ตอนที่ 893
ลูกพี่ข้าขอตามท่านไปด้วย
วิธีอะไร…นั่นเป็นความลับของซือมั่ว มู่ชิงเกอย่อมไม่อาจพูดจนหมดเปลือกได้
ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย แต่ประสบการณ์หลายปีของนาง ทำให้นางติดเป็นนิสัยแล้ว เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องควบคุมให้อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีคนรู้น้อยที่สุด
ความสัมพันธ์กับซือมั่วเปิดเผย มู่ชิงเกอก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องบางเรื่องก่อนหน้านี้อีก
นางเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ได้พบกับเผ่าอี้ในแดนมารก่อนหน้านี้ให้ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยฟัง เป็นดังคาด นางเห็นแววตาตกใจในดวงตาของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย
แววตาเช่นนั้น ทำให้นางรู้ว่า แผ่นดินเทพสี่สมุทรฝังนี้ แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับการจู่โจมของเผ่าอี้ แต่ก็ไม่เคยให้ความสำคัญต่อเผ่ามารฝั่งนั้นเลย
เผ่าอี้ที่เคยปรากฎตัวในแดนมารหลายต่อหลายแบบ แผ่นดินเทพสี่สมุทรกลับไม่รู้เรื่องอย่างสิ้นเชิง
“ในแผ่นดินเทพสี่สมุทร พื้นที่เหล่านั้นเป็นสนามรบของเผ่าอี้หรือ” มู่ชิงเกอกล่าวถาม
ราชาเทวะร่วนเยวียตอบ “เจ้ารู้จักบ่อบินหรือไม่”
บ่อบินหรือ
มู่ชิงเกอพยักหน้า
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจึงกล่าวต่อ “บ่อบินในตอนนี้ มีสองแห่ง หนึ่งแห่งอยู่ระหว่างแผ่นดินเทพตะวันออก ตะวันตกและแผ่นดินเทพเหนือในแผ่นดินเทพสี่สมุทร อีกหนึ่งแห่งอยู่หลังแผ่นดินเทพใต้ แต่ว่า เนิ่นนานก่อนหน้านี้บ่อบินยังมีอีกสองแห่ง ทว่าหลังสงครามใหญ่ของเผ่าเทพมารขนาดใหญ่ครั้งก่อน บ่อบินสองแห่งนั้นถูกทำลายกลายเป็นช่องว่างสนามรบ”
ดวงตาทั้งคู่ของมู่ชิงเกอหดลงอย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เผ่าอี้ออกมาจากสนามรบสองแห่งนั้นหรือ”
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพยักหน้า “แต่ว่า แม้ช่องว่างตรงนั้นจะวุ่นวาย แต่กลับดูเหมือนไม่มีทางให้เผ่าอี้จำนวนมากเข้ามาได้ทุกครั้งล้วนเป็นเพียงศึกโจมตีขนาดเล็ก เพราะว่าช่องว่างสนามรบสองแห่งนั้นอยู่ในมหาสมุทรดวงดาว มีผลกระทบต่อแผ่นดินเทพสี่สมุทรไม่มาก ฉะนั้น…”
“ฉะนั้น คนบนแผ่นดินเทพจึงไม่ได้สนใจเผ่าอี้” มู่ชิงเกอพูดบทสรุปออกมาอย่างหยอกล้อ
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยมองเห็นแววหยอกล้อในแววตานาง แต่ก็ยังคงพยักหน้า
มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้า เม้มปากแน่น
เหตุใด ท่าทีที่เผ่าอี้เลือกใช้กับเผ่ามารและเผ่าเทพจึงเป็นท่าทีสองแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หรือว่า เพียงเพราะการเปิดช่องว่างฝั่งนี้ของแผ่นดินเทพยากจะนำกองทัพใหญ่เข้ามาได้งั้นหรือ
มู่ชิงเกอหัวเราะปฏิเสธในใจ
