ตอนที่ 1130 ต้นกำเนิดแสง
‘แสงแก่นยมโลก ข้าในตอนนี้คือแสงแก่นยมโลก ไม่รู้ว่านี่จะถือว่าเป็น แก่นยมโลกขั้นสูงหรือไม่!’ ดวงตาซูหมิงวาววับ ร่างกายกลายเป็นแสงสว่างไม่มีสิ้นสุด ทั้งยังก่อขึ้นเป็นทะเลแสง ช่วงที่เกิดเสียงครึกโครมดังก้อง แสงสว่างนั้นหายไป แสงแก่นยมโลกตรงนี้ทั้งหมดหกเล็กลงจนรวมเป็นร่างเงาหนึ่ง
เส้นผมดำแกว่งไกว เสื้อคลุมดำขยับแสงพร่างพราว ภายในดวงตาสีดำเผยเป็นแสงหม่นลุ่มลึก นั่นคือซูหมิง
ซูหมิงยืนอยู่บนทะเลแสง ตอนนี้เขาคือส่วนหนึ่งของทะเลแสงแล้ว ไม่มีความรู้สึกถูกฉีกแม้แต่น้อย แต่กลับมีพลังที่เพียงพลิกฝ่ามือก็ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน
‘ไม่ใช่ขั้นสูง มิเช่นนั้นแล้ว ด้วยความที่แสงเหมือนกันอยู่รวมกัน ตอนที่ ข้าเปล่งแสงแก่นยมโลก จะทำให้แสงแก่นยมโลกทั้งหมดที่เกิดในทะเลแสงมาที่นี่
แสงแก่นยมโลก….คำว่าแก่นก็เห็นได้ถึงความบ้าอำนาจของมันแล้ว หากฝึกฝนแสงแก่นยมโลกถึงขั้นสูง ในฟ้าดินจะมีแต่แสงของข้าเพียงคนเดียว!’ นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายวาว ผ่านไปครู่หนึ่งนัยน์ตาฉายแววเด็ดขาด หลังหลับตาลงอีกครั้ง ก็กางสองแขนออก อักขระสองตัวในร่างหลอมรวมกันและปล่อยออกอีกครั้ง แสงแก่นยมโลกสีดำพลันปะทุมาจากในตัวเขา
ครั้งนี้เขาไม่ได้จงใจหยุด ไม่ได้ใคร่ครวญถึงขีดจำกัดของตัวเอง เขาแค่จะปลดปล่อย ปล่อยแสงแก่นยมโลกทั้งหมดที่เกิดจากร่างกายตัวเองให้ถึงขีดสุด!
ความคิดนี้เหมือนจะสอดคล้องอย่างไร้รูปกับการเร่งรัดให้เกิดแสงแก่นยมโลกอย่างน่าประหลาด ส่งผลให้แสงแก่นยมโลกที่เปล่งมาจากในตัวเขาปะทุขึ้นด้วยความเร็วไม่อาจบรรยาย พริบตาเดียวก็ส่องสว่างออกไป
พันจั้ง หมื่นจั้ง สามหมื่นจั้ง แสนกว่าจั้งจนกระทั่งหลายแสนจั้ง มองไปตรงจุดที่ ซูหมิงอยู่กลางทะเลแสง แสงทั้งหมดถูกไล่ออกไป เหลือเพียงสีดำที่เป็นขีดสุด กลุ่มหนึ่ง นั่นคือแก่นยมโลก!
แสงส่องสว่างมาถึงระดับนี้แล้ว ทว่าซูหมิงก็ยังไม่คิดจะหยุด เขารู้สึกว่าร่างกายตนยังไม่ถึงขีดจำกัด รู้สึกว่าความคิดของตนยังไม่บรรลุ
ความคิดเขาง่ายมาก โลกนี้มีแสงต่างกันหลากชนิดได้ แต่ในเมื่อเขาเลือกกลายเป็นแสงแก่นยมโลก เช่นนั้นแสงแก่นยมโลกในโลกนี้จะต้องมีแค่ของเขา!
ของเขาเพียงหนึ่งเดียว!
