Skip to content
Home » Blog » กำราบสวรรค์ สังหารเทพ 730

กำราบสวรรค์ สังหารเทพ 730

ตอนที่ 730 ความจริงเกี่ยวกับการเปิดอมตะต้องห้าม! (4)

“ท่านอาจารย์ ท่านหมายความว่านิ้วเทพเจ้าแน่ใจหรือว่าดวงจันทร์แดงต้องการจะกินร่างหลักของมัน?”

ดวงตาของผู้อาวุโสเจ็ดแสดงความพึงพอใจในขณะที่เขาพยักหน้าเห็นด้วย

“ถูกตัอง ด้วยความเชื่ออันแน่วแน่เช่นนี้ มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น มันเชื่อว่า เมื่อดวงจันทร์แดงเห็นร่างหลักของมัน มันจะกินอย่างแน่นอน นี่คือความเข้าใจ ของมัน ในกรณีนี้เราจะเข้าใจได้ว่าเมื่อเทพเจ้าเผชิญหน้ากัน ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าจะกลืนกินผู้ที่อ่อนแอกว่า”

“เมื่อรวมกับความจริงที่ว่าเทพเจ้าในอมตะต้องห้ามกำลังหลับใหล และไม่เคยออกไป ความน่าจะเป็นของคำตอบนี้สูงกว่าแปดในสิบส่วน”

“ก็เหมือนกับที่ข้าเคยบอกพวกเจ้าไปก่อนหน้านี้ หลังจากค้นคว้าข้อมูลของข้าค้นพบว่าจริงๆ แล้วไม่มีอะไรมากมายเกี่ยวกับเทพเจ้า พวกเขาเป็นเพียงการดำรงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเรา”

“เมื่อมนุษย์กินมากเกินไปก็จะง่วงนอน เกียจคร้าน ไม่อยากทำอะไร ยิ่งกว่านั้นสำหรับผู้ฝึกฝน ตัวอย่างเช่น ถ้าเจ้าหนึ่งกินมากเกินไป เขาจะหลับโดยสัญชาตญาณ เหมือนกันกับข้า ถ้าข้ากินมากเกินไป และมันก็เหมือนกันสำหรับเจ้า แม้ว่าเราจะไม่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่เราก็ยังต้องเข้าสู่ความสันโดษเพื่อดูดซับสิ่งที่ได้รับมา”

“สำหรับระยะเวลาของความสันโดษ หรือห้วงนิทรานั้น จะถูกกำหนดโดยอาหารที่กิน”

จิตใจของซูฉินปั่นป่วนอย่างมาก กัปตันเอาแต่เลียริมฝีปาก เห็นได้ชัดว่าหลังจากตรวจสอบจากสองความเป็นไปได้แล้ว ต่างก็ชี้ไปที่คำตอบเดียวกัน

“แล้วตอนนี้คำตอบชัดเจนหรือยัง” ผู้อาวุโสเจ็ดถามเบาๆ

“จักรพรรดิมนุษย์ริเริ่มลงมือเพื่อช่วยให้ดวงจันทร์แดงตื่นขึ้น และส่งไปยัง อมตะต้องห้าม เขาต้องการให้มันเข้าสู่ระยะช่วงเวลาแห่งการดูดซับ และย่อยอาหารหลังจากกลืนกินเทพเจ้าของอมตะต้องห้าม!”

“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเผ่าสวรรค์ทมิฬในเวลานี้ ดวงจันทร์แดงจะไม่สนใจ นี่เป็นเพราะสำหรับมันแล้ว เผ่าสวรรค์ทมิฬเป็นเพียงคนรับใช้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กิน หรือไม่นอนเพราะคนรับใช้!”

“และดวงจันทร์แดงจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการย่อย ในช่วงเวลานี้… เผ่าสวรรค์ทมิฬจะไม่ได้รับการปกป้องจากเทพเจ้าอีกต่อไป!”

“จักรพรรดิมนุษย์กำลังรอโอกาสนี้อยู่!”

ซูฉินจัดเรียงความคิดของเขาและพูดอย่างรวดเร็ว ความรู้แจ้งผุดขึ้นในจิตใจของเขา ในขณะนี้ ราวกับว่าโลกโปร่งโล่งและม่านหมอกก็สลายไป ความเข้าใจของเขาชัดเจนขึ้นอย่างมาก

ในความเป็นจริงภายใต้การรู้แจ้งของความคิดนี้ วังสวรรค์ที่สิบสองที่กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกายของเขาก็เร่งตัวขึ้นทันที และเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ผู้อาวุโสเจ็ดชี้นำเขาไปทีละขั้น มุมมองของซูฉินก็ขยายออกไป จิตใจของเขาได้รับการยกระดับอย่างไม่สิ้นสุด ความเข้าใจและกระบวนการคิดของเขาก็ ก้าวข้ามขีดจำกัดของสิ่งเดิม เขาก้าวไปสู่ระดับการรับรู้ที่สูงขึ้น ทำให้เขามีมุมมองที่ครอบคลุมถึงสถานการณ์ทั้งหมด

ผู้อาวุโสเจ็ดไม่สามารถพูด หรือให้คำตอบโดยตรงได้ การทำเช่นนั้นจะทำให้ความเข้าใจของซูฉินพัฒนาขึ้นได้แต่ก็ถูกกำจัดไว้

ภายใต้คำแนะนำของเขา ซูฉินวิเคราะห์ทุกอย่างอย่างช้าๆ ความก้าวหน้าในความเข้าใจนี้เป็นพรอย่างไม่ต้องสงสัย!

