ตอนที่ 465 ฉินกับหนิวแข่งขันกัน

ความเร็วของซูฉินนั้นน่าทึ่งมาก ทุกย่างก้าวของเขาครอบคลุมหลายสิบฟุต ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจากอันดับเจ็ดเดิมที่อยู่ข้างหลังเขา

ผู้ฝึกฝนนิกายเล็กๆที่ด้านหลังซูฉิน รู้สึกกังวลและทำอะไรไม่ถูกในเวลาเดียวกัน

“ความแตกต่าง… ยิ่งใหญ่เกินไป”

เขารู้ว่าซูฉินแข็งแกร่งมาก อีกฝ่ายเป็นคนแรกที่ไปถึงความสูง 10,000 ฟุต เขายังรู้ว่าตนไม่สามารถเปรียบเทียบกับซูฉินได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะทรงพลังถึงระดับที่น่ากลัวเช่นนี้

ซูฉินที่สามารถปะทุด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ความสูงขนาดนั้นได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับเขา

ภายใต้ผลกระทบจากความแค้นของเสาหลักแห่งการแบ่งแยก ร่างกายและ จิตวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน ความแค้นอันน่าสะพรึงกลัวที่ปล่อยออกมาจากสถานที่นี้ทำให้จิตสำนึกของเขารู้สึกราวกับว่ามันกำลังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

ความเร็วของซูฉินไม่ได้ลดลงเลยในขณะที่เขายังคงปีนขึ้นไป หลังจากที่ภูเขาจักรพรรดิปีศาจได้รับการขัดเกลาเพิ่มเติม มันสามารถดูดซับได้มากขึ้น จิตวิญญาณอาฆาตก่อตัวขึ้นทุกๆ สองสามร้อยฟุตในทะเลจิตสำนึกของเขาที่ระดับความสูงนี้

จิตวิญญาณอาฆาตเหล่านี้มีรูปร่างหน้าตาทุกรูปแบบ แต่ซูฉินตระหนักว่าพวกเขาส่วนใหญ่เป็นเผ่าพันธุ์อมนุษย์และมีเพียงไม่กี่คนที่เป็นมนุษย์

หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงสังเกตอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม เวลามีจำกัดในตอนนี้ประกายเย็นวาบในดวงตาของซูฉิน

พวกมันถูกยับยั้งทั้งหมด!

ภูเขาจักรพรรดิปีศาจในทะเลจิตสำนึกของเขาเปล่งแสงเจิดจ้า ในขณะที่มันยังคงสั่นไปมา ดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นเทพเจ้า ยับยั่งจิตวิญญาณอาฆาตทั้งหมดที่ปรากฏ

สำหรับซูฉินความสูงที่เขาปีนขึ้นไปยังคงเพิ่มขึ้น ในไม่ช้าเขาก็สูงถึง 14,000 ฟุต ตามมาด้วย 15,000 ฟุต

เด็กหนุ่มในชุดดำจากนิกายลิตูอยู่ที่ความสูงนี้

เด็กหนุ่มในชุดดำคนนี้ได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อก้าวไปข้างหน้าแล้ว ดวงตาของเขาแดงก่ำในขณะที่เขาเดินหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับซูฉิน เขาก็ยังช้าเกินไป

ในพริบตาต่อมา ซูฉินก็พุ่งผ่านเขาไปอย่างง่ายดาย

เกือบจะในทันทีที่ซูฉินแซงหน้าเขา เด็กหนุ่มในชุดดำก็เอียงศีรษะและมองไปในทิศทางของซูฉิน แววตาเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา และเขาส่งเสียงคำรามต่ำ จริงๆ แล้วเขากระโดดไปหลายร้อยฟุตและต้องการจะแซงซูฉิน

ในขณะที่เขากระโจนขึ้น จิตสำนึกของเขาก็แกว่งไปมาอย่างรุนแรง และเขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขาไม่สามารถไปต่อได้และทำได้เพียงจับโทเท็มที่ยื่นออกมาไว้แน่น เขามองไปที่ภาพด้านหลังของซูฉิน ที่กำลังจากไปอย่างรวดเร็วด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความขมขื่น

ก่อนที่เขาจะเข้าสู่นิกายลิตู เขาคือผู้ถูกเลือกจากสวรรค์อันดับหนึ่งในบ้านเกิดของเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยข่มเหงเพื่อนหลายคน และมันยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าเขาจะเข้าสู่นิกายแรกของเขาแล้วก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เขาเคยคิดว่าเขาคือผู้ถูกเลือกจากสวรรค์จริงๆ และมีคุณสมบัติของจักรพรรดิและจักรพรรดิโบราณ

เมื่อเขาเข้าสู่นิกายลิตู เพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นเท่านั้นที่เขาตระหนักเป็นครั้งแรกว่ามีคนที่ดีกว่าเสมอ เขาได้พบกับผู้คนมากมายที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเขาเสียอีก

