บทที่ 948 : คนที่ว่าเก่งจริงไปอยู่ไหนกันหมด? (ปลาย)
ถังชิงหรี่นัยน์ตาอย่างใช้ความคิด “คนที่มีข่าวลือว่าคอยหนุนหลังเจ้าสินะ?”
ชายหนุ่มสั่นศีรษะ “ไม่ใช่ เขาเป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในหอคอย”
คำตอบที่ได้ยินทำให้ถังชิงนิ่วหน้า “หอคอยนั่นมีคนถูกจองจำด้วยหรือ?”
ชายหนุ่มตอบสั้นๆ “ใช่!”
น้ำเสียงเคร่งขรึมของหญิงสาวถามมาว่า “พวกนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?”
คนตรงข้ามยิ้ม “ถ้าออกมาได้ พลังของเขาน่าจะทำลายเผ่าถังจนป่นปี้ได้เลยทีเดียว”
ถังชิงสั่นศีรษะอย่างแรง “เจ้าพูดอย่างนี้แสดงว่าไม่รู้จักเผ่าถังเรา!”
เยี่ยฉวนชะงักนิ่ง จากนั้นเสียงชายหนุ่มถามขึ้นในใจว่า “ผู้อาวุโสขอรับ ท่านมีพลังแข็งแกร่งปานนี้สามารถทำลายเผ่าถังได้ไหม? เผ่าถังนั่นแข็งแกร่งมากทีเดียว!”
ไม่มีเสียงตอบจากชั้นที่หกไปพักใหญ่ จากนั้นเสียงที่ตอบกลับมาว่า “ในใจของเจ้าคงคิดว่าข้าอ่อนด้อยนักหนาสินะ?”
ชายหนุ่มถึงกับตาเหลือกก่อนจะรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เลย!”
เสียงพูดจากชั้นที่หกกล่าวว่า “เช่นนั้นจะตั้งคำถามเช่นนี้ทำไม? เจ้ารู้เพียงแค่ว่าข้าถูกจองจำอยู่ในชั้นที่หก และยอดฝีมือของเผ่าถังได้อยู่ข้างนอกอย่างมีอิสระ”
เยี่ยฉวนบอกขรึมๆ “ผู้อาวุโส ข้างนอกมีแต่ยอดฝีมือเต็มไปหมด”
คนที่ชั้นหกตอบว่า “แน่ล่ะ อย่างไรก็ตาม คนที่เก่งจริงๆ เขาจะไม่ปรากฏตัวในจักรวาลแห่งนี้กันหรอก
คนฟังขมวดคิ้ว สีหน้ายุ่งยากใจ “ทำไมขอรับ?”
เสียงจากชั้นหกดังออกมา “เพราะเมื่อใดที่ผู้ฝึกฝนพลังฝึกจนถึงขั้นสูงเกินขอบเขตของจักรวาล เต๋าแห่งสวรรค์จะละเว้นคนผู้นั้น เจ้ารู้ไหมว่าเต๋าแห่งสวรรค์คืออะไร?”
เต๋าแห่งสวรรค์?
เยี่ยฉวนส่ายหน้า “ไม่เชิงขอรับ!”
คนชั้นที่หกตอบให้ว่า “สิ่งนั้นคือวิญญาณของจักรวาล”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม “พลังมากไหมขอรับ?”
เสียงตอบทันควัน “ไม่เท่าไร อีกหน่อยเจ้าก็สู้ได้สบาย!”
เยี่ยฉวนเงียบเสียง เขาคงไม่เชื่อแน่!
ขณะนั้นเสียงถังชิงพูดขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโสคนนั้นต้องเป็นผู้ทรงพลังมากอย่างแน่นอน แล้วเจ้ายังบอกอีกว่าเขาสามารถถล่มเผ่าถังของข้าได้? ถ้าทำได้ เหตุใดถึงมาซ่อนตัวอยู่ในหอคอยนี่?”
