Skip to content

พลิกปฐพี 947

ตอนที่ 947

เดือดระอุสาดทั่วหลินชวน

“เด็กๆ ทั้งหลาย มีศัตรูข้างนอกบุกรุกเข้ามาแล้ว” มู่ซงสวมเกราะทั้งร่าง ยืนอยู่บนแท่นสูง มือกุมกระบี่ข้างเอว ขนนกบนหมวก พลิ้วไหวตามสายลม

ในสนามฝึก ไม่มีเสียงใดๆ เหลือเพียงเสียงของเขาที่ก้องสะท้อนไม่หยุด

เขามองใบหน้าที่คุ้นเคยแต่ละดวงในสนามฝึก ภายในใจเขาซับซ้อน แต่ว่าภาระหน้าที่ของทหารกลับทำให้เขาจำใจต้องยืนอยู่ที่นี่ พูดประโยคที่ทำให้เขาปวดใจเหล่านี้ออกมา

มู่ซงกดความเจ็บปวดไว้ภายในใจ กล่าวเสียงตํ่า “ศัตรูข้างนอกเหล่านี้ มาจากโลกภายนอก แข็งแกร่งอย่างยิ่ง พวกเราสู้ไม่ได้”

ขณะที่เขาพูด สายตาก็กวาดผ่านคนนับหมื่นในสนามฝึก มู่เหลียนเฉิงกับมู่อี้เฉินยืนขนาบอยู่ข้างหลังเขาต่างก็ยืดอกเชิดหน้า

มู่ซงพูดถึงความแข็งแกร่งของศัตรูแล้ว แต่ในสนามฝึกก็ยังคงไม่มีเสียงใดๆ กองทัพตระกูลมู่แต่ละคนต่างก็ยืนตัวตรงราวกับทวนเหล็ก

“พวกเขาอยู่ที่ทะเลแท่งความจริง ตอนนี้ คุณชายของพวกเจ้านำคนไปป้องกันแล้ว นางเป็นสตรี แต่บ่าทั้งสองกลับแบกความสงบสุขของหลินชวนเอาไว้นางให้พวกเราถอยกลับไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย แต่ว่า พวกเราถอยได้หรือ ไม่ได้! เพราะว่าพวกเราคือกองทัพตระกูลมู่!” มู่ซงตะโกนเสียงดังออกมา

“ไม่ถอย!”

“ไม่ถอย!”

ในกองทัพที่เงียบสงัด ระเบิดเสียงร้องตะโกนพร้อมเพรียงกันออกมา

คำสองคำที่เรียบง่ายที่สุด กลับทำให้มู่อี้เฉินที่เลือดร้อนพุ่งพล่าน ฟังแล้วแสบจมูก เขารู้สึกว่า ตอนนี้ทั่วทั้งร่างตนร้อนแผดเผา โลหิตร้อนระอุในอกกำลังเดือดพล่าน

นี่คือครั้งแรกที่เขาลงสนามรบ ซํ้ายังเป็นสงครามที่ยากลำบากที่สุด เป็นตายยากจะคาดเดา

“ถูกต้อง! พวกเราถอยไม่ได้ปกป้องตระกูลคุ้มกันแคว้นคือหน้าที่ของพวกเรา หากพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรา แต่ดันหดหัวอยู่ข้างหลัง ต่อจากนี้ พวกเรายังมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าเป็นทหารอีกหรือ แผ่นดินผืนนี้เป็นบ้านของพวกเรา ญาติมิตรสหายของพวกเราล้วนอยู่ที่นี่ พวกเราเป็นทหาร ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ พวกเราต้องปกป้อง!” มู่ซงกล่าวด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง “แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องเตือนพวกเจ้า นี่คือสงครามเป็นตาย บางทีพวกเจ้าอาจจะต้องตายในสนามรบ ดังนั้น หากมีผู้ใดไม่สมัครใจ ข้าจะไม่บังคับ และจะไม่ตำหนิ!”

“ท่านแม่ทัพ ท่านพูดเช่นนี้เป็นการดูถูกพวกเราเกินไปแล้ว!”

“ท่านแม่ทัพ พวกเราติดตามท่าน ติดตามแม่ทัพน้อย ติดตามคุณชายมา ไหนเลยจะไม่กล้าไป ก็แค่ชีวิตหนึ่งมิใช่หรือ! ตายอย่างคุ้มค่า ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว!”

“เกิดเป็นคนของกองทัพตระกูลมู่ ตายก็เป็นผีของกองทัพตระกูลมู่ ขอสาบานว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกับหลินชวน!”