สิ่งนี้ทำให้เขาเหมือนถูกระเบิดครั้งใหญ่ ครั้งนี้เขาวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากอายุของเขาเพื่อทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความช่วยเหลือของศาลาผู้ถือดาบ อย่างไร ก็ตาม ยังมีผู้ถูกเลือกจากสวรรค์อีกมากในมณฑลหยิงหวงซึ่งแข็งแกร่งกว่าเขา

เขาทำได้เพียงมองไปที่ด้านหลังของซูฉิน ในขณะที่อีกฝ่ายไกลออกไป

15,000 ฟุต 15,500 ฟุต 16,000 ฟุต!

ซูฉินไม่ได้สนใจคนที่เขาแซงหน้า เขาวิ่งอย่างดุเดือดจนกระทั่งเขาเห็นซือหม่าหลง

การหายใจของซือหม่าหลงนั้นเร่งรีบขณะที่เธอกระโดดขึ้นไป 10 ฟุตในแต่ละครั้ง ดวงตาของเธอเผยให้เห็นความมุ่งมั่นและการแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความดื้อรั้น เธอไม่ได้เหลือบมองการมาถึงของซูฉิน

ซูฉินยังไม่ได้พูดอะไร ร่างของเขากระโจนขึ้นและกลายเป็นอันดับที่ห้า

ข้างหลังเขา มือของซือหม่าหลงที่จับโทเท็มบนเสาสั่นเล็กน้อย เธอกัดฟันและพยายามต่อไป

ซูฉินไม่ช้าลงและเดินหน้าต่อไป หลังจากแซงหน้าซือหม่าหลง แล้วเขาก็สูงถึง 17,000 ฟุต นอกจากนี้ยังมีใครบางคนที่ความสูงนี้ เป็นผู้ฝึกฝนหญิงเย็นชาจากนิกายภูเขาอมตะซึ่งอยู่ในอันดับที่สี่

เธอกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอเต็มไปด้วยเลือดและดวงตาของเธอมีความมุ่งมั่นขณะที่เธอปีนขึ้นไปทีละนิด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน ความเร็วของเธอก็ยังช้าลง

เธอใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว

เธอเห็นซูฉิน และ ซูฉินก็เห็นเธอเช่นกัน

ความเร็วของซูฉินทำให้ผู้หญิงหายใจไม่ออก ในท้ายที่สุด เธอทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างหมดหนทาง เมื่อซูฉินกระโดดผ่านเธอและขึ้นไปถึงความสูงที่สูงกว่า 18,000 ฟุต

นี่เป็นครั้งแรกที่ซูฉินรู้สึกถึงพลังอันบ้าคลั่งของผลกระทบจากความแค้น ภูเขาจักรพรรดิปีศาจของเขายังแสดงอาการอิ่มตัวอีกครั้ง หากเป็นในอดีต ซูฉินจะเลือกที่จะยุติมัน

แต่ตอนนี้เขาต้องการที่จะไปต่อ

มีคนอีกสามคนอยู่ข้างหน้าเขา

ชายหนุ่มที่มีห่วงจมูก ชายวัยกลางคน และ… ชิงชิวที่อยู่ด้านหน้าซึ่งกำลังจะถึง 20,000 ฟุตแล้ว

เกือบจะในทันทีที่ซูฉินมองข้ามไป ชิงชิวก็กระโดดขึ้นและกลายเป็นผู้ฝึกฝนคนแรกที่สูงถึง 20,000 ฟุต ความก้าวหน้าของเธอทำให้เกิดความโกลาหลด้านล่างทันที

ที่ระดับความสูงนี้ เสียงที่มาจากด้านล่างนั้นคลุมเครือและไม่ได้ยินอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ลมในบริเวณโดยรอบยังแรงเกินไป ทำให้ร่างกายของเธอแกว่งไปมา

สิ่งสำคัญที่สุดคือหลังจากมาถึงความสูงนี้แล้ว เสียงร้องโศกเศร้าที่เกิดจากความแค้นก็ดังก้องอยู่ในใจของเธอ มันเต็มไปทั้งจิตใจของเธอและเธอไม่สามารถสนใจสิ่งอื่นใดได้อีก

เมื่อเห็นว่าซูฉิน อยู่ห่างจากเธอเพียง 2,000 ฟุต เธอกัดฟันอย่างดุเดือด ปีศาจร้ายในเคียวในมือของเธอเปล่งแสงสีแดงออกมาทั่วร่างของเธอ

ขณะที่เส้นเลือดบนหน้าผากของเธอโป่งออก ความเร็วของเธอก็พุ่งสูงขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนที่มีตราประทับก็เร่งความเร็วขึ้นเช่นกัน

