ตอนที่ 552 กลิ่นเหม็นของเลือดอบอวลในอากาศ พิษก็กระจายไปทั่ว (2)

เมื่อหลบการโจมตีแล้ว เขาหันศีรษะไป ซูฉินก็เห็นองครักษ์ชุดดำอีกคนหนึ่งซึ่งมีเจ็ดวังแห่งโดยใช้ทักษะบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเพื่อสร้างมือสีดำขนาดใหญ่ที่เคลื่อนเข้ามาหาเขา

ในครั้งนี้ซูฉินไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวใดๆ องครักษ์ชุดดำสองคนที่มีหกวังก็เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด พวกเขาหันกลับมาพร้อมเพรียงกันและพุ่งไปหาสหายของพวกเขาที่มีเจ็ดวังและทำลายตัวเอง

พวกเขายังคงตะโกนเมื่อพวกเขาทำลายตัวเอง

“นายของข้าให้มาทักทายเจ้า!”

เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ทำให้การแสดงออกขององครักษ์ชุดดำทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมาก ในพริบตาต่อมา ร่างขององครักษ์ชุดดำสองคนก็ระเบิดเสียงดัง สร้างผลกระทบที่กวาดไปยังผู้ฝึกฝนเจ็ดวัง

หลังจากทนทุกข์ทรมานจากการระเบิด ผู้ฝึกฝนเจ็ดวังก็กระอักเลือดออกมา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และโกรธในขณะที่เขายกมือขวาขึ้นและคว้าแท่งเหล็กสีดำที่กำลังโจมตีอย่างลับๆ

เขาไม่สามารถควบคุมสายฟ้าสีแดงที่พุ่งขึ้นมาจากแท่งเหล็กได้ มันพุ่งเข้าหัวของเขาทันที ทำให้เขาสั่นสะท้าน

กริชของซูฉินก็มาถึงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาแทงเข้าไปในหัวใจของบุคคลนี้และโจมตีอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เขาแทงเจ็ดครั้งติดต่อกัน การแทงของเขาในแต่ละครั้ง มันโหดร้ายมาก

ขณะที่เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังขึ้น ซูฉินสังเกตเห็นว่าพิษของเขาแพร่กระจายเป็นส่วนใหญ่ องครักษ์ชุดดำส่วนใหญ่ในบริเวณโดยรอบเน่าเปื่อยและทุกคนอยู่ในความกลัว ระดับพลังยุทธ์ของพวกเขาก็ลดลงอย่างควบคุมไม่ได้

“มันขึ้นอยู่กับเวลา” ซูฉินพึมพำในใจ ตาเงาบนหน้าผากของเขาขยายเป็นโลงศพสีดำโดยตรง เมื่อฝาเปิดออก ซูฉินก็รีบออกมา

แน่นอนในระหว่างกระบวนการนี้ เขาไม่ลืมที่จะตะโกนคำร่ายที่ดูเหมือนคลุมเครือเพื่อซ่อนความลับของการผสานเงาของเขา ทันทีที่เขาปรากฏตัว ซูฉินใช้ทักษะหัตถ์ปีศาจคว้าเต๋า มือขวาของเขาเปลี่ยนเป็นโปร่งแสงทันทีและแทงเข้าที่หน้าอกขององครักษ์ชุดดำตรงหน้าอย่างไร้ความปรานี

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ เขายื่นมือไปในวังสวรรค์และคว้าแกนทองคำดึงออกมาอย่างไร้ความปรานี

แกนทองคำยังคงมีเส้นเลือดติดอยู่

ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด อีกาทองคำที่อยู่เบื้องหลังซูฉิน ก็ปรากฏตัวขึ้น หางเปลวเพลิงขนนกทองคำยาว 42 เส้นกระจายไปทุกทิศทาง ทำให้ความมืดมิดเกิดเแสงรุ่งอรุณสว่างขึ้นในขณะนี้

ประกายแวววาวปรากฏขึ้นในดวงตาของอีกาทองคำ ช่วงเวลาที่ ซูฉินหยิบแกนทองคำออกมา มันก็กลืนกินมือสีดำที่สร้างขึ้นโดยทักษะบ่มเพาะระดับจักรพรรดิขององครักษ์ชุดดำโดยตรง

เงาก็ทำหน้าที่ และแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งสามดูดซับในเวลาเดียวกัน

ในพริบตาต่อมา ทักษะบ่มเพาะระดับจักรพรรดิขององครักษ์ชุดดำก็พังทลายลง ร่างกายของเขาเหี่ยวเฉาและวังสวรรค์ของเขาถูกทำลาย

กลุ่มของซานเหอ ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก เย่หลิงกลายร่างเป็นยักษ์ตาเดียวที่มีขนสีเขียวทั่วตัว มันเป็นปีศาจสวรรค์ตาเดียวที่ไม่เหมือนใครของนิกายอสูรหมื่นผันแปร และดวงตาของมันก็เปล่งแสงวิญญาณสลัว

ร่างกายท่อนบนของสิ่งมีชีวิตนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า มีก้อนเนื้อสี่ก้อนงอกออกมาจากมันและก่อตัวเป็นนิ้วขนาดใหญ่สี่นิ้ว ที่ปลายนิ้วแต่ละนิ้วมีใบหน้าที่น่ากลัวซึ่งกลืนกินและฉีกกระชากศัตรู แม้ว่าพวกมันจะถูกตัดออก พวกมันก็ฟื้นฟูกลับมาทันที

