บทที่ 257 ฆ่ามันให้หมด! (ต้น)
มือสังหารปรากฏกาย!
สีหน้าของเยี่ยฉวนแปรเปลี่ยนดุดัน ฉับพลันที่เขากระแทกเท้าขวาลงบนพื้น บังเกิดเสื้อเกราะทองคำแผ่กระจายหุ้มห่อทั่วร่าง! เสื้อเกราะแห่งปฐพี เป็นเวลาเดียวกับดาบยากที่จะระบุจำนวนพุ่งเข้าหาตัวคน ถึงกระนั้นไม่ปรากฏว่ามีสักดาบสักดาบจะสามารถแทรกทะลุผ่านเสื้อเกราะ จนทำอันตรายแก่ร่างกายได้!
เยี่ยฉวนหมุนตัวกลับหลัง พร้อมผลักออกหมัดตรงเผง “หนึ่งหมัดดับชีพ!” เปรี้ยง! พลังหมัดพุ่งตรงเข้าทำลายเงาปีศาจร่างเบื้องหน้าแตกกระจายไปทันที!
อีกฟากหนึ่ง ลู่ป้านจวงเคลื่อนที่รวดเร็ว ปฏิกิริยาตอบสนองของหญิงสาวฉับไวยิ่งนัก ความว่องไวยิ่งกว่าสองลำแสงซึ่งจู่ๆ พุ่งเข้ามาโดยไม่ทันคาดคิด เพียงนางกดนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ประกบจับลำแสงไว้ ทันใดนั้นนางสะบัดหัวเข่าออกไปข้างหน้าเพียงครั้งเดียวกลับสามารถสะบัดเงาร่างหนึ่งกระเด็นไปไกล
เปรี้ยง! เงื้อมเงาปีศาจตนนั้นแตกเป็นเสี่ยงกระจัดกระจาย! ชั่วพริบตาความเงียบกลับเข้าครอบงำหอโถงอีกครั้ง! สองมือสังหารแห่งดินแดนอันธกาลบัดนี้อันตรธานไปหมดสิ้น!
หญิงสาวตวัดสายตามาทางเยี่ยฉวน “ดินแดนอันธกาลงั้นหรือ?” เยี่ยฉวนพยักหน้า หญิงสาวจึงดึงสายตากลับ พลันกวาดตาไปรอบบริเวณ “ค่อยว่ากัน” จากนั้นทั้งคู่ตรงเข้ากวาดทรัพย์สมบัติที่มีในคลังจนหมดเกลี้ยง
ด้านนอกหน้าจวนเจ้าเมืองบัดนี้ถูกล้อมด้วยกองทหารที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกขณะ แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของเหยี่ยลี่และคนอื่นที่จะรับมือ เมื่อเยี่ยฉวนออกมาสู่ภายนอกจึงได้ประจักษ์ว่า เหยี่ยลี่และพวกต้านทานกองทหารนับร้อยอย่างไม่ย่นย่อ ชายหนุ่มนิ่งงันภายในใจรู้สึกชาวาบ
“คนพวกนี้กล้าแกร่งยิ่งนัก ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดแห่งยอดฝีมือ เชื่อแน่ว่าพวกเขาต้องผ่านประสบการณ์การประลองชี้เป็นชี้ตายมาอย่างโชกโชน อีกทั้งพวกเขามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฉะนั้นศักยภาพในการต่อสู้ อาจเทียบได้กับยอดยุทธ์ขั้นผสานเทพ!”
“ในโลกอันกว้างใหญ่มีอัจฉริยะอยู่มากมาย จนยากเกินจินตนาการ!” ภายหลังจากระงับความคิดลงชั่วคราว เยี่ยฉวนและลู่ป้านจวงหันไปเปิดฉากบุกกองทัพทหารร่วมกับคนอื่น!
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เมื่อทุกคนร่วมมือร่วมใจทุ่มเทความสามารถที่มีอยู่ เพียงไม่นานพวกเขาก็สามารถฝ่าวงล้อมของทหารออกไปได้สำเร็จ หลังจากกลับขึ้นบนหลังสุนัขป่าสีดำ ทุกคนก็มุ่งหน้าไปตามเส้นทางจนที่สุดทั้งหมดกลืนหายไปกับระยะทาง!
