Skip to content

พลิกปฐพี 899

ตอนที่ 899

สาบานต่อทั้งโลกว่าจะอยู่ไปจนแก่เฒ่า

คำสาบานของซือมั่ว สั่นสะเทือนคนทั้งหมดบนเก้าชั้นฟ้า

กระทั้ง ภายใต้ความช่วยเหลือของวิหคนับร้อยบนนภา เสียงของเขาก็แผ่ขยายไปทั่วสารทิศอย่างต่อเนื่อง ดังไปถึงด้านล่างเก้าชั้นฟ้า ดังไปถึงแผ่นดินเทพ

ตะวันตก รวมถึงแผ่นดินเทพสี่สมุทร และแผ่นดินเทพมาร

มู่ชิงเกอแย้มยิ้มมองเขาเดินเข้าไปใกล้เขาช้าๆ กล่าวด้วยเสียงไม่สูง แต่กลับเด็ดขาดเหนือสิ่งใด “ชีวิตนี้ของข้า มีทุกข์สุขโศกเศร้า ข้ายินดีร่วมแบ่งปันความรู้สึกนี้ไปด้วยกันกับเจ้า ชื่นชมทิวทัศน์ทั้งสี่ฤดูด้วยกันกับเจ้า ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน กลับชาติมาเกิดด้วยกันกับเจ้า ไม่หนีห่างไม่ทอดทิ้ง เป็นตายพลัดพราก ข้าเคยพูดไว้ ข้าจะจับมือเจ้าและแก่เฒ่าไปด้วยกัน”

บนโลกนี้ คำบอกรักที่สวยงามที่สุด ไม่ใช่คำพูดงดงามที่ชวนให้ใจเต้น และไม่ใช่คำสาบานว่าจะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย แต่เป็นการอยู่เคียงคู่กันอย่างยาวนาน

ซือมั่วกับมู่ชิงเกอต่างฝ่ายต่างมองกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ

เรื่องราวระหว่างพวกเขา ใช่สิ่งที่คนอื่นจะล่วงรู้ได้เสียที่ไหนกัน

ตอนที่ผู้อื่นคาดเดาการความสัมพันธ์ของพวกเขา สงสัยเจตนาเดิมของพวกเขา จะเข้าใจได้อย่างไรว่า ความรู้สึกชนิดนั้นระหว่างพวกเขานั้นลึกซึ้งถึงขั้นไหนมา นานแล้ว

คนทั้งหมดสั่นสะเทือนกับคำสาบานของพวกเขา

ส่วนพวกเขาก็ซาบซึ้งต่อเรื่องราวที่ผ่านมาของกันและกัน

อดีตที่ทั้งสองเคยผ่าน แต่ละฉากย้อนกลับมาตรงหน้า ชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ชัดเจน ชัดเจนว่าคนทั้งสองที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันเช่นนั้น อยู่ดีๆ กลับมาบรรจบ ชะตาต่างฝ่ายต่างเชื่อมกัน พึ่งพากันไปตลอดชีวิต

มู่ชิงเกอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา มองบุคคลอันดับหนึ่งของแผ่นดินเทพมาร

เขาสวมชุดมงคล ทรงพลังน่าเกรงขาม งามสง่าเลิศเลอ ประหนึ่งทวยเทพ เจิดจ้าจนไม่กล้ามองสบตรงๆ การมีอยู่ของเขาราวกับมีเพื่อพิสูจน์คำว่ายิ่งใหญ่สองคำ นี้

มิหนำซํ้า เรือนร่างที่สูงส่งเช่นนี้ในดวงตาสีอำพันคู่นั้น กลับยังแฝงความรู้สึกลึกลํ้าที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้หมด

บุรุษเช่นนี้ ตกหลุมรักนางต้องเป็นโชคดีเพียงใด ริมฝีปากลีแดงเข้มของมู่ชิงเกอ ยกเป็นเส้นโค้งที่งดงาม นางเอ่ยด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนว่า “ปีศาจ

เฒ่า เจ้าสมปรารถนาแล้ว”

คำว่า ‘ปีศาจเฒ่า’ ย้อนความทรงจำของซือมั่วกลับมา จากร่างเจ้าสาวที่งามจนไม่อาจเทียบตรงหน้า ดึงย้อนกลับไปตอนที่ทั้งสองพบกันครั้งแรก

เขาในตอนนั้น เพียงแค่รู้สึกสงสัยในตัวเด็กผู้หญิงที่ดื้อรั้นไม่ยอมก้มหัวให้ใครก็ตามผู้นี้

