฉับพลันทำให้คนของเผ่าฝูประหลาดใจครู่หนึ่ง
แต่ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็วิ่งโผเข้าไปหามู่ชิงเกอกับหยวนหยวน
สงคราม กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
เพียงแค่พริบตาเดียว สองฝ่ายก็ตะลุมบอนเข้าด้วยกัน
เผ่าฝูไม่ได้มีหนังหนากระดูกเหล็ก หากฟันเพียงแค่เลือดเนื้อก็ฆ่าไม่ยาก แต่ว่า พวกเขากลับมีวิธีโจมตีของอักขระที่แปลกประหลาด รวมถึงลักษณะพิเศษของหนึ่งร่างสองชีวิต ทำให้รับมือยากอย่างถึงที่สุด
ไม่มีทวนหลิงหลงในมือ นางยังมีกฎบัญญัติต่างๆ รวมถึงบัญญัติ อาคมต่างๆนานา
ไม่นานนัก ในหอสูง ก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา ข้างในมีเสียงร้องโอดควรญดังระงม คนอักขระสีดำ สีแดงเหล่านั้นได้รับการโจมตีอย่างแรง
ตูม!
หอสูงถูกสั่นสะเทือนจนพังทลาย คนเผ่าฝูนับไม่ถ้วนร่วงลงมา
มู่ชิงเกอกับหยวนหยวนก็กระโดดลงมาจากหอสูง ยืนอยู่บนพื้น สู้รบต่อ
ช่วงพักสั้นๆ ระหว่างการต่อสู้ มู่ชิงเกอเงยหน้ามองบนฟ้าปราดหนึ่ง การประมือของซือมั่วกับชายอักขระสีทองผู้นั้น เข้าสู่สภาวะดุเดือดอย่างถึงที่สุดแล้ว…
“เจ้าได้พลังนั้นมาแล้วจริงๆ เพียงแต่น่าเสียดาย ยังบริสุทธิ์ไม่พอ” ชายอักชระสีทองกล่าวอย่างดุร้าย
สีหน้าซือมั่วเรียบเฉย ไม่ตอบกลับแม้แต่คำเดียว
เครื่องหน้าทั้งห้าของชายอักขระสีทองบิดเบี้ยว กล่าวเสียงเคียดแค้น “หึ เจ้าลำพองอะไร มาถึงที่นี่ ก็อย่าคิดจะหนีไปได้เลย พวกเจ้าเทพมาร ใช้เพียงแต่พลังที่ตนบรรลุได้ ส่วนข้า ส่วนเผ่าฝู เป็นลูกรักของสวรรค์ใช้พลังของวิถีใหญ่อันแท้จริงเป็นบ่อเกิดของโลก เจ้าจะเทียบข้าได้อย่างไร”
ซือมั่วไม่ได้ลังเลเพราะคำพูดของเขา เพียงแค่กล่าวหนึ่งประโยค “ให้สิ่งใดมาก็ต้องตอบแทนด้วยสิ่งนั้น วันนี้เพียงแค่มาตอบแทนอย่างสาสม”
ชายอักขระสีทองเข้าใจความในคำพูดของเขา แววตาเย็นเยียบ กล่าวอย่างดุร้าย “ตายเสียเถอะ”