บทที่ 998 สรุปแล้วท่านนี้คือผู้ใดกัน?
ส่วนหญิงสาวคนนั้นมีนามว่าเย่หงเฟิงจริงๆ หลังจากเข้าห้องมาเธอก็ปลดแพรคลุมหน้าลง เมื่อหรงเช่อได้เห็นใบหน้าของเธอชัดๆ ก็ดูเหมือนจะค่อนข้างประหลาดใจ ยิ้มน้อยๆ และเอ่ยขึ้นว่า “แม่นางเย่ช่างคล้ายคลึงกับซีจิ่วเหลือเกิน! หากไม่ทราบคงนึกว่าพวกเจ้าเป็นฝาแฝดกัน”
เย่หงเฟิงยิ้มหวานคราหนึ่งพลางเอ่ยตอบ “ใช่แล้ว ข้าก็ตกใจเช่นกัน”
กู้ซีจิ่วก็ยิ้มแวบหนึ่ง “ใช่แล้ว บังเอิญเหลือเกิน”
นัยน์ตาของตี้ฝูอีมีแววสนุกสนานพาดผ่านแวบหนึ่ง เขาไม่พูดอะไรเลย หลังจากขึ้นมาก็ทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหน แทบจะไม่ค่อยเปิดปาก
ทุกคนนั่งลงอีกครั้ง หรงเช่อจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น จึงชงชาให้เย่หงเฟิงด้วยตัวเองจากนั้นก็พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง
กู้ซีจิ่วหมุนถ้วยชาในมือเบาๆ มองกริยาวาจาของเย่หงเฟิง เธอแน่ใจมากว่าเย่หงเฟิงคนนี้ไม่มีความทรงจำของชาติก่อน แถมนิสัยยังแตกต่างจากชาติก่อนด้วย เย่หงเฟิงในชาติก่อนสมกับเป็นคุณหนูใหญ่นัก เย่อหยิ่งวางอำนาจ แต่เย่หงเฟิงคนนี้กลับเป็นกระต่ายน้อยว่านอนสอนง่าย ดูใสซื่อไร้เดียงสายิ่งผิดกับชาติก่อนลิบลับ
สภาพแวดล้อมรอบข้างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะนิสัยคนเป็นอย่างมาก หรือว่านี่คือนิสัยดั้งเดิมของเธอ?
ชาติก่อนแค่ถูกโอ๋จนเสียคนไป?
ผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วยาม ในที่สุดหลงซือเย่ก็มาถึงแล้ว เขายังคงสวมหน้ากาก สวมชุดสีขาวพลิ้วไหว บุคลิกคล้ายจะเย็นชาขึ้นกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนมาก เห็นได้ชัดว่าเขานึกไม่ถึงว่าจะได้พบกู้ซีจิ่วที่นี่ พอก้าวเข้าประตูมาฝีเท้าก็ชะงัก!
ดวงตาจับอยู่ที่ร่างเธอ “ซีจิ่ว!”
กู้ซีจิ่วยกมือทักทายเขา “ไม่ได้พบกันเสียนานนะเจ้าสำนักหลง”
หลงซือเย่เม้มปากนิดๆ เอ่ยเสียงเบา “เธอเรียกฉันว่าครูฝึกหลงเหมือนเดิมเถอะ ฟังแล้วคุ้นหูกว่า”
กู้ซีจิ่วก็คล้อยตามกดเสียงให้เบาลง “ได้ ครูฝึกหลง”
หลงซือเย่พยักหน้านิดๆ กวาดสายตาไปรอบๆ สุดท้ายสายตาก็ร่อนลงบนใบหน้าของตี้ฝูอี “ท่านผู้นี้คือ? พระอนุชาขององค์ชายแปดหรือ?”
จักรพรรดิซวนมีโอรสธิดามากมาย ถัดจากหรงเช่อไปก็ยังมีน้องชายน้องสาวอีกหลายคนจริงๆ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่อายุแปดเก้าขวบอยู่จริง…
หรงเช่อหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ตัวข้าไหนเลยจะมีอนุชาที่งามสง่าถึงเพียงนี้ ท่านนี้เป็นสหายตัวน้อยที่ซีจิ่วพามาด้วย”
ตี้ฝูอีนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น ริมฝีปากน้อยหยักขึ้นนิดๆ ยิ้มแวบหนึ่งไม่พูดอะไร เขาน่ารักผุดผ่องมาตั้งแต่เกิด ด้วยรอยยิ้มนี้สามารถทำให้หัวใจคนหลอมละลายด้วยความน่ารักได้ ด้วยเหตุนี้หลงซือเย่จึงอดไม่ได้ที่จะมองเขาอีกสองสามครั้ง
ในที่สุดคนก็มาถึงแล้ว หรงเช่อให้ทางร้านจัดสุราอาหารขึ้นโต๊ะอีกครั้ง ทุกคนนั่งลงอีกครา
ครั้งนี้หลงซือเย่คือแขกผู้สูงศักดิ์เชื้อเชิญมาเป็นตัวหลักย่อมได้นั่งในตำแหน่งผู้ทรงเกียรติ ส่วนฐานะของกู้ซีจิ่วก็ไม่ตํ่าเช่นกัน หรงเช่อจึงจัดให้เธอนั่งด้านขวาของหลงซือเย่ ตี้ฝูอีนั่งอยู่ทางขวาของกู้ซีจิ่ว
หลงซือเย่สุขุมเย็นชามาโดยตลอด แต่เห็นได้ชัดว่าเขาปฏิบัติต่อเย่หงเฟิงไม่เลวเลย ระหว่างที่นั่งบางครั้งก็ตักอาหารให้เธอ ซํ้ายังช่วยสลับอาหารที่เธอชอบไปไว้ด้านหน้าของเธอด้วย ถึงขั้นที่บางครั้งก็ช่วยแกะกุ้งให้เธออะไรทำนองนั้น ซํ้ายังดูแลเป็นอย่างดี
ยามที่เขาทำเรื่องเหล่านี้เสมือนไม่ได้เจตนา แต่ดวงตากลับเหลือบมองกู้ซีจิ่วอยู่บ่อยครั้ง ราวกับอยากเห็นว่าเธอจะมีปฏิกิริยาใดหรือไม่
กู้ซีจิ่วกลับเพิกเฉยกับเรื่องเหล่านี้ของเขา ความสนใจของเธออยู่ที่ร่างของเด็กน้อยข้างกาย
เด็กน้อยคนนั้นงดงามยิ่งนักจริงๆ แต่กลับดูอ่อนแอกระเซาะกระแซะ ค่อนข้างบอบบาง และเลือกกินเป็นพิเศษ กินกุ้งก็จะกินแค่เนื้อส่วนเล็กๆ ตรงด้านหลังของกุ้ง กินผักก็กินแค่ผักกวางตุ้ง ของที่ไม่กินมีมากมายนัก จุกจิกยุ่งยากไม่ธรรมดา
หลังจากกู้ซีจิ่วคอยมองเด็กน้อยอยู่หลายครา ก็ยุ่งง่วนจัดการให้เขาอยู่เงียบๆ ดูทุ่มเทกายใจยิ่งกว่าปรนนิบัติน้องชายแท้ๆ ของตนเสียอีก
ทันใดนั้นหลงซือเย่รู้สึกว่าตนกินไม่ลงแล้ว เขาเอ่ยถามกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว สรุปแล้วท่านนี้คือผู้ใดกัน?”