ไม่นาน นางจึงกล่าวกับราชาเทวะ “เผ่าอี้เจ้าเล่ห์ กลับกลอก หน้าเนื้อใจเสือ สำหรับเผ่ามาร พวกเขาให้ความสำคัญเช่นนี้ก็เพราะดูออกว่าเผ่ามารรับมือไม่ง่าย แผ่นดินมารต่างจากแผ่นดินเทพ อำนาจประมุขเป็นหนึ่ง ทุกชนชั้นมีใจเดียวกัน ส่วนแผ่นดินเทพเล่า กระจายอำนาจ แตกต่างทางความคิด พูดตรงๆ ก็คือ ในสายตาของเผ่าอี้ไม่ได้เก็บแผ่นดินเทพสี่สมุทรมาใส่ใจอย่างสิ้นเชิง แผ่นดินเทพสี่สมุทร สำหรับพวกเขา เป็นเพียงเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งที่อยากกินเมื่อไรก็กินได้เมื่อนั้น ส่วนเผ่ามารจึงจะเป็นกระดูกแข็งที่ยากจะเคี้ยว”
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยยกมุมปาก หลุบตากล่าว “แม้จะพูดแล้วไม่น่าฟังแต่กลับมีเหตุผลอยู่หลายส่วนจริงๆ”
มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าลึก กล่าวกับราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย “เรื่องของเผ่าอี้ข้าแน่ใจได้เลย พวกเขาไม่ยอมวางมือตอนนี้เป็นอันขาด จะต้องมีแผนร้ายที่ใหญ่ยิ่งกว่า ข้าจะ ไม่ยอมนั่งรอวันตาย ดังนั้น ไม่ว่าราชาเทวะคนอื่นจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ เชื่อหรือไม่เชื่อ ข้าก็จะไปทำเรื่องที่ข้าควรทำอยู่ดี”
“เจ้าคล้ายสนใจเผ่าอี้ยิ่งนัก ใช่เพราะว่าแดนมาร เจ้าแห่งมารหรือไม่” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกล่าวถาม
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ “เมื่อรังพลิกควํ่าไหนเลยจะมีไข่ที่สมบูรณ์”
พูดจบ นางก็หันหลังเดินออกไป ไม่หยุดอีก
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยนิ่งอึ้ง ใจลอยมองแผ่นหลังที่จากไปของนาง เอ่ยพึมพำ “เมื่อรังพลิกควาไหนเลยจะมีไข่ที่สมบูรณ์…เมื่อรังพลิกคว่ำไหนเลยจะมีไข่ที่สมบูรณ์…”
ตำแหน่งสูงส่งยาวนานคล้ายทำให้ราชาเทวะเช่นพวกเขาเหล่านี้ กระทั่งผู้บำเพ็ญทั่วทั้งแผ่นดินเทพ ในใจจำได้เพียงแค่จะเลื่อนขั้นตบะบำเพ็ญของตนอย่างไร แต่กลับลืมประโยคที่ว่า เมื่อรังพลิกควํ่าไหนเลยจะมีไข่ที่สมบูรณ์ ประโยคนี้ไป
วันนี้ คำพูดที่มู่ชิงเกอทิ้งไว้ก่อนจาก กลับเหมือนถูกตะบองตีศีรษะ ปลุกเขาให้ตื่นขึ้น
มู่ชิงเกอออกจากวังราชาเทวะแล้วก็มุ่งหน้าไปหาเหยาชิงไห่และซีเซียนเสวี่ย
สำหรับคำพูดของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย นางไม่ได้เก็บมาใส่ใจอย่างสิ้นเชิง เพราะว่า การมารับซีเซียนเสวี่ยและเหยาชิงไห่เป็นเรื่องที่นางรับปากไว้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำ
ส่วนทั้งสองคนจะตามนางไปหรือไม่ นางไม่อาจบังคับ
เหมือนดั่งที่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพูดไว้ หากทั้งสองไม่อยากออกจากแดนฮ่วนเยวี่ย นางก็ไม่อาจบังคับ
ดังนั้น นางจึงมาด้วยอารมณ์สุขุม
ไม่ว่าเหยาชิงไห่กับซีเซียนเสวี่ยจะไปหรือจะอยู่ อย่างน้อย ก็ต้องตามนางกลับไปเก้าชั้นฟ้าเข้าร่วมพิธีสมรสก่อน
เพียงแต่ คิดไม่ถึงว่าตอนที่นางหาคนทั้งสองพบ ถงเถิงเองก็อยู่ที่นั้นด้วย
“ลูกพี่ ข้าก็อยากตามท่านไปด้วยเหมือนกัน”
ไม่รอให้มู่ชิงเกอบอกจุดประสงค์ในการมา ถงเถิงก็ชิงเอ่ยปากก่อนแล้ว