ร่างซูหมิงยังคงเปล่งแสงสว่างไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวจากหลายแสนจั้งก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นเกือบล้านจั้ง กระทั่งเมื่อเวลาผ่านไป แสงนี้ยังไปไกลกว่าล้านจั้ง ขณะที่มันส่องสว่างไปไกลไม่หยุด ในที่สุดซูหมิงก็รู้สึกถึงขีดจำกัดของตัวเอง
แต่ว่าเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เพราะเขายังไม่รู้ว่าตนเป็นแสงแก่นยมโลกเพียงหนึ่งเดียว ดังนั้นแม้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังให้อักขระสองตัวในร่างกายสูบและปล่อยออกอย่างบ้าคลั่งไม่ยอมหยุด
จนกระทั่งเขาไม่รู้ว่าแสงแก่นยมโลกขยายไปไกลเท่าไร ฉับพลันนั้นเกิดเสียงระเบิดมาจากในร่างเขา ตอนที่เสียงระเบิดดังกึกก้อง ก็เหมือนว่าแสงแก่นยมโลกจากซูหมิงบรรลุถึงขอบเขตที่มั่นคงแล้วจึงทำลายผนึกบางอย่าง พร้อมกันนั้นจิตใจเขายังสั่นสะท้าน
แสงแก่นยมโลกจากตัวเขาคล้ายว่าจะต่างกับก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ต่างกันอย่างไรเขาเองก็บอกไม่ถูก เขาเห็นเพียงสิ่งเดียวคืออักขระสองตัวนั้นในร่างเขาหลอมรวมเข้าด้วยกันและเปลี่ยนเป็นซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม กระทั่งตอนที่เขาสัมผัสยังรู้สึกเด่นชัด
ราวกับว่า…..พวกมันหลอมรวมกันอย่างแท้จริง มิใช่การสูบตอนหลอมรวม และเปล่งแสงออกอย่างก่อนหน้านี้ แต่คลับคล้ายว่าจากนี้ไปพวกมันจะไม่แยกจาก กันอีก…..
ขณะเดียวกันซูหมิงยังรู้สึกอีกว่าตนไม่ต้องควบคุมอีก ไม่ต้องปล่อยอะไรอีก แสงแก่นยมโลกภายในพื้นที่หลายล้านจั้งโดยมีเขาเป็นใจกลางจะคงอยู่นิจนิรันดร์!
‘ต้นกำเนิดแสง!’ ซูหมิงพลันเข้าใจ เขาในเวลานี้ไม่เพียงแค่ไม่ต้องปล่อยถึงจะเปล่งแสงแก่นยมโลกอีก เขากลายเป็นต้นกำเนิดแสงที่เปล่งแสงแก่นยมโลกตลอดเวลา
ต่อมา ตอนที่เขากลายเป็นต้นกำเนิดแสง เขารู้สึกว่ากลางทะเลแสงกว้างใหญ่มีต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกเหมือนกับเขาทุกประการอยู่อีกสี่แห่ง!
ต้นกำเนิดแสงโบราณสี่แห่งนี้อยู่มาไม่รู้กี่ปีแล้ว ซึ่งมันเกิดจากการรวมแสงแก่นยมโลกที่กระจายอยู่ในทะเลแสงจนเกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ
ความรู้สึกเก่าแก่ลอยขึ้นมาในใจซูหมิงตอนนี้ รู้สึกถึงต้นกำเนิดแสงสี่แห่งอยู่ไกลลิบ ทันใดนั้นดวงตาเขาพลันวาววับ
ในเมื่อกลายเป็นแสงแก่นยมโลกแล้ว เช่นนั้นก็ต้องเป็นแสงแก่นยมโลกเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้ ความคิดนี้เกิดขึ้นจากนิสัยของเขา หลังดวงตาขยับประกายวาววับแล้วเขาก็ขยับวูบไหวตัวม้วนทะเลที่เกิดจากแสงแสงแก่นยมโลกหลายล้านจั้งมุ่งหน้าไปยังต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกเหมือนกินร่างเอ้อชางเหล่านั้นผุดขึ้นมาจากในความทรงจำเขาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาต้องกินในครั้งนี้ไม่ใช่เอ้อชางที่มีสติปัญญา แต่เป็นแสงแก่นยมโลกที่เกิดขึ้นในโลกนี้
