Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1286

บทที่ 1286 ล้อเล่นอันใดกัน?

ไป๋หลี่เช่อก็ได้รับส่วนแบ่งมาสองลูก เขามองผลไม้ในมืออย่างจะหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก แม่นางน้อยคนนี้ช่างปฏิเสธผู้อื่นได้หน้าตาเฉยเช่นนี้เชียว…

“ซีจิ่ว ไป๋หลี่เช่อไม่เลวเลยนะ ฝีมือเขาสูงส่ง ประวัติครอบครัวก็ยอดเยี่ยม เป็นทายาทของตระกูลไป๋ ที่หาได้ยากยิ่งกว่านั้นคือเขาพิถีพิถันต่อความรักยิ่งนัก เมื่อก่อนไม่เคยชมชอบผู้อื่นเลย เจ้าเป็นคนแรก…”

หลัวจั่นอวี่กระซิบคุยกับเธอ

กู้ซีจิ่วดื่มจนกรึ่มๆ บ้างแล้ว จึงพูดออกไปโดยไม่กลั่นกรอง “เขาไม่เลวเลย เป็นบุรุษที่ห้าวหาญ ข้ารู้สึกว่าสามารถนับถือเขาเป็นพี่ชายได้ กำลังใคร่ครวญอยู่ว่าจะร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับเขาดีหรือไม่…”

สีหน้าหลัวจั่นอวี่ทะมึนแล้ว ยื่นมือไปทุบไหล่เธอเบาๆ หนึ่งที “เจ้ายังคิดจะรับพี่ชายเพิ่มอีกหรือ? ไม่อนุญาตให้ก่อเรื่องวุ่นวายแล้ว ข้าสิถึงจะเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเจ้า ผู้อื่นล้วนมิใช่ พี่ชายบุญธรรมก็ไม่ได้!”

ความทรงจำของเขากลับคืนมาแล้ว เป็นผลงานของกู้ซีจิ่ว

บางทีอาจเป็นเพราะเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว และเขาเองก็เติบใหญ่ขึ้นแล้ว หลังจากความทรงจำฟื้นฟูกลับมาแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่งอีกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อทราบว่ากู้ซีจิ่วเป็นน้องสาวแท้ๆ ของตน เขาถึงขั้นที่ค่อนข้างยินดีปรีดาเลยด้วยซ้ำ มิน่าเล่าตอนที่เขาพบกู้ซีจิ่วก็รู้สึกค่อนข้างสนิทสนมชิดเชื้อ ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้!

ในเมื่อทราบแล้วว่ากู้ซีจิ่วเป็นน้องสาวแท้ๆ ของตน ภายใต้สภาวะที่ผสมปนเปกันไป โหมดพิทักษ์น้องสาวของเขาก็เปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์

ในอนาคตไม่ว่าจะออกไปได้หรือไม่ เขาก็หวังให้น้องสาวมีความสุข มีแหล่งพึ่งพิงที่ดี ดังนั้นเขาจึงแนะนำชายหนุ่มที่เปี่ยมความสามารถในกลุ่มยอดฝีมือเหล่านี้อย่างตั้งใจบ้างไม่ได้ตั้งใจบ้างให้กู้ซีจิ่วอยู่บ่อยๆ ทำให้กู้ซีจิ่วปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก ค่อนข้างสำนึกเสียใจแล้วที่ฟื้นฟูความทรงจำให้เขา…

ท้ายที่สุดกู้ซีจิ่วก็ไม่กล้าดื่มจนเมามาย เธอเวียนศีรษะเล็กน้อย จึงปลีกตัวออกมาก่อน กลับไปยังเรือนของตน

ทั้งบ้านเงียบเชียบวังเวง เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าการตกแต่งภายในเรือนของเธอสดใสมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง แต่เมื่อเธอเดินซัดโซเข้ามา ความรู้สึกแรกก็คือ วังเวง เมื่อกลับถึงเรือนตนแล้วเธอย่อมไม่ต้องทนฝืนอีกต่อไป ทิ้งตัวลงบนเตียงทันที เจตนาเดิมคือจะงีบสักตื่นหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะผล็อยหลับไปเช่นนี้เลย

….