ทันทีที่กลุ่มคนผ่านประตูเมือง พวกเขาต่างสดับเสียงม้าจำนวนมากควบตามหลัง! องครักษ์ดาบทมิฬ! ผู้ที่ควบม้านำหน้าเป็นคนสวมหน้ากาก สายตาจ้องเขม็งตามหลังกลุ่มของเยี่ยฉวนที่ห่างออกไปสายตา “ใส่เต็มที่! เร่งฝีเท้าม้า!” ทหารนับร้อยม้าควบตะบึงผ่านมาตามเส้นทาง จนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ
นอกประตูเมือง เยี่ยฉวนและพวกต่างก็เร่งความเร็วเต็มพิกัดเช่นกัน! ถ้าลำพังต้องเผชิญหน้ากับองครักษ์ดาบทมิฬนับร้อย พวกเขาไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย ด้วยฝึมือของแต่ละคนสามารถรับมือกับองครักษ์ได้ถึงหนึ่งต่อสิบ! แต่ปัญหาอยู่ตรงที่หากพวกเขามัวรับมือกับทหารองค์รักษ์ดาบทมิฬ กองทัพแห่งแคว้นถังก็จะตามมาจนทันกัน ทุกคนสามารถรับมือศัตรูหนึ่งต่อสิบได้ แต่ไม่สามารถรับมือกองทหารนับร้อย!
พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากหนี! ทันใดนั้นเสียงของเยี่ยฉวนตะโกนดังมาจากข้างหน้า “พวกเราไปที่ภูเขา!” และทันทีที่ได้ยิน คนทั้งกลุ่มเริ่มหันเหทิศทางและมุ่งหน้าลึกเข้าไประหว่างเทือกเขา
กองทหารองครักษ์ดาบทมิฬเห็นกับตาว่าพวกเยี่ยฉวนมุ่งหน้าไปทางภูเขา พวกมันมองตามด้วยแววตาโกรธขึ้น สีหน้าบึ้งตึงดุดันเพราะรู้ดีว่าขืนไล่ตามกลุ่มคนเข้าไปในหลืบเขาอันสลับซับซ้อน ความเร็วในการติดตามของทหารจะถูกทอนกำลังลงจนหมดสิ้น!
ชายสวมหน้ากากชะงักม้าหยุดยืน สายตาจับจ้องมองหลังกลุ่มคนที่ค่อยหายลับไปเนิ่นนาน แววตามุ่งร้ายฉายชัดเจน ขณะนั้นทหารองครักษ์ดาบทมิฬนายหนึ่งชักม้าขึ้นมาเคียงข้างคนสวมหน้ากาก “ผู้บัญชาการเต้า มีพระบัญชาจากองค์ฮ่องเต้ให้ติดตามจับตัวพวกมันให้ได้ และส่งกองหนุนมุ่งหน้ามาสมทบแล้วขอรับ!”
ชายสวมหน้ากากนิ่วหน้า “พวกกองหนุนเป็นใคร?” ทหารองค์รักษ์ดาบทมิฬส่ายหน้า “เรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ องค์ฮ่องเต้ทรงรับสั่งมาว่าพวกเขาจะติดต่อกับเราเอง เพียงแต่พวกเราต้องให้ความร่วมมือกับพวกที่มาสมทบในการออกตามล่ากลุ่มคนสิบกว่าคนเท่านั้น!”
ฝ่ายที่สวมหน้ากากนิ่งเงียบไปชั่วขณะ พลันมีเสียงถามว่า “เจ้าสืบรู้หรือไม่ว่าคนพวกนี้เป็นใคร?” ทหารองครักษ์ดาบทมิฬตอบเสียงเข้ม “เขาเป็นผู้ฝึกกระบี่ชื่อเยี่ยฉวน เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นเจียง อีกทั้งยังเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถานศึกษาฉางหลานด้วยขอรับ”
“เยี่ยฉวน!” คนฟังผู้สวมหน้ากากมือขวาซึ่งกุมกระชับดาบที่เหน็บเอวเกร็งแน่น สีหน้าดุดันขบกรามกรอด “เจ้าสำคัญนัก เยี่ยฉวน!”
