บทที่ 984 หัวใจของนางยังเหี้ยมโหดไม่พอ
เดิมทีเขานอนพิงอยู่บนกิ่งไม้ ยามนี้ขยับเขยื้อนอยู่ครู่หนึ่งหมายจะลุกขึ้น ทว่าค่อนข้างกินแรง กู้ซีจิ่วจึงรีบยื่นมือไปพยุงประคองเขาให้นั่งดีๆ แล้ว ให้เขากินยาเข้าไป
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บภายในบนร่างเขานับว่ารักษาได้ไม่ยาก แต่การกลับเป็นเด็กนั้น…เธอไม่มีหนทางรักษาเลยจริงๆ
“สถานการณ์เช่นนี้ของเจ้า…เมื่อก่อนเคยเกิดขึ้นหรือไม่?” กู้ซีจิ่วตัดสินใจสอบถามดูก่อน
ตี้ฝูอีหลุบแพขนตาลง “เคย…เคยเกิดขึ้น…”
หรือจะเป็นโรคแฝงประจำตระกูล?
เขาไม่เพียงแต่มีอาการสองบุคลิกเท่านั้น ยังมีโรคแอบแฝงเช่นนี้ด้วยหรือ?
กู้ซีจิ่วมองดูเขา ในใจบังเกิดความเห็นยิ่งขึ้น นํ้าเสียงจึงอ่อนโยนขึ้นไปอีก “เช่นนั้นรักษาหายได้อย่างไร?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจ เขายังรักษาให้หายไม่ได้เลย ซํ้ายังเด็กลงเรื่อยๆ อย่างน่าบัดซบ…
เขาสงสัยว่าถ้าเขาย้อนคืนสู่วัยเยาว์อีกครั้งอาจจะกลายเป็นเด็กทารกก็ได้!
แบบนั้นถึงจะเป็นความบัดซบอย่างแท้จริง!
เขาเม้มริมฝีปากส่ายหน้าไปมา “ข้าก็จำได้ไม่ชัด เคยใช้มากมายหลายวิธีนัก…เลยไม่ทราบว่าวิธีไหนที่ได้ผลทำให้กลับมาเป็นปกติได้”
ดวงตากู้ซีจิ่วทอประกายนิดๆ ดูเหมือนอาการย้อนคืนสู่วัยเยาว์ของเขาสามารถรักษาให้หายได้!
เพียงแต่ต้องลองคลำหาวิธีดู…
กู้ซีจิ่วใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมาในทันใด!
หลงซือเย่!
เขาจบปริญญาเอกด้านชีววิทยา ซ้ำยังเคยศึกษาค้นคว้าด้านพันธุศาสตร์ด้วย ได้ยินว่าเขาเคยศึกษากรณีการย้อนคืนสู่วัยเยาว์ บางทีถ้าไปหาเขาอาจจะมีวิธีก็ได้!
ดังนั้นเธอจึงขบคิดครู่หนึ่งแล้วเสนอขึ้นว่า “ข้าพาเจ้าไปให้เจ้าสำนักหลงดูอาการที่สำนักถามสวรรค์ดีไหม?”
อิงเหยียนนั่วคล้ายจะกังวลอยู่บ้าง “ข้าไม่อยากให้ผู้อื่นทราบฐานะของข้า…”
“เข้าใจแล้ว ข้าจะไม่เผยฐานะของเจ้าต่อเจ้าสำนักหลง จะบอกเพียงว่าเจ้าคือสหายร่วมเป็นร่วมตายคนหนึ่งของข้า ตกลงไหม?”
นัยน์ตาอิงเหยียนนั่ววูบไหวเล็กน้อย ดูเหมือนจะพิจารณาความเป็นไปได้อยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งในที่สุดก็พยักหน้านิดๆ “ตกลง! ทุกอย่างล้วนต้องพึ่งเจ้า แล้ว”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอเงยหน้ามองดรุณีขี่มังกรเจียวที่ยังต่อสู้พัวพันกับสัตว์ประหลาดทั้งสองอยู่บนฟ้า รู้สึกลังเลอยู่บ้าง สายตาของเธอไม่เลวเลย มองออกว่าดรุณีขี่มังกรเจียวนางนั้นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว สันนิษฐานได้ว่าทำอะไรสัตว์ประหลาดสองตัวนี้ไม่ได้เช่นกัน…
ความเป็นความตายของดรุณีขี่มังกรเจียว กู้ซีจิ่วย่อมไม่เก็บมาใส่ใจ สิ่งที่เธอกังวลคือพอสัตว์ประหลาดสองตัวนี้เป็นอิสระ หากวิ่งแล่นไปที่อื่น เกรงว่าจะก่อภัยพิบัติสังหารล้างบางได้…
เธอควรรอต่อไป แล้วค่อยล่อสัตว์ประหลาดสองตัวนี้มายังสถานที่เกิดระเบิดดีไหม?
เพียงแต่ทางด้านนี้เกิดเพลิงไหม้ใหญ่โตถึงเพียงนี้ การระเบิดรุนแรงยิ่งนัก เกรงว่าสัตว์ประหลาดทั้งสองที่พอมสติปัญญาอยู่บ้างคงไม่ยอมติดกับ…
และความสามารถของเธอก็มีขีดจำกัดเช่นกัน…
ตี้ฝูอีเชี่ยวชาญการอ่านความคิดคน โดยเฉพาะความคิดของนางยิ่งชำนาญเป็นพิเศษ มองท่าทางของนางแวบเดียวก็รู้ว่านางกังวลอะไรอยู่ จึงถอนหายใจเบาๆ “ซีจิ่ว เจ้าเกรงว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนี้จะวิ่งไปก่อเภทภัยใช่ไหม?”
กู้ซีจิ่วพยักหน้า “นางเซียนด้านบนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ประหลาดทั้งสอง จะต้องปราชัยในไม่ช้าก็เร็ว…”
“เช่นนั้นเจ้ามีวิธีอันใดหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วตอบว่า “ไม่มีแบบจำเพาะเจาะจง ทำได้เพียงลองพยายามให้สุดความสามารถดู”
แววตาตี้ฝูอีวูบไหวเล็กน้อย “ซีจิ่ว ผู้กระทำการใหญ่ไม่สนใจรายละเอียดยิบย่อย ควรจำนนก็ต้องจำนน กระทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตนที่สุด มิใช่การนำชีวิตไปทุ่มเทกับเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สลักสำคัญ”
กู้ซีจิ่วสะกิดใจทันที “ความหมายของเจ้าคือต้องการให้ข้าเป็นนกน้อยที่ทำรังแต่พอตัวสินะ? ไม่จำเป็นต้องสู้ตายกับสัตว์ประหลาดสองตัวนี้ใช่หม?”
ตี้ฝูอีปลื้มปริ่มยินดี สาวน้อยคนนี้ฉลาดเฉลียวนัก เพียงเล็กน้อยก็กระจ่างแล้ว!
ภายหน้านางต้องควบคุมดูแลใต้หล้านี้ และเมื่อนั่งอยู่บนตำแหน่งนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือส่วนรวม ต้องมีใจเหี้ยมเลือกสรรให้เป็น ไม่อาจถูกเรื่องใดหรือผู้ใดมากะเกณฑ์ได้…
หัวใจของนางยังเหี้ยมโหดไม่พอ…