Skip to content

พลิกปฐพี 100-2

ตอนที่ 100-2

ไม่มีอะไรที่ไม่รู้หากยอมจ่ายเงิน!

นางหน้าดำคลํ้ามิได้สนใจท่าทางประจบเอาใจของเหมิงเหมิงและเดินเข้าห้องหลอมอาวุธไป

ภายในห้องหลอมอาวุธ ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนดังเดิม จากแท่นหลอมอาวุธธรรมดาๆ ในตอนแรก กลายเป็นห้องคิดค้นและผลิตอาวุธที่จัดทำขึ้นอย่างพิเศษ บนชั้นวางที่อยู่ติดกำแพงห้อง ก็เต็มไปด้วยอาวุธที่มู่ชิงเกอทดลองสร้างขึ้นในตอนแรก บนพื้นก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์ในการหลอมอาวุธ บนโต๊ะทำงานยังมีตำราต้องห้าม ที่เป็นสมบัติชิ้นสำคัญ เกี่ยวกับวิธีการสร้างหลอมอาวุธ และในตอนนี้ บนโต๊ะทำงานยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่ง ที่แลกเปลี่ยนกับฟ่งเหนียงนั่นก็คือกริชที่เหมิงเหมิงเรียกว่าอาวุธกึ่งเทพ นางถือกริชขึ้นมาเล่นในมือครู่หนึ่งและพูดกับเหมิงเหมิงอย่างกะทันหันว่า “เหตุใดกริชเล่มนี้จึงสามารถทำลายการป้องกันและทำลายผนึกได้”

เมื่อเหมิงเหมิงเห็นว่าการแสร้งทำเป็นน่ารักไม่ได้ผล จึงนับเม็ดยาที่เหลืออยู่ในเอี๊ยมตรงหน้าท้องของตนเอง หลังจากที่ได้ยินคำพูดของมู่ชิงเกออย่างกะทันหัน จึงได้เงยสายตาขึ้นจ้องนางตาโต พลางทำปากจู๋และพูดกับนางว่า “เหมิงเหมิงหิวแล้ว”

มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว พลางยิ้มอย่างเย็นเยียบในใจ “นี่เจ้ากำลังต่อรองกับข้าหรือ”

เหมิงเหมิงรีบส่ายหน้า และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เหมิงเหมิงไม่ได้ต่อรองกับเจ้านาย แต่ว่าแค่กำลังพูดความจริง เหมิงเหมิงหิวแล้ว พอหิวก็นึกอะไรไม่ออกเลย”

มู่ชิงเกอกระตุกมุมปากทีหนึ่ง พลางขู่อย่างโหดเหี้ยมว่า : “เชื่อไหมว่าข้าจะทำให้เจ้าไม่มีโอสถกินอีกตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

เหมิงเหมิงตะลึงและร้องไห้ขึ้นมาในทันที เสียงร้องไห้นั้นดังก้อง นํ้าตาก็ไหลลงมาดั่งสายน้ำ พลางร้องไห้ พลางพูดอย่างทุกข์ใจว่า “เจ้านายใจร้าย เจ้านายใจร้าย เอาแต่รังแกเหมิงเหมิง เหมิงเหมิงทำอะไรผิดต่อท่านหรือ ถึงต้องทำกับเหมิงเหมิงอย่างนี้!”

เวร! ขนาดนี้เชียวหรือ!

มู่ชิงเกอมองเหมิงเหมิงที่ร้องไห้ใหญ่โตด้วยความอึ้ง เจ้านี่นอกจากจะแกล้งน่ารักแล้วยังเจ้าแผนการมากถึงเพียงนี้!

แสร้งทำเป็นแสนดีมาทำให้คนอื่นปวดหัว เจ้าเล่ห์จริงๆ!

มู่ชิงเกอที่ทนฟังเสียงงอแงจนปวดหัว ในที่สุดก็หมดความอดทนและตะโกนขึ้นมาว่า “หุบปาก!”