“เกิดเป็นคนของกองทัพตระกูลมู่ ตายก็เป็นผีของกองทัพตระกูลมู่ ขอสาบานว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกับหลินชวน!”

ในสนามฝึก เสียงคนนับหมื่นดังครืนครืน มุ่งมั่นเด็ดขาดเหมือนกันทั้งหมด ไม่มีความขลาดกลัวและกังวลแม้แต่นิดเดียว ที่มีก็มีเพียงความกล้าหาญที่จะมุ่งไปข้างหน้า รวมถึงความเก่งกล้าที่ไม่กลัวตาย

เสียงที่ปะทุออกมาจากในร่างแต่ละเสียงนี้ สั่นสะเทือนทั่วสนามฝึก ทำให้คนตระกูลมู่สามคนบนแท่นสูงน้ำตาคลอ ใจเต้นราวกับรัวกลอง

เมื่อเสียงร้องตะโกนหยุดลง มู่ซงก็กล่าวเสียงดัง “ดี! พลทหารกองทัพตระกูลมู่ทั้งหลาย พวกเราไปลงสนามรบเสี่ยงตายด้วยกัน สาบานว่าจะขัดขวางศัตรูที่มาบุกรุกให้ออกไป”

เมื่อเขาพูดจบ นอกสนามฝึกก็มีเสียงกีบเท้าม้าดังสนั่น ฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย

มู่ซงและคนทั้งสอง รวมถึงกองทัพตระกูลมู่นับหมื่นนายเหลือบตาขึ้นมอง มองเห็นกองทัพอื่นๆ ของแคว้นฉิน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้มีพละกำลังกล้าหาญเหมือนกองทัพตระกูลมู่ แต่ก็ใจกล้าเข้มแข็ง

“นายท่านผู้เฒ่า กองทัพแคว้นฉินอาจเทียบกองทัพตระกูลมู่ไม่ได้ แต่พวกข้าก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ ฝ่าบาทตรัสแล้วว่า พระองค์ต้องปกป้องประชาชานทั่วทั้งแคว้นไม่อาจเสด็จลงสนามรบด้วยตัวเองได้ไปแล้วก็อาจจะถูกคุณชายไล่กลับมา ดังนั้น จึงทำได้เพียงอยู่คุ้มกันลั่วตู ร่วมเป็นร่วมตายกับแคว้นฉิน พวกข้าล้วนเป็นทหารของแคว้นฉิน ทากท่านแม่ทัพจะลงสนามรบก็พาพวกข้าไปด้วยเถิด”

ฝุ่นละอองกระจายหายไป มู่ซงและคนอื่นๆ มองเห็นแม่ทัพหลายคนของแคว้นฉิน และข้างหลังพวกเขา ก็เป็นกองทัพเกือบห้าหมื่นนาย

นี่คือกำลังทหารทั้งหมดที่ฉินจิ่นเฉินจะจัดสรรได้ภายใต้กำลังทหารที่ปกป้องประชาชน

“พวกเจ้า…” ในใจมู่ซงเกิดความรู้สึกซับซ้อนขึ้นในใจ

ทว่า นี่ยังไม่หมด

มีเสียงกีบเท้าม้าดังเข้ามาอีก ที่ต่างจากก่อนหน้านี้ก็คือ นี่เป็นม้าเพียงตัวเดียว

“หยุด!” ซางหลันรั่วที่ขี่ม้าวิ่งเข้ามาในสนามฝึก ดึงบังเหียนแน่น สวมเกราะทั้งร่างเช่นเดียวกัน สง่างามองอาจ

เมื่อนางปรากฎตัว สีหน้าของมู่เหลียนเฉิงกับมู่อี้เฉินก็เปลี่ยนพร้อมกัน

ทว่าซางหลันรั่วกลับชิงเอ่ยปากก่อน “ลูกสาวข้า พ่อตาข้า สามีข้า ลูกชายข้า ต่างก็ต้องการเสียสละทุกอย่างเพื่อแผ่นดินผืนนี้ ที่นี่ก็เป็นบ้านของข้าเช่นกัน ข้าเองก็ไม่ใช่สตรีที่อ่อนแอ สงครามครั้งนี้ข้าจำเป็นต้องไป ข้าจะไม่นั่งรอข่าวอยู่ในบ้านอีกต่อไป ข้าจะร่วมเป็นร่วมตายกับครอบครัวของข้า”

คำพูดของนาง อุดปากคนตระกูลมู่ทั้งสามคน

“ข้าก็ด้วย ศึกที่ราบลั่วรื่อ ข้าก็ไม่ได้รบเคียงบ่าลูกพี่แล้ว ครั้งนี้จะขาดเจ้าอ้วนแซ่เช่าเช่นข้าไปได้อย่างไร” เช่าเย่เจ๋อเองก็ปรากฎตัวในสนามฝึก