มู่เฟิงรู้สึกว่าหลายวันมานี้เป็นวันคืนที่วังคํ้านภารันทดหม่นหมองเป็นที่สุด

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ใช้อาคมโลหิตเช่นนั้นในป่าทมิฬก็ยังสืบไม่พบแม้แต่ชายชุดสักครึ่งผืนของกู้ซีจิ่วเลย ตัวคนดั่งมะเขือม่วงที่ฝ่อเพราะนํ้าค้างแข็ง ทรุดโทรมลงไปครึ่งหนึ่ง และหลังจากออกมาจากป่าทมิฬ หลังจากท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เรียกใช้องครักษ์เงาทั้งหมดแล้วก็ยังสืบหาร่องรอยของกู้ซีจิ่วไม่พบเลยสักนิด ความมั่นใจที่มีมาตลอดของเขาก็หดหายไปครึ่งหนึ่งเช่นกัน

หลายวันมานี้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยุ่งวุ่นวายยิ่งนัก เคยใช้วิชาลับสืบเสาะวิญญาณ ถึงขั้นที่ไปเยือนยมโลกด้วยตัวเองมาแล้วรอบหนึ่ง สุดท้ายยังคงคว้านํ้าเหลวเช่นเดิม

มู่เฟิงเป็นทุกข์ยิ่งนัก เนื่องจากข่าวสารที่ส่งมาจากด้านนอกล้วนเป็นเขาที่ต้องไปถ่ายทอดต่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์และข่าวคราวเหล่านี้ก็ล้วนเป็นข่าวไม่ดีที่ทำคนหมดความหวังทั้งสิ้น ทุกวันยามที่มู่เฟิงต้องเข้าไปรายงานเรื่องราวจะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเลย เนื่องจากไม่อยากเห็นแววตาที่มืดมนขึ้นเรื่อยๆ ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์…

พรุ่งนี้ก็เป็นวันวิวาห์แล้ว ในที่สุดมู่เฟิงก็ทนต่อไปไม่ไหว เอ่ยถามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ “นายท่านขอรับ พิธีแต่งงานวันพรุ่งนี้จะทำอย่างไรดี?”

ตี้ฝูอีเงียบไปเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชาเต็มๆ ในที่สุดก็เปิดปากเอ่ย “ยกเลิกเสีย”

หา?!

มู่เฟิงเบิกตากว้าง

ล้อเล่นอันใดกัน?!

ข่าวที่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะแต่งงานป่าวประกาศไปทั่วแผ่นดินแล้ว หลายวันมานี้แขกเหรื่อมากมายจากสามคีรี ห้าบรรพต[1] เข้าเมืองมาแล้ว เพียงรั้งรอให้ถึงวันพิธีแล้วค่อยมาร่วมอวยพรแสดงความยินดี และยามที่ประชาชนได้ยินข่าวนี้ก็ยินดีปรีดากันถ้วนหน้า แต่ละคนสาดนํ้าล้างถนนด้วยจิตสำนึกของตน แถมแต่ละบ้านยังแขวนโคมแดงไว้ที่ประตูใหญ่เพื่อแสดงความยินดี เพิ่มบรรยากาศคึกคักรื่นเริงให้แก่งานวิวาห์ครั้งนี้

———————————————————————

[1] สามคีรี ห้าบรรพต

สามคีรี ได้แก่ จิ่งซาน หมิงซาน ตู๋ซาน

ห้าบรรพตได้แก่ ไท้ซาน หวาซาน หัวซาน เหิงซาน ซงซาน

ทั้งหมดเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เลื่องชื่อของชาวจีน ในบริบทนี้อุปมาถึงดินแดนสำคัญต่างๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version