Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 326

ตอนที่ 326 ทหารประชิดเมืองกับการทำลายล้าง

เจียงหลี! เจียงหลี!

เมื่อเฉียนลื่รู้ตัว กลับมิได้เคียดแค้นนาง

แปลกหรือไม่

ไม่ เพราะคนที่เขาเคียดแค้นมากที่สุดตอนนี้คือฮ่องเต้ซีเฉียนกับเฉียนจวิ้น ส่วนแผนการของเจียงหลี ทำให้เขาเห็นคนทั้งสองที่เขาเคียดแค้นที่สุดต่อสู้กันต่อหน้าเขา และเห็นใบหน้าของเสด็จพ่อแสดง ความเกลียดชังที่มีต่อเฉียนจวิ้นออกมา แค่นี้ก็มีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว!

“ไอ้..ไอ้อกตัญญู!” ฮ่องเต้ซีเฉียนอยากจะฆ่าเฉียนจวิ้นเสียตั้งแต่ตอนนี้

เมื่อชั่วครู่ คนที่เขาอยากฆ่ามากที่สุดคือองค์รัชทายาทเฉียนลี่ แต่ตอนนี้คนที่เขาอยากฆ่ามากที่สุดคือ ลูกชายคนโปรดเฉียนจวิ้น

“ท่านพ่อ ท่านอายุมากแล้ว นั่งครองบัลลังก์มาก็นานแล้ว ถึงคราวที่ต้องสละมันให้กับข้าเสียที” เฉียน จวิ้นมิได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย แววตาของเขามีแต่ความตื่นเต้นและดีใจ

“ฆ่าพวกมัน…! ฆ่าไอ้อกตัญญูทั้งสองนั่นซะ…!” ฮ่องเต้ซีเฉียนทรงออกคำสั่ง

“ฆ่าข้าหรือ” เฉียนจวิ้นตะโกนอย่างเย็นชา “คิดว่าข้ามิได้เตรียมการมาเลยหรือ” เมื่อเขาพูดจบ ก็ถอย หลังหนึ่งก้าว

เวลานี้ มียอดฝีมือหลายคนกระโดดออกมาจากความมืด และรีบวิ่งออกไปจากด้านข้างของเขาเพื่อ ต่อสู้กับยอดฝีมือแห่งวังหลวง

“ว้าว! มหาสงครามสามก๊ก! ละครนํ้าดีเช่นนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ถึงว่าเจ้าถึงอยากมา” ลู่เสวียนตื่นเต้นจนกระโดดโลดเต้น

ขณะนี้ ยอดฝีมือทั้งหลายที่ต่อสู้อยู่ในสมรภูมิอันโกลาหล ก็ไม่ทันสังเกตทางนี้แล้ว

“มากไปกว่านั้น” เจียงหลีโค้งริมฝีปากและยิ้มเยาะ

“ยังมีการจัดเตรียมอย่างอื่นอีก!” ลู่เสวียนมองไปที่นางอย่างตะลึงงัน

แน่นอนว่าทันทีที่นางพูดจบ ได้มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูเข้ามาจากนอกวังกะทันหันและร่วมรบอย่างรวดเร็ว

“ท่านน้า!” เฉียนลี่มองที่คนกลุ่มนั้นด้วยความตกใจ และแม่ทัพก็คือน้าชายของเขาเอง เพียงแต่ทำไม เขาถึงมาที่นี่ได้ กองกำลังของตระกูลท่านตาทำไมถึงปรากฏตัวรวดเร็วเช่นนี้!

“ได้รับสาสน์ว่าเสด็จแม่ของเจ้าถูกฆ่า และฮ่องเต้เลวนั่นจะฆ่าเจ้าด้วย พวกเราจึงรีบมาที่นี่” น้าชาย ของเฉียนลี่สาธยายสั้นๆ และร่วมรบทันที

สมรภูมิรบค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น ทำให้ทั้งพระราชวังตกอยู่ในความโกลาหลและนองเลือด ตำหนักไม่ น้อยถูกทำลาย มีผู้บาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก

เฉียนลี่มองภาพเหล่านี้ด้วยความตกใจ ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนเรียก “เจียงหลีเป็นเจ้าที่…!” เขาแน่ใจว่าการเคลื่อนไหวของตระกูลน้าชายต้องถูกเจียงหลียุยงอย่างลับๆ อย่างแน่นอน

หลังจากฮ่องเต้ซีเฉียนเพิ่งสังหารเสด็จแม่ของเขาไป ก็ไม่มีเวลาไปฝั่งกองกำลังของท่านตาเลย ขณะที่ปีศาจสาวนางนั้น ได้รวบรวมสามกองกำลังหลักที่ทรงพลังที่สุดของอาณาจักรซีเฉียน และ ปล่อยให้พวกเขาเข่นฆ่ากันเอง

เขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เจียงหลีต้องการตั้งแต่แรก มิใช่ต้องการทรัพยากรการฝึกฝนครึ่งหนึ่งของอาณาจักรซีเฉียนหรอก แต่นางต้องการทั้งอาณาจักรซีเฉียนต่างหาก!