ทุกคนรวมตัวกันไม่ขาดสาย ทำให้ในใจมู่ซงเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง ยากจะอธิบาย

“เอาสุรามา!” มู่ซงตะโกนหนึ่งครา

เร็วอย่างยิ่ง ในมือคนทั้งหมดในสนามฝึกต่างก็ถือจอกสุราขึ้น

มู่ซงกวาดสายตาไปรอบๆ จดจำใบหน้าทุกใบตรงหน้าจนขึ้นใจ กล่าวเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “หากพวกเรามีชีวิตกลับมาได้นี่ก็คือสุราฉลองความสำเร็จ หากพวกเราตาย นี่ก็คือสุราส่งวิญญาณพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย พวกเราก็จะอยู่ด้วยกัน!”

“พวกเราจะอยู่ด้วยกัน!”

“พวกเราจะอยู่ด้วยกัน!”

สุราร้อนลงไปในคอ แผดเผาจิตวิญญาณนักสู้

ในสนามฝึกของกองทัพตระกูลมู่ มีเสียงกระเบื้องแตกดังขึ้นพักหนึ่ง

โย่วเหอฮวาเยวี่ย รวมถึงไป๋สี่ที่ตามข่าวมา นำองครักษ์เขี้ยวมังกรหนึ่งร้อยนายมาถึงที่นี่ มองเห็นฉากที่สั่นสะเทือนใจคน

โย่วเหอยิ้มเจื่อน “นายท่านผู้เฒ่าตัดสินใจแล้ว นอกจากคุณชายแล้วจะมีใครคัดด้านได้อีก”

ไป๋สี่ยิ้มกล่าว “เช่นนั้นก็ให้พวกเขาไปเถอะ อย่างมากพวกเราก็แค่ปกป้องอย่างสุดชีวิต อยู่ที่นี่ก็อึดอัดเปล่าๆ ได้ร่วมรบกับชิงเกอ เป็นตายจะสำคัญอันใด”

ฮวาเยวี่ยละสายตา มององครักษ์เขี้ยวมังกรร้อยนาย ในดวงตาของพวกเขา ต่างก็แผดเผาไปด้วยเปลวเพลิงลุกโชน หากไม่ใช่เพราะคำสั่งของมู่ชิงเกอ พวกเขาก็คงมุ่งหน้าไปทะเลแห่งความจริงนานแล้ว

ฮวาเยวี่ยกัดฟัน กล่าว “ไปก็ไป! สู้รบจนตายไม่เสียใจ หากโชคดีรอดมาได้จบเรื่องคุณชายไต่ถาม อย่างมากก็แค่ถูกโบย”

“ออกเดินทาง!” มู่ซงออกคำสั่ง กองทัพใหญ่โยนของหนักทิ้ง เดินทางตัวเบา มุ่งหน้าไปยังทะเลแห่งความจริงด้วยความเร็วที่สุด

ยอดฝีมือชั้นพลังม่วง ตอนนี้กลายเป็นแนวหลัง ใช้ตบะบำเพ็ญของตนพาเหล่าพลทหารเข้าสู่ทะเลแห่งความจริง

ในทะเลแห่งความจริง องครักษ์เขี้ยวมังกรห้านายถูกบีบให้ถอยหลัง

“คุณชาย โจมตีไม่ได้ผล” องครักษ์เขี้ยวมังกรขมวดคิ้วส่ายหน้า สีหน้าเคร่งเครียด

ตาทั้งคู่ของมู่ชิงเกอหรี่ลง ในมือบีบยันต์ส่งสารที่ใช้ส่งสัญญาณให้แผ่นดินเทพมารแตกแล้ว

“คุณชาย ต่อให้ตอนนี้แผ่นดินเทพมารจะรวบรวมกองทัพใหญ่ตามมา เกรงว่าคงจะต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วยาม” มั่วหยางกล่าวกับมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอกล่าวเสียงเย็นเยียบ “เช่นนั้นก็ทำได้เพียงถ่วงเวลา หากไม่สามารถทำลายพายุหมุนลูกนี้ไม่อาจขัดขวางการบุกรุกของเผ่าฝูได้ เช่นนั้นก็ทำได้เพียงถ่วงเวลาพวกเขาไว้รอกองกำลังหนุน”

“ด้วยความเร็วเช่นนี้น่าจะรอกองกำลังหนุนได้” หวงฝู่ฮ่วนที่ตามมาก่อนหน้านี้มองความเร็วของระดับน้ำที่ลดลงแล้วกล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version