ตอนที่ 318 รัชทายาทอย่ามามั่วนะ
ริมฝีปากที่ยกขึ้นเบาๆ ดั่งดอกไม้ที่สวยงามทั้งใสซื่อและน่ารักทำให้อดประทับรอยจูบลงไปมิได้ การเข้าใกล้ของนางนั้นกล้าหาญและบ้าบิ่นมาโดยตลอด
แต่ทว่า ลู่เจี้ยที่เป็นถึงจักรพรรดิกลับไม่รู้จะทำอย่างไร หากเขาเริ่ม แสดงว่าเขายอมรับในความ หลงใหลนี้แล้วใช่หรือไม่ แต่ถ้าหากปฏิเสธ
สมควรตาย!
ทั้งยั่วยวนและทำให้ผู้อื่นทิ้งไม่ลงเช่นนี้ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน
มือของจักรพรรดิลู่เจี้ยค่อยๆ ยกขึ้น อยากสัมผัสที่ริมฝีปากของนาง แต่ขณะที่มือของเขากำลังจะแตะ โดนแล้วนั้นเขาก็ดึงมือกลับเหมือนราวกับถูกกระแสไฟเล่นงาน
“เจ้าชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” หลังจากดิ้นรนอยู่นาน เขาก็ควบคุมความต้องการเช่นนั้นได้
หลังจากนั้นในขณะที่เขาเตรียมจะลาจากไป ทันใดนั้นข้อมือของเขาก็ถูกนางจับไว้
กลิ่นหอมยวนใจที่กระทบปลายจมูกของเขา ช่างน่าจดจำและไม่เหมือนใคร ทันใดนั้นเองริมฝีปากอันมี เสน่ห์ของนางก็จูบลงบนริมฝีปากของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
“อือ…”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของทั้งสองในการทำเรื่องเช่นนี้ แต่เขายังคงไม่รู้จะทำเช่นไรเหมือนทุกครั้ง ข้าควรฆ่า นางทิ้งชะ! เหมือนกับหญิงอื่นที่ต้องการยั่วยวนข้า เข้าใกล้ข้า ฆ่านางทิ้งไม่ให้เหลือแม้แต่วิญญาณ
จิตลังหารนั้นวนเวียนอยู่ในใจแต่กลับไม่มีเจตนาฆ่าเลยแม้แต่น้อย
ทั้งยังไม่สามารถผลักหญิงสาวผู้นี้ออกได้เลยด้วยซ้ำ
ให้ตายสิ!
ทันใดนั้นจักรพรรดิก็เบิกตากว้าง
หญิงสาวผู้นี้ช่างกล้านัก ลวนลามเขาไม่พอ ทั้งยังจะเปิดริมฝีปากของเขาออกอีก
หลังจากที่รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มกำลังกัดฟันแน่นและไม่สามารถสอดลิ้นไปได้ เจียงหลีก็พึมพำอย่างโมโห “ท่านผ่อนคลายหน่อยได้หรือไม่ ท่านก็รู้ ข้าต้องออกไปสู้รบ การรบนั้นต้องเดิมพันด้วยความ เป็นความตาย นี่อาจเป็นจูบครั้งสุดท้ายก็ได้นะ”
หึๆ!
ใครบางคนแอบหัวเราะในใจและคิดเจ้าเล่ห์ในใจอย่างโอหัง มีข้าคอยมองอยู่ ต่อให้เจ้าอยากตายก็ ตายไม่ได้หรอก
แต่ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นข้ออ้างสำหรับการลักกินเต้าหู้ของนาง เขาก็ยังสมยอม จนนางพอใจ อ้อ แล้วหลังจากที่พอใจจนยอมแพ้ไป ริมฝีปากของเขายังคงเหลือกลิ่นหอมยวนใจของนางไว้
“พอใจเจ้า หรือยัง”
คำพูดประชดนี้ไม่ได้ทำให้เจียงหลีรู้สึกกระดากอายเลยสักนิด แต่กลับแสดงสีหน้าเกียจคร้านและมี เสน่ห์ออกมา นางม้วนเส้นผมของนางอย่างยั่วยวนแล้วพูดกับเขาว่า “การยั่วยวนที่ดี นั่นก็คือการ ตอบสนองช้า”
“…”
ตอบ! สนอง! ช้า!
