ตอนที่ 850 เรื่องโกหกที่เรียกว่าความหวัง (1)

สิ่งที่เรียกว่าเพลิงสวรรค์ข้ามฟ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนใครในภูมิภาคจันทร์บวงสรวง

มีทฤษฎีต่างๆ มากมายเกี่ยวกับหลักการเบื้องหลังการก่อตัวของมัน โดยบางคนบอกว่ามันเกิดจากแรงน้ำขึ้นน้ำลงจากดวงจันทร์แดง สังเกตได้ว่ายิ่งดวงจันทร์แดงเข้าใกล้มากขึ้นเท่าใด การเกิด ‘เพลิงสวรรค์ข้ามฟ้า’ ก็ยิ่งบ่อยขึ้นเท่านั้น

บางคนบอกว่าผู้ว่าการที่ถูกเทพจันทราโลหิตสังหารกำลังจะกลับมา

ทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์เพลิงสวรรค์ข้ามฟ้า ทั่วทั้งภูมิภาคจันทร์บวงสรวงจะสว่างขึ้น ทะเลเพลิงบนท้องฟ้าปั่นป่วน และลอยขึ้นจากทิศตะวันออกจนปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า

ยิ่งอยู่ห่างจากทิศตะวันออก แสงสว่าง และความร้อนก็ยิ่งลดลง ขณะเดียวกันก็มีระดับของฝนเพลิงที่แตกต่างกันด้วย

จะต้องใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่ทะเลเพลิงบนท้องฟ้าจะกลับมา และตกลงสู่ทะเลเพลิงสวรรค์ทางทิศตะวันออกอีกครั้ง นี่ถือได้ว่าเป็นวัฏจักร

ในระหว่างกระบวนการนี้ ในทิศตะวันออกทั้งหมดของภูมิภาคจันทร์บวงสรวง นอกเหนือจากสถานที่เช่นแท่นบูชาจันทร์ สถานที่ส่วนใหญ่จะลุกไหม้ท่ามกลาง ฝนเพลิง

อาคารและต้นไม้เกือบทั้งหมดจะพังทลาย

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเมืองในดินแดนของทั้งสองเผ่าพันธุ์ ส่วนใหญ่จึงสร้างจากโคลนอย่างหยาบๆ มีเพียงเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์ใช้ร่วมกันเท่านั้นถึงจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังคอยปกป้อง และเมื่อรวมกับวิธีการพิเศษบางอย่างจึงทำให้ทนต่อการกัดกร่อนของฝนเพลิงได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้รับความเสียหายในระดับหนึ่ง

ทุกครั้งที่เพลิงสวรรค์กลับไป พวกเขาจะเริ่มสร้างอาคารใหม่ และต้องเปลี่ยนดินเพื่อกำจัดพิษไฟ เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารของพวกเขาคือพืช

โชคดีที่เพลิงสวรรค์ข้ามฟ้าปรากฏขึ้นเพียงหนึ่งครั้งทุกๆ สองสามทศวรรษ และไม่บ่อยเกินไป พลังทำลายล้างของมันมุ่งเน้นไปที่ทิศตะวันออกเป็นหลัก ดังนั้นพื้นที่อื่นๆ จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้ฝึกฝนที่จะสร้างดินแดนขึ้นมาใหม่

คนธรรมดาสามัญต้องคิดหาทางเข้าไปในเมืองศักดิ์สิทธิ์เพื่อลี้ภัยก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้พวกเขาต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก หากจ่ายไม่ไหว… พวกเขาต้องซ่อนตัวอยู่ใต้ดินเท่านั้น

ด้วยรากฐานที่พวกเขาสร้างขึ้นจากรุ่นต่อรุ่นในการปรับตัวให้เข้ากับเพลิงสวรรค์ พวกเขาจึงสามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัตินี้ได้

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้พิทักษ์ชายแดนที่ซูฉินพบจึงซ่อนตัวอยู่ใต้ดินทั้งหมด พวกเขาจำเป็นต้องสลายร่างของตัวเองก่อนที่เพลิงสวรรค์ข้ามฟ้าจะมาถึง และรวมตัวเข้ากับดินเบื้องล่าง

เผ่าสวรรค์ลวงก็มีวิธีการที่คล้ายกัน

วิธีการเหล่านี้เป็นการดัดแปลงที่คนในท้องถิ่นได้พัฒนาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่ซูฉินไม่มี

ในขณะนั้น สภาพแวดล้อมของถ้ำใต้ดินที่เขาอยู่นั้นร้อนอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบได้ ดินเริ่มตกผลึก และท่ามกลางอุณหภูมิสูง ความรู้สึกไม่สบายอย่างรุนแรงก็ปรากฏขึ้นในใจของซูฉิน

“มันเกือบจะใกล้เคียงกับอุณหภูมิบนพื้นผิวลาวาแล้ว และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น…”

หน้าผากของซูฉินเต็มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายของเขารู้สึกเหนียว เขาค่อยๆไม่สามารถกักเก็บความชื้นภายในร่างกายได้ และสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เขาขุดดินอย่างรวดเร็วลึกลงไปในพื้นโลก

เมื่อเขาไปถึงระดับหนึ่งก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม อันตรายในใจของเขา และการเตือนที่ส่งมาจากเต๋าสวรรค์ในร่างยังคงรุนแรง

ดังนั้น เขาจึงไม่ถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและให้ความสนใจกับโลกภายนอกอย่างใกล้ชิด

