บทที่ 1190 หมากของตี้ฝูอี 3
ตี้ฝูอีมองเขาอย่างอ่อนโยน ครานี้ได้คลายข้อสงสัยให้เขา “นี่คือสรรพคุณของอีกอย่างหนึ่งของลูกกลอนสามหยาง ความชอบนี้มิใช่ของข้า เป็นของเจ้าสำนักหลง”
หลงซือเย่ที่อยู่ด้านข้างเม้มริมฝีปากบางนิดๆ “ข้าไม่กล้ารับความชอบ แผนร้ายนี้เป็นเจ้าที่ออกความคิด!”
สีหน้าของโม่เจ้าเขียวคล้ำ…
เขาหลงนึกว่าหนนี้จับตี้ฝูอีไว้อยู่หมัดแล้ว กลับคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายวางกับดักตนนับไม่ถ้วนอย่างไร้สุ้มเสียง!
ส่วนเขาที่ระวังแล้วระวังอีก ก็ยังคงติดกับเข้าจนได้!
หมากตานี้เขาสมควรได้ชัยแล้วชัดๆ!
สายตาของเขาจับนิ่งอยู่ที่ใบหน้าตี้ฝูอี “ข้าเสียใจยิ่งนักที่ไม่ได้สังหารเจ้าทิ้งทันที!”
ตี้ฝูอีมองเขาอย่างจริงจัง “บนโลกนี้ไม่มียาแก้เสียใจภายหลังให้กินหรอก”
“ตี้ฝูอี แม้แต่การถูกจับเป็นเชลยครั้งนี้เจ้าก็วางแผนไว้ก่อนแล้วใช่ไหม? เจ้าประเคนตัวมาให้ข้า มิใช่ง่ายดายเพียงเพื่อช่วยนางกระมัง” โม่เจ้าชี้นิ้วไปที่กู้ซีจิ่ว เพียงแต่เขาเพิ่งจะชี้ ตี้ฝูอีก็ซัดฝ่ามือใส่เขาแล้ว “อย่าได้นำอุ้งเท้าของเจ้ามาชี้นาง ข้าไม่ชอบ!”
ถึงแม้โม่เจ้าจะเป็นร่างจิต ทว่าปฏิกิริยาตอบสนองยังคงว่องไวนัก เคลื่อนกายไปด้านข้างทันที หลบหลีกฝ่ามือนี้ของตี้ฝูอี เขายิ้มเยาะ “ถูกข้าพูดแทงใจเข้ารึไง?”
ตี้ฝูอีมองเขาอย่างได้อรรถรส “เจ้าใช้แผนยุแยงตะแคงรั่วเช่นนี้ไม่ค่อยฉลาดเลยนะ”
โม่เจ้ายิ้มแวบหนึ่ง “ใช่รึ?”
เขาเห็นกู้ซีจิ่วปกป้องคุ้มครองอยู่ข้างกายตี้ฝูอีตลอดจึงรู้สึกขัดตาจริงๆ จึงคิดจะสุมไฟใส่ใจนางสักหน่อย
ยามนี้เทียนจี้เยวี่ย เชียนเยวี่ยหร่าน มู่เหล่ย มู่เตี่ยนก้าวเข้ามาอยู่สี่มุมอย่างเงียบเชียบ ต่างจรดนิ้วเตรียมร่ายอาคมต่อกรกับร่างจิต
กำจัดวัชพืชต้องขุดรากถอนโคน พวกเขาชังเขายิ่งนัก ดังนั้นจึงไม่ได้คิดจะจับเป็นเขา แต่คิดจะโจมตีดวงวิญญาณเขาให้แตกสลายไปโดยตรง!
แต่ทว่า…
มุมปากของโม่เจ้ากระตุกเป็นรอยยิ้มประหลาด “ตี้ฝูอี ครั้งนี้เจ้าชนะ เพียงแต่เจ้าจะไม่ได้หัวเราะในตอนจบ!”
เขากระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างรุนแรง!
ประกายแสงห้าสีผุดออกมาจากใต้ฝ่าเท้าเขาดั่งสายรุ้ง เกิดเสียงปังดังสนั่น พื้นใต้ฝ่าเท้าเขาเหมือนถูกกระตุ้นกลไกบางอย่างเข้า ทรุดตัวลงทันที!
‘ตูม!’ เสาลาวาขนาดมหึมาพุ่งขึ้นมาเสมือนภูเขาไฟระเบิด และเงาร่างของโม่เจ้าก็หายลับไปในพริบตา…
‘ตูม!’
‘ตูม!’
ดูเหมือนจุดที่โม่เจ้ากระทืบจะเป็นกลไกทำลายวังใต้ดินทั้งหลังทิ้ง ทั่วทั้งตำหนักใต้ดินเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นไม่หยุด มีหลายจุดที่ปะทุขึ้นมาคล้ายภูเขาไฟระเบิด พื้นดินสั่นสะเทือน
น่าตายนัก!
กู้ซีจิ่วลอบสบถคราหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายโม่เจ้าจะยังมีลูกเล่นเช่นนี้อยู่
ฝูงชนย่อมนึกไม่ถึงเช่นกัน พากันสะกิดเท้าเหินทะยานออกไปด้านนอก…
….
ลาวาสีแดงฉานปะทุขึ้นทุกหนทุกแห่งในตำหนักใต้ดิน ราวกับทั้งโลกถึงกาลอวสานแล้ว
พวกกู้ซีจิ่วยังว่าดี ถึงอย่างไรก็ล้วนเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ พวกเขาเหินทะยานไปเกือบถึงทิศทางที่เรือเหินอัคคีที่สร้างขึ้นเพื่อออกไปโดยเฉพาะเหล่านั้นแล้ว น่าเวทนาก็แต่ผู้คุ้มกันของตำหนักใต้ดินเหล่านั้น พวกเขาถูกพิษแล้วไม่มีทางเหาะทะยานได้ ถึงขั้นที่จะวิ่งก็วิ่งได้ไม่เร็ว ถูกลาวาทับถมจนเกิดเสียงกรีดร้องแว่วขึ้นไม่หยุด…
ในใจของกู้ซีจิ่วยังคงเป็นกังวลยิ่งนัก เกรงว่าเรือเหล่านั้นจะถูกทำลายไปแล้วเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นเกรงว่าพวกเขาล้วนต้องถูกฝังกลบไว้ในตำหนักใต้ดินแห่งนี้กันหมด!
ค่อยยังชั่วว่าพอพวกเขาหนีมาถึงสระลาวาด้านนี้ มู่เฟิ่งกับพวกกู่ฉานโม่ก็ปรี่เข้ามาหา
“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หลงฟั่นผู้นั้นที่หนีออกมาก่อนหน้านี้คิดจะมาทำลายเรือพวกนี้ทิ้ง โชคดีที่ผู้เฒ่าพบเห็นเข้าทันกาล…” กู่ฉานโม่ตะโกนมาแต่ไกล
“นายท่าน รีบขึ้นเรือเถอะขอรับ คนของพวกเราควบคุมเรือพวกนี้ไว้แล้ว!” มู่เฟิงก็รายงานอย่างเร่งด่วนเช่นกัน