Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 898

บทที่ 898 ถูกเชือดเหมือนแกะอ้วนเสียแล้ว…

หรือว่าหลานไว่หูเห็นตี้ฝูอีอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกกดดัน จึงหนีไปเสียดื้อๆ?

“เอาล่ะ ซีจิ่ว กินตอนที่ยังร้อนๆ อยู่เถอะ อาหารพวกนี้ต้องกินตอนที่ร้อนๆ ถึงจะอร่อย” ตี้ฝูอี คีบผัก ก้านหนึ่งใส่จานเธอ

“รอเชียนหลิงอวี่อีกหน่อยเถอะ”

ถึงอย่างไรเชียนหลิงอวี่ก็เป็นเจ้ามือ ถ้าไม่รอจะไม่ดี

เพียงแต่กู้ซีจิ่วกล่าวประโยคนี้ยังไม่จบก็ชะงักไป ที่ช่องจ่ายงินตรงนั้นไม่มีเงาของเชียนหลิงอวี่แล้ว เขาก็หนีไปด้วยหรือ?

‘ท่านเล่นลูกไม้อันใด?’ กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะส่งกระแสเสียงหาตี้ฝูอี

ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว ‘ข้านั่งอยู่ตรงนี้ตลอดมิใช่หรือ? จะเล่นลูกไม้อันใดได้?’

‘เช่นนั้นเหตุใดเชียนหลิงอวี่ถึงจากไปเงียบๆ ด้วย?’

‘อ่อ เขาคงจะจ่ายไม่ไหว จึงหนีหนี้ไป’ ตี้ฝูอีตอบอย่างสบายๆ

เป็นไปไม่ได้กระมัง?

เชียนหลิงอวี่ไม่ใช่เด็กประเภทที่กินแล้วชักดาบเสียหน่อย อีกอย่างเธอก็ทราบเช่นกันว่าในกระเป๋าของเชียนหลิงอวี่มีเงินอยู่เท่าไหร่ อย่างไรเสียยามที่เธอไปขายยาที่ตลาดผี เชียนหลิงอวี่ก็ไปเป็นลูกมือให้เธอตลอด ทุกครั้งล้วนได้ส่วนแบ่งหนึ่งร้อยแปดสิบหินวิญญาณ ถึงแม้เจ้าเด็กนั้นจะเป็นพวกใช้เงินเดือนชนเดือน แต่ระยะนี้ดูเหมือนจะบริหารเงินเป็นแล้ว อย่างน้อยก็สะสมหินวิญญาณได้ราวๆ พันกว่าก้อน

ทันใดนั้นกู้ซีจิ่วรู้สึกสะกิดใจขึ้นมาทันที มองดูอาหารบนโต๊ะ ‘อาหารพวกนี้… ราคาเท่าไหร่?’

‘ไม่แพงหรอก เพราะข้าเตรียมวัตถุดิบมาเอง พวกเขาคิดแค่ค่าเก็บกวาดปรุงอาหารเท่านั้น น่าจะเป็นหินวิญญาณห้ พันกว่าก้อนกระมัง’

กู้ซีจิ่วตกตะลึง

สามมุมมองของเธอพังทลายแล้ว!

ครั้งก่อนเยี่ยนเฉินเป็นเจ้ามือ เธอพาเจ้าหอยยักษ์มาด้วย สั่งอาหารจานเด็ดของที่นี่มาชุดใหญ่ รวมๆ แล้วหลายสิบจาน ทั้งหมดคิดเป็นหินวิญญาณสองพันกว่าก้อนเท่านั้น ครั้งนั้นเยี่ยนเฉินมองเธอประหนึ่งมองโจร เมื่อนำครั้งนั้นมาเทียบกับครั้งนี้แล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ตี้ฝูอีเล่นงานเชียนหลิงอวี่ยกนี้ เพียงพอจะให้เชียนหลิงอวี่จดจำไปชั่วชีวิตแล้ว คาดว่าสถานที่ที่มีทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอยู่ เชียนหลิงอวี่คงไม่กล้าโผล่มาอีก…