ชายหนุ่มมองหน้าถังชิง “แม่นางถังเลิกซักไซ้ข้อมูลเสียเถอะ ถึงข้าจะบอกให้ฟังว่าพลังของเขาแข็งแกร่งเพียงใด เจ้าคงไม่เชื่ออยู่ดี”
หญิงสาวมองตอบด้วยสายตาแน่วนิ่ง “เจ้าบอกอะไรข้าจะเชื่อทั้งนั้น!”
เยี่ยฉวนยิ้มพลางพูดว่า “ผู้อาวุโสที่จองจำอยู่ในสมบัตินั่น มาจากโลกห้ามิติ เจ้าคิดว่าคนเช่นนี้เป็นคนธรรมดางั้นหรือ?”
ถังชิงเป็นฝ่ายนิ่งบ้าง
คนตรงข้ามส่ายหน้าและไม่พูดอะไรออกมาอีก ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิกับพื้นขณะนิ่งเงียบไป จากนั้นพาถังชิงเข้าสู่หอคอยแห่งเรือนจำ
ฝึกบ่มเพาะพลัง!
ระยะหลังมานี้ เมื่อใดที่มีเวลาเขาจะเร่งฝึกฝนอย่างหนัก ในช่วงนี้การฝึกทักษะต่อสู้ระยะประชิดคืบหน้าไปอย่างมาก
เยี่ยฉวนกำลังฝึกฝนบ่มเพาะพลัง ขณะที่สุนัขอสูรยังคงนอนหลับ ส่วนอาหลิงน้อยเฝ้าฟูมฟักผลไม้จิตวิญญาณของนางตามเคย
ถังชิงมองดูความเป็นไปภายในหอคอยแห่งเรือนจำและตั้งใจจดจ่อเข้าสู่กรรมฐาน
ก่อนที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับหอคอยแห่งเรือนจำ นางรู้สึกว่าหอคอยเป็นเพียงสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง และไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อเผ่าถังแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ความคิดนั้นค่อยๆ เปลี่ยนไป
หอคอยทำให้นางหวาดกลัว!
น่าหวาดหวั่นเหลือเกิน!
ความรู้สึกในใจบอกกับนางว่าเผ่าถัง……ยังไม่สามารถควบคุมหอคอยนี้ได้
ถึงกระนั้น จะให้เผ่าถังล้มเลิกย่อมไม่มีทางเป็นไปได้!
หลังจากนิ่งเงียบด้วยกำลังครุ่นคิดไปพักใหญ่ ถังชิงจึงเดินเข้าไปในชั้นที่สอง ที่นั่นอาหลิงน้อยกำลังนั่งจัดแต่งผลไม้จิตวิญญาณอย่างเพลิดเพลิน ทันทีที่เหลือบเห็นถังชิง เด็กน้อยมีท่าทางระแวงระวังขึ้นมาทันที!
เด็กน้อยจะระแวงระวังเมื่ออยู่ใกล้มนุษย์ทุกคนยกเว้นเยี่ยฉวน
ถังชิงยิ้มพลางชวนคุย “เจ้าเป็นคนปลูกผลไม้จิตวิญญาณพวกนี้งั้นหรือ?”
อาหลิงพยักหน้า “ใช่”
หญิงสาวพูดยิ้มๆ “ทำไมเจ้าถึงมาติดตามมนุษย์แบบนี้?”
แสดงว่านางรู้สถานะที่แท้จริงของอาหลิง
เด็กหญิงกะพริบตาและพูดว่า “เขาเป็นคนดีและไม่มีวันทำร้ายข้า”
ถังชิงถามกลับ “เจ้ารู้ได้อย่างว่าเขาจะไม่ใช้ประโยชน์จากเจ้า?”
อาหลิงจ้องหน้าถังชิง “นี่กำลังพยายามจะยุแหย่ให้แตกคอกับเขาใช่ไหม? ข้าไม่เชื่อคำพูดนั่นหรอก เว้นเสียแต่เจ้าจะขับไล่คนที่ชั้นหกให้ข้า”
ถังชิงหรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย “คนที่เจ้าว่ามีพลังมากนักหรือ?”
