ตอนที่ 1137 สถานการณ์เลวร้ายลง
วัตถุเหล่านี้ล้วนเป็นของหายากในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ทุกชิ้นทำให้ผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนคลุ้มคลั่ง ทุกชิ้นมีระดับความล้ำค่าไม่อาจบรรยาย แต่ตอนนี้ ทันทีที่พวกมันปรากฏขึ้น กระทั่งมองเห็นรูปลักษณ์พวกมันไม่ชัดก็หลอมรวมเข้าไปในลำแสงแล้ว กลายเป็นของเหลวถูกแหวนสีขาวสูบไปอย่างรวดเร็ว
ของที่ตี้เทียนเตรียมมาหลายหมื่นปีกลายเป็นของเหลวทั้งหมดในเวลาเพียง สิบกว่าลมหายใจ ก่อนถูกแหวนสีขาวสูบไปจนหมด
ต่อมาแหวนสีขาวพลันเปล่งแสงสว่างจ้าแสบตา แสงขยับวูบวาบแล้วขยายออกจากในลำแสงทันที ส่องสะท้อนไปโดยรอบ จนปกคลุมฟ้ากระจ่างดาวในระยะเกือบแปดสิบล้านจั้งแล้ว ผืนฟ้าในพื้นที่นี้ทั้งหมด…..หายไป
บอกว่ามันหายไปก็เพราะว่ามวลอากาศของฟ้าเป็นสีดำทึบ มองไม่เห็น แต่สิ่งที่มาแทนคือแสงสีขาว ในแสงนี้มีสีฟ้า ตอนที่คนเงยหน้าขึ้นมองไปจะเกิดความรู้สึกลวงตาเด่นชัดเหมือนว่าผืนฟ้ากลายเป็นฟ้าคราม!
ทว่าทุกอย่างในสายตาซูหมิงทำให้เขาใจสั่นสะท้าน เพราะเขาเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่เห็นภาพนี้อย่างสมบูรณ์แบบ กระทั่งคนชุดคลุมดำกับซิงจี๋เต้ายังมองไม่เห็น เพราะพวกเขาเพียงแค่ส่งขั้นพลังเข้าไปในแหวน จิตสัมผัสพวกเขายังเหมือนมีความยำเกรงบางอย่าง จึงไม่กล้าเข้าไปในแหวน
ซูหมิงเห็นชัดว่าของที่ตี้เทียนเตรียมมาหลายหมื่นปีกำลังหลอมละลาย หลังถูกแหวนสูบไปแล้ว พวกมันมีการใช้งานเพียงกลายเป็นอักขระนับไม่ถ้วนในโลกแหวน ก่อนรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังงานในชั่วพริบตานั้น
อักขระนับไม่ถ้วนในโลกแหวนรวมตัวกันในเวลาสั้นๆ สิ่งที่ต้องการคือพลังงานขนาดใหญ่ วัตถุดิบที่ตี้เทียนเตรียมมาหลายหมื่นปีพอจะเติมเต็มได้ในจุดนี้ อีกทั้งจากการรวมกันของอักขระมากมาย ในชั่วเสี้ยวพริบตาเดียวอักขระเหล่านี้กลายเป็น เพียงสามตัว!
ระดับความซับซ้อนของอักขระสามตัวนี้ทำให้ซูหมิงมองแวบเดียวแล้วจิตสัมผัสพลันแตกออกเพราะรับไม่ไหว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขากลับมีความรู้สึกเด่นชัดว่า…อักขระทั้งหมดในโลกแหวนล้วนเกิดจากการเชื่อมกันของอักขระสามตัวนี้อย่างต่อเนื่อง
ช่วงที่จิตสัมผัสแตกออก เขาเห็นว่าหนึ่งในอักขระสามตัวเปล่งแสงสีขาวไม่มีสิ้นสุด รวมออกมาเป็น…ฟ้าครามที่มีพื้นที่รอบลำแสงแปดสิบล้านจั้ง
ทั้งท้องฟ้า ความจริง…เป็นเพียงอักขระเดียว!
ซูหมิงใจสั่นสะท้าน แม้จะถูกทำลายจิตสัมผัส ทว่าครั้งนี้เขาแบ่งจิตสัมผัสออกไปอีกครั้งอย่างไม่ลังเล ไหลไปตามขั้นพลังคนชุดคลุมดำพุ่งไปหาแหวนสีขาว นี่คือ โชควาสนา เป็นโอกาส นี่คือโอกาสครั้งใหญ่ที่คนทั่วไปยากจะพานพบ
ถึงเขาจะมาเพื่อกายเนื้อร่างจริง แต่ก็ไม่มีทางละทิ้งโอกาสนี้อย่างเด็ดขาด แม้จะไม่เข้าใจว่าอักขระสามตัวนั้นคืออะไรