Skip to content

พลิกปฐพี 158-4

ตอนที่ 158-4

การตื่นของพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน!

ทันทีที่นางปรากฏตัวอยู่ภายในห้องโถงของตนเอง สายตาก็มองไปเห็นก้อนไฟก้อนหนึ่ง

นางรีบหันกายหลบในทันที ได้ยินเสียงเหมิงเหมิงร้องตะโกน “เป็นเจ้าไข่!”

เจ้าไข่ทำไม!

มู่ชิงเกอเพ่งมอง ก็ค่อยค้นพบว่ามีวัตถุบางอย่างพลิกตัวลอยไปมาในอากาศและกำลังบินมาหาตนเอง เป็น ‘ไข่ยักษ์’ ที่มีเปลือกนิ่มใบนั้น!

มู่ชิงเกอหลบอีกครั้ง ไข่ยักษ์วิ่งชนไปมาในห้อง เหมือนดั่งที่เหมิงเหมิงกล่าวว่ามันบ้าคลั่งไปแล้ว

“มันกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” มู่ชิงเกอเอ่ยถาม

เหมิงเหมิงกล่าวด้วยคำที่ดูจริงจังว่า “ตามประสบการณ์ของข้า ที่นี่น่าจะมีสิ่งที่มันต้องการ มันถึงได้ตื่นเต้นถึงขนาดนี้”

“ที่นี่?” มู่ชิงเกอพิจารณารอบกายของตนเอง

“ไอหยา! ไม่ใช่ที่นี่! เป็นที่ที่เจ้านายอยู่ในปัจจุบัน! มันรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง ถึงได้อารมณ์รุนแรงเช่นนี้!” เหมิงเหมิงเอ่ย ใครจะรู้ว่าเมื่อคำพูดของนางหลุดออกมา ไข่ยักษ์ก็ลอยพุ่งมาที่ใบหน้าเล็กๆ ของนาง เหมือนอยากจะชนนาง ตอบกลับคำกล่าวที่ว่า ‘อารมณ์รุนแรง’ เหมิงเหมิงกุมหัววิ่งหนีไป ไข่ยักษ์ก็ไล่ตามนางไปไม่หยุดหย่อน ยังแบ่งกายปรากฏตัวรอบกายของมู่ชิงเกอเป็นบางครั้ง

“เจ้านาย เจ้านาย ท่านรีบค้นหาว่าด้านนอกนั่นมีอะไร ถึงได้ทำให้มันมีความเคลื่อนไหวที่รุนแรงเช่นนี้ได้! พวกเราไม่เอาของสิ่งนั้นมาให้มัน มันก็คงจะไม่ยอมหยุด!”

มู่ชิงเกอขบริมฝีปากแล้วเอ่ย “เอาล่ะข้ารู้แล้ว ข้าจะจัดการเอง” จากนั้นก็หันร่างกลับ หายตัวไปจากช่องว่าง

เวลาที่ผ่านไปในช่องว่าง หากมองจากภายนอก ก็แค่เพียงพริบตาเดียว

ราวกับมู่ชิงเกอเพียงกะพริบตา แล้วก็กลับคืนสู่ปกติ

นางมองไปทางกงเสวี่ยหยา แล้วเอ่ยถาม “หุบเขาสงบใจ ชื่อนี้ก็แฝงไว้ด้วยความบริสุทธิ์ ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก และก็ไม่รู้ว่าก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และก็เหตุใด จึงตั้งอยู่สถานที่แห่งนี้ได้? ภายในหุบเขาให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ เจ้าหุบเขาและนายหญิงน้อยเป็นผู้หญิง จุด ๆนี้ ข้าเดินทางมาหลายที่แล้วแต่ก็หาพบได้ยากนัก”

คำพูดนี้ของนาง ดูเหมือนเป็นการสอบถามเรื่องประวัติศาสตร์ของหุบเขาสงบใจธรรมดา ๆ กงเสวี่ยหยาก็ไม่ได้สงสัย เพียงแค่เอ่ยว่า “การคงอยู่ของหุบเขาสงบใจอย่างน้อยก็มีมาหลายพันปีแล้ว พูดกันว่าบรรพบุรุษของข้าได้รับการอวยพรจากผู้สูงส่งท่านหนึ่ง จากนั้นก็ทำตามคำสั่งของผู้สูงส่งท่านนั้น สร้างหุบเขาสงบใจขึ้นที่นี่ ส่วนสาเหตุที่ผู้หญิงเป็นผู้นำนั้นก็เป็นคำขอของผู้สูงส่งท่านนั้น”

