Skip to content

สู่วอถีอสุรา 1093

ตอนที่ 1093 ปะทะคนชุดคลุมดำ

เมื่อเสียงแก่ชราเอ่ยประโยคสุดท้ายจบ โลกตรงหน้าซูหมิงพลันฟื้นกลับมาในพริบตา เสียงครึกโครมยังอยู่ วิชาช้อนจันทรากลางบ่อของคนชุดคลุมดำยังอยู่ การทำลายล้างมรณะยังคงลงมาเยือนยังฟ้ากระจ่างดาว

ผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมทุกคนรอบๆ ยังคงดับสูญไปภายใต้วิชา ช้อนจันทรากลางบ่อ!

เห็นผลสุดท้ายเช่นนี้เหมือนจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดวงตาซูหมิงพลันขยับแวววาว ก่อนพุ่งเข้าไปในผืนฟ้าอย่างไม่ลังเล

การปรากฏตัวของเขาอยู่ในช่วงที่ผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมรอบๆ ทั้งหมดขยับตัวไม่ได้ วิญญาณสั่นไหวและถูกบีบออกจากร่างไปมากกว่าครึ่ง ร่างเงาเขาดู เด่นตาอย่างยิ่ง พริบตาเดียวก็เป็นที่สนใจของผู้ฝึกฌานพันธมิตรเซียน

ทว่าพวกเขาเห็นเพียงเศษเงาหนึ่ง ซูหมิงที่ระเบิดขั้นพลังมากกว่าครึ่งพุ่งขึ้นไปบนฟ้าในพริบตา มุ่งหน้าไปยังคนชุดคลุมดำนอกดวงตาพันดวง

ดวงตาที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุมของคนชุดคลุมดำหรี่ลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดว่าภายใต้อภินิหารของตนจะยังมีคนไม่ได้รับผล โดยเฉพาะขั้นพลังจากซูหมิง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงทำให้เขาเหมือนเจอกับศัตรูทางธรรมชาติ

กล่าวเหมือนช้า แต่ความจริงเร็ว ทันทีที่ร่างเงาซูหมิงพุ่งขึ้นฟ้าไป เขาก็ใช้มือขวาคว้าอากาศ เมื่อทวนมุ่งสู่ชีวิตโผล่ขึ้นมาและถูกคว้าเอาไว้แล้ว ก็ขว้างไปทางคน ชุดคลุมดำในทันใด

เสียงโครมดังขึ้น ทวนมุ่งสู่ชีวิตกลายเป็นสายรุ้งยาวทะลวงผ่านอากาศด้วยความเร็วที่เหนือกว่าซูหมิงไปโผล่อยู่ตรงหน้าคนชุดคลุมดำ คนชุดคลุมดำไม่ถอย แม้แต่น้อย แต่มือขวาที่ใช้วิชาช้อนจันซากลางบ่อกลับหยุดชะงักครู่หนึ่ง แล้วยก มือซ้ายขึ้นชี้ไปยังทวนมุ่งสู่ชีวิต

“คงที่!”

เขาเอ่ยมาเพียงคำเดียว ทวนมุ่งสู่ชีวิตพลันหยุดห่างจากตรงหน้าเขาหนึ่งจั้ง เหมือนกับมีมือใหญ่ไร้รูปคว้าทวนเอาไว้ ทำให้ทวนขยับไม่ได้แม้แต่น้อย

ภาพนี้ทำให้ซูหมิงใจสั่นสะท้านอีกครั้ง ทว่าเขาไม่เพียงไม่ลดความเร็วลง แต่กลับเร่งความเร็วขึ้น เกิดเสียงโครมดังขึ้นพร้อมกับเข้าไปใกล้คนชุดคลุมดำ จากนั้นยก มือขวาชกไป

ฟ้ากระจ่างดาวรอบตัวซูหมิงบิดเบี้ยวในทันควัน กฏเปลี่ยนไป รวมขึ้นเป็น เงามายาหมัดยักษ์ข้างหนึ่งชกใส่คนชุดคลุมดำ