ชัดเจนว่าเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์แต่กลับมีปณิธานที่เด็ดเดี่ยวเหนือใคร

เป็นเพียงคนที่มีร่างกายอ่อนแอ แต่กลับซ่อนจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ให้กับฟ้าดิน

ซือมั่วไม่เคยบอกมู่ชิงเกอ สิ่งที่นางดึงดูดตนในตอนแรกก็คือแววตาเด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้ที่สาดออกมาจากร่างกายที่อ่อนแออย่างถึงที่สุดในลำธาร ใต้แสงจันทร์

ดวงตาที่ใสสะอาดเยือกเย็น เด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้คู่นั้นทำให้เขาประทับใจในตัวนาง

ทุกครั้งที่พบนางตกอยู่ท่ามกลางอันตราย เขายื่นมือช่วยเหลือ เพียงเพราะไม่อยากเห็นดวงตาคู่นี้ ถูกลบออกไปจากโลกอย่างง่ายดายเพียงนั้น

คนผู้นี้ค่อยๆ เดินเข้ามาในใจเขา ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เขาเองก็ถูกครอบครองด้วยความเต็มใจ

นางในวันนี้งดงามมากเป็นพิเศษงามจนทำให้เขาไม่อยากแบ่งปันกับใคร

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ เจ้างามยิ่งนัก” ซือมั่วกล่าวจากใจจริง

มู่ชิงเกอเม้มปากยิ้ม ไม่เผยท่าทีเขินอายเหมือนหญิงสาวทั่วไปออกมา

นางคือราชา คือราชาโดยกำเนิด

แม้ว่าจะอยู่ในพิธีแต่งงานของตน นางก็ยังคงแสดงความเชื่อมั่นในตนเอง ความงาม ความแข็งแกร่งออกมาเช่นเคย

ซือมั่วยื่นมือของตนออกไป มู่ชิงเกอเองก็ยื่นมือของตนออกมาเช่นกัน สิบนิ้วสอดประสาน ตอนที่พวกเขาทั้งสองจูงมือกัน เสียงแตรบนเก้าชั้นฟ้าก็ดังขึ้น ราว กับเสียงเรียกแต่อดีตกาล ปลุกผืนดินใหญ่ ภูผา สายนํ้า นภาและใบหญ้าที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมา…

พวกมันต้องตื่นขึ้นมาเป็นสักขีพยานในพิธีสมรส บ่าวสาวคู่นี้ และมอบคำอวยพรพร้อมกัน

เสียงแตรดังไม่ขาดสายบนแผ่นดินเทพมาร แสงบนท้องฟ้าแผ่ขยาย เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นมงคลที่สมบูรณ์ ด้านล่างเก้าชั้นฟ้า ผู้คนที่มาร่วมงานอัน หรูหราครั้งนี้ต่างก็พากันลุกขึ้นยืนจากโต๊ะกินเลี้ยง เงยหน้ามองเก้าชั้นฟ้า

หน้าประตูวังราชาเทวะ มู่ชิงเกอกับซือมั่วจูงมือเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ออกมา ยืนอยู่บนชั้นบันไดที่สูงใหญ่ ผู้เข้าร่วมพิธีต่างก็ยืนขนาบสองฝั่ง

บนที่นั่งผู้เป็นสักขีพยานในงานแต่งงาน มู่ซงและซางซุนหวาง มู่เหลียนเฉิงและซางหลันรั่ว ยังมีราชาเทวะของแผ่นดินเทพ เจ้าเมืองย่อยของแผ่นดินมาร ราชาเฟิ่งแห่งป่าอสูรกับราชาคนใหม่เผ่าภูติภูเขาอินเจวี๋ยต่างก็ถูกเชิญขึ้นไป

เหล่าสาวใช้ของเก้าชั้นฟ้าโปรยกลีบดอกไม้ในตะกร้าดอกไม้ ตกแต่งพิธีแต่งงานให้โอ่อ่าและหวานซึ้ง

คนทั้งหมดต่างก็มองบ่าวสาวคู่นั้น พวกเขาเป็นตัวแทนการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ทรงอานุภาพที่สุดบนแผ่นดินเทพมาร พวกเขาต่างก็เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่

สุดในกลุ่มบุรุษและสตรี

ซือมั่ว ใกล้จะถึงขั้นบรรพเทพ มู่ชิงเกอขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นเก้า

