Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1307

บทที่ 1307 ปฏิเสธโทษสถานหนัก สารภาพโทษสถานเบา

หลัวจั่นอวี่นิ่งงัน เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรพูดอะไรดี เจ้าหอยยักษ์ที่เลือกปฏิบัติตัวนั้น!

เมื่อสักครู่เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันนำทางไปหากู้ซีจิ่ว มันไม่เพียงไม่ยอม แถมยังทำหน้าเหลืออด เขาพูดไม่กี่ประโยคก็จะเอาเปลือกหอยมาหนีบให้ได้ ทำวางท่าว่าตนยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า ยามนี้ตี้ฝูอีสั่งเพียงไม่กี่คำ มันวิ่งพรวดพราดยิ่งกว่าสายลม!

อีกทั้งยังวิ่งอย่างมั่นคงยิ่งตามคำสั่งของตี้ฝูอี เขาไม่เคยเห็นเจ้าหอยยักษ์วิ่งอย่างมั่นคงขนาดนี้มาก่อน!

ฝูงชนมองหน้ากันเหลอหลา ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ

หลัวจั่นอวี่สูดลมหายใจเข้าเบาๆ “ข้าได้ยินมาว่าทูตสวรรค์ฝ่าซ้ายยึดมั่นในคำสัญญา เมื่อเขาสัญญาว่าจะไม่ถือสาหาความเรื่องวันนี้ ก็จะไม่เอาความทุกคนอีก ในเมื่อเขาเข้ามาแล้ว บางทีอาจมีวิธีพาทุกคนออกไปจากที่นี่จริงๆ”

ฝูงชนต่างเห็นพ้อง หลัวจั่นอวี่ยังไม่วางใจ “ข้าจะไปดูสักหน่อย”

แล้วก็ไล่ตามไปด้วย

……

เจ้าหอยยักษ์รู้สึกขมขื่นอยู่บ้าง ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีคราบเลือดทั่วทั้งกาย บาดเจ็บสาหัส ต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วน เลือดบนร่างของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหอมหวนยิ่งนัก!

หอมยิ่งกว่าเนื้อพระถังซัมจั๋งที่เจ้านายเคยพูดถึงอีก!

หากเขาไม่ได้นั่งอยู่ในเปลือกของมัน ห่างไกลจากมันไปสักเล็กน้อย มันคงยังทนไหว ยังทำเป็นเหมือนไม่ได้กลิ่นได้ แต่ตอนนี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอยู่บนริมฝีปากมัน…

ความรู้สึกนั้นราวกับเด็กน้อยจอมตะกละรักการกินของหวานคนหนึ่งที่คอยปกป้องช็อกกโกแลตชิ้นใหญ่อันหอมหวาน ชวนให้นํ้าลายสอ

น่าแปลก เหตุใดเลือดของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถึงได้หอมหวานน่ากินเพียงนี้?

มันไม่เคยลิ้มรสโลหิตที่ทำให้ต่อมรับรสของมันพลุ่งพล่านได้ขนาดนี้จากผู้อื่นมาก่อน…

แน่นอน มันไม่มีความกล้ามากพอจะกลืนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายลงไป!

ทำได้เพียงแค่เลียริมฝีปากอยู่เงียบๆ และยังเลียคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้าของเขาคำแล้วคำเล่า เพื่อสนองความต้องการ…

โดยปกติไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ใกล้ชิดกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้ และยากนักที่เจ้าหอยยักษ์จะได้ใกล้ชิดตัวเขา ยามนี้เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ได้เข้าใกล้ขนาดนี้ หัวใจดวงน้อยของเจ้าหอยยักษ์เต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ ไม่ใช่กระสับกระส่ายด้วยความรักใคร่ หากแต่กลัวทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะรู้ว่ามันมีความคิดอยากกินเลือดเนื้อของเขา…

เห็นได้ชัดว่าเจ้าหอยยักษ์คิดมากไปแล้ว หลังจากที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเข้ามาในเปลือกหอยก็เริ่มนั่งสมาธิ ถึงขั้นไม่สนใจเจรจาพาทีกับมัน

ตอนที่กู้ซีจิ่วพามันทั้งสามตัวออกมา ไม่ได้พูดกับพวกมันว่าตัวเองกำลังหนีการแต่งงาน เพียงบอกว่าจะไปเก็บสมุนไพร ต่อมาพวกเขาถูกขังไว้ที่นี่ เจ้าหอยยักษ์รู้สึกมาตลอดว่าปัญหานี้ตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมา จึงทำตัวเป็นลูกไล่คอยเอาอกเอาใจและเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้ซีจิ่ว ไม่กล้าถามเรื่องตี้ฝูอีแม้แต่น้อย…

ตอนนี้มันแบกตี้ฝูอีไว้ในเปลือกหอย ในใจยังคงกระวนกระวายไม่น้อย มันรู้สึกว่าตัวเองทำให้เจ้านายต้องถูกขังอยู่ในนี้ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายต้องรอคอยอยู่ด้านนอกเนิ่นนานนัก จึงหาวิธีเข้ามาตามหาภรรยา

เจ้านายไม่ได้ทำให้มันต้องอับอาย ไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงที่มันก่อเรื่องในครั้งนี้ ทว่าหากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายรู้เข้า ไม่แน่เขาอาจจะกะเทาะเปลือกหอยของมันด้วยความโกรธก็เป็นได้!

แต่มันก็ไม่อาจโป้ปด เพราะหากเจ้านายกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเจอหน้ากัน อาจบอกเล่าเรื่องราวกันอย่างชัดเจน ถึงเวลานั้นไม่แน่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอาจจะเอาความมันได้!

เจ้านายเคยพูดไว้ว่าอะไรนะ?

ปฏิเสธโทษสถานหนัก สารภาพโทษสถานเบา หากยอมรับความผิดโทษหนักอาจกลายเป็นเบา…

ดังนั้นเจ้าหอยยักษ์จึงเริ่มสารภาพผิดอย่างระมัดระวัง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ครั้งนี้ข้าไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากฝนตกหนักเกินไป ฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง ข้ากลัวฟ้าผ่าเป็นที่สุด จึงใช้วิชาดำดินที่ท่านเคยสอนมุดดำดินลงมา หวังหลบพายุฝนฟ้าคะนองให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยออกมา โดยที่ข้าไม่ทันได้คิดว่าจะหลงทาง ส่วนเจ้านายกับลู่อู๋น้อยก็เมามาย ข้าจึงทำได้เพียงดำดินสุดชีวิต ไม่ทันได้ระวังก็มุดมาถึงที่นี่แล้ว…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version