Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1270

บทที่ 1270 ล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าพันปีกันทั้งนั้น จะมาเล่นละครอันใดกันอีก?!

และเธอก็เคยคิดจะให้เจ้าหอยยักษ์ที่จับพลัดจับผลูใช้วิชาดำดินแล่นเข้ามา ใช้วิชาดำดินมุดออกไปอีกครั้งดู ดังนั้น จึงให้เจ้าหอยยักษ์ทดลองดูรอบหนึ่ง ผลคือวิชาดำดินของเจ้าหอยยักษ์เสื่อมฤทธิ์ เมื่ออยู่ที่นี่ มันมุดออกไปไม่ได้!

เจ้าหอยยักษ์ไม่ยอมแพ้ มันเปลี่ยนไปใช้วิธีดั้งเดิม คือการขุดดิน ผลคือขุดลงไปได้สิบกว่าเมตรก็มีธารนํ้าร้อนผุดขึ้นมา เกือบจะต้มเจ้าหอยยักษ์ให้สุกแล้ว!

ดังนั้นวิธีนี้จึงล้มเหลวเช่นกัน

เธอถูกขังไว้ที่นี่แล้ว อาจเป็นระยะเวลาปีสองปี หรือแปดปีสิบปี หรือไม่ก็อาจจะชั่วชีวิต

ไม่มีผู้ใดยินยอมถูกขังไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งไปตลอดกาล ถึงแม้สถานที่แห่งนั้จะเป็นเมืองลับแลที่แสนสงบสุข เมื่อทุกคนถูกขังไว้ที่นี่ ล้วนผ่านช่วงที่กระสับกระส่ายร้อนรนมาแล้ว

กู้ซีจิ่วเคยพูดคุยกับพวกเขา ทราบว่าขณะที่พวกเขาทุกคนประสบอันตรายร้ายแรงจนกึ่งเป็นกึ่งตายได้ถูกโยนเข้าที่นี่ คราแรกคนเหล่านี้ตื่นเต้นยินดีที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่หลังจากที่ตื่นเต้นยินดีอยู่สองสามวัน เนื่องจากออกไปไม่ได้จึงร้อนรนขึ้นมา จากนั้นก็ยอมรับชะตากรรมอย่างสิ้นหวังและด้านชา ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสงบ

ตอนที่กู้ซีจิ่วกำลังหาทางออกไปอยู่ คนเหล่านี้ล้วนลอบส่ายหน้าทั้งสิ้น เนื่องจากประสบการณ์เหล่านี้พวกเขาล้วนเคยผ่านมาแล้ว พวกเขารู้ว่าในไม่ช้าเธอจะต้องยอมรับชะตากรรมเช่นเดียวกัน

อันที่จริงกู้ซีจิ่วก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะสามารถฝ่าออกไปได้ทันที อย่างไรเสียผู้คนมากมายถึงเพียงนั้นก็เคยทดลองมาก่อนแล้ว

ตกดึกกู้ซีจิ่วอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอถูกขังไว้ที่นี่ระยะหนึ่งออกไปไม่ได้เลย บางทีอีกสิบปีให้หลัง เธอถึงจะออกไปได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน ผ่านไปสิบปีคงตกตะกอนความรู้สึกแล้ว ไม่แน่เธออาจจะลืมเขาได้ ปล่อยวางความรักครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อออกไปพบเห็นเขาครองคู่โบยบินกับประมุขหญิงเผ่าเงือกคนนั้นก็คงไม่ทุกข์ทรมานอีกต่อไปแล้ว ไม่แน่ว่าอาจส่งมอบคำอวยพรให้อย่างจริงใจได้

ผลลัพธ์ที่ตามมาจากคิดไปคิดมานี้คือ เธอเพิ่งได้นอนตอนใกล้รุ่งสาง

คนที่นี่ทำงานและพักผ่อนกันเป็นเวลา พอฟ้าสางก็ลุกจากเตียงแล้ว จากนั้นต่างคนต่างไปรวมตัวในสถานที่ที่กำหนดไว้เป็นพิเศษ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง

กลุ่มเก็บเกี่ยวรออยู่สักพักก็ไม่เห็นกู้ซีจิ่วมาสักที เมื่อนึกถึงว่าเธอเป็นแม่นางอรชรอ้อนแอ้นคนหนึ่ง ซํ้ายังเป็นผู้มาใหม่ อีกทั้งเมื่อวานก็สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงถึงเพียงนั้นไปแล้ว หัวหน้ากลุ่มเก็บเกี่ยวตัดสินใจกล่าวว่าปล่อยให้กู้ซีจิ่วหยุดพักหนึ่งวัน จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ออกเดินทาง ไม่มีใครรอเธอ

หัวน้ากลุ่มเก็บเกี่ยวคนนี้เป็นชายชาตรีที่เรียบง่ายซื่อตรงคนหนึ่ง กระทำเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา ไม่คิดเล็กคิดน้อย ยามกระทำเรื่องราวขอเพียงรู้สึกว่าตนทำได้ถูกต้อง ก็จะไม่เกรงกลัวต่อคำครหา ดังนั้นถึงแม้เมื่อคืนภรรยาจะทะเลาะเบาะแว้งกับเขาทั้งคืน เขาก็ไม่เก็บมาใส่ใจ และการตัดสินใจครั้งนี้ของเขา คนอื่นๆ ในกลุ่มเก็บเกี่ยวก็เห็นด้วยยิ่งนัก ถึงอย่างไรเมื่อวานก็เป็นเพราะการคงอยู่ของกู้ซีจิ่ว ถึงทำให้พวกเขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว ในใจของพวกเขา กู้ซีจิ่วสมควรจะได้พักผ่อนให้มากหน่อย แต่เป็นเพราะการตัดสินใจครั้งนี้ จึงทำให้ข่าวลือแพร่กระจายออกไปมากขึ้น

ตอนเที่ยงกู้ซีจิ่วแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วออกมา ขณะที่เดินเล่นอยู่ก็ได้ยินข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับเธอเข้าโดยบังเอิญ…

เธอเป็นคนแบบไหนกันล่ะ?

เป็นปาท่องโก๋แก่ที่ครํ่าหวอดในด้านนี้มาเนิ่นนานแล้ว จึงไม่เก็บมาใส่ใจเลย เพียงยิ้มแวบหนึ่ง

ยามที่ข่าวลือแพร่สะพัดออกไปยิ่งแก้ตัวเท่าไหร่ก็ยิ่งเปื้อนเขม่าขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องรักใคร่ๆ ของคนผู้หนึ่งกับคนผู้หนึ่งเช่นนี้ ถ้าเธออธิบายไปพวกเขาก็จะพูดว่าเธอร้อนตัวเพราะมีความผิดปกปิดไว้ จึงลุกลี้ลุกลน จะบอกว่าในเมื่อเธอบริสุทธิ์ใจแล้วจะอธิบายทำไม?

ยิ่งพูดก็ยิ่งผิด แน่นอนว่าถ้าเธอไม่อธิบายพวกเขาก็จะพูดว่าเธอยอมรับความผิดโดยปริยาย…

สถานการณ์แบบนี้เธอจะอธิบายหรือไม่อธิบายก็ผิดทั้งนั้น ดังนั้นเธอจึงยิ้มแวบหนึ่ง ในใจทราบดีว่าเป็นผู้ใดทที่ลอบเล่นเล่ห์ ล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าพันปีกันทั้งนั้น จะมาเล่นละครอันใดกันอีกเล่า?!

แผนการของเธอคือ อยู่เงียบๆ ไปก่อน แล้วค่อยหาโอกาสตอบโต้กลับอย่างดงามสักฉาก เพียงแต่เธอยังหาโอกาสนี้ไม่ทันพบ หลัวจั่นอวี่ก็มาเยือนถึงเรือนด้วยตัวเองแล้ว

———————————————————————

[1] การดื่มพิษเพื่อดับกระหาย หวังเพียงจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยไม่คำนึงถึงผลร้ายแรงที่จะตามมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version