ศักยภาพเช่นนี้ใครจะกล้าดูถูก ใครจะกล้าปฏิเสธ

แผ่นดินเทพทั้งสี่อยู่ใกล้แดนมาร ตอนนี้ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้ในใจคนไม่น้อยต่างก็เริ่มคิดคำนวณขึ้นมา

นอกจากราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยและราชาเทวะจงซาน ราชาเทวะคนอื่นๆ ต่างก็แลกเปลี่ยนสายตากันลับๆ

“บูชาฟ้า” ซวีซิวหนึ่งในผู้ที่รับผิดชอบประกอบพิธี ตะโกนเสียงสูง ชูคทาในมือขึ้นกระทุ้งลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง

ตุบ

ส่วนยอดคทาอันนั้นของเขา ยิงแสงสว่างหนึ่งกลุ่มออกมา พุ่งตรงไปยังท้องฟ้า ระเบิดแสงแวววับงามตาออกมากลางอากาศ

เมฆหมอกที่กำบังถูกขับไล่แตกกระจาย เผยให้เห็นรูปร่างแต่ดั้งเดิมบนท้องฟ้า

สีฟ้าที่บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งเจือปนใดๆ ชนิดนั้น

หวูด หวูดดดด

เสียงแตรดังขึ้นอีกครั้ง แท่นบูชาลอยขึ้นช้าๆ

ซือมั่วกับมู่ชิงเกอประสานมือทั้งสอง เดินตามขั้นบันไดลงไปทีละก้าวๆ เดินไปข้างหน้าแท่นบูชาที่ลอยอยู่กลางอากาศ

โย่วเหอกับฮวาเยวี่ยส่งสุราบูชาฟ้าเข้ามา แบ่งให้มู่ชิงเกอกับซือมั่ว

เมื่อทั้งสองรับมาแล้ว ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวทันที แต่กำลังรอให้ซวีซิวอ่านคำกล่าวบูชาฟ้าที่ฟังไม่ออกเหล่านั้นจบ แล้วจึงสาดน้ำลุราในมือเข้าไปในท้องฟ้าตามการ บอกกล่าวของซวีซิว

นํ้าสุราแวววับเหล่านั้น ไม่ได้ร่วงหล่น แต่กลับรวมตัวกันเป็นหยดน้ำที่แพรวพราวใสวาวเกาะกลุ่มกันในอากาศและถูกดูดเข้าไปในท้องฟ้า หายวับไป

“บูชาดิน” ราชครูอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแท่นบูชา ตะโกนเสียงสูง ดึงดูดสายตาของทุกคนออกไป

เขาใช้คทาอาคมในมือกระทุ้งพื้นอย่างแรง แสงสว่างแต่ละกลุ่มๆ แผ่ขยายไปทั่วสารทิศราวกับระลอกคลื่น ชั่วพริบตา ทุกคนก็รู้สึกได้ว่าแผ่นดินใต้เท้าตนเอง กำลังสั่นไหว คล้ายฟื้นชีพขึ้นมาแล้ว

พู่ทองแทนฝน โลหิตของคาวสามอย่างแทนสื่อกลาง

ชั่วขณะ บนเก้าชั้นฟ้า ก็มีสายฝนสีทองหนึ่งห่าตกลงมา โลหิตของคาวสามอย่าง โปรยปรายอยู่บนแท่นบูชาดิน

มู่ชิงเกอกับซือมั่ว เดินไปข้างหน้าแท่นบูชาดิน

เช่นเดียวกัน รับแก้วสุราที่เสวี่ยหยากับเซวี่ยนหย่ายกมาให้ รอราชครูอ่านคำกล่าวบูชาจนเสร็จ

คำกล่าวบูชาดินนี้ คล้ายยาวกว่าคำกล่าวบูชาฟ้า ผ่านไปครู่ใหญ่ ราชครูจึงเตือนให้ถวายสุราได้

มู่ชิงเกอกับซือมั่ว เทแก้วสุราในมือลงบนพื้น นํ้าสุราไหลตามออกมา รดลงบนผืนดิน

“ฟ้าดินบูชาแล้ว เผาหนังสือสมรสประกาศ”

ซวีซิวกับราชครูกล่าวขึ้นพร้อมกัน

ผู้อาวุโสที่มีอายุที่สุดในตระกูลมู่ ผู้มีอายุยืนที่สุดในแดนมารก้าวออกมาพร้อมกันในมือแต่ละฝ่ายถือหนังสือสมรสประกาศแจ้งทั่วหล้าหนึ่งฉบับ…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version