อีกฝ่ายพยักหน้าท่าทางจริงจัง “ใช่!”
คนถามๆ อีก “เขาอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือเปล่า?”
อาหลิงน้อยจ้องคนพูดเขม็ง “เจ้ามนุษย์ จะหลอกถามข้างั้นสิ?”
หญิงสาวได้แต่หุบปากเงียบไป
เด็กหลิงเหลือบตามองถังชิง “ถ้ายอมช่วย ข้าจะยอมเชื่อฟังเจ้าทุกอย่าง!”
ถังชิงนิ่งเงียบ
คนตรงข้ามชี้ไปทางชั้นที่หก “ถ้าช่วยกำจัดคนที่อยู่ชั้นหก ข้าจะเชื่อฟัง……ไม่ว่าเจ้าจะสั่งให้ทำอะไร ว่าไง?”
ถังชิงครุ่นคิดก่อนจะสั่นศีรษะและพูดยิ้มๆ “ข้าไม่มีปัญญาช่วยเจ้าได้”
อาหลิงทำท่าแบมือพลางยักไหล่ “ถ้างั้นข้าไม่อยากฟังเจ้าพูดอะไรทั้งนั้น!”
จากนั้น นางหันหน้ากลับและง่วนกับการจัดแต่งผลไม้จิตวิญญาณต่อไป
ถังชิงหมุนตัวหันไปสำรวจรอบบริเวณหลังจากที่ต่างคนต่างนิ่งเงียบ สักพักใหญ่ต่อมา หญิงสาวออกไปจากบริเวณนั้น ในไม่ช้านางได้พบกับสุนัขอสูร เมื่อหญิงสาวเพ่งพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง พลันสีหน้าท่าทีเปลี่ยนไปทันที “จะ……เจ้าคือเจ้าตำนานอสูรสัตว์ผู้พิทักษ์ แห่งสำนักเซียน?”
สุนัขอสูรเผยอเปลือกตาขึ้นมองไปยังถังชิง “รู้จักข้าด้วยหรือ?”
ได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนั้นแสดงว่ายอมรับ สีหน้าของสตรียิ่งหมองคล้ำลงกว่าเดิม “อสูรสัตว์ผู้พิทักษ์จริงด้วย……นี่เจ้าก็ถูกขังอยู่ในนี้งั้นหรือ?”
อีกฝ่ายไม่สนใจจะตอบ หากย้อนถามกลับไป “เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?”
ถังชิงตอบเสียงเครียด “เผ่าถังของข้าเก็บบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับสำนักเซียนไว้มากมาย!”
สุนัขอสูรไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ชั่วขณะหนึ่งมันส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ และทำท่าจะหลับต่อไปอีก
ยุคสมัยอันเฟื่องฟูของสำนักเซียน……บัดนี้ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
เวลานั้นเสียงถังชิงถามออกไปว่า “เหตุใดเจ้าถึงถูกจองจำอยู่ในนี้?”
สุนัขอสูรไม่มีทีท่าว่าจะสนใจอีกฝ่าย และหญิงสาวไม่คิดที่จะถามไถ่ต่อไป ถังชิงจึงกลับสู่หอคอยแห่งเรือนจำชั้นที่หนึ่ง
เมื่อลงมาก็เห็นว่าเยี่ยฉวนกำลังฝึกฝีมืออยู่กับหุ่นไม้ไกลออกไป เช่นนั้นแล้วนางจึงตัดสินใจเข้าฌานสมาธิบ้าง
ทันใดนั้นสีหน้าท่าทางของเยี่ยฉวนแปรเปลี่ยนไป ขณะต่อมาชายหนุ่มรีบรุดออกจากหอคอยแห่งเรือนจำอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ออกไป ช่องอากาศเบื้องหน้าพลันบังเกิดรอยแยกออกจากกัน พร้อมปรากฏทวนเล่มยาวพุ่งแหวกอากาศแทงมาด้วยความแรง!