“อัศจรรย์ถึงขนาดนี้เชียวหรือ? เหตุใดผู้สูงส่งท่านนั้นจึงต้องการสร้างหุบเขาสงบใจไว้ที่นี่ละ?” มู่ชิงเกอเอ่ยอย่างสนใจ

แต่ว่า กงเสวี่ยหยาก็แค่ยิ้มๆ ไม่พูดต่ออีก เพียงแค่เอ่ยว่า “คุณชายมู่เพิ่งจะมาถึง คิดว่าคงเหนื่อยแล้ว เวลานี้ภายในหุบเขาสงบใจทั้งบนและล่างต่างเป็นเพราะเรื่องของวั่นเจี้ยนเฟิง ทำให้จิตใจไม่สงบ วันนี้จึงได้ดูแลคุณชายช้าไปวันหนึ่ง พรุ่งนี้ค่อยจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณชาย”

การส่งแขกที่เห็นได้ชัดเจนถึงขนาดนี้ เหตุใดมู่ชิงเกอถึงจะฟังไม่ออก?

นางค่อยๆ ยิ้มออกมา ไม่ได้ขืนอยู่ต่อไป ยืนขึ้นอย่างเชื่อฟัง เอ่ยกับกงเสวี่ยหยาและกงเจี้ยงเสวี่ยว่า “เช่นนั้นข้าก็คงต้องขอตัวก่อน”

พูดแล้วก็จากไปไม่มีการลังเล

หลังจากใช้สายตาส่งนางจากไปแล้ว กงเจี้ยงเสวี่ยถึงได้เอ่ยกับกงเสวี่ยหยา “ท่านแม่ไม่เชื่อใจคุณชายมู่?”

กงเสวี่ยหยาดึงสายตากลับ มองไปทางกงเจี้ยงเสวี่ย “ข้ากับเขาพบหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง จะพูดถึงเรื่องเชื่อใจกับไม่เชื่อใจได้อย่างไร? เมื่อกาลก่อนผู้อาวุโสท่านนั้นให้พวกเราเฝ้าของสิ่งนั้นให้ดี เป็นความลับสุดยอดของหุบเขาสงบใจ ไม่อาจเปิดเผยออกไปอย่างง่ายดายได้”

“แต่ว่า ผู้อาวุโสท่านนั้นก็เคยพูดว่า สมบัติชิ้นนั้นไม่มีเจ้าของ ทิ้งมันไว้ที่นี่ ก็เพื่อให้มันได้มีความปลอดภัยชั่วชีวิต หากมันได้พบคนที่มีโชคชะตาต้องกันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้” กงเจี้ยงเสวี่ยเอ่ย

ดวงตาของกงเสวี่ยหยามีแววคาดคั้นถามออกไป “เจ้าคิดว่า คุณชายมู่ผู้นี้เป็นคนที่มีโชคชะตาเกี่ยวพันกับมันอย่างนั้นหรือ?”

กงเจี้ยงเสวี่ยไม่พูดจา

กงเสวี่ยหยามองนางอย่างยาวนาน ถึงได้เอ่ยว่า “เจี้ยงเสวี่ย คงไม่ใช่ว่าเจ้าชอบเขาเข้าแล้ว?”

“ไม่! ข้าไม่ได้ชอบ!” กงเจี้ยงเสวี่ยเร่งร้อนปฏิเสธ

แต่ว่า ท่าทางของนางกลับทำให้กงเสวี่ยหยาเกิดความสงสัย

นิ่งไปครู่หนึ่ง กงเสวี่ยหยาก็พูดกับบุตรีว่า “เจี้ยงเสวี่ย กฎเป็นอย่างไรนั้นเจ้าก็รู้ดี หากว่าสามารถ มารดาก็ไม่หวังให้เจ้าถูกขังอยู่ในดินแดนหิมะนี้ไปตลอด คนที่จะ สามารถพบเจอสมบัติชิ้นนั้นได้ต้องเป็นสามีของผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าหุบเขาเท่านั้น หากว่าพวกเขามีใครสามารถทำให้สมบัติชิ้นนั้นยอมสยบได้ ก็จะสามารถ ทำลายคำสาปแช่งของหุบเขาสงบใจลงได้ปลดปล่อยหุบเขาสงบใจ นำทุกคนจากไป หากว่าไม่สามารถ หลังจากที่ให้กำเนิดทารกเพศหญิงก็ทำได้เพียงให้เขาจากไปตลอดกาล หากเจ้าคิดว่าคุณชายมู่ผู้นี้เป็นผู้มีวาสนา ก็สามารถมอบโอกาสหนึ่งครั้งที่เจ้ามีอยู่ให้เขาได้ลองดู แต่ว่าเจ้าต้องคิดให้ดี ว่าเขาจะเป็นสามีของเจ้าหรือ ไม่? ”