การกินต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกอื่นๆ จะทำให้เขากลายเป็นหนึ่งเดียว นี่คือนิสัยของเขา อีกทั้งยังเป็นกฏไร้รูปของโลกนี้ ซึ่งไม่มีใครกำหนดกฏนี้ และก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดมีสิทธิ์กำหนดด้วย นี่คือสัญชาตญาณที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
อย่างเช่นตอนนี้ ในทะเลแสงมีแสงสว่างพร่างพราวขยับวิบวับมากมาย แต่พวกมันไม่มีจิตสำนึก นี่กำหนดไว้แล้วว่าหากในพวกมันมีใครเกิดจิตสำนึกขึ้น แสงชนิดเดียวกัน ที่เหลือจะต้องถูกหลอมรวม
แสงที่มีจิตสำนึกจะไปหลอมรวมกับแสงที่ไม่มีจิตสำนึก เดิมทีนี่คือส่วนหนึ่งของกฏจักรวาล ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ และก็ไม่มีใครยินยอมเปลี่ยนมัน
เวลาผ่านไปอย่างเนิบช้า ด้วยความเร็วจากการที่ซูหมิงกลายเป็นแสงแก่นยมโลก หลายวันต่อมาเขาก็เห็นว่าในทะเลแสงมีทะเลสีดำกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง นั่นคือทะเล แสงสีดำ นั่นคือต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกที่เหมือนกับเขา
ในทันทีที่พบก็เกิดการกินขึ้น แสงแก่นยมโลกสีดำหลอมรวมเข้าด้วยกันโดยไม่มีการต่อต้านใดๆ เลย เพียงไม่กี่ลมหายใจก็มีเสียงคำรามลากยาวดังมาจากซูหมิง เสียงกึกก้องไปทั่วทะเลแสง ตอนนี้เองต้นกำเนิดแสงสองจุดหลอมรวมกันจนหมดสิ้นแล้ว กลายเป็นต้นกำเนิดแสงยักษ์สิบล้านจั้งกลุ่มหนึ่งกลางทะเลแสง
ช่วงที่ปรากฏต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกยักษ์รวมถึงเสียงคำรามลากยาวจากซูหมิง ดังกังวาน จิตใจเขาเกิดการสั่นสะเทือนอีกครั้ง ความรู้สึกที่เหมือนทำลาย ผนึกบางอย่างลอยขึ้นมาในใจอีกครั้ง ตอนนี้เองในจิตสำนึกเขารับรู้ถึงต้นกำเนิด แสงแก่นยมโลกอีกสามกลุ่มอยู่ไกลลิบ และเป็นตอนนี้เองที่พวกมันระเบิดออก พร้อมกันกลายเป็นแสงแก่นยมโลกนับไม่ถ้วน จากนั้นก็ตรงดิ่งมาหาซูหมิงจากรอบด้านด้วยความเร็วสูงยิ่ง
การมาของพวกมันคล้ายกับว่าซูหมิงเป็นบรรพบุรุษแสงแก่นยมโลกที่แสงแก่นยมโลกทั้งหมดที่กำเนิดในทะเลแสงต้องเฝ้าปราถนาจะหลอมรวมด้วย หลายวันต่อมา ภายใต้การเข้ามาใกล้อย่างต่อเนื่องของแสงแก่นยมโลก ซูหมิงที่กลายเป็นต้นกำเนิดแสงจากขนาดสิบล้านจั้งก่อนหน้านี้ก็ขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด
ทุกครั้งที่หลอมรวมกับแสงแก่นยมโลกหนึ่งสาย ต้นกำเนิดแสงซูหมิงจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อย จนกระทั่งเขารู้สึกว่าแสงแก่นยมโลกทั้งหมดหลอมรวมกับเขาแล้ว ก็เกิดเสียงครึกโครมดังขึ้นในใจ ทะเลแสงในพื้นที่สามสิบล้านจั้งรอบๆ กลายเป็นสีดำทั้งหมด!