ในการรับรู้ของเขา ท้องฟ้าด้านนอกตอนนี้สว่างจ้าด้วยเปลวไฟ และลาวาหลอมละลายปั่นป่วนไปทั่วท้องฟ้า ขณะที่มือที่ถูกตัดขาดคู่นั้นทำการผนึกมือหลายชุด ดูเหมือนว่าไฟจะถูกขับไล่ และลุกลามต่อไป

ฝนเพลิงตกลงมาจำนวนมาก และยอดเขาหลายแห่งเริ่มละลาย และไม่สม่ำเสมอมากขึ้น

โลกของภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยเปลวไฟที่ไม่มีที่สิ้นสุด ควันหนาทึบลอยขึ้น และอุณหภูมิก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในการตัดสินของซูฉิน ระดับที่น่ากลัวของมันเทียบได้กับความร้อนที่เขารู้สึก เมื่ออยู่ลึกในลาวาสิบฟุต

“จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!”

ความรู้สึกอันตรายทวีความรุนแรงมากขึ้นในใจของซูฉิน เขามองลึกลงไปในพื้นดิน และมีท่าทีครุ่นคิดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากลงลึกต่อไป แต่ท้ายที่สุดร่างกายของเขาก็มีขีดจำกัด มีแรงบีบในทวีป หากซูฉินจมลึกเกินไป เขาจะพบว่ามันยากที่จะทนต่อแรงกดดันนี้

“ยิ่งกว่านั้น ข้าไม่รู้ว่าเพลิงสวรรค์จะลุกลามลึกลงมาอีกหรือไม่… หากพลังการแพร่กระจายของมันเกินขีดจำกัดของข้า มันจะเป็นจุดจบจริงๆ”

ซูฉินชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย นี่เป็นเพียงวันแรกของเพลิงสวรรค์ข้ามฟ้า และเขาสัมผัสได้ว่ามันจะต้องน่ากลัวยิ่งกว่านี้อย่างแน่นอนในอนาคต

ซูฉินรีบหยิบใบหยกออกมา

ในในหยกนี้มีแผนที่ง่ายๆ ชายชรามอบให้เขาก่อนที่จะจากไป อีกฝ่ายยังเป็นคนที่บอกว่าเพลิงสวรรค์ข้ามฟ้ากำลังมา แล้วบอกว่าถ้าซูฉินไม่มีที่ไปจริงๆ เขาก็สามารถมาที่ตำแหน่งที่ระบุในแผนที่ได้

ซูฉินตัดสินใจไปดูก่อน หากไม่ได้ผลจริงๆ เขาจะเสี่ยงโชค และเคลื่อนตัวลึกลงไปใต้ดินหรือออกจากอาณาเขตของทั้งสองเผ่าพันธุ์ด้วยความเร็วเต็มพิกัด และอยู่ให้ห่างจากแหล่งกำเนิดไฟ

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็มุ่งหน้าตรงไปที่ๆ ระบุไว้

เขาไม่ได้เลือกที่จะเคลื่อนที่ผ่านใต้ดินเพราะมันจะส่งผลต่อความเร็ว ในขณะนี้ร่างกายของเขาต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูง ยิ่งเขาอยู่ใกล้ผิวพื้นมากเท่าไหร่ อุณหภูมิก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเขาทะลุผิวดินและปรากฏตัวบนพื้น มีรอยไหม้ปรากฏบนร่างของซูฉิน

ความเจ็บปวดอันรุนแรงแพร่กระจายไป

อุณหภูมิภายนอกเกินอุณหภูมิตอนที่เขาอยู่ใต้ลาวาสิบฟุตแล้ว แม้ว่าร่างกายของซูฉินจะไม่ธรรมดา และสามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่ความเจ็บปวดจากการถูกไฟไหม้ก็ยังคงรุนแรง

สิ่งสำคัญที่สุดคือ แม้ว่าซูฉินจะได้รับการสนับสนุนจากตะเกียงนาฬิกาแดด แต่เขาไม่สามารถต้านทานการบุกรุกของเพลิงสวรรค์ที่มุ่งตรงมายังวิญญาณของเขาได้นานเกินไป

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถอยูในทะเลเพลิงสวรรค์ได้เป็นเวลานาน

ร่างกายก็เป็นปัญหาหนึ่ง และวิญญาณก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับร่างกายของเขา วิญญาณของซูฉินนั้นเปราะบางกว่ามาก

“ข้าไม่อาจอยู่นานเกินไปได้!” ลมหายใจของซูฉินเต็มไปด้วยความร้อน เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายของเขา มันเหมือนกับว่ามันกำลังเผาไหม้เขาจากภายใน

เขาไม่ลังเลเลย และรีบพุ่งออกไป ในขณะที่เขาวิ่งผ่านทะเลเพลิง เขาก็หยิบร่มที่ ต้วนมู่จางมอบให้เขาออกมาด้วย หลังจากที่เขากางมันอุณหภูมิก็ลดลง

ร่างกายของซูฉินผ่อนคลายและความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น

ในขณะที่เขารีบไปข้างหน้า ร่างของเขาก็ทำให้เกิดพายุ เปลวไฟก็ลุกโชนไปทั่วทุกที่

เช่นนั้นสองวันผ่านไป อุณหภูมิก็น่าน่าตกใจมากยิ่งขึ้น ทุกที่ที่เขามองดูเหมือนจะพร่ามัวบิดเบี้ยวเนื่องจากความร้อน สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ถูกฉีกออก และร่มก็มีสัญญาณของการพังทลาย