ร่างกายของเขาเย็นยะเยือก ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ใดก็ตาม น้ำแข็งจะปรากฏบนเสาหลักแห่งการแบ่งแยก ในขณะนั้น ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นผู้ฝึกฝนคนที่สองที่ก้าวเข้าสู่ความสูง 20,000 ฟุต

ส่วนบุคคลที่สามนั้นไม่ใช่เด็กหนุ่มที่มีห่วงจมูก แต่เป็นซูฉิน

แม้ว่าภูเขาจักรพรรดิปีศาจจะเกือบอิ่มตัวแล้ว แต่ความเร็วของซูฉินก็ไม่ได้ลดลง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พึ่งพาภูเขาจักรพรรดิปีศาจ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของเขา มันก็เพียงพอที่จะสนับสนุนเขาในการปีนเสา

ท้ายที่สุด แม้ว่าดูเหมือนว่าเขาจะเคยพึ่งพาภูเขาจักรพรรดิปีศาจมาก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ฝึกฝนทุกคนที่สามารถเข้าถึงความสูงนี้ได้มีวิธีการพิเศษของตนเอง

ในขณะนั้น ซูฉินเหนือกว่าเด็กหนุ่มที่มีห่วงจมูก ดวงตาของเด็กหนุ่มคนนี้เผยให้เห็นความไม่เต็มใจในขณะที่เขากัดฟันและชี้ไปที่ซูฉิน

ภายใต้นิ้วนี้ ราวกับว่ามันได้ถ่ายโอนความแค้นจำนวนมากจากร่างกายของเขาไปยังซูฉิน

ประกายเย็นวาบในดวงตาของซูฉิน นี่เป็นบุคคลแรกที่โจมตีเมื่อปีนเสาแยกจุดเริ่มต้นสัมบูรณ์

ด้วยการกระทำของอีกฝ่าย เสียงร้องไห้คร่ำครวญในหูของซูฉินก็แข็งแกร่งขึ้นทันที ความเคียดแค้นในจิตสำนึกของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นจนสุดขีด ก่อตัวเป็นอมนุษย์ขนาดมหึมาที่มีปีกขนาดใหญ่และร่างกายที่สง่างาม

อมนุษย์นี้มีใบหน้าของนกอินทรีและร่างกายของมนุษย์ ทั่วทั้งร่างของมันเป็นสีดำสนิทและปล่อยความผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ขณะที่มันก่อตัวขึ้น มันก็ส่งเสียงคำรามออกมา ต้องการที่จะทำลายจิตสำนึกของซูฉิน

สำหรับภูเขาจักรพรรดิปีศาจ ตอนนี้มันอิ่มตัวและไม่สามารถเปล่งแสงใดๆได้ ทะเลแห่งจิตสำนึกของซูฉินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในช่วงเวลาต่อมา ขณะที่ซูฉินคำรามออกมา ยาพิษในวังสวรรค์ที่สามของเขาก็สั่นเล็กน้อย

เสียงคำรามของจิตวิญญาณอาฆาตหยุดลงในทันใด การแสดงออกของมันเผยให้เห็นความสยดสยองขณะที่มันร้องออกมาโดยไม่ตั้งใจ

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”

ในช่วงเวลาต่อมา จิตวิญญาณอาฆาตนี้ก็พังทลายลงด้วยตัวมันเองก่อนที่ ซูฉินจะระงับมันได้ ราวกับว่ามันเลือกที่จะหลบหนีด้วยตัวมันเองและคลานออกมาจากร่างของ ซูฉินทันที มุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่มที่มีห่วงจมูกที่ส่งมันมา

ในชั่วพริบตา มันก็เข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่ม ร่างกายของเด็กหนุ่มสั่นสะท้านและจิตสำนึกของเขาก็สับสนปั่นป่วนอย่างชัดเจน ซูฉินไม่จำเป็นต้องโจมตีด้วยซ้ำ เขาเริ่มไอเป็นเลือด สายตาหรี่ลง และร่างกายของเขาถูกปฏิเสธโดยแรงมหาศาล กวาดเขาออกจากเสาหลักแห่งการแบ่งแยกโดยตรง

แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่ตาย ในขณะนี้ เขาตระหนักว่าเขาได้ทำบางสิ่งที่คุกคามชีวิตของเขา ดังนั้นใบหน้าของเขาจึงซีดเซียว และเขาไม่กล้าที่จะมองเข้าไปในดวงตาของซูฉิน ขณะที่เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วในกลางอากาศ

ซูฉินมองไปที่ร่างของเด็กหนุ่มอย่างเย็นชาและหันไปปีนเสาต่อไป

เมื่อเทียบกับรางวัลของการได้ที่หนึ่ง เรื่องของเด็กหนุ่มคนนี้สามารถจัดการได้ในภายหลัง

