Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1298

บทที่ 1298 เขาทุบสัตว์ร้ายจนปางตายน่าจะไว้ใจได้มากกว่า!

“ใช่แล้วๆ นายท่าน เรื่องนี้ต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนนะขอรับ! ข้าน้อยรู้ว่านายท่านมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อแม่นางกู้ แต่เรื่องนี้ใหญ่หลวงเกินไป ข้า น้อยคิดว่าไม่คุ้มค่าให้นายท่านไปเสี่ยงอันตรายมากขนาดนี้ นายท่านขอรับ ท่านเป็นเทพของโลกใบนี้ หากพลาดท่าออกมาจากที่นั่นไม่ได้ตลอดไป เช่นนั้น…” มู่อวิ๋น ยอมรับความเสี่ยงที่จะถูกท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ลงทัณฑ์และกล่าวความเห็นของตนออกมา

“ครานี้ที่เปิ่นจุนจะเข้าไปด้านในมิใช่เพื่อนางเสียทั้งหมด” ตี้ฝูอีเอ่ยอย่างเยือกเย็น “สัตว์ร้ายที่ดุร้ายที่สุดของโลกใบนี้ถูกผนึกไว้ในยอดเขาที่แปด ตาค่ายกลนั้นเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาผนึก ในอดีตคนเหล่านั้น เมื่อก่อนคนเหล่ากระทำเรื่องยิ่งใหญ่พลิกฟ้าอันใดไม่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อมีซีจิ่วเข้า ไปก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว นางเป็นตัวแปรอย่างหนึ่ง หากว่านางเป็นแกนนำคนเหล่านั้นไปทำลายเขตแดนของแปดยอดเขาเข้าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สัตว์ร้ายจะหวนสู่โลกา ใต้หล้าจะตกอยู่ในหายนะ เปิ่นจุนต้องเข้าไปควบคุมในตอนที่พวกเขายังไม่ได้ก่อความผิดพลาดขึ้น นี่ถึงจะเป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบ”

“เช่นนั้นข้าน้อยจะเข้าไปเองขอรับ!” มู่เฟิงเสนอตัว “หลังจากเข้าไปแล้ว ข้าน้อยจะอธิบายทุกอย่างแก่แม่นางกู้ให้กระจ่าง”

ตี้ฝูอีเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เปิ่นจุนตัดสินใจไปแล้ว อย่าได้คัดค้านอีก!”

สี่ทูตเงียบงัน

นายท่าน ความจริงแล้วท่านหาข้ออ้างที่ยิ่งใหญ่มาเพื่อไปเสี่ยงภัยตามตื้อนางในดวงใจใช่หรือไม่?!

….

ณ ยอดเขาที่เจ็ดของป่าทมิฬ

สี่ทูตยืนอกสั่นขวัญแขวนมองผู้เป็นนายผนึกพลังยุทธ์ทั้งหมดแล้วเดินเข้าสู่ส่วนลึกของป่าทมิฬจากที่ไกลๆ ด้านในมีเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและเสียงบดฟันของสัตว์ร้ายที่ทำให้คนรู้สึกเสียวฟันแว่วออกมา

ต้นถันภังคีที่ตาค่ายกลของยอดเขาที่แปดเป็นต้นไม้ประหลาดชนิดหนึ่ง รากของมันแผ่นขยายออกไปทุกทิศทาง รํ่าลือกันว่าลึกลงไปใต้ดิน มัน ได้แพร่ขยายไปทั่วป่าทมิฬแล้ว มันมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักอยู่อย่างหนึ่ง สามารถจับสัมผัสสถานการณ์ของผู้ที่บุกรุกเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากผู้บุกรุกประสบเหตุการณ์ต่อสู้นองเลือด ในยามที่ใกล้จะสิ้นชีพ รากของมันจะดูดคนเข้าสู่ตาค่ายของยอดเขาที่แปด แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยผู้บุกรุกทุกคน จะต้องเป็นผู้ที่มันเห็นว่าคู่ควรพอจะได้รับความช่วยเหลือเท่านั้น แน่นอนว่าหากผูบุ้กรุกคนนั้นดวงไม่ดีถูกสัตว์ร้ายเขมือบทันที มันก็จะไม่ช่วยเหลือเช่นกัน

หลายปีมานี้ไม่ทราบเช่นกันว่าผู้ที่อ้างตนว่าเป็นสานุศิษย์สวรรค์แล้วถูกท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโยนเข้าป่าทมิฬแห่งนี้มีมากน้อยเพียงใดแล้ว แต่ผู้ที่ถูกช่วยชีวิตไว้มีอัตราประมาณหนึ่งในสิบเท่านั้น การช่วยคนของมันยังมีเงื่อนไขที่โหดเหี้ยมข้อหนึ่งด้วย นั่นก็คือ พลังวิญญาณของผู้ที่ถูกช่วยต้องไม่ถึงขั้นแปด ดีที่สุดคือเหนือกว่าขั้นหกตํ่ากว่าขั้นแปด เป็นระดับขั้นที่มันชมชอบช่วยเหลือที่สุด ถ้าระดับตํ่าต้อยเกินไปมันจะรู้สึกว่าไม่คู่ควรให้ช่วยเหลือ ถ้าระดับสูงเกินไป…พลังวิญญาณสูงส่งถึงเพียงนี้ยังประสบเภทภัยจนปางตายได้อีก เช่นนั้นก็ไร้ความสามารถเกินไปแล้ว!

ไม่ช่วย!

ตี้ฝูอีเพื่อเพิ่มอัตราในการถูกช่วยเหลือ ดังนั้นเขาจึงถอดถอนพลังวิญญาณออกไปมากกว่าครึ่ง ทำให้ดูเหมือนมีพลังวิญญาณขั้นหก จากนั้นเขาก็เหินพลิ้วเข้าไป…

สี่เทวทูตเป็นกังวลยิ่งนักอดไม่ได้ที่จะซุ่มอยู่สี่มุมจับตามองอยู่จากที่ไกลๆ ในใจได้ตัดสินใจไว้แล้วทันทีที่นายท่านประสบอันตรายร้ายแรง พวกเขาจะพุ่งเข้าไปช่วยคนอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!

ไม่อาจปล่อยให้นายท่านถูกสัตว์ร้ายอันใดเขมือบได้เด็ดขาด!

สัตว์บนยอดเขาที่เจ็ดคือสัตว์ร้ายขั้นเจ็ด ดุร้ายอย่างยิ่ง ว่ากันไปแล้วพลังวิญญาณของตี้ฝูอีในยามนี้เพียงขั้นหกนิดๆ น่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน

แต่ตอนนี้ถึงแม้พลังวิญญาณของตี้ฝูอีจะตํ่า แต่ประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับศัตรูกลับโชกโชนนัก หลังจากเขาเข้าสู่ยอดเขาที่เจ็ด ได้พบสัตว์ ร้ายขั้นเจ็ดสามตัวรุมโจมตีในสถานที่แห่งหนึ่ง ผลคือสัตว์ร้ายระดับเจ็ดทั้งสามตัวถูกเขาพลั้งมือสังหารไป แม้แต่เสื้อคลุมของเขาก็ไม่ฉีกขาดเลยสักมุม!

สี่ทูตจับตาดูอยู่รอบๆ ครู่หนึ่ง ส่ายหัวกันอย่างพร้อมเพรียง นายท่านคิดจะบาดเจ็บปางตายที่นี่เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือ ดูเหมือนจะไม่ง่ายเสีย แล้ว…

เขาทุบสัตว์ร้ายจนปางตายน่าจะไว้ใจได้มากกว่า!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version