ตอนที่ 68
ท่าทีของท่านเจ้าเมือง
บรรยากาศที่เคร่งเครียดบนเวทีการประลองชิงเจียว
ด้วยความที่คนตระกูลเย่ว์พากันรุมเข้ามา ยอดฝีมือของจวนท่านเจ้าเมืองก็ต่างพากันย่างเท้าไปข้างหน้า ไปอยู่ข้างๆ เฮ่อเหลียนเฟิงเพื่อคุมเชิงคนตระกูลเย่ว์ไว้
ผู้คนรอบๆ เวทีที่ดูอยู่ด้านล่างต่างพากันถอยหลัง มองไปบนเวทีด้วยสีหน้าเป็นกังวล กลัวว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะรุนแรงเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็มองสาวชุดดำที่ทรงพลังที่ยืนอยู่บนเวที
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เพราะนาง ตอนนี้นางมีสีหน้าเย็นชา ดวงตาแวววาวคู่นั้นไม่มีความขลาดกลัวใดๆ แถมยังยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเหยียดหยาม
“นางไม่กลัวหรือ”
“ได้ทำการสังหารผู้เก่งกาจของตระกูลเย่ว์อย่างโจ่งแจ้งบนเวทีการประลองชิงเจียว ตระกูลเย่ว์ไม่มีทางปล่อยนางไปเด็ดขาด”
เอ่อ ถึงแม้ว่าเย่ว์หนานซีจะเป็นคนเริ่มก่อน แต่ว่าเขาตายแล้ว คนตระกูลเย่ว์จะเข้าใจตรงจุดนี้บ้างไหม กลัวว่าจะคิดอยู่อย่างเดียวก็คือจัดการกับคนที่ฆ่าคนในตระกูลให้ถึงที่สุด
มองใบหน้าที่โหดร้ายและน่ากลัวของเย่ว์ชิงหลิว ความเยาะเย้ยในรอยยิ้มของเจียงหลีชัดขึ้นเรื่อยๆ ที่จริง นางจงใจยั่วโมโหเย่ว์หนานซี ทำให้เขาลงมือก่อน แล้วนางก็ใช้โอกาสตรงนั้นตอบโต้ด้วยการสังหารเขา เป็นแบบนี้แล้วมันจะอย่างไร
ตระกูลเย่ว์มีหลักฐานไหม
เจียงหลีรู้กฎของการประลองชิงเจียวดีว่าห้ามฆ่าคน ที่จริงแล้วก็เป็นวิธีการปกป้องผู้เข้าร่วมการประลองจากราชสำนัก การคัดเลือกก็คือการคัดเลือก ผู้ที่ถูกคัดเลือกก็คือกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ตกรอบจะไม่ดี เปรียบเทียบกับคนธรรมดามากมายแล้ว พวกเขาก็ยังเป็นผู้ที่เก่งกาจอยู่ดี
ถ้าหากว่านางไม่สนใจกฎแล้วลงมือฆ่าคน ด้วยสถานภาพของนางในตอนนี้ เกรงว่าทางเจ้าเมืองก็คงจัดการนางก่อนเป็นอันดับแรก ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงแค่สาวใช้ของตระกูลลู่ พอฆ่าแล้ว อย่างมากก็อธิบายกับลู่เจี้ยหลังจบเรื่องได้
ดังนั้น นางถึงไม่สามารถชิงลงมือก่อนได้ทำได้เพียงล่อให้เย่ว์หนานซีลงมือก่อน เขาจะฆ่านาง นางเพียงตอบโต้กลับ คนของท่านเจ้าเมืองจะบอกว่านางผิดก็ไม่ได้ ทั้งหมดต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน
จะให้นางยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ รอให้เย่ว์หนานซีฆ่างั้นหรือ
“เด็กเจ้าเล่ห์” หนานอู๋เฮิ่นผู้ที่อยู่ไกลจากเวที มองไปบนเวทีแล้วพูดด้วยความคลุมเครือ ความสนใจของเขาในตอนนี้ เหมือนว่าจะอยู่ที่เจียงหลีคนเดียว มู่หว่านโหรวขมวดคิ้ว พูดเตือนว่า “สาวใช้ตระกูลลู่คนนี้ แม้จะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่นางได้ฆ่าเทียนเจียวของตระกูลเย่ว์ นางจะสามารถผ่านผลกรรมนี้ไปได้หรือไม่ ใครจะล่วงรู้โชคชะตาได้'”