มู่ชิงเกอประหลาดใจเล็กน้อย ละสายตามองซีเซียนเสวี่ยและเหยาชิงไห่ แต่กลับมองเห็นพวกเขาสองคนคล้ายเก็บของเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว
“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะมาวันนี้” มู่ชิงเกอสงสัยจริงๆ
ซีเซียนเสวี่ยเม้มปากยิ้ม แต่เหยาชิงไห่กลับกล่าว “วันสมรสของเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว พวกเราคิดว่าเจ้าเองก็น่าจะมาขอคนกับราชาเทวะในไม่กี่วันนี้”
มู่ชิงเกอยิ้ม “ดูท่า พวกเจ้าจะตัดสินใจแล้ว”
ซีเซียนเสวี่ยกับเหยาชิงไห่พยักหน้าพร้อมกัน
“แดนฮ่วนเยวี่ยดีต่อพวกข้ายิ่งนัก แต่พวกข้ายังอยากสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่เจ้า” ซีเซียนเสวี่ยเดินไปหามู่ชิงเกอแล้วกล่าว
เหยาชิงไห่เองก็พยักหน้า “พวกข้ายังคงเป็นศิษย์ของแดนฮ่วนเยวี่ย แต่ขอถวายตัวรับใช้เก้าชั้นฟ้า ถวายตัวให้มู่ชิงเกอ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชาเทวะมู่”
รอยยิ้มมู่ชิงเกอกว้างยิ่งขึ้น เข้าใจเจตนาคนทั้งสองแล้ว นางละสายตามองถงเถิง กล่าวถาม “เจ้าอยากตามข้าไปจริงๆ หรือ”
เขาต่างจากพวกซีเซียนเสวี่ย อาศัยความสามารถของตัวเองจริงๆ เข้ามาในแดนฮ่วนเยวี่ย เดินขึ้นมาทีละก้าวๆ จนถึงตอนนี้
ถงเถิงออกแรงพยักหน้า
แววตามู่ชิงเกอกะพริบวาบ ถามว่า “เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าติดตามข้าแล้วจะเจออะไร”
“รู้ ลูกพี่ ท่านลืมแล้วหรือ ข้าเคยพูดนานแล้วว่า ภายหลังจะเป็นแม่ทัพใหญ่กองหน้าของท่าน เข่นฆ่าไปทั่วผืนดิน แผ่นฟ้า ทั่วแผ่นดินเทพทั่งสี่สมุทร” ถงเถิงยิ้มแย้มกล่าว
“แต่ว่าหากเจ้าไป…” มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว
หากถงเถิงจะตามนางไปด้วย นางย่อมยินดี แต่ว่า นางเพิ่งจะพาเหยาชิงไห่กับซีเซียนเสวี่ยไป พาถงเถิงไปอีกคน ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจะเดือดดาลหรือไม่
“ลูกพี่ท่านไม่ต้องลำบากใจ ข้าอยากตามท่านไปเอง ท่านไม่ได้แย่งชิงตัว ตอนแรก เดิมทีข้าก็ตามท่านมาที่แดนฮ่วนเยวี่ย ท่านไปแล้ว ข้าย่อมต้องติดตามต่อ ข้าจะไปพูดกับราชาเทวะเอง” ถงเถิงกล่าว
มู่ชิงเกอหัวเราะในใจ ถงเถิงขอเข้าพบราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ไม่รู้ว่าต้องรออีกกี่ปีกี่เดือน
“ในเมื่อเจ้าอยาก…”
มู่ชิงเกอยังพูดไม่ทันจบก็มองเห็นจวงซานอมยิ้มปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
“ศิษย์พี่จวงซาน” มู่ชิงเกอกล่าวกับผู้มาเยือน
การที่จวงซานปรากฎตัวทำให้เหยาชิงไห่ ซีเซียนเสวี่ย และถงเถิงต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัว กลัวว่าราชาเทวะฝั่งนั้นจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาไป ทว่าจวงซานกลับประสานมือคำนับนาง “ตำแหน่งของชิงเกอตอนนี้ข้าไม่อาจรับคำเรียกศิษย์พี่นี้ได้อีก ต่อจากนี้ เรียกข้าว่าจวงซานเถิด”
พูดจบ เขาก็อธิบายจุดประสงค์ในการมา กล่าวกับถงเถิง “ถงเถิง ราชาเทวะรู้ว่าเจ้าตัดสินใจจะไปแล้วจึงให้ข้ามาบอก เจ้าให้ทิ้งป้ายฐานะไว้ นับแต่นี้ไป เจ้าก็ไม่ใช่ ศิษย์ของแดนฮ่วนเยวี่ยอีก ตามราชาเทวะมู่ไปเถิด”