ซูฉินกระโดดขึ้นไปบนความสูง 20,000 ฟุตโดยตรง ในขณะนั้น ข้างหน้าเขา 500 ฟุตคือชายวัยกลางคนที่มีรอยแผลและห่างออกไป 1,000 ฟุตคือชิงชิว

เกือบจะในเวลาเดียวกันกับที่ซูฉินเงยหน้าขึ้น ชายวัยกลางคนที่มีรอยแผลก็หันศีรษะและมองไปที่ซูฉิน

“กัปตัน ข้าตามหาเจ้ามานานแล้ว” ซูฉินพูดอย่างใจเย็น

ในเดือนที่ผ่านมาเมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นศิษย์ของนิกายหยิงหวง เขาจะนึกถึงจดหมายฉบับนั้น เมื่อเขานึกถึงจดหมายฉบับนั้น เขาก็กัดฟันและอยากจะทุบตีกัปตันจริงๆ

ชายวัยกลางคนไอและยิ้ม เขาเหลือบมองไปที่ซูฉิน และทันใดนั้นก็พูดขึ้น

“น้องฉิน เราจะแข่งขันกันอีกครั้งไหม”

“ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะให้เจ้าทุบตีข้า ถ้าเจ้าแพ้ คืนเงินข้าและช่วยข้าจัดการกับเทพธิดาจื่อซวนอย่างเชื่อฟัง มิฉะนั้นข้าไม่กล้าแม้แต่จะกลับไปที่นิกาย หรือพบ บรรพบุรุษ ข้าคิดถึงบ้าน แต่ข้ากลับไปไม่ได้ ข้าก็ทุกข์ใจเหมือนกัน”

ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย เขาสามารถบอกได้ว่ากัปตันเป็นคนจริงจัง ดังนั้น เขาจึงพยักหน้าอย่างจริงจังเช่นกัน

ครั้งแรกที่ทั้งสองแข่งขันกันคือในทะเลต้องห้าม

ฝ่ายที่แพ้จะต้องสวมชุดสตรีและปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแห่งเผ่าซากทะเล

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง

ขณะที่พวกเขาบรรลุข้อตกลง เสียงวิตกกังวลของปีศาจร้ายก็ดังก้องอยู่ในใจของ ชิงชิว

“มันคือพวกเขา สุนัขบ้า และ หัตถ์ปีศาจอยู่ข้างหลังเจ้า ข้าเพิ่งได้ยินพวกเขาพูดถึงการแข่งขันว่าใครจะเป็นที่หนึ่ง”

“นี่มันมากเกินไป ทะนงตัวเกินไป พวกเขาไม่ได้จริงจังกับเจ้าเลย!”

“เจ้าทนได้ไหม? หันหลังกลับและพินาศไปพร้อมกับพวกเขาไหม?”

“เจ้าตะโกนเกี่ยวกับการพินาศทุกวัน หุบปาก!” ชิงชิวตะโกนเสียงต่ำและแสงสีแดงปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ แสงสีแดงกระจายออกมาจากร่างของเธอและความเร็วของเธอก็พุ่งสูงขึ้นถึง 22,000 ฟุตในทันที

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ กัปตันได้เคลื่อนไหว

แสงสีน้ำเงินขนาดมหึมาปะทุออกมาจากร่างของเขา แสงนี้ส่องท้องฟ้าราวกับว่ามันย้อมท้องฟ้าโดยรอบ สามารถมองเห็นเส้นเลือดในร่างกายของเขาได้ลางๆ หากมีใครมองผ่านผิวหนังของเขา พวกเขาจะเห็นได้ชัดว่าเลือดของเขาไม่ได้เป็นสีแดงอีกต่อไปแต่เป็นสีน้ำเงิน

ใบหน้าปรากฏขึ้นในรูม่านตาของเขา ต่างก็มีสีหน้าแววตา ทีละชั้น พวกมันกลายเป็นความชั่วร้ายและความลึกลับ แลกกับความเร็วที่น่าอัศจรรย์อย่างหาที่เปรียบมิได้

เขากระโดดได้ 1,000 ฟุตด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว และแซงชิงชิว หลังจากกระโดดสามครั้ง ซึ่งสูงถึง 23,000 ฟุต!

ในขณะนี้ การแสดงออกของผู้อาวุโสดาบซึ่งกำลังเฝ้าดูจากศาลาผู้ถือดาบเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขามองไปที่กัปตัน

“ทักษะต้องห้ามแห่งฝันร้าย ตราประทับจิตวิญญาณเต๋า!”

“ผู้ยิ่งใหญ่คนใดได้ปิดผนึกสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักในร่างของเด็กคนนี้ ระดับของเขานั้นสูงเกินไป ทักษะเต๋าของเขาปกปิดมัน ดังนั้นข้าจึงไม่เห็นสิ่งที่ถูกผนึกอย่างชัดเจน”