Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 331

ตอนที่ 331 ทำไมต้องรนหาที่

นางรำคนนั้น รูปร่างงดงามและเย้ายวนใจ ใบหน้ามีผ้าคลุมโปร่งปิดซ่อนใบหน้าที่แท้จริง แต่มันกลับ เพิ่มความลึกลับและยั่วยวนใจยิ่งไปอีก

ไป๋เซี่ยงไท่ที่สนใจในตัวนางเพราะรูปร่างของนางมีความคล้ายคลึงกับเจียงหลีมาก

ครั้งแรกที่พบเจียงหลี เขาก็ตกตะลึงในความงดงามของจักรพรรดินีน้อยแล้ว ถึงแม้อายุจะยังน้อย แต่มี รูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์เย้ายวน ทำให้คันไม้คันมือในใจ

เมื่อครู่ เขาจงใจใช้ถ้อยคำเอาเปรียบ แต่เมื่อเห็นว่าเจียงหลีไม่ได้โกรธเคืองอะไร ทำให้ใจเขา พะว้าพะวังอยู่ไม่น้อย

ตอนนี้ เมื่อเห็นผู้หญิงที่มีเงาคล้ายเจียงหลี อารมณ์ในใจถูกเย้ายวนจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์นั้นไว้ได้

เมื่อจับต้องจักรพรรดินีไม่ได้ กับนางรำคนนี้ทำไมจะทำไม่ได้ เมื่อในใจไป๋เซี่ยงไท่คิดเช่นนี้ สายตาที่มอง ไปยังนางรำก็เปลี่ยนไปและเผยให้เห็นถึงความต้องการและความรุ่มร้อน

ดวงตานั้น ทำให้นางรำตกใจจนร่ายรำผิดจังหวะ

เจียงหลีที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูง จ้องมองไปยังนางรำคนนั้นที่ร่ายรำผิดจังหวะ และหันไปมองที่ไป๋เซี่ยง

ไท่

ท่าทางที่บ้ากาม สายตาที่กำเริบเสิบสาน ดวงตาเจียงหลีแผ่รังสีของความเยือกเย็นขึ้น และพลัง วิญญาณค่อยๆ หมุนรอบมือ

นางคือหลิงไซว่ แต่ไป๋เซี่ยงไท่นั้นเป็นเพียงหลิงเจี้ยงขั้นสูง กล้าทำตัวกำเริบเช่นนี้ต่อหน้านาง!

ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นถึงฮ่องเต้ของอาณาจักรจยาเซียน แต่เขาเป็นเพียงทูตที่มาเยือนเท่านั้น

ณ เวลานี้ เพลงบรรเลงหยุดลง นางรำก็จบการแสดง หลังจากนั้นก้มลงแสดงความเคารพต่อผู้ชมใน ท้องพระโรง แล้วค่อยๆ เดินถอยออกมานางรำที่ต้องตาไป๋เซี่ยงไท่นั้นพยายามนำตัวหลบเข้าไปอยู่ใน กลุ่มนางรำ เพื่อหลบหลีกสายตาน่ากลัวที่จดจ้องมายังนาง

“ช้าก่อน”

แต่ทว่า ในขณะที่นางกำลังจะออกจากตำหนัก ไป๋เซี่ยงไท่ได้เปิดปากพูด

นางเงยหน้าขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก และสบตากับดวงตาที่กำเริบเสิบสานทำตามใจตนอย่างไม่เกรง กลัวสิ่งใดของไป๋เซี่ยงไท่ เขาทำคล้ายกับกำลังล่าสัตว์ทำให้นางที่คิดว่าจะสามารถหนีพ้น กลับทำให้ ความหวังของนางถูกดึงกลับมาอย่างโหดเหี้ยมคล้ายถูกผลักไปเหวลึกอย่างสิ้นหวัง

คนในตำหนักล้วนเป็นผู้สูงศักดิ์ มิใช่นางรำจะหาเรื่องได้

ไป๋เซี่ยงไท่เปิดปากพูด นางรำที่กำลังถอยออกไปต่างหยุด นางรำคนนั้นก็จนปัญญา ทำได้เพียงหยุด ตามคนทั้งกลุ่ม กังวลใจและดวงตาก็ปรากฏความสิ้นหวัง

สิ่งที่ไป๋เซี่ยงไท่กระทำนั้น ทำให้ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลง ใบหน้าค่อยๆ มีความเยือกเย็นปรากฏขึ้น

“จักรพรรดินี ข้าอยากจะขอหญิงคนหนึ่งจากพระองค์!” ไป๋เซี่ยงไท่มองมาที่เจียงหลี และเอ่ยอย่าง ตรงไปตรงมา