…
ณ ซอกเขา เยี่ยฉวนและกลุ่มคนหลบเข้ามาหยุดพัก ต่างคนต่างกระจายรายล้อมรอบแอ่งน้ำ ขณะนั้นเหยี่ยลี่และคนอื่นๆ กำลังโน้มกายลงนอนพังพาบที่ริมแอ่งและวักน้ำดื่มด้วยความกระหาย
เยี่ยฉวนขยับตัวลงจากบนหลังของเจ้าอสูรสี่ขาดำทะมึน ท่าทีครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะหันไปมองลู่ป้านจวง ซึ่งขณะนั้นกำลังเคี้ยวของกินอยู่ไม่ห่าง “เจ้าได้สุนัขป่าพวกนี้มาอย่างไร?”
อสูรสุนัขป่า! สุนัขป่าเหล่านี้มีความว่องไวเป็นเลิศ อีกทั้งสมรรถนะทางกายแข็งแกร่งทนทานมากมายเหลือคณา แม้แต่ลูกธนูก็ไม่ระคายผิวหนังของมัน อาจดีกว่าม้าธรรมดาเสียอีก! หญิงสาวหยุดเคี้ยวมองหน้าเยี่ยฉวน “พวกเราพามันมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่”
“คนกลุ่มนี้ใช้สุนัขป่าอสูรข้ามทวีปมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์!” เยี่ยฉวนพยักหน้า พลันเหลือบไปเห็นใครบางคนจากอีกฟากของแอ่งน้ำ ชายผู้หนึ่งดึงลูกธนูสามดอกที่ปักอยู่ตามร่างกาย ท่าทางเขากำลังค่อยดึงออกทีละดอกอย่างใจเย็น!
ขณะนั้นชายหนุ่มสังเกตว่าคนผู้นั้นตั้งหน้าตั้งตาดึงลูกธนูทว่าสีหน้าคนกลับเฉยเมยไร้รู้สึก ไม่มีแม้แต่อาการนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด!
เยี่ยฉวนทำท่าลังเลครู่หนึ่ ก่อนจะผุดลุกขึ้นและเดินไปหยุดเบื้องหน้าชายคนที่ดึงลูกธนู จากนั้นเขายื่นมือออกไปข้างหน้าพลางกดนิ้วลงเบาๆ พลันยาเม็ดสมุนไพรตันเถียนปรากฏออกต่อหน้าชายคนนั้น
สายตาของชายคนนั้นมองมาที่ยาเม็ดสมุนไพรตันเถียน สีหน้าแสดงว่าประหลาดใจไม่น้อย “โอสถเทพประสาน!” เยี่ยฉวนพยักหน้า “กินเสีย จะช่วยสมานแผลได้เร็วขึ้น เจ้าควรรีบรักษาตัวเตรียมให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะหนักหน่วงยิ่งกว่านี้!”
การต่อสู้อันหนักหน่วง! เวลานี้เยี่ยฉวนค่อนข้างมั่นใจว่าแคว้นถังจะไม่ยอมปล่อยให้เขาและคนพวกนี้เข้าไปสร้างความวุ่นวายได้โดยง่ายอีกแล้ว! แคว้นถังจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเตรียมรับมือเป็นแน่!
คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเงยมองสบหน้าคนพูด “ข้ารู้ว่ายาชนิดนี้แต่ละเม็ดราคาหลายแสนเหรียญทองคำ” เยี่ยฉวนเหยียดยิ้มมุมปาก “คิดว่าข้าจะใช้เงินฟาดหัวเจ้าหรือยังไง?” พลันทุกคนในที่นั้นหันมามองคนพูดเป็นตาเดียว
เยี่ยฉวนกำลังใช้เงินซื้อใจคนพวกนี้! อันที่จริงในใจของพวกเขาต่างก็คิดเฉกเช่นกัน! ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างขึ้นขณะพูดว่า “ถูก ข้าใช้เงินซื้อใจพวกเจ้า ข้าเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ชอบทำอะไรลับหลัง! ข้าอยากเป็นมิตรกับพวกเจ้าแล้วมันผิดตรงไหน?”
“ฮ่าฮ่า……” หลิงฮั่นระเบิดเสียงหัวเราะลั่นมาจากอีกด้าน “ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว! เจ้าเป็นคนน่าคบหา คนอย่างข้าหลิงฮั่นก็อยากเป็นมิตรกับเจ้า!” อีกฝั่งหนึ่งของแอ่งน้ำ คนอื่นพลอยหัวเราะตามไปด้วย
— จบตอน —