เสียงร้องไห้เงียบลงในทันที เหมิงเหมิงกัดริมฝีปาก กลั้นเสียงร้องเอาไว้พลางพูดอย่างสะอึกสะอื้น ท่าทางนั้นทำเหมือนกับว่านางเป็นปีศาจร้าย

ตะโกนออกมาอย่างเหลืออดคำหนึ่ง มู่ชิงเกอก็หยิบขวดใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยเม็ดยาออกมาโยนให้เหมิงเหมิง

รับขวดหนักๆ เอาไว้ เหมิงเหมิงยิ้มอย่างมีความสุขในทันที จนไม่หลงเหลือความหมดหวังในตอนแรก “เจ้านายจะถามอะไร?” เหมิงเหมิงรีบขยับใบหน้าเข้ามาใกล้

แต่ทว่ามู่ชิงเกอกลับหมดอารมณ์ที่จะถามเรื่องกริชกับนางแล้ว

“อ้อ! นึกออกแล้ว เจ้านายอยากจะถามเกี่ยวกับเรื่องที่กริชเล่มนี้สามารถทำลายการป้องกันพลังและผนึกของทุกสาย ฮู้ว-ความจริงก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก แค่เกี่ยวข้องกันก็เท่านั้น” เหมิงเหมิงเอานิ้วมือชี้หัวเล็กๆ ของตนเองทำท่านึกแล้วพูด

“หมายความว่าอย่างไร?” ดวงตาอันเปล่งประกายของมู่ชิงเกอจ้องอยู่บนร่างกายของเหมิงเหมิง

“โอ๊ย หนูควรจะอธิบายอย่างไรดี จึงจะทำให้เจ้านายโง่ๆ ของตนเองเข้าใจได้เนี่ย” เหมิงเหมิงบิดตัวไปมาหลายรอบ

‘เจ้านายโง่ๆ’ ที่นางพูดถึงตอนนี้หัวเสียอีกคราว

ในขณะที่มู่ชิงเกอกำลังจะตบแม่นางน้อยที่ตัวเท่านิ้วหัวแม่มือออกไป เหมิงเหมิงก็หันมามองนางในทันที พลันพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมว่า “เจ้านาย ความจริงแล้วหลายคำถามต้องรอให้สายโลหิตในการหลอมอาวุธของท่านถูกกระตุ้นเสียก่อนจึงจะสามารถให้ความกระจ่างได้ แต่ว่าไม่ว่าอย่างไร ท่านก็ถามข้าแล้ว ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะตอบ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถแสดงความสามารถอันเก่งกาจของข้าออกมาได้น่ะสิ!”

“อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ” มู่ชิงเกอกระตุกมุมปาก และพูดอย่างหัวเสีย

เหมิงเหมิงขมวดคิ้ว และเอามือเท้าคางพลันพูดด้วยนํ้าเสียงจริงจังว่า “ข้าไม่เคยพูดจาไร้สาระอยู่แล้ว”

“…” มู่ชิงเกอหันหลังกลับและเตรียมพร้อมจะจากไป

นางไม่หวังจะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ใดๆ จากเหมิงเหมิงอีกแล้ว

แต่ทว่า หลังจากที่หันกลับไป นางกลับพบว่าขาของตนเองถูกจับเอาไว้จึงหันกลับไปมองและพบว่า เหมิงเหมิงได้มาอยู่ตรงขาของตนเอง พร้อมดึงเสื้อผ้าของนางเอาไว้ เงยหน้าเล็กๆของตนเองขึ้นงอนจนปากควํ่า มองนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ใจ

ปฏิกิริยาที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วยิ่งกว่าการที่นางหันหลังกลับมาเสียอีกนั่น ยิ่งทำให้มู่ชิงเกอถอนหายใจอย่างยอมแพ้ใครใช้ให้นางต้องมาเจอกับเจ้านี่เล่า ไม่ว่าจะรังเกียจมากเพียงใด มันก็ไม่สามารถแยกออกจากตนเองได้

“พูด” มู่ชิงเกอพูดอย่างเย็นเยียบ

เหมิงเหมิงรีบพยักหน้าและตอบว่า “ความจริงแล้วกริชเล่มนี้ สามารถทำลายได้เฉพาะการป้องกันพลังเวทของพลังที่มีระดับตํ่ากว่าสายม่วง ส่วนผนึกก็สามารถทำลายได้แค่ระดับสายพลังที่ตํ่าที่สุดเท่านั้น แต่ว่าหากเจ้านายสามารถหลอมมันจนเสร็จ ไม่แน่ว่าจะสามารถทำให้ระดับของมันสูงขึ้นได้”

“ข้าถามว่า มันมีคุณสมบัติประการนี้ได้อย่างไรกัน” มู่ชิงเกอกัดฟันถามคำถามก่อนหน้านี้อีกครั้ง

“เหมิงเหมิงจะเล่าแล้วนะ เจ้านายอย่าขัดจังหวะเชียวล่ะ!” เหมิงเหมิงขมวดคิ้วพร้อมทำปากจู๋