ทว่ายามนี้ในสัมผัสซูหมิงปรากฏต้นกำเนิดแสงยักษ์อีกหกจุด ทุกจุดค่อนข้างใหญ่กว่าเขา พวกมันห่างจากที่นี่ไปไกล ต่อให้ซูหมิงห้อเหยียดไปด้วยความเร็วทั้งหมดก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปี
ทะเลแสงกว้างใหญ่เกินไป กว้างไกลไร้พรมแดน…..กระทั่งซูหมิงยังมีความรู้สึกเด่นชัดว่าถึงเขาจะหลอมรวมกับต้นกำเนิดแสงหกจุดแล้วก็ยังรู้สึกว่าในทะเลแสงไม่มีสิ้นสุดนี้ยังมีแสงแก่นยมโลกที่ใหญ่ยิ่งกว่าเขาอีก
“ฝึกแสงเหมือนกับฝึกเต๋า….แสงไม่มีสุดแดน เต๋า….ไม่มีสุดขอบ” ซูหมิงพึมพำ เขาเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างจากในแสงแก่นยมโลก แต่พอคิดดูดีๆ ก็เหมือนจะ ไม่เข้าใจ
ขณะเงียบอยู่นี้ ซูหมิงล้มเลิกความคิดที่จะหลอมรวมกับแสงแก่นยมโลกต่อ ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่มันต้องใช้เวลานานเกินไป และตอนนี้เวลาเป็นสิ่งล้ำค่ามากสำหรับเขา
‘ถึงเวลาต้องไปแล้ว แต่ก่อนไปข้ายังต้องการแสงอีกชนิด’ แสงแก่นยมโลกทั้งหมดนอกตัวเขาหายไป กลายเป็นซูหมิงทั่วร่างสีดำ เขายืนอยู่กลางทะเลแสงราวกับเป็นเจ้าปกครองพื้นที่นี้ สิ้นเสียงคำพูดพึมพำ เขาก็เดินหน้าไป
เดินอยู่กลางแสงหลากสีจนกระทั่งเขาพบกับแสงสีแดงอมขาวตามที่เขาต้องการกลางทะเลแสง นั่นคือแสงที่ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตในจิตแรกเขาเกิดเส้นใย
แสงนี้มีเพียงเสี้ยวเดียว เมื่อสะบัดแขนเสื้อเก็บมันในจิตแรกแล้วก็เตรียมจะออกไป ทว่าทันใดนั้นเองเขากลับหน้าเปลี่ยนสี ก่อนกลายเป็นแสงแก่นยมโลก ทะเลแสงพื้นที่ไปสามสิบล้านจั้งลอยขึ้นมาในใจเขา
เขาเห็นว่าไกลออกไปเป็นกระเรียนขนร่วงกำลังบินอยู่กลางทะเลแสงด้วยความระมัดระวัง มันร้องเสียงแหลมเล็กเป็นบางครั้ง บ้างก็ด่าทอ แสงเหล่านั้นที่ทำให้มันบาดเจ็บเหมือนจะมีอ่อนแอและรุนแรง มันจึงเดินหน้าอยู่ในทะเลแสงโดยหลีกเลี่ยงงานหนักจับแต่งานเบา
ขณะเดียวกันซูหมิงยังเห็นว่าอีกด้านหนึ่งมีเสี้ยววิญญาณชนิดหนึ่งอยู่อย่างชัดเจน มันพึ่งพาอยู่บนแสงหนึ่ง เมื่อแสงเคลื่อนไหว มันจะดิ้นรนจนแทบจะสลายไป
ซูหมิงตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ ก่อนยกเท้าเดินหน้าไปหนึ่งก้าว ร่างกายหายวับไป ไปปรากฏอีกทีอยู่ตรงหน้ากระเรียนขนร่วง แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงปรากฏตัว กระเรียนขนร่วงก็ร้องเสียงแหลมทันที
“ย่ากระเรียนเจ้าเถอะ ข้าจะดวงซวยอะไรขนาดนี้ นะนะนะ….นี่มันต้นกำเนิดแสง จบสิ้นแล้วๆ เจ้าบัดซบซูหมิง ไม่ใช่ว่าท่านกระเรียนไม่อยากช่วยเจ้า แต่กระทั่งข้ายังเอาตัวไม่รอดเลย!” กระเรียนขนร่วงร้องเสียงเล็กพลางถอยไปอย่างเร็วรี่ด้วยสีหน้า ตื่นกลัว
ก็ไม่แปลกที่กระเรียนขนร่วงจะจำซูหมิงไม่ได้ เพราะในสายตามันไม่ใช่ซูหมิง แต่เป็นร่างเงาที่ทั่วร่างแผ่แสงแก่นยมโลก แสงแก่นยมโลกตัดกลิ่นอายพลังสู่ภายนอกทั้งหมด อีกทั้งแสงสว่างอื่นๆ รอบตัวซูหมิงยังพากันหลีกไปไม่กล้าเข้าใกล้ ดังนั้นในสายตากระเรียนขนร่วงนี่ก็คือ ต้นกำเนิดแสง
ซูหมิงยิ้มเล็กน้อย เพียงแต่กระเรียนขนร่วงมองไม่เห็นรอยยิ้มเขา เมื่อซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ แสงแก่นยมโลกพลันปกคลุมกระเรียนขนร่วงเอาไว้ จากนั้นเขาขยับ วูบไหวตัวพากระเรียนขนร่วงข้ามผ่านความว่างเปล่ามุ่งหน้าไปยังเสี้ยววิญญาณที่เขาสัมผัสถึงก่อนหน้านี้