บทที่ 858 ดูเหมือนเธอจะถูกเขาพูดจี้ใจเข้าแล้ว!
เธอได้กลิ่นโอสถที่อยู่ในโพรงปากของเขาอย่างชัดเจน รับรู้ถึงริมฝีปากร้อนๆ ของเขาได้แจ่มชัด ริมฝีปากเขาร้อนกว่าริมฝีปากของเธอมากนัก และแข็งกว่าริมฝีปากเธอเล็กน้อย ริมฝีปากของบุรุษถึงจะนุ่มอย่างไรก็คงไม่นิ่มไปกว่าริมฝีปากของสตรี…
ร่างกายเธอแข็งทื่อ ฝืนข่มความปรารถนาจะหลบหนีเอาไว้ สัมผัสรสจูบของเขา…
ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว เป่ารดใบหน้าเธอทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
ไม่ถูกแล้ว!
ไม่รู้สึกใจเต้นตุบตับ ไม่รู้สึกมึนงงวิงเวียน ถึงขั้นที่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าอันที่จริงริมฝีปากของเขาค่อนข้างแห้งผาก บดเบียดอย่างลุกลี้ลุกลนอยู่บ้าง ริมฝีปากเสียดสีกันเพียงสองวินาทีเท่านั้น ทว่ากู้ซีจิ่วกลับทนไม่ไหวอีกต่อไป เงยหน้าขึ้นทันที ผลักหลงซือเย่ออกไปในทันใด!
จากนั้นก็ใช้วิชาเคลื่อนย้าย ไปปรากฏอยู่ด้านนอกกระโจม!
“ซีจิ่ว…” หลงซือเย่ใจจมดิ่งลงทันที ตามออกมา
กู้ซีจิ่วว้าวุ่นใจ “เจ้าสำนักหลง ขออภัยด้วย!”
จากนั้นก็เคลื่อนย้ายจากไป แม้แต่ดอกไม้ก็ไม่เก็บแล้ว
หลงซือเย่ทึ่มทื่อไปแล้ว ยืนอยู่ที่เดิม สายลมพัดต้องบุปผารอบข้างจนเกิดเสียงดังซวบซาบ ฟ้าสางแล้วและดอกไม้ที่งดงามจนน่าเหลือเชื่อเหล่านี้ก็ร่วงโรยแล้ว…
หรือความรักของเขาจะเป็นเฉกเช่นดอกเหมยบุหลันนี้ เบ่งบานได้เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น?
นิ้วมือเขาเย็นเฉียบ ทั้งร่างคล้ายว่าอีกก้าวเดียวก็จะร่วงหล่นสู่หุบเหวลึก ความสิ้นหวังถาโถมสู่หัวใจทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่น
….
ยามที่กู้ซีจิ่วกลับถึงที่พักตนก็ใกล้รุ่งแล้ว ณ เส้นขอบฟ้าแสงอุษาค่อยๆ ทาบทาขึ้นมา เผยให้เห็นลำแสงกระจ่างสายหนึ่ง
หัวใจเธอเต้นโครมคราม มือเท้าเย็นเฉียบ เดิมทีคิดจะนอนงีบสักหน่อย แต่ในทรวงดั่งมีกระแสธารโหมซัดสาด ทำให้เธอหลับไม่ลง
เธอลุกขึ้นนั่งทันที ใช้น้ำเย็นล้างหน้าสักหน่อย และถือโอกาสทำให้สมองที่คุกรุ่นแจ่มใสขึ้นมา
จากนั้นก็นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงแล้วเริ่มใช้ความคิด
นำความคิดในสมองที่คล้ายจะสับสนว้าวุ่นมาจัดระเบียบก่อน จากนั้นเธอก็พบกับความสิ้นหวัง ความรู้สึกที่เธอมีต่อตี้ฝูอีและมีต่อหลงซือเย่แตกต่างกันมากจริงๆ!
เธอพบเขาแล้วใจเต้นแรง ยามที่เขาจูบเธอหัวใจเธอว้าวุ่นยิ่งนัก เลือดลมพลุ่งพล่าน สมองว่างเปล่าขาวโพลนได้ง่ายๆ…
อาการเหล่านี้คล้ายบทบรรยายยามชายหญิงอยู่ด้วยกันที่นักเขียนนิยายรักหวานแหววเขียนเอาไว้ เมื่อก่อนเธอคิดอยู่เสมอว่าอาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักเขียนพวกนั้นปั้นแต่งขึ้น เป็นเรื่องหลอกลวงคน แต่เธอกลับพบว่าเป็นความจริง!
แต่ยามที่อยู่กับหลงซือเย่ เธอมีสติมากชอบวิเคราะห์เปรียบเทียบยามที่อยู่กับเขา ดูเหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าเขาเธอจะไม่เคยแง่งอนฉอเลาะเลย ส่วนมากจะเห็นว่าเขาเป็นคู่หูที่สามารถเชื่อใจได้สามารถพึ่งพาได้สามารถสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันได้…
ตอนที่หลงซือเย่จูบเธอ เธอยังมีแก่ใจมารับรู้ถึงความร้อนจากริมฝีปากผู้อื่น ความอ่อนความแข็งของริมฝีปาก ถึงขั้นที่ว่าเธอไม่รู้สึกใจเต้นแรงเลยด้วยซํ้า!
‘ซีจิ่ว เจ้าเข้าใจความรู้สึกที่มีต่อหลงซือเย่ผิดไปหรือเปล่า? เจ้าแน่ใจหรือว่ามิได้ชอบเขาแบบพี่ชาย?‘ นี่คือคำถามที่ตี้ฝูอีถามเธอในตอนนั้น ยามนั้นเธอไม่กล้ายืนยันจริง ๆ และรู้สึกพาลโกรธจริงๆ…
ยามนี้กลับดูคล้ายวาจาเตือนสติ ดูเหมือนเธอจะถูกเขาพูดจี้ใจเข้าแล้ว!
หรือว่าตนจะชอบตี้ฝูอีเข้าจริงๆ แล้ว
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา หัวใจเธอก็ตีบตันปานจมนํ้า!
ความรู้สึกนั้นเสมือนตนเดินอยู่ในสวนดอกไม้ที่มีทุ่งหญ้าเหยียดยาววิหคโผบิน จู่ๆ กลับพบว่าใต้ฝ่าเท้าคือบึงโคลนที่ดูดกลืนมนุษย์ได้ หัวใจที่สงบเยือกเย็นมาลอดพลันร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง!
คนผู้นี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยมั่นคง ยามอบอุ่นก็อ่อนโยนปานสายนํ้า แต่ยามเกรี้ยวกราดขึ้นมาก็ทำให้เธอตกใจยิ่งนัก!
เธอคิดว่ามาตลอดว่าตัวเองชอบปากอ่าวที่เงียบสงบ…