นี่คือการสั่งสอนที่ถูกต้อง

ความเคารพปรากฏในดวงตาของซูฉิน เขามองไปที่ผู้อาวุโสเจ็ดและโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง

ผู้อาวุโสเจ็ดมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เมื่อเห็นว่าซูฉินเชื่อมั่นอย่างถี่ถ้วน หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและรู้สึกสบายใจ

“แล้วสมบัติวิเศษระดับภูมิภาคล่ะ? ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่าอย่างไร? ยึดมันมา?” กัปตันก็ตกใจมาก และมองไปที่อาจารย์ของเขาด้วยความเคารพ

รอยยิ้มของผู้อาวุโสเจ็ดแข็งค้าง เขาไม่ได้คิดถึงคำตอบของคำถามนี้ และรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นว่าซูฉินกำลังมองมาที่เขาอย่างอยากรู้อยากเห็น

ด้วยภาพลักษณ์ที่เขาเพิ่งสร้างขึ้น เขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขาไม่รู้…

‘ทำไมศิษย์คนนี้ถึงขาดทักษะการสังเกตขนาดนี้!’ ผู้อาวุโสเจ็ดรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาไม่ได้แสดงสีหน้า พูดอย่างใจเย็น

“ข้าเข้าใจเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว”

“แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่ข้าจะบอกได้โดยตรง ให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นการบ้านสำหรับพวกเจ้า ไตร่ตรองให้ดี แล้วเราจะดูว่าใครจะมีความเข้าใจมากกว่ากัน ข้าจะให้รางวัลแก่คน ผู้นั้น”

ซูฉินพยักหน้า รู้สึกชื่นชมอาจารย์ของเขามากยิ่งขึ้น

กัปตันรู้สึกสงสัยเล็กน้อย มองไปที่อาจารย์ของเขา

เมื่อเห็นว่ากัปตันกำลังจะพูด ผู้อาวุโสเจ็ดก็ตะคอกในใจและจดบันทึกสิ่งนี้ไว้ หลังจากนั้น เขาก็หยิบหน้ากากหนังมนุษย์โปร่งแสงออกมาส่งให้ซูฉิน

“สิ่งนี้เป็นเคล็ดวิชาอมตะที่ข้าได้รับจากหอคัมภีร์อมตะเมื่อหลายปีก่อนมีประโยชน์เพียงอย่างเดียว และนั่นคือการปกปิด ปกปิดขั้นสุด”

“เจ้าสี่เมื่อดวงจันทร์แดงตื่นขึ้นให้สวมหน้ากากหนังมนุษย์นี้ทันที เป็นการปกปิดระดับแรกแต่ยังไม่ปลอดภัย จำไว้ว่าให้หาสถานที่ที่มีเลือดเนื้อมากมาย และขุดหลุมเพื่อฝังตัวเอง ซ่อนตัวภายใต้กลิ่นอายแห่งเทพเจ้าที่นิทรา นี่คือการปกปิดระดับที่สอง”

“เจ้าเองก็คงมีวิธีการบางอย่าง นี่คือการปกปิดระดับที่สาม ทักษะศักดิ์สิทธิ์ ซ่อนเร้นของข้าจะเสริมพลังให้เจ้าด้วย นี่คือการปกปิดระดับที่สี่!”

“ด้วยสิ่งเหล่านี้ ตราบใดที่ดวงจันทร์แดงไม่ได้พยายามค้นหาเจ้าเป็นพิเศษที่นี่ด้วยสุดกำลัง เจ้าจะสบายดีในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อดวงจันทร์แดงตื่นขึ้น มันจะถูกดึงดูดโดยเทพเจ้าผู้หลับใหลอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่เจ้าระมัดระวังมากพอ”

“จำไว้อย่างหนึ่ง ใส่หน้ากากแล้วจะขยับไม่ได้ ฐานการบ่มเพาะของเจ้าไม่สูงพอ หากเจ้าเคลื่อนไหวจะมีข้อบกพร่องในการปกปิด”

เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ ความอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นในใจของซูฉิน เขาก้มศีรษะลงและโค้งคำนับ

“ท่านอาจารย์ โปรดดูแลตัวเองด้วย”

ผู้อาวุโสเจ็ดยิ้ม ดวงตาของเขาแสดงความพึงพอใจ เขาชื่นชมการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของศิษย์คนนี้อย่างลึกซึ้ง

เขายกมือขวาขึ้นตบไหล่ของซูฉิน หลังจากเสริมพลังด้วยทักษะศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขาก็หันไปจากไป

กัปตันรีบพูด

“อาจารย์ แล้วข้าล่ะ?”

ผู้อาวุโสเจ็ด ชำเลืองมองเขาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“เทียบกับเทพเจ้านิทรา ใครจะสนใจกลิ่นอายของเจ้า”

ถึงกระนั้น ผู้อาวุโสเจ็ดยังคงโบกมือและใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ซ่อนเร้นเพื่อเสริมพลังให้กับกัปตัน หลังจากนั้นเขาก็หายไปจากสถานที่นี้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขาจากไปแล้ว กัปตันก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็มองไปที่ซูฉินด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย

“น้องฉินระหว่างทางมาที่นี่ ข้าเห็นอะไรดีๆ ในเวลานั้นชายชราเคลื่อนไหว เร็วเกินไปข้าจึงไม่ได้พูด ไปกันเถอะไปดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version