พวกเขาทั้งหลายถูกหญิงสาวผู้นี้เล่นงานเหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือ

เพียงแต่ตอนนี้เขาเข้าใจในใจเพียงคนเดียว โดยที่คนอื่นไม่รู้เหตุและผลของมันมาก่อน จึงไม่เข้าใจ ยิ่งไปกว่านั้น การต่อสู้ตรงหน้าเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องสนใจมากกว่า

ระยะไกลออกไป เจียงหลียกมือแคะหูของตนและพึมพำว่า “คิดถึงข้ามากเลยหรือ ถึงเรียกชื่อข้าเสียง ดังเช่นนั้น”

ลู่เสวียนชำเลืองมองนางและมุมปากกระตุกอย่างรุนแรง วางแผนให้พ่อลูกและพี่น้องเข่นฆ่ากันเอง เช่นนี้แล้วยังจะมานั่งดูการแสดงอย่างใจเย็นได้อีก

แต่ทว่า…

เขานับถือยิ่งนัก!

ลู่เสวียนไม่สามารถเก็บซ่อนความตื่นเต้นของเขาไว้ได้และถามว่า “แล้วเราจะออกไปตอนไหน”

“รีบอะไร” เจียงหลียกคางขึ้น “เจ้าดูก่อนว่านั่นใคร”

ลู่เสวียนมองตามและเห็นนักรบสาวของฝั่งเฉียนจวิ้นฝีมือโหดเหี้ยมนัก แต่นางมิได้ต่อสู้กับยอดฝีมือ ของฝ่ายศัตรู แต่กลับสังหารทหารองครักษ์ทั่วไปของวังหลวงอย่างเลือดเย็น

“โจวยวน” ดวงตาของลู่เสวียนดำมืดลง

“หากนางไม่ตายในมือของศัตรูก่อน อีกชั่วครู่ พวกเราต้องได้สู้กันแน่” เจียงหลีพูดกับลู่เสวียน

ลู่เสวียนเม้มปากและนิ่งเงียบ แสงแห่งความตื่นเต้นในดวงตาของเขาค่อยๆ จางหายไป

เมื่อสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของเขา เจียงหลีจึงพูดขึ้นอย่างช้าๆ “กองทัพรวมตัวอยู่ นอกเมืองอู๋อิ๋นแล้ว รอสงครามฉากนี้สิ้นสุดลง พวกเราจะร่วมมือกับทั้งด้านในและด้านนอกโจมตีเมืองอู๋อิ๋น เมื่อเมืองหลวงแตก ราชวงศ์เข่นฆ่ากันเอง กองกำลังของอาณาจักรซีเฉียนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ นี่ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับอาณาจักรจยาเซียนของเราที่จะใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้สังหารซีเฉียน หากเจ้าไม่ต้องการออกรบ ก็ให้รออยู่ที่นี่”

“ไม่” ลู่เสวียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาแน่วแน่และสงบนิ่ง พร้อมกับมองไปที่โจวยวนและพูดด้วย เสียงหนักแน่น “ข้าจะกำจัดนางเอง ข้าคิดว่านางก็อยากต่อสู้กับข้า”

“เจ้าลงมือได้หรือ ระหว่างที่อยู่โฮ่วจิ้น นางก็หลบหนีไปได้แล้วครั้งหนึ่ง หากนางเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ และใช้ชีวิตอย่างสงบ ข้าคงไม่ทำอะไรนางหรอก แต่นี่นางกลายเป็นงูพิษ ข้าไม่สามารถปล่อยนางไป ได้อีก เพราะจะเป็นภัยต่ออาณาจักรจยาเซียนในภายภาคหน้า” เจียงหลีพูดอย่างจริงจัง

