Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 900

บทที่ 900 เจ้าไม่อยากจริงๆ หรือ

แต่งงาน?!

ตี้ฝูอีมองแววตาตกตะลึงของนาง มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “ตกใจหรือ?”

หัวใจกู้ซีจิ่วเต้นรัวยิ่งนัก นี่จะเร็วเกินไปแล้ว!

เป็นการขอแต่งงานสายฟ้าแลบที่ยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ!

เมื่อคืนเพิ่งจะปรับความเข้าใจกัน วันนี้เริ่มหารือเรื่องวิวาห์แล้วหรือ?

ต่อให้เป็นการแต่งงานสายฟ้าแลบในยุคปัจจุบันก็ไม่เร็วขนาดนี้!

เธอเอ่ยไปตามสัญชาตญาณ “ข้าเพิ่งสิบห้า…”

“สิบห้าปักปิ่นแล้ว สำหรับผู้บำเพ็ญพลังวิญญาณบรรลุขั้นสี่ก็สามารถแต่งานได้แล้ว ตามเงื่อนไขเจ้าสามารถแต่งงานได้แล้ว” ตี้ฝูอีมองนางยิ้มๆ “เจ้าไม่ยอมตกลงเป็นเพราะยังไม่มั่นใจในตัวข้าใช่ไหม?”

นํ้าเสียงเขาอ่อนโยน แต่สำเนียงกลับหนักแน่นมั่นคง เขาเป็นคนทำอะไรแน่วแน่ไม่ลังเลมาโดยตลอด ในเมื่อทราบความรู้สึกตนแน่ชัดแล้ว เขาก็คิดจะรั้งอีกฝ่ายไว้ข้างกายอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ไม่คิดรั้งรออีกต่อไป โดยเฉพาะหลังจากผ่านเหตุกรณ์เมื่อคืนมาแล้วเขาพบว่าความคิดที่ต้องการครอบครองนางท่วมท้นยิ่งนัก ความปรารถนานั้นแทบจะเผาผลาญเขา ทำให้เขานอนไม่หลับทั้งคืนเช่นกัน

เขานำดัชนีต่างๆ ในร่างนางมาคำนวณดูรอบหนึ่ง นางสามารถมีความสัมพันธ์แนบแน่นถึงที่สุดกับเขาได้ พูดอีกอย่างคือสามารถบำเพ็ญร่วมคู่กับเขาได้!

ต่อให้เขาครอบครองนางก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อนาง ไม่แน่วิชาบำเพ็ญร่วมคู่อาจทำให้พลังยุทธ์ของนางเพิ่มขึ้นอีกขั้น เขาไม่ต้องการเป็นคนที่ ไม่มีฐานะพันธะอันใดก็ครอบครองนางเสียแล้ว เขาต้องการให้นางเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของตน เช่นนั้นเขาก็สามารถทำกับนางตามความปรารถนาได้แล้ว…

กู้ซีจิ่วไหนเลยจะคาดถึงว่าเขาคิดไปไกลถึงเพียงนี้แล้ว?

สัญชาตญาณเธอรู้สึกว่าไม่เหมาะสม ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคนหัวสมัยใหม่

มารดามันเถอะ อายุสิบห้ายังเป็นเด็กอยู่นะ!

หากเป็นยุคปัจจุบัน มีความสัมพันธ์กับเด็กอายุสิบห้า ไม่ว่าเด็กหญิงจะสมัครใจหรือไม่ล้วนถือว่าเป็นการข่มกระทำชำเราทั้งสิ้น…สามารถดำเนินคดีได้!

อีกอย่างการขอแต่งงานหนนี้ของเขารวดเร็วเกินไปหน่อยจริงๆ!

เร็วกว่าจรวดเสียอีก!

กู้ซีจิ่วค่อนข้างรับไม่ทัน เธอสูดหายใจนิดๆ ไตร่ตรองคำพูดออกมา “มิใช่ข้าไม่มั่นใจในตัวท่าน แต่ท่านทำเช่นนี้เร็วเกินไปแล้ว! ข้ายังไม่ได้ขบคิด

ตระเตรียม อีกอย่างข้ายังต้องเล่าเรียนที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์อยู่นะ ท่านก็รู้นี่ ระหว่างที่เล่าเรียนไม่อนุญาตให้แต่งงาน ข้าไม่อยากแหกกฎ…”

แววตาตี้ฝูอีสลัวลงนิดๆ มองดูเธอ “กฎของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เจ้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ขอเพียงเจ้าตกลงแต่งกับข้า ข้าย่อมมีวิธี ไม่ปล่อยให้เจ้าละเมิดกฎแน่นอน ส่วนที่ว่าเร็วเกินไป…อันที่จริงก็ไม่นับว่าเร็ว เจ้ากับข้ารู้จักกันเกือบหนึ่งปีแล้ว ต่อให้ตระเตรียมเรื่องวิวาห์ในยามนี้ก็ไม่ดูฉุกละหุกเกินไป เว้นแต่เจ้าไม่อยากออกเรือนกับข้าในยามนี้จริงๆ เจ้าไม่อยากจริงๆ หรือ?”

เส้นเลือดบนหน้าผากกู้ซีจิ่วเต้นตุ้บๆ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ขอเธอแต่งงานอยู่กระมัง วิธีขอแต่งงานเช่นนี้ของเขาช่างแปลกประหลาดโดยแท้ เหมือนกับเขาบังคับให้เธอแต่งด้วย….

กู้ซีจิ่วไม่อยากเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ตลอดเช่นนี้ เธอโบกมือไปมา กล่าวอย่างจริงจังยิ่ง “ไม่อยาก”

ตี้ฝูอีไม่พูดอะไรอีก…

….

สุดท้ายกู้ซีจิ่วก็ไม่ได้ย้ายห้อง ตอนแรกเธอย้ายห้องเพื่อหลีกหนีตี้ฝูอี แต่ตอนนี้เธอคืนดีกับเขาแล้ว ถ้าย้ายห้องอีกจะดูทำเกินเหตุไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นคือตี้ฝูอีก็เคยพูดกับเธอไว้เช่นกันว่าถึงเธอย้ายห้องไปเขาก็ตามไปเปิดสอนวิชาหรือไม่ก็หาทางไปสอนเสริมให้เธอ…

ถ้าเป็นเช่นนี้การย้ายห้องของเธอจะกลายเป็นการหลีกหนีเชียนหลิงอวี่แทน…

เป็นครั้งแรกที่เชียนหลิงอวี่ก็ขบคิดเรื่องนี้เหมือนกัน ดังนั้นหลังเลิกเรียนวันนั้น เชียนหลิงอวี่ก็วิ่งมาหาเธออย่างร้อนรนใจหารือกับเรื่องว่าไม่จำเป็นต้องย้ายห้องแล้ว จิ้งจอกน้อยก็ไม่อยากแยกกับเชียนหลิงอวี่เช่นกันจึงสนับสนุนด้วย

กู้ซีจิ่วใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน แล้วพาหลานไว่หูกับเชียนหลิงอวี่ไปหากู่ฉานโม่ด้วยกัน…

กู่ฉานโม่เป็นผู้ที่ข่าวสารฉับไวคนหนึ่ง เรื่องที่กู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีไปกินข้าวด้วยกันตอนเช้า เขาก็ได้ยินข่าวนานแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version