“เป็นพลังทำลายล้างป่าเถื่อนอีกแล้ว” ขณะที่คนชุดคลุมดำเอ่ยเรียบๆ เขายก มือซ้ายสะบัดไปทางซูหมิงแบบเรียบง่าย ฉับพลันนั้นเงามายาหมัดของซูหมิงก็ กระจายออกเหมือนกับของชายชราขั้นกุมที่เห็นก่อนหน้านี้ ทว่ากำลังของรบ ของซูหมิงมิใช่ชายชราขั้นกุมคนนั้นจะเทียบได้ ตอนนี้แม้หมัดจะกระจายออก ทว่า ตัวเขากลับพุ่งออกจากเงาหมัดมายา แล้วตามด้วยหนึ่งหมัดชกใส่อากาศตรงหน้า คนชุดคลุมดำ

ตอนนี้เอง คนชุดคลุมดำหรี่ตาลง มือซ้ายยกขึ้นอย่างเร็วไว ชี้ไปยังมวลอากาศห่างจากหมัดซูหมิงหลายจั้ง

ท่ามกลางเสียงครึกโครมดังสนั่น ซูหมิงกระอักเลือดคำหนึ่ง เมื่อถอยไปแล้ว หมัดนั้นเหมือนกับชกใส่ปราการไร้รูป แต่ขณะเดียวกับที่ถอยไป คนชุดคลุมดำก็ ร่างสั่นสะท้านเช่นกัน เขาโซเซถอยไปติดกันหลายก้าว มือขวาที่อยู่ในท่าวิชา ช้อนจันทรากลางบ่อจึงถูกขัดไว้ พร้อมกันนั้นขณะถอยไปตัวเขายังกระอักโลหิตด้วยเช่นกัน

“ต้นกำเนิดแห่งการสั่นสะเทือน!” น้ำเสียงคนชุดคลุมดำดูเหลือเชื่อ

ดวงตาซูหมิงฉายแววจิตสังหาร ก่อนพุ่งออกไปอีกครั้งพร้อมยกมือขวาชี้ท้องฟ้า

“หินตก!” ทันทีที่ซูหมิงชี้นิ้วมือขวาไป กลางฟ้าเกิดการบิดเบี้ยวแล้วตามด้วยหินผุพังยักษ์ตกลงมาจำนวนมาก ทุกก้อนมีแรงปะทะพุ่งชน ซ้ำยังแฝงไว้ด้วยพลังจาก ขั้นพลังซูหมิง พริบตาเดียวท้องฟ้ามีหินตกลงมาหลายร้อยก้อนพร้อมกัน

เสียงครึกโครมดังก้องไปรอบๆ คนชุดคลุมดำจำเป็นต้องถอยไป ก่อนยกมือขวาชี้ขึ้นฟ้า

“คงที่!”

ฉับพลันนั้นหินตกเหล่านั้นลอยกลางอากาศ จากนั้นคนชุดคลุมดำประสานมุทราด้วยความเร็ว สิบนิ้วประกบกันแล้วฟันลงไปข้างหน้า ทันใดนั้นเกิดรอยแยกมวลอากาศยักษ์ขึ้นสายหนึ่งก่อนพุ่งเข้าไปเขมือบซูหมิงราวกับปากใหญ่

ซูหมิงไม่ถอยแต่กลับบุกเข้าไป ขณะห้อเหยียดก็เห็นปากใหญ่เข้ามาใกล้ ระหว่างนั้นมีแสงสีดำขยับวูบวาบออกจากตัวเขาพร้อมกับเสียงเสียดสี

ทั้งสนามรบมืดลงในเสี้ยวพริบตา จนเมื่อกลับมาเป็นปกติในวูบเดียวแล้ว ปากใหญ่อากาศนั้นถูกแช่แข็ง คนชุดคลุมดำตัวสั่นสะท้านและกระอักเลือดอีกครั้ง เขาถอยร่นไปอย่างรีบร้อน ปากร้องตะโกนด้วยความเหลือเชื่อ

“แสงเทพห้าสีของท่านข่งหมัว จะ จะ เจ้า….” คนชุดคลุมดำที่ถอยไปคงวิชา ช้อนจันซากลางบ่อไม่ได้อีก เมื่อเขาถอยไป ทั้งฟ้าสั่นสะเทือน รอยดวงจันทร์ในใจ ผู้ฝึกฌานสำนักดาราสัจธรรมข้างล่างทั้งหมดอ่อนแสงลง สีหน้ามีสติกลับมา ทว่าสิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือการอาศัยจังหวะสังหารอย่างบ้าคลั่งภายใต้ธงยาวสีโลหิตที่โบกสะบัดของฝั่งพันธมิตรเซียน

เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างย่อยยับ ศิษย์สำนักดาราสัจธรรมที่กำลังฟื้นสติกลับมาเหล่านี้ไม่มีแรงต่อต้านแม้แต่น้อย เพียงแวบเดียวก็ตายกันไปจำนวนมาก กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งรอบๆ แต่ไม่นานเมื่อได้สติกันมามากขึ้น สงครามก็ดำเนินมาถึงจุดเดือดยิ่ง

ขณะเดียวกับที่คนชุดคลุมดำถอยไป เสื้อคลุมที่ปิดใบหน้าเขาเปิดออก เผยเป็นใบหน้าแก่ชรา เขาเป็นชายชราคนหนึ่ง ดวงตาสองข้างเว้าลงไป ตอนนี้นัยน์ตาเหลือเชื่อจ้องซูหมิงเขม็งพร้อมกับยกมือขวาคว้าไปข้างหน้า

“ใช้ร่างกายเจ้าเป็นบ่อ!”

ฉับพลันนั้นรอบตัวซูหมิงเกิดจุดแสงสองจุด มันวนไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว จนล้อมซูหมิงไว้ข้างในเป็นลักษณะบ่อ

“ใช้วิญญาณเจ้าเป็นดวงจันทร์!”

ตรงระหว่างคิ้วซูหมิงปรากฏรอยดวงจันทร์ขึ้นมา ร่องรอยฝังลึกอย่างยิ่ง ราวกับประทับในวิญญาณเขา

“ขอใช้ร่างกายเจ้า ใช้วิญญาณเจ้า ช้อนจันทรากลางบ่อ!” คนชุดคลุมดำตะโกน เสียงดัง ก่อนคว้าอากาศด้วยมือขวา นี่คืออภินิหารที่เขาใช้มันครอบคลุมได้ทั้ง สนามรบ แต่ตอนนี้ใช้มันกับซูหมิงคนเดียว

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ซูหมิงร่างสั่นสะท้าน เขามีความรู้สึกชัดว่าวิญญาณเขากำลังถูกพลังงานที่ยากจะต่อต้านบางอย่างเหนี่ยวนำจากในร่างไม่หยุด ในเวลาเดียวกัน เขายังรู้สึกอีกว่าการเชื่อมต่อของตนกับโลกแท้จริงดาราสัจธรรมถูกตัดขาด อย่างสมบูรณ์ในช่วงที่เกิดวงกลมขึ้นรอบตัว

นี่คือพลังที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน อีกทั้งเขายังสัมผัสไม่ได้ถึงต้นกำเนิดของพลังนี้ เห็นวิญญาณตนสั่นสะท้านและไปรวมตรงระหว่างคิ้ว ขณะกำลังจะถูกรอยดวงจันทร์ดึงออกนั้น ดวงตาเขาวาววับ เขารู้ว่าทุกอย่างของตนจะอยู่ในสายตาของคนสิบล้านคนแห่งสำนักดาราสัจธรรมข้างนอก เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงการทดสอบ

ครั้นดวงตาขยับประกาย ก็เกิดเสียงเสียดสีดังมาจากตัวเขาพร้อมกับแสงแก่นยมโลกอีกครั้ง ช่วงที่มันย้อมโลกนี้ให้กลายเป็นสีดำมืด นัยน์ตาเขาฉายแววเย็นชา ถึงจะสัมผัสพลังจากคนชุดคลุมดำไม่ได้ และก็ไม่มีวิธีต่อต้านด้วย แต่ว่า……ในวิญญาณเขามีพลังแห่งต้นกำเนิดที่ต่อต้านได้โดยธรรมชาติอยู่

‘ทำลายล้างชีวิต!’ ช่วงที่ซูหมิงส่งกระแสจิตไป เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตในวิญญาณพลันปะทุขึ้นพร้อมกับความมืดมิดปกคลุมรอบๆ พอดี การปะทุของมันตอบสนองกับตัวเขา นั่นคือมีกิ่งไม้นับไม่ถ้วนมุดออกมาจากในตัวเขา ขณะที่กิ่งไม้เหล่านี้ยืดยาวไป ก็เหมือนไปปะทะอย่างไร้รูปกับพลังจากคนชุดคลุมดำ

เสียงครึกโครมดังขึ้น ซูหมิงรู้สึกปวดสมอง ภายใต้ความเจ็บปวดเหมือนมีข้อมูลช่วงหนึ่งมุดเข้าไปในสมองเขา ข้อมูลมาเพียงสองคำ!

“ต้นกำเนิด!”

ทันทีที่สองคำนี้ดังก้อง ท่ามกลางเสียงดังสนั่น พลังจากวิชาช้อนจันทรากลางบ่อ นอกตัวซูหมิงแหลกสลายไป วงกลมรอบตัวก็ยังแหลกออกเป็นชั้นๆ ด้วย

ภาพเหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาคนยักษ์ไกลๆ ดวงตาเขาฉายแววประหลาดใจ แต่จากรอยยิ้มเยาะมุมปากดูแล้วไม่มีความคิดจะเข้าไปช่วยคนชุดคลุมดำแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าถึงพวกเขาจะมาจากที่เดียวกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นมิตรกันมากนัก

ขณะเดียวกับที่ซูหมิงเดินออกมา คนชุดคลุมดำกระอักเลือด สีหน้าดูหวาดกลัว ขณะเดียวกับที่ถอยไป แววตายังดูเดือดดาล ก่อนยกมือขวาชี้ไปทางซูหมิง

“วิชาคงที่กายา!” คนชุดคลุมดำร้องตะโกน ครั้งนี้ต่างกับการหยุดทวนมุ่งสู่ชีวิตกับหินตก เพราะนี่คือนามเต็มของวิชาเขา ซึ่งแน่นอนว่ามันมีพลานุภาพมากกว่า

ยามนี้ขณะที่ซูหมิงห้อเหยียดไป ในเสี้ยวพริบตานี้ เขาพลันรู้สึกว่ามวลอากาศรอบตัวเหมือนกับดินเลน ร่างกายยังสั่นสะท้านและถูกหยุดไว้กลางอากาศ ขนาดขั้นพลังในร่างกายยังเกิดเค้าลางจะแข็งตัว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นคนชุดคลุมดำใช้วิชานี้ แต่พอมาสัมผัสจริงๆ ถึงได้รู้ถึงความแกร่งและน่าเหลือเชื่อของมัน

แทบเป็นตอนที่ซูหมิงถูกหยุด คนชุดคลุมดำก็แสยะยิ้มพลางตบมือขวาตรงหน้าผาก

“วารี ต้นกำเนิดแห่งชีวิต สิ่งที่ข้าตระหนักรู้คือต้นกำเนิดแห่งวารี วารี สังหาร!” คนชุดคลุมดำตะโกนเสียงดังพร้อมพุ่งเข้าไปหาซูหมิง ระหว่างที่พุ่งเข้าไป ตัวเขาไปจนถึงอากาศรอบตัวกลายเป็นคลื่นยักษ์ รวมถึงระยะหลายหมื่นจั้งรอบๆ กลายเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่พร้อมกัน

มหาสมุทรเคลื่อนตัวไปหาซูหมิง ภายในคลื่นยักษ์มีใบหน้าชายชราเหี้ยมโหดคนนั้นลอยออกมาและพุ่งไปหาซูหมิง

ซูหมิงใจสั่นไหว ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ยากจะกลับมาเคลื่อนไหว ได้ดังเดิม ได้แต่มองมหาสมุทรจากคนชุดคลุมดำพุ่งเข้ามา อภินิหารนี้ก็เป็นวิชาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน ช่วงที่ภยันตรายร้ายแรงผุดขึ้นมา ดวงตาเขาขยับประกายรวดเร็วและดุดัน

“ย่วนเว่ย ตื่น! ไปสู้ให้ข้า!”

โครม!

มวลอากาศนอกตัวซูหมิงถูกฉีกออกเป็นรอยแยกยักษ์สายหนึ่ง มีเปลวเพลิงความแค้นหลั่งทะลักออกมา ม้าดำย่วนเว่ยที่บาดเจ็บจนต้องหลับใหลในถุงเก็บวัตถุ ซูหมิงตอนนั้น ซ้ำยังเห็นซูหมิงรับการโจมตีทำลายล้างให้กับมันตามคำสัญญาด้วยตาตัวเองตัวนี้ มันเหยียบทะเลเพลิงพุ่งออกมาจากในรอยแยกพร้อมด้วยเสียงคำรามจากมังกรสองหัว จากนั้นพุ่งทะยานเข้าไปยังมหาสมุทรที่ม้วนเข้ามา

นี่คือการต่อต้านระหว่างน้ำกับไฟ นี่คือการปะทะของย่วนเว่ยกับพลังแห่งต้นกำเนิด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version