“ข้ารู้ความเหมาะสมและรู้จักแยกหนักเบา” ลู่เสวียนพยักหน้าช้าๆ

เจียงหลีพยักหน้าโดยไม่ได้พูดต่อ เพียงแต่ยกมือตบไหล่ลู่เสวียนอย่างแรง

การตบไหล่ครั้งนี้ทำให้ลู่เสวียนรู้สึกถึงความรับผิดชอบทันทีและในใจของเขาชัดเจนขึ้น เขาเป็น ลูกหลานของตระกูลลู่และเป็นหยวนอ๋องของอาณาจักรจยาเซียน เขาจะเที่ยวเล่นทั้งวันหรือไม่ฝึกฝน เฉกเช่นเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว เขาต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบ และเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่ต้องเผชิญ ด้วยตัวเอง

“ได้เวลาแล้ว”

เจียงหลีลุกยืนขึ้นและปัดฝุ่นบนฝ่ามือ

ลู่เสวียนเงยหน้ามองนาง แล้วมองไปที่สมรภูมิรบอันวุ่นวายทางนั้น

กองกำลังทั้งสามกำลังเข่นฆ่ากันเองและทุกคนต่างต้องการฆ่าอีกฝั่งให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ซึ่งได้ ทำลายความแข็งแกร่งของกองกำลังทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ นับประสาอะไรกับเจียงหลีนกขมิ้นตัวนี้ กองกำลังอื่นใดที่เข้ามาในตอนนี้ และเก็บกวาดส่วนที่ เหลือ ก็จะสามารถกำหนดผู้ชนะได้แล้ว

เจียงหลีกระโดดลงจากหลังคา ลู่เสวียนก็กระโดดตามหลังอย่างใกล้ชิด

คนที่เหลือก็กระโดดลงมาทีละคน หนึ่งในนั้นยิงกระสุนส่งสัญญาณให้กับกองทัพที่ซ่อนตัวอยู่นอก เมืองว่ากองกำลังในเมืองเริ่มปฏิบัติการ…ประชิดเมือง!

เสียงกระสุนนั้น ดึงดูดความสนใจจากคนที่เหลือ ฝูงชนที่จู่ๆ เข้ามาปะทะ ทำให้พวกเขาถึงกับลนลาน ทันที

“ฟุ้บ! “ฮ่องเต้ซีเฉียนล้มลงกับพื้นเนื่องยาพิษออกฤทธิ์อย่างสมบูรณ์สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ ประดุจหมึก ตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาผู้อ่อนแอมองที่หญิงสาวซึ่งกำลังพุ่งเข้ามาที่เขาอย่างว่องไว “เจ้านี่เอง!”

นางมาแล้วจริงๆ เฉียนลี่บาดเจ็บสาหัสและเลือดไหลไม่หยุด เมื่อมองไปยังหญิงสาวที่ปรากฏตัว ในใจ กลับมิได้รู้สึกประหลาดใจ

“เจียงหลี!” เฉียนจวิ้นเรียกด้วยความตกใจ

เจียงหลีปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร

ส่วนโจวยวน ขณะนี้นางก็มองไปที่เจียงหลีด้วยความอาฆาต แต่ท้ายที่สุดแล้ว นางกลับจ้องมองที่ลู่ เสวียนด้วยความเคียดแค้น

เจียงหลีมองไปที่เฉียนจวิ้นและยิ้มอย่างสดใส “องค์ชายรอง กลยุทธ์ของข้าใช้ง่ายหรือไม่”

คำพูดเหล่านี้ ทำให้ดวงตาของเฉียนจวิ้นบีบแน่นและพูดเสียงแหบว่า “นี่เจ้า! เจ้าวางแผนทั้งหมด!

เจ้ายั่วยุให้พวกเราเข่นฆ่ากันเอง! ”

เจียงหลีพยักหน้าและยอมรับอย่างเปิดเผย “ใช่ ข้าเอง ของขวัญชิ้นนี้เจ้าชอบหรือไม่ ประหลาดใจหรือไม่ คาดไม่ถึงใช่ไหม”

“เจ้าช่างอำมหิตนัก! ” เฉียนจวิ้นกัดฟันและพูดด้วยเสียงเกลียดชัง

เจียงหลียักคิ้ว “หากพวกเจ้าไม่โลภ จะถูกหลอกได้อย่างไร พูดกันตรงๆ พวกเจ้าไม่สนใจสิ่งอื่นใดและ ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครอบครองบัลลังก์นั่น”

“ฮ่าๆๆๆ…! พูดได้ดี” จู่ๆ เฉียนลี่ก็หัวเราะลั่น เขามองไปที่เจียงหลีด้วยแววตาที่สงบนิ่ง และไม่ ปรากฏความดุร้ายเหมือนเช่นเมื่อก่อน “ข้ายอมแพ้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version