เหมือนว่าเจตนาที่นางเตือนหนานอู๋เฮิ่นก็คืออย่าลืมไป๋หลี่เฟิ่งผู้ที่ยอดเยี่ยมกว่า เพียงเพราะคนที่ฆ่าคนคนหนึ่ง
รับรู้ได้ถึงเจตนาแอบแฝงที่คลุมเครือในคำพูดของนาง หนานอู๋เฮิ่นยิ้มแล่วพูดกับนางว่า “ขอบคุณที่เตือนขอรับองค์หญิง”
มู่หว่านโหรวพยักหน้าด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วเงียบไป
อู๋เชียนได้ยินทั้งสองคนคุยกัน เกิดความไม่สบายใจ เขาก็ยังอยู่ตรงนี้ ทำไมรู้สึกว่าผู้ที่มีความสามารถในการประลองชิงเจียวถึงได้ถูกสถาบันไป๋หยวนเลือกไว้แล้ว แม้แต่องค์หญิงอันผิงก็เอนเอียงไปทางสถาบันไป๋หยวน
แต่ทว่าเขากลับพูดอะไรไม่ได้ มิฉะนั้นจะเป็นการไม่ไว้หน้ามู่หว่านโหรว
เขามองไปบนเวทีการประลองที่อยู่ในสถานการณ์คุมเชิงกันอยู่ พูดอย่างเย็นชาว่า “การประลองชิงเจียวดีๆ ถูกขัดจังหวะแบบนี้ หมดอารมณ์จริงๆ”
“เอ๊ะ! ผู้เฒ่าอู๋ไม่รู้สึกหรือว่าแบบนี้มันน่าสนุกกว่า” หนานอู๋เฮิ่นยิ้มตาหยีแล้วมองเขา
อู๋เชียนยิ้มมุมปาก เขาเกลียดหน้าที่ยิ้มตาหยีของหนานอู๋เฮิ่นเป็นอย่างมาก
“ท่านเจ้าเมืองเฮ่อเหลียนเฟิงไม่มีทางให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อการประลองชิงเจียวหรอก” มู่หว่านโหรวพูด
หลังจากนางพูดจบ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เฮ่อเหลียนเฟิงที่อยู่บนเวทีพูดกับเย่ว์ชิงหลิวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นายท่านเย่ว์ เรื่องทั้งหมดนี้ค่อยว่ากันหลังจากจบการประลองชิงเจียวเถิด”
“ถ้าหากข้าตอบว่าไม่ล่ะ” เย่ว์ชิงหลิวกัดฟันพูด ลูกชายก็ตายไปแล้ว ยังจะให้เขาเกรงกลัวอะไรอีกหรือ
“ฮึ!” เฮ่อเหลียนเฟิงส่งเสียงถากถางอย่างเยือกเย็น มือทั้งสองข้างยกขึ้นคารวะไปทิศทางเมืองซั่งตู “งานประลองชิงเจียวยังเป็นสิ่งที่ทั้งแคว้นต้องการ ข้าก็ได้รับคำสั่งมาจากฝ่าบาทเพื่อทำการคัดเลือกเทียนเจียวแห่งยุค ใครที่คิดจะสร้างความวุ่นวาย ถือว่าเป็นกบฎ! นายท่านเย่ว์ก็คิดดูให้ดีแล้วกันว่าเรื่องนี้ควรทำอย่างไร”
“แล้วนางไม่ใช่คนที่สร้างความวุ่นวายในการประลองชิงเจียวงั้นหรือ” คำพูดของเฮ่อเหลียนเฟิงทำให้เย่ว์ชิงหลิวโกรธมาก ทำได้แค่ยกมือขึ้นชี้เจียงหลีที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา แล้วกัดฟันพูด
เฮ่อเหลียนเฟิงยังไม่ทันพูด เจียงหลีก็หัวเราะเยาะเย้ย นางมองเย่ว์ชิงหลิว พูดอย่างยียวนว่า “เย่ว์ชิงหลิว เจ้าช่างหน้าไม่อาย ก็เห็นๆ อยู่ว่าลูกชายที่ไม่เอาไหนของเจ้าอยากจะลอบสังหารข้า กริชก็เอาออกมาแล้ว หรือว่าเจ้าจะให้ข้ายืนนิ่งๆ ไม่ขยับ รอให้เขาฆ่าข้างั้นหรือ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น งั้นเจ้าก็มายืนอยู่นิ่งๆ ห้ามตอบโต้ แล้วให้ข้าฆ่าเจ้าดูสักทีเป็นอย่างไร”
