Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1198

บทที่ 1198 หนักหนากว่าที่เธอจินตนาการไว้!

ต่อมาพอขึ้นมีเวลาแล้ว แต่เขาเผยวรยุทธ์ที่แท้จริงออกมา ยังคงเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจน่าเกรงขามเช่นเดิม ดังนั้นเธอจึงไม่ฉุกใจคิดถึงการจับชีพจรตรวจอาการเขาเลย

จวบจนยามนี้ ทั้งสองมีการแตะเนื้อต้องตัวกันอยู่บ่อยครั้ง ในที่สุดเธอก็สังเกตเห็นว่าอุณหภูมิร่างกายเขาผิดปกติ!

เมื่อเธอแคลงใจขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นก็ไม่อาจปิดบังเธอได้อีก และตี้ฝูอีก็ไม่คิดจะปิดบังเธอ ดังนั้นจึงปล่อยให้เธอตรวจอาการเขา

ชีพจรของเขาไม่ค่อยปกติจริงๆ เห็นได้ว่าเป็นอาการของการเสียเลือดมากเกินไป แต่ก็ดูไม่เหมือนอาการเสียเลือดมากไปเสียทั้งหมด…

เธอกางฟูกในรถม้าออก “ท่านนอนลงสิ”

ตี้ฝูอีมองฟูกจากนั้นก็มองเธอ “นี่เจ้าจะเล่นพลิกผ้าห่มกับข้าหรือ?”

เขาได้ยินกู้ซีจิ่วเอ่ยถึงคำศัพท์นี้เป็นบางครั้ง ดังนั้นจึงทราบว่าความหมายคืออะไร นำมาใช้ตามที่ได้เรียนรู้

ริมฝีปากจิ้มลิ้มของกู้ซีจิ่วเม้มแน่น “ข้าไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับท่านหรอกนะ ท่านนอนลงไปก่อน!”

ด้วยเหตุนี้ตี้ฝูอีจึงนอนลงไป ซ้ายังอ้าแขนไปทางเธอด้วย “อยากเข้ามานอนอิงแอบด้วยกันหรือไม่?”

อ้อมแขนของเขาช่างดึงดูดผู้คนเหลือเกิน เป็นตำแหน่งที่เธอโหยหามาโดยตลอด ทุกครั้งยามที่เขาโผล่มาหายังไม่ทันได้อ้าแขนออก เธอก็อยากโผเข้าใส่อย่างไม่ได้เรื่องแล้ว…

ครั้งนี้กู้ซีจิ่วโผเข้าใส่จริงๆ เพียงแต่มิใช่ไปนอนเคียงข้างเขา เป็นการฟุบลงบนอกเขา เอียงหูฟังจังหวะหัวใจเขา

ตี้ฝูอีมองศีรษะเล็กๆ ที่อยู่บนอกนั้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “ซีจิ่ว มีเรื่องหนึ่งจะปรึกษากับเจ้า…”

กู้ซีจิ่วยื่นนิ้วหนึ่งไปกดปากเขาไว้ “ชู่ เงียบก่อน!”

นางเป็นห่วงเขาถึงเพียงนี้ ในใจตี้ฝูอีอบอุ่นยิ่งนัก รู้สึกเหมือนกระแสความร้อนปั่นป่วนในใจ…ด้วยความปั่นป่วนนี้ อัตราการเต้นของหัวใจจึงเพิ่ม ขึ้นไม่น้อย

“นี่ ท่านใจเย็นลงก่อนสิ สงบจิตสงบใจแล้วหายใจเข้ ลึกๆ…”

สิ่งที่เธอต้องการฟังคือการไหลเวียนของโลหิตจึงจำเป็นต้องให้เขาอยู่ในสภาวะสงบถึงจะฟังได้

โอบร่างอรชรหอมกรุ่นไว้ในอ้อมอก นางอันเป็นที่รักฟุบอยู่ตรงทรวงอกซ้ำยังห่วงใยเขาถึงเพียงนี้ ตี้ฝูอีรู้สึกว่าถ้าไม่ให้เขาปั่นป่วนเลย นี่เป็นระดับความยากที่ค่อนข้างสูงอยู่บ้าง

โชคดีที่ปกติแล้วเขาเชี่ยวชาญการควบคุมพลังยุทธ์และลมหายใจเป็นที่สุด ดังนั้นเขาจึงหลุบตาน้อยๆ แล้วจัดการ ผ่านไปไม่กี่นาที ในที่สุดเขาก็สงบใจลงได้แล้ว

อันที่จริงเขากระจ่างแจ้งสภาวะของร่างกายตนยิ่งนัก บอกกล่าวนางสักหน่อยก็พอแล้ว แต่เขาละโมบในความห่วงใยที่นางมีต่อเขายิ่งนัก แม้ว่านางจะดุร้ายกับเขาก็ตาม…

กู้ซีจิ่วแทบจะเคล้นคลึงแขนขาของเขาจนทั่วรอบหนึ่งแล้ว ถึงขั้นที่แกะเสื้อคลุมเขาออกดูบาดแผลเหล่านั้นบนร่างเขาด้วย

ความสามารถในการฟื้นฟูของตี้ฝูอีบัดนี้ควรสร้างเนื้อใหม่ขึ้นมาเติมเต็มตั้งนานแล้วถึงขั้นที่ควรเหลือเพียงรอยแผลเป็นจางๆ เท่านั้น

แต่บาดแผลนี้ไม่ใช่ ถึงแม้เขาจะใช้ยาที่ดีที่สุดแล้ว แต่แผลนั้นก็ยังคงเปิดอ้าอย่างน่าเกลียดอยู่ มีเพียงสะเก็ดเลือดบางๆ ชั้นหนึ่งเท่านั้น…

แน่นอนว่าตอนที่เขาเพิ่งถูกปล่อยตัวในตำหนักใต้ดิน น่าจะเป็นเพราะต้องควบคุมสถานการณ์ และไม่อยากทำให้เธอเป็นกังวลด้วย บาดแผลตรงข้อมือจึงถูกเขาใช้เวทวิชาอำพรางไว้ เมื่อคนอื่นมองจะเห็นเพียงว่าตรงนั้นมีแผนเป็นจางๆ อยู่ที่นั่นสองรอยเท่านั้น

ตี้ฝูอีแข็งแกร่งยิ่งนักมาโดยตลอด แข็งแกร่งเหนือธรรมดา ดังนั้นในใจของกู้ซีจิ่วแล้ว ต่อให้เขาบาดเจ็บนั่นก็ไม่เรียกว่าเป็นปัญหา เขาสามารถฟื้นฟูได้ในไม่กี่นาที และบาดแผลที่ถูกเขาใช้เวทอำพรางปกปิดไว้ จวบจนยามนี้พอได้ตรวจร่างกายเขา พบว่าบาดแผลโชกเลือดเหล่านั้นไม่สมานตัวเลย เธอถึงรู้ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสยิ่งนักจริงๆ แล้ว!

หนักหนากว่าที่เธอจินตนาการไว้!

บางที ‘ความอ่อนแอ’ ในยามนั้นของเขาอาจไม่ใช่การเสแสร้งแต่เป็นความจริง ตรวนสลายวิญญาณพวกนั้นก็ไม่ใช่ของปลอมไม่ได้มาตรฐาน…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version