สีหน้าอันหล่อเหลาของจักรพรรดิเปลี่ยนอย่างกะทันกัน นัยน์ตาฉายแววสังหาร เพราะเหตุใดกัน เขาถึง มีความรู้สึกอยากจะบีบหญิงคนนี้ให้ตายคามือไปเลย
“อ๊ะ! ต้องไปทำสงครามแล้ว สองสามวันนี้ข้าต้องสนุกกับมันสักหน่อยล่ะ!” เจียงหลีเมินสีหน้าที่ เปลี่ยนไปของเขา บิดขี้เกียจไปหนึ่งที จากนั้นก็หันตัวกลับพระราชวังไป
ในพระราชวังของเมืองทะเลที่อยู่ห่างออกไปไกลแสนไกล เสิ่นอวี่และอวี้ฉีกำลังเผชิญหน้ากับกระจก เงินด้วยสีหน้าแปลกประหลาดและเขินอาย
อวี้ฉีส่ายหัวอย่างโมโห “จักรพรรดิผู้สูงส่งกลับถูกหญิงสาวตัวน้อยๆ แต๊ะอั๋งได้อย่างง่ายดาย! มาก เกินไปแล้ว! มากเกินไปจริงๆ!”
“จักรพรรดิได้ตกอยู่ในมือของหญิงสาวคนนี้แล้วสินะ! ไม่ได้การแล้ว! ไม่ได้การแล้ว!” เสิ่นอวี่ก็พูดอย่าง กังวลใจเช่นกัน
ในกระจกเงินนี้ ปรากฏฉากในพระราชวังของราชวงศ์จยาเซียน
ในฉากนั้น เงาของเจียงหลีออกจากฉากแล้ว เหลือเพียงจักรพรรดิที่หล่อเหลาราวกับปีศาจกำลังยืนอยู่ที่ เดิม
ทันใดนั้นเองเขาเบนสายตามองไปยังท้องฟ้า สายตาที่เย็นชากำลังสบตากับทั้งสองในกระจก
เสิ่นอวี่และอวี้ฉีตกใจอย่างกะทันหัน เย็นวาบไปทั้งตัว ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว กระจกเงินใบนั้นหายไป กลายเป็นนํ้าตกสีเงินที่ตกลงไปในกระถางดอกบัวและกลายเป็นแสงดาวลอยอยู่ในพระราชวัง หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว ทั้งสองสบตากัน นัยน์ตามีความสิ้นหวังของชีวิตฉายออกมา
“พวกช้าบังอาจแอบสอดส่องจักรพรรดิ ทั้งยังโดนจับได้อีก…” เสิ่นอวี่พูดกับอวี้ฉีด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
อวี้ฉีฝืนยิ้มอย่างน่ากลัวแล้วพูดด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือว่า “ตายแน่!”
ณ มณฑลสุ่ยหัน เมืองซู่หยวน
อีกทางหนึ่ง เจียงหลียืนอยู่หน้าศิลาจารึกที่นางเคยสร้างด้วยมือของตัวเองสวมชุดเกราะของ จักรพรรดินีอันน่าเกรงขาม
ทางด้านหลังของนางมีกองทัพของราชวงศ์จยาเซียนที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุดจนเกือบเต็มพื้นที่นอก เมืองซู่หยวน ธงหลากสีสะบัดพลิ้วไสวตามสายลมเสียงดัง กองทัพเงียบสงบทั้งกองแต่กลับมีจิต สังหารและขวัญกำลังใจอันรุ่งโรจน์
นางยืนอยู่ด้านหน้าสุดแผ่นหลังหยัดตรง เผยรอยยิ้มเลศนัยออกมาจ้องมองไปยังบริเวณที่เต็มไปด้วยฝุ่น เสียงกีบม้าสั่นสะเทือนบนพื้น
จากฝุ่นละออง กองทัพซีเฉียนปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าราชวงศ์จยาเซียน ฉากนี้ทำให้เจียงหลียิ้ม
แม่ทัพในกองทัพซีเฉียน ถือว่าเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของเจียงหลี เฉียนลี่รัชทายาทแห่งเมืองซีเฉียน
จิตสังหารของเขาพวยพุ่งเข้ามา กองทัพซีเฉียนทางด้านหลังเหมือนดั่งปีศาจที่ออกมาจากนรกขุมที่ เก้าหลังจากที่ได้รับข่าวว่าราชวงศ์จยาเซียนส่งกองทหารมา เขาก็ได้รับคำสั่งให้นำทัพไปก่อน
พบกับเจียงหลี ดวงตาของเฉียนลี่เต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด เขาชูมือขึ้นชี้ไปทางเจียงหลีแล้วตะโกน ขึ้น”เจียงหลี! เจ้ากล้ามาก!”