จงเจิ้งเหยี่ยคิ้วขมวด ส่งเสียงเบาเอ่ยห้าม “ไป๋เซี่ยงไท่อย่าทำตัวบ้าบิ่น”

น่าเสียดายที่ไป๋เซี่ยงไท่มิได้สนใจเขา ยังคงมองไปยังเจียงหลีอย่างหยิ่งผยอง และรอตำตอบจากนาง

“อืม จะขอคนไหนหรือ” เจียงหลีเม้มปาก สีหน้ายิ้มแย้มแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น

“นาง!” ไป๋เซี่ยงไท่ยกมือขึ้น ชี้ไปนางรำคนนั้นที่เนื้อตัวสั่นเทาไร้เรี่ยวแรง “จักรพรรดินีข้าสนใจนาง อยากให้นางไปอยู่กับข้าคืนนี้ หากนางปรนนิบัติข้าได้ถูกใจ ข้าจะพานางกลับไปเป่ยโหรว ไม่ทราบว่า จักรพรรดินีจะสละนางให้ข้าได้หรือไม่”

เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา บนใบหน้าของนางรำมีความหวาดกลัวปรากฏอยู่ จึงรีบคุกเข่าหมอบลงกับ พื้นเพื่อร้องขอความเมตตา “ฝ่าบาท! ฝ่าบาท ข้าน้อยอยากรำถวายอยู่ที่วังหลวงเพคะ ไม่ยินยอมจะไป ปรนนิบัติใคร”

คำปฏิเสธของนาง ทำให้ไป๋เซี่ยงไท่โกรธจนคิ้วกระตุก

เขาทำเสียงฮึดฮัด เอ่ยกับเจียงหลี “จักรพรรดินี ก็แค่นางรำธรรมดา พระองค์คงไม่ใจแคบกับข้าหรือไม่” คำพูดเช่นนี้ดูเหมือนจะพูดจาเสียดสีเจียงหลีว่าไม่ได้ใจกว้างเหมือนฮ่องเต้เป่ยโหรว

“ไป๋เซี่ยงไท่!” จงเจิ้งเหยี่ยส่งเสียงเตือน

ไป๋เซี่ยงไท่กับทำท่าทีจองหองมองไปที่เขา “ข้าแค่จะขอนางรำเพียงคนเดียว เรื่องแบบนี้ในตระกูลผู้มี อำนาจที่เป่ยโหรวของเราก็ทำกัน แต่ทำไมที่อาณาจักรจยาเซียน ถึงได้ใจแคบเช่นนี้”

“ฝ่าบาท…ฝ่าบาท…” นางรำคุกเข่ากับพื้น ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างไม่คิดชีวิต เพียงเพื่อแสดงออก ถึงความต้องการของตนเอง

เมื่อมีเหตุการณ์นี้แทรกขึ้นมา ทำให้เหล่าขุนนางของจยาเซียนต่างขมวดคิ้ว สีหน้าเยือกเย็น ตอนนี้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นางรำคนนั้น แต่เป็นท่าทีของไป๋เซี่ยงไท่ที่กำเริบเสิบสานเกินตัว

เพียงแต่ ฝ่าบาทยังไม่ได้เอ่ยปาก พวกเขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก

เจียงหลีลุกขึ้นยืน คิ้วยิ่งขมวดแน่นขึ้น และมองไปยังดวงตาของไป๋เซี่ยงไท่ด้วยจิตสังหาร

เจียงหลีไม่ได้สนใจท่าทีที่กำเริบของไป๋เซี่ยงไท่ แต่กลับมองไปที่นางรำคนนั้น และเอ่ยปากอย่างช้าๆ “เจ้ามานี่”

ดวงตานางรำเริ่มมีความหวังรีบคุกเข่าคลานไปหาเจียงหลี เมื่อไปถึงขั้นบันไดจึงได้หยุด ในเวลานั้น เจียงหลียืดตัวขึ้น ค่อยๆ เดินลงขั้นบันได และยืนอยู่ตรงหน้านาง

“ฝ่าบาท…” นางรำเงยหน้าขึ้นและพูดเสียงสั่น

เจียงหลีเหลือบสายลงตํ่าและมองไปที่นาง เอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่ไม่มีใครจะต่อต้านได้ “ดึงผ้าคลุมที่หน้าออก”

“เพคะ” นางรำไม่ขัดขืน ทำตามคำสั่งโดยดึงผ้าคลุมหน้าออก ปรากฏให้เห็นใบหน้าที่แท้จรงของนาง นางมีใบหน้าที่งดงามและอ่อนโยนรูปร่างหน้าตาถือว่าสวยระดับปานกลาง

เมื่อเห็นใบหน้าของนาง แววตาของไป๋เซี่ยงไท่ก็ยิ่งร้อนรนมากขึ้น

“เป็นหญิงงามจริงๆ” เจียงหลีก้มตัวลง ยื่นมือไปจับคางนางขึ้นอย่างช้าๆ

ใบหน้าที่งดงามและความมีเสน่ห์ที่เกียจคร้านเข้าประชิด แต่กลับมีความน่าเกรงขามของราชาที่เหนือ คนทั้งปวง ตอนที่คางของนางถูกจักรพรรดินียกขึ้น ในใจของนางรำเกิดความร้อนรนอย่างที่ไม่เคย เป็นมาก่อน

นางมองไปยังจักรพรรดินี ดวงใจคล้ายจมดิ่งไปในร่างกายนาง

เจียงหลีไม่ได้มองว่านางรำคิดอย่างไร แต่มองคล้ายกับกำลังชื่นชมสมบัติลํ้าค่า มองไปบนใบหน้านาง อย่างละเอียด พูดพึมพำกับตัวเอง “สวยขนาดนี้ ต้องเก็บไว้ข้างกายสิ จะยกให้คนอื่นง่ายๆ ได้อย่างไร”

“ฝ่าบาท…” นางรำเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่ไม่มั่นใจ

“เจ้ามีนามว่าอะไร” เจียงหลีปล่อยมือจากคางนางและยืนขึ้นถามนาง

“ข้าน้อยมีนามว่ามั่วฉุน”

เจียงหลีพยักหน้า “มั่วฉุนหรือ เป็นชื่อที่ดี ต่อจากนี้ไป เจ้ามาอยู่ข้างกายข้า มาเป็นนางกำนัลให้ข้า”

ดวงตามั่วฉุนแสดงออกถึงความดีใจอย่างมากรีบก้มศีรษะลงกับพื้น “ขอบพระทัยในความเมตตาของ ฝ่าบาทเพคะ!”

“จักรพรรดินีทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” ไป๋เซี่ยงไท่อดที่จะเปิดปากพูดไม่ได้ เขาแสดงออกถึง ความไม่พอใจอย่างชัดเจน

เจียงหลีหันกลับมองที่เขาและยิ้มเยาะ “ข้าหมายความว่าอะไรน่ะหรือ ที่นี่คืออาณาจักรจยาเซียน และ เป็นวังหลวงของข้า ข้าเป็นจักรพรรดินีของที่นี่ ข้าอยากทำอะไรก็ได้ไม่ต้องบอกกล่าวกับใคร”

“เจ้า!” พลังวิญญาณของไป๋เซี่ยงไท่เริ่มปรากฏตัว และวิญญาณยุทธ์ได้ถูกปลดปล่อยออกมาทันที

“ไป๋เซี่ยงไท่!” จงเจิ้งเหยี่ยตกใจจนลุกขึ้น อยากจะห้ามความมุทะลุของเขา

แต่ทว่า ยังไม่ทันที่เขาจะยื่นมือออกไป ก็ได้ยินเพียงสั่นสะเทือนจนทำให้ต้องร้องตะโกนด้วยความ เจ็บปวดไปจนถึงทรวง…

“กล้าทำตัวกำเริบต่อหน้าข้า! ใครจะไว้หน้าเจ้า!”

หลังจากเสียงตำหนิดังขึ้น ร่างกายของไป๋เซี่ยงไท่ราวกับโดนโจมตีทันที ร่างกายเขากระเด็นไปที่เสา ด้านหลังของตำหนัก วิญญาณยุทธ์ที่ปลดปล่อยออกมาพลันมลายหายไป เสียงของกระดูกร้าวดังขึ้น ที่ปากของเขามีเลีอดพุ่งออกมา โดยไหลหยดตั้งแต่เสาลงสู่พื้น

จงเจิ้งเหยี่ยมองไปที่เจียงหลีอย่างตกตะลึง ที่แท้นางแข็งแกร่งถึงเพียงนี้! เพียงแค่เสียงตำหนิ ก็ทำให้ห ลิงเจี้ยงขั้นสูงอย่างไป๋เซี่ยงไท่ได้รับบาดเจ็บหนัก

ดวงตามั่วฉุนเป็นประกายด้วยแสงที่แปลกประหลาดและจ้องมองไปที่พลังอำนาจของจักรพรรดินีทำให้ นางรู้สึกเลยว่า การได้รับใช้ข้างกายจักรพรรดินี การที่ได้รับการปกป้องจากพระองค์เป็นเรื่องที่มี ความสุขเป็นอย่างมาก และก็ทำให้ใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version