“…” มู่ชิงเกอเงียบ

เมื่อเห็นว่ามู่ชิงเกอเงียบไป เหมิงเหมิงจึงเผยรอยยิ้มได้ใจบนใบหน้าของตนเอง “ปรมาจารย์สร้างอาวุธทุกคน ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ มีเพียงผู้ครอบครองสายโลหิตแห่งการหลอมอาวุธเท่านั้นจึงจะสามารถแยกแยะและแจกแจงคุณสมบัติประการต่างๆ ของอาวุธได้ และใช้คุณสมบัติพิเศษของชิ้นส่วนอาวุธในการสร้างอาวุธที่เหมาะสมที่สุด นี่เป็นความสามารถพิเศษของปรมาจารย์การหลอมอาวุธ กริชเล่มนี้มีคุณสมบัติพิเศษประการนี้ ต้องเป็นเพราะใช้ชิ้นส่วนที่มีคุณสมบัติช่องว่างสร้างชิ้นมา เพราะไม่ว่าจะเป็นการทำลายการป้องกันหรือทำลายผนึกต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับช่องว่างทั้งนั้น”

คำอธิบายนี้ ทำให้มู่ชิงเกอกระจ่างในทันที

ที่ผ่านมานางดูถูกสายโลหิตแห่งปรมาจารย์การหลอมอาวุธมากเกินไปและคิดว่า แม้จะไม่ได้กระตุ้นสายโลหิต และใช้วิธีการออกแบบอาวุธใหม่ๆ ของนาง ก็จะ

สามารถเดินในสายการสร้างอาวุธนี้ได้

หลังจากที่ได้ยินเหมิงเหมิงพูดในวันนี้นางจึงกระจ่างว่า หากไม่กระตุ้นสายโลหิต นางและปรมาจารย์สร้างอาวุธ ก็ยังคงมีความแตกต่าง

ในตอนแรก เรื่องการกระตุ้นสายโลหิตเป็นสิ่งที่มู่ชิงเกอจะต้องทำให้สำเร็จเป็นอันดับแรก

หลังจากที่นางออกจากช่องว่าง ความคิดแรกก็คืออยากจะไปหาเบาะแสเกี่ยวกับพญาเพลิงที่หอสรรพสิ่ง

ถึงแม้ว่า พญาเพลิงจะสามารถกระตุ้นสายโลหิตได้ เป็นวิธีการที่เหมิงเหมิงพบเจอในตำรา และไม่ใช่วิธีการที่ปกติมากนัก แต่มู่ชิงเกอในตอนนี้ ก็คงต้องลองเสี่ยง มู่ชิงเกอที่อยากจะไปหอสรรพสิ่ง แต่สุดท้ายกลับถูกงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยพี่น้องตระกูลเว่ยหยุดเอาไว้เสียก่อน หลังจากที่ลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อของแคว้นลี่มาแล้วมื้อหนึ่ง มู่ชิงเกอก็รู้สึกหวานจนเลี่ยนจึงกลับไปภายในส่วนของเรือนรับรองชั่วคราวและเตรียมพักผ่อน

สำหรับหอสรรพสิ่ง คงต้องไปพรุ่งนี้เช้า

ค่ำคืนอันเงียบงัน ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นสู่ขอบฟ้า มู่ชิงเกอก็ตื่นแล้ว

ในขณะที่เว่ยฉีและเว่ยกว่านกว่านมาถึงที่นี่ มู่ชิงเกอกำลังดื่มโจ๊กที่โย่วเหอตื่นแต่เช้ามาต้มให้

เมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามา มู่ชิงเกอก็ต้อนรับว่า “นั่งสิ ทานอาหารเช้าหรือยัง โจ๊กที่โย่วเหอต้มยังเหลืออยู่”

เว่ยกว่านกว่านมองโจ๊กที่ขาวใสจนเห็นก้นถ้วย แล้วพูดอย่างไม่สนใจว่า “เราจะพาท่านออกไปทานอาหารเช้าขึ้นชื่อของแคว้นลี่ แต่ไม่คิดว่าท่านจะทานแล้ว”

มู่ชิงเกอพูดอย่างไม่รอช้าว่า “ตอนเช้าเช่นนี้ข้าชอบกินอะไรจืดๆ”

เว่ยฉีนั่งอยู่ข้างขวาของมู่ชิงเกอ เว่ยกว่านกว่านเองก็อยู่ข้างซ้ายของนาง สองพี่น้องล้อมรอบนางเอาไว้ เฝ้านางที่ค่อยๆ ดื่มโจ๊กอย่างไม่เร่งไม่รีบ

หลังจากที่นางวางถ้วยลง เว่ยกว่านกว่านก็ดึงมือของนางให้ลุกขึ้น “ไปเถิด เราออกไปเดินเล่นกัน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version