“รัชทายาท ไม่เจอกันตั้งนาน” เจียงหลียิ้มเปล่งประกาย
เฉียนลี่จ้องนางด้วยสายตาอันโหดเหี้ยมราวกับต้องการจะกุดหัวนางเสียให้ขาด “เจ้ากล้าส่งทหาร มายังซีเฉียน ช่างอวดดีนัก”
“คำพูดนี้ช่างไม่เข้าหูเลยจริงๆ” เจียงหลียิ้ม “แต่ก่อน เมืองซีเฉืยนของท่านก็โจมตีมณฑลสุ่ยหันโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ทั้งยังฆ่าคนของข้าไปไม่น้อย วันนี้ข้านำกองทัพมา อย่างน้อยข้าก็ไม่ลืมแจ้ง กับท่านนับว่าข้ามีมารยาทมากพอแล้ว ส่วนเรื่องที่อวดดีนั้น”
นางหัวเราะ นางยกมือขึ้นและตบลงบนแผ่นศิลาด้านข้าง ภายใต้แผ่นศิลานี้ยังเขียนถึงฮ่องเต้ซีเฉียนที่ กำลังสำนึกผิดและคุกเข่าคารวะให้กับมณฑลสุ่ยหัน
ท่าทางของเจียงหลีทำให้เฉียนลี่จ้องเขม็ง กลิ่นอายแห่งความโหดเหี้ยมปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา
เหตุการณ์ในวันนั้นถูกแพร่กลับไปยังเมืองอู๋อิ๋น เสด็จพ่อของเขาโกรธมาก หลังจากได้ทราบข่าวก็รู้สึก ว่าเป็นความอัปยศ ถึงขนาดสาบานกับตัวเองว่าจะกอบกู้ความอัปยศนี้กลับมาให้ได้
วันนี้เจียงหลีทำให้เขาอับอายขายหน้าด้วยเรื่องนี้ เป็นการกระตุ้นความโกรธในใจของเขายิ่งนัก
“อวดดีรึ ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก อย่างมากต่อให้ราชวงศ์จยาเซียนของข้าจะมาทวงหนี้จากแคว้น ซีเฉียนของเจ้าจริง ข้าเคยพูดแล้วว่า ให้ฮ่องเต้ซีเฉียนล้างคอมาให้สะอาด รอข้ามาตัดหัวของมัน วันนี้ ข้ามาตามสัญญา” เจียงหลีพูดจบ ดวงตาก็ฉายแววดุร้ายออกมาทันที
“เจ้า!” เฉียนลี่โกรธมาก
หลังจากนั้น ไม่รอให้เขาเอ่ยปาก เจียงหลีก็ถ่ายทอดคำสั่งออกไป
นางยกมือขึ้นโบกสะบัดไปข้างหน้าอย่างหนักแน่น และตะโกนอย่างเยือกเย็น “ฆ่ามันนน!”
ฆ่ามันนน!
ฆ่ามันนน!
กองทัพของราชวงศ์จยาเซียนที่เตรียมพร้อมออกรบ หลังจากที่นางถ่ายทอดคำสั่งออกไป เหล่า กองทัพก็พุ่งเข้าไปยังกองทัพซีเฉียนราวกับกระแสนํ้า ภายใต้ความโกลาหล ทางเฉียนลี่จึงต้องออก คำสั่งให้ต่อต้านสถานเดียว
ในขณะนี้ บนแผ่นดินรกร้างนอกเมืองซู่หยวนราวกับนองไปด้วยเลือดลีแดงสด กองทัพจยาเซียนที่สวม ชุดเกราะเหล็กกำลังปะทะกับกองทัพซีเฉียนอย่างดุเดือด เริ่มสู้กันอย่างสาดเลือดเฉือนเนื้อ
แต่เจียงหลี กระโดดขึ้นบนแผ่นศิลาและประสานมือทั้งสองของนางไว้ข้างหลัง ราวกับเทพเจ้ามองลง มาในสนามรบไร้ขอบเขตนี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ในช่วงชุลมุนเฉียนลี่มองไปทางเจียงหลี จากนั้นก็พุ่งเข้าหานาง…