สำหรับซานเหอ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิต และอาการบาดเจ็บของเขานั้นรุนแรงมาก เขาช่วยเพื่อนของเขาต้านทานการโจมตีเป็นหลัก แต่ทักษะ บ่มเพาะและสายเลือดของเขานั้นไม่เหมือนใครอย่างชัดเจน ยิ่งอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของเขา เขาบ้าคลั่งไปแล้ว และรุนแรงมากขึ้นมีเพียงการฆ่าฟันในสายตาของเขา และไม่มีอะไรอื่นอีก

คนแคระหวังเฉินก็ใช้พลังเต็มที่ ร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าและหลังคาวังเหนือหัวของเขากลายเป็นตะเกียงแห่งชีวิตสายฟ้า ความเร็วของเขาเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ในความเป็นจริง ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทีละน้อย เขาไม่ใช่คนแคระอีกต่อไปแต่กลับสูงขึ้น และกลายเป็นเด็ก

ทั้งร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยรอยสักโทเท็มสีดำที่ดูเหมือนตราประทับ ในช่วงเวลานั้น พวกมันกำลังปลดผนึกทีละอัน ก่อตัวเป็นออร่าที่น่ากลัวยิ่งขึ้นและ ผันผวนพื้นที่รอบๆ

เมื่อผนึกโทเท็มทุกอันเปิดออก จะมีร่างที่ไม่ใช่มนุษย์ปรากฏขึ้นอยู่ข้างๆ เขา

มีร่างของเผ่าอสูรแสง เผ่าปีศาจศิลา และเผ่าบุปผา

นอกจากนี้ ร่างโคลนควันยังอยู่ที่นั่นเพื่อให้ความช่วยเหลือ ต่อสู้จนตัวตายเคียงข้างพวกเขากับองครักษ์ชุดดำสองคนที่มีแปดวังสวรรค์

แต่ละคนหยิบเศษสมบัติวิเศษออกมา และในขณะที่พวกเขายังเทียบไม่ได้กับองครักษ์ชุดดำสองคน พวกเขาทั้งสามคนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในที่สุดพวกเขาก็สามารถขัดขวางองครักษ์ชุดดำสองคนได้

ด้านของกงเซียงหลงน่ากลัวยิ่งกว่า มังกรทองที่อยู่ข้างหลังเขาคำรามและทั้งตัวของเขาก็เหมือนเทพเจ้าที่ลงมายังโลกมนุษย์ ผ้าคลุมสีเลือดก็ปรากฏขึ้นข้างเขาและปกคลุมโดยรอบ เขากำลังต่อสู้กับผู้ฝึกฝนวิญญาณแรกเริ่มครึ่งก้าวทั้งสามด้วยตัวเขาเอง

แม้จะอยู่เพียงขอบเขตแกนทองคำ แต่เขาก็ไม่แสดงสัญญาณของความอ่อนแอเมื่อถูกปิดล้อมโดยผู้ฝึกฝนวิญญาณแรกเริ่มครึ่งก้าว ในความเป็นจริง เขาเปล่งออร่าแห่งการครอบงำที่ไม่มีใครเทียบได้

“นี่คือทีมอัจฉริยะของรุ่นนี้จากวังผู้ถือดาบ!”

องครักษ์ชุดดำคนหนึ่งส่งเสียงร้องเตือน ส่วนคนอื่นๆ เริ่มรู้สึกหวาดกลัวที่คืบคลานเข้ามาขณะที่พวกเขาตะเกียกตะกายเพื่อหลบหนีจากสนามรบ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะหนีไปได้ไกล พวกเขาก็เริ่มไอเป็นเลือดสีดำ และร่างกายของพวกเขาก็เริ่มเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว กลายเป็นแอ่งเลือด

การโจมตีของซูฉินยังคงดำเนินต่อไป อีกาทองคำส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขและกินต่อไป ทักษะหัตถ์ปีศาจคว้าเต๋าซูฉินยังคงยื่นเข้าสู่วังสวรรค์ต่อไป

น่าเสียดายที่ความเร็วในการโจมตีของเขาไม่สามารถเทียบได้กับพิษของเขา

เมื่อเขาสังหารองครักษ์ชุดดำไป 19 คน เหลือองครักษ์ชุดดำเพียงเจ็ดคน

มีอีกสองคนซึ่งร่างกายก็เน่าเปื่อยอย่างรวดเร็วเช่นกัน แม้จะสลายตัวไปมากกว่าครึ่ง แต่พวกเขาก็เดินไปหาซูฉิน ทีละก้าวก่อนที่จะคุกเข่าลงด้วยเสียงอันดัง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและสยองขวัญ แต่พวกเขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ

“นายท่าน โปรดรับของขวัญที่องครักษ์ชุดดำของเรามอบให้ท่าน!”

ขณะที่พวกเขาพูด พวกเขาก็เปิดวังสวรรค์และหยิบแกนทองคำออกมา ยื่นให้ด้วยมือทั้งสองข้าง

ซูฉินโบกหัตถ์ปีศาจหวงของเขา หลังจากดูดซับพวกมัน องครักษ์ชุดดำสองคนก็ยกมือขึ้นด้วยความสยดสยอง พวกเขากดหัวเข้าด้วยกันอย่างพร้อมเพรียงและบิดงออย่างแรง

เสียงแตกดังก้องออกมาเมื่อหัวของพวกเขาหมุนและถูกบิดออก

แม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้ว ใบหน้าของพวกเขาก็ยังคงมีรอยยิ้ม