“เจ้า!” เย่ว์ชิงหลิวโกรธมาก
เจียงหลีไม่ให้โอกาสเขาตอบกลับ พูดต่อว่า “เย่ว์ชิงหลิว ที่เจ้าโกรธขนาดนี้ แท้จริงแล้วเป็นเพราะลูกชายที่ละเมิดกฎการประลองของเจ้าตาย หรือว่าเป็นเพราะแพ้ไม่เป็น หรือว่าเสียดายทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลเย่ว์”
ผู้คนที่ดูอยู่ด้านล่างเวทีต่างตกใจฮือฮา
พวกเขาไม่รู้ว่าการประลองในครั้งนี้ยังเดิมพันทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลเย่ว์
แม้แต่เฮ่อเหลียนเฟิงก็มองเจียงหลีด้วยความประหลาดใจ
คำพูดของเจียงหลีทำให้เย่ว์ชิงหลิวและคนตระกูลเย่ว์โกรธมากจนอยากพุ่งเข้าไปจัดการนางเสียให้สิ้นซาก แต่ว่ามีคนจากจวนท่านเจ้าเมืองเฝ้าอยู่ตรงนี้ พวกเขาจึงทำอะไรมากไม่ได้ ทำได้เพียงตีฝีปากกัน
“ไม่เจียมตัว! นังปีศาจ เจ้าฆ่านายน้อยตระกูลของข้า เหตุผลแค่นี้พอไหม”
“คนเนรคุณอย่างเจ้า ในตอนที่ตระกูลเจ้าตกยาก ข้าก็เห็นแก่มิตรภาพเก่าๆ ถึงได้ช่วยเหลือ แต่ในวันนี้เจ้ากลับมาเหยียดหยามตระกูลเย่ว์ของข้า ฆ่าคนตระกูลเย่ว์ ช่างเนรคุณชั่วช้าจริงๆ เลย”
“…”
เสียงกำลังคนเดินต่อๆ กันเข้ามาดั่งเสียงคลื่น
เจียงหลีกลับนิ่งเฉย ยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “วิชาความดีความชั่วตาลปัตรของตระกูลเย่ว์ ข้าก็เคยประสบมาแล้ว บอกว่าข้าเนรคุณอยู่ได้ข้าก็กำลังตอบแทนบุญนี่ไง! ถ้าหากไม่ได้ข้าฆ่าม้าที่เป็นภัยต่อฝูงของตระกูลเย่ว์ พวกเจ้าก็จะต้องโทษเป็นกบฎ นี่ข้าไม่ได้พูด เจ้าเมืองเป็นคนพูด พวกเจ้าไม่ขอบคุณข้า ก็ไม่เป็นไร คิดไม่ถึงว่าจะยังมาหาว่าข้าเนรคุณอีก!”
เฮ่อเหลียนเฟิงยิ้มมุมปาก ไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะมีไหวพริบดีเช่นนี้ สามารถตอบโต้คนตระกูลเย่ว์ได้ทันควัน
แม้แต่คนด้านล่างเวทีที่ได้ยินก็ถึงกับปากอ้าตาค้าง ถูกคำพูดที่สมเหตุสมผลของเจียงหลีทำให้อึ้งไปเลย
เย่ว์ชิงหลิวโมโหจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เขายกมือขึ้นห้ามคำพูดประณามของคนตระกูลเย่ว์แล้วมองไปที่เฮ่อเหลียนเฟิง “ท่านเจ้าเมือง เรื่องนี้ท่านไม่คิดจะให้ความชัดเจนกับข้าแล้วใช่ไหม ไม่ว่าใครจะเป็นคนเริ่มก่อน แต่ว่าเอาเรื่องที่เจียงหลีทำผิดกฎก่อน หรือว่านางก็จะสามารถเข้าร่วมการประลองต่อได้อย่างหน้าตาเฉยงั้นหรือ”
เฮ่อเหลียนเฟิงขมวดคิ้ว ครุ่นคิดในใจ
ตระกูลเย่ว์กดดันขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เจียงหลีเดิมเป็นผู้หญิงที่ต้องโทษ ในวันนี้ได้กลายเป็นสาวใช้ตระกูลลู่ มีพรสวรรค์มากแค่ไหนแล้วจะมีประโยชน์อะไร ไม่เกี่ยวกับเขา
คิดได้เช่นนี้ เฮ่อเหลียนเฟิงเปิดปากพูด “เจียงหลีทำผิดกฎการประลองชิงเจียว จะต้องออกจากการประลองทันที ยกเลิกคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประลองและลบคะแนนก่อนหน้าออกทั้งหมด”