เชียนหลิงอวี่ที่น่าสงสาร เพิ่งถือเงินก้อนโตเป็นครั้งแรก ก็ถูกเชือดเหมือนแกะอ้วนเสียแล้ว…

‘เมื่อกี้ท่านส่งกระแสเสียงอันใดหาเขากระมัง? มิเช่นนั้นต่อให้เขาจ่ายไม่ไหวก็คงไม่หนีไปหรอก อีกอย่างเจ้าหน้าที่บัญชีของที่นี่ก็คงไม่ปล่อยให้เขาหนีไปเช่นกัน …’

ตี้ฝูอีเอ่ยชมเธอ ‘เจ้าฉลาดมาก เมื่อกี้ข้าส่งกระแสเสียงยื่นทางเลือกให้เขาสองทาง หนึ่งคือให้เขาจำนองตัวทำงานใช้หนี้ที่โรงอาหารเป็นเวลาห้าปี สองคือให้เขาไปซะ เดี๋ยวข้าจะจ่ายเอง เงื่อนไขคือต่อไปยามที่ข้ากับเจ้ากินข้าวด้วยกัน เขาอย่าได้มาร่วมวง เจ้าเด็กนี้ไม่พูดพรํ่าทำเพลงอะไรเลือกข้อสอง วิ่งหนีไปทันที! ซีจิ่ว แค่หินวิญญาณห้าพันก้อนก็ทำให้เขาขายเจ้าเสียแล้ว …จุ๊ๆ ดูเหมือนเจ้าเด็กนี้ก็ไม่ได้จริงใจสักเท่าไหร่นะ’

กู้ซีจิ่วหมดคำบรรยาย ‘ท่านยุแยงให้น้อยหน่อยเถอะ หลิงอวี่ไม่ใช่คนเช่นนั้น แค่ไม่ได้กินข้าวด้วยกันเท่านั้น ไม่ใช่ตัดขาดกันเสียหน่อย หากข้าเป็นเขา ข้าก็จะเลือกเช่นนี้เหมือนกัน’

เงื่อนไขที่ง่ายดายถึงเพียงนี้เธอเชื่อว่าคนทั่วไปล้วนต้องเลือกข้อที่สองกันทั้งนั้น

ขณะที่เธอกำลังหยิบตะเกียบเริ่มขยับ เงาร่างคนก็พุ่งปราดมาจากด้านนอก เชียนหลิงอวี่พุ่งเข้ามาปานพายุหมุน โยนถุงใหญ่ใบหนึ่งลงเบื้องหน้าเจ้าหน้าที่บัญชีทันที “หินวิญญาณห้าพันก้อนอยู่นี่แล้ว! เจ้านับสิ!”

ปากถุงอ้าออก หินวิญญาณกองหนึ่งกองพะเนินเต็มโต๊ะ…

….

กู้ซีจิ่วมองเชียนหลิงอวี่ที่นั่งอยู่ข้างกายตนอย่างห้าวหาญ ปวดใจแทนเขายิ่งนัก “เจ้าไปเอาหินวิญญาณมากขนาดนี้มาจากไหน?”

เชียนหลิงอวี่ไม่ตอบ เชิดหน้าขึ้นมองตี้ฝูอีอย่างข่มๆ แวบหนึ่ง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ตอนนี้หลิงอวี่ชำระเงินหมดแล้ว ต่อไปสามารถมากินข้าวกับซีจิ่วได้แล้วกระมัง?”

ตี้ฝูอีมองเจ้าเด็กหัวรั้นคนนี้แวบหนึ่ง ยิ้มน้อยๆ “เงื่อนไขของข้าคือถ้าเจ้าจ่ายไม่ไหวภายหน้าห้ามมารบกวนเวลาข้ากับซีจิ่วกินข้าวด้วยกัน ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจ่ายเงินแล้ว จะรบกวนอย่างไรก็ได้ เข้าใจหรือไม่?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version