กงเจี้ยงเสวี่ยนิ่งไปไม่พูดจา

ไม่มีใครเคยรับรู้ว่าการคงอยู่ของหุบเขาสงบใจ จากเริ่มต้นนั้นเป็นความรักเอ็นดู แต่ภายหลังค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นคำสาปแช่ง

เพราะว่ากฎที่ไม่อาจทำลายนั้น ทำให้ผู้หญิงในหุบเขาสงบใจไม่สามารถออกจากดินแดนหิมะได้ตลอดชีวิต ไม่สามารถอยู่กับคนรักได้หากคลอดเด็กชายออกมา ก็ยังต้องรับความเจ็บปวดจากการพลัดพราก

หากผู้สืบทอดของหุบเขาสงบใจ ไม่มีคำสาปแช่งเช่นนี้ ก็จะเป็นโชคดีที่ยิ่งใหญ่!

แยกจากมารดาแล้ว กงเจี้ยงเสวี่ยก็เดินเล่นไปในหุบเขา ในหัวมีแต่คำพูดของมารดาประโยคนั้น “หากเจ้าคิดว่าคุณชายมู่ผู้นี้เป็นผู้มีวาสนา ก็สามารถมอบโอกาสหนึ่งครั้งที่เจ้ามีอยู่ให้เขาได้ลองดู แต่ว่าเจ้าต้องคิดให้ดี ว่าเขาจะเป็นสามีของเจ้าหรือไม่?”

เป็นสามีหรือ?

เป็นหรือไม่?

หากว่าเป็นแน่นอนว่าดี แต่หากว่าไม่…

“นายหญิงน้อย?”

ในขณะที่กำลังสับสน กงเจี้ยงเสวี่ยก็ได้ยินเสียงร้องเรียกขึ้น เงยหน้าอย่างประหลาดใจ ก็พบกับใบหน้าที่ดูสงสัยของมู่ชิงเกอ

“ข้า…” กงเจี้ยงเสวี่ยมองไปรอบบริเวณ จึงค่อยพบว่าตนเองกลับเดินมาจนถึงที่พักของมู่ชิงเกออย่างไม่รู้สึกตัว

“นายหญิงน้อยมาหาข้ามีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?” มู่ชิงเกอถาม

การถามของมู่ชิงเกอ ทำให้กงเจี้ยงเสวี่ยสงบสติลง

นางยิ้มออกมาจากใจ เอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “คุณชายมู่ อยากรู้เหตุผลที่แท้จริงที่หุบเขาสงบใจมาตั้งอยู่ที่นี่หรือไม่?”

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอเปล่งประกายวาววาบ ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยว่า “สงสัยจนจิตใจยากจะสงบ แต่ในเมื่อเป็นความลับของหุบเขาสงบใจ แน่นอนว่าข้าก็ไม่สะดวกที่จะถามให้มากความ”

“ถ้าหากข้าบอกว่าข้ายินยอมที่จะบอกท่านละ?” กงเจี้ยงเสวี่ย เอ่ยขึ้นในทันใด มู่ชิงเกอรู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดกงเจี้ยงเสวี่ยจึงพูดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ กงเจี้ยงเสวี่ยกลับไม่ได้สนใจในความประหลาดใจของนาง เอ่ยกับนางว่า “ที่หุบเขาสงบใจสร้างขึ้นที่นี่ก็เป็นเพราะว่าที่ใต้หุบเขานี้มีสมบัติชิ้นหนึ่ง ให้พวกเรารักษา และสมบัติชิ้นนั้นก็คือพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่”

พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่!

ดวงตาคู่นั้นของมู่ชิงเกอรู้สึกตะลึงขึ้นเล็กน้อย นางคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้!

พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ก็อยู่ในรายชื่อการจัดอันดับของพญาเพลิงที่หานฉายไฉ่เขียนเอาไว้ เป็นรองก็แค่พญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนกับพญาเพลิงปาฮวงซูคงเท่านั้น รั้งตำแหน่งลำดับสาม

เป็นเพลิงเย็น เพลิงเย็น แสดงถึงความหนาวเย็น

มิน่า มิน่าหุบเขาสงบใจจึงตั้งอยู่บนดินแดนหิมะ และก็มิน่าว่าไข่ของพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนถึงได้ตื่นตัวขึ้น มู่ชิงเกอไม่ได้ลืมเหตุผลเริ่มแรกที่ซือมั่วให้นางไปค้นหาพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน

ก็เพราะว่า การไม่มีความสามารถพิเศษของพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน ดังนั้นจึงสามารถกลืนกินพญาเพลิงต่าง ๆ เพื่อทำให้ตนเองได้เติบโต จุดเริ่มต้นต่ำ แต่ สามารถสร้างความมหัศจรรย์ได้

ความตื่นตัวของไข่ยักษ์มาจากการที่อยากได้พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่!

มู่ชิงเกอเข้าใจในพริบตา กงเจี้ยงเสวี่ยดูเหมือนจะไม่ได้ตระหนักถึงความตกใจ ของมู่ชิงเกอ เพียงแค่เอ่ยว่า “พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่นี้ก็ได้ก้าวเข้าสู่วัยร่วงโรยแล้ว…”

เข้าสู่วัยร่วงโรย เช่นนั้นก็หมายความว่า เป็นช่วงเวลาที่พญาเพลิงปีศาจไป๋กู่อ่อนแอที่สุด!

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอเหมือนมีดวงไฟลุกโชน หากว่าพญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวนต้องการกลืนพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่ แน่นอนว่านางจะต้องช่วยมัน!

“ท่านอยากได้มันหรือไม่?” อยู่ดีๆ กงเจี้ยงเสวี่ยก็เอ่ยถามขึ้นมา

มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้พูดออกมาว่าไม่อยาก ทำเพียงแต่พยักหน้า ยอมรับความคิดในใจของตนเอง ขณะที่นางพยักหน้านั้น เหมือนนางจะรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและสนใจของไข่ยักษ์ภายในช่องว่าง ที่ดูเหมือนพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่จะอยู่ตรงหน้ารอให้มันกลืนลงไป

ท่าทางของมู่ชิงเกอ ทำให้กงเจี้ยงเสวี่ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

นางเอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าอะไรคือข้อกำหนดสำหรับการสัมผัสกับพญาเพลิงปีศาจไปกู่?”

“คืออะไร?” คำกล่าวของมู่ชิงเกอดูหนักแน่น เผยความตั้งใจของนางที่มีต่อพญาเพลิงปีศาจไป๋กู่

แต่ว่า กงเจี้ยงเสวี่ยกลับนิ่งลง

ตอนนี้ท้องฟ้ามืดลงแล้ว ลมยามคํ่าคืน ลมหนาวพัดเข้ามาจากนอกเรือนพัก แต่ก็ถูกไอความร้อนภายในหุบเขาเปลี่ยนให้กลายเป็นหมอก

กงเจี้ยงเสวี่ยที่นิ่งไปนาน ก็ตัดสินใจลง ชูมือขึ้นในทันใด ดึงผ้าคลุมหน้าของตนเองลง แค่ออกแรงเบาๆ ผ้าคลุมหน้าก็ถูกดึงลงมา เผยให้เห็นรูปโฉมที่ไร้ผู้ใดเปรียบของนาง

ตอนที่พบกับกงเสวี่ยหยา มู่ชิงเกอก็สามารถเดาถึงลักษณะของกงเจี้ยงเสวี่ยได้บางส่วน

แต่ว่า เมื่อพบเห็นด้วยตาของตัวเองแล้ว นางก็ยังคงอดตกตะลึงไม่ได้

‘บนโลกนี้ กลับมีผู้หญิงที่งดงามดุจหิมะอยู่’ มู่ชิงเกอลอบเอ่ยในใจ

หากพูดว่ามู่ชิงเกอคือแสงอาทิตย์เช่นนั้นกงเจี้ยงเสวี่ยก็คือเกล็ดหิมะ ไม่หนาว แต่ใสสะอาดไร้เทียมทาน งดงามบริสุทธิ์ นำพาความอ่อนนุ่มและสูงส่งของเกล็ดหิมะ

กงเจี้ยงเสวี่ยที่ตกอยู่ภายใต้การจับจ้องของมู่ชิงเกอ ก็เกิดความรู้สึกเอียงอายขึ้น

แต่นางกลับไม่ก้มหน้าลง แต่เป็นมีความกล้าที่จะถามคำถามที่ต้องถามออกไป “คุณชายมู่ ท่านยินยอมจะแต่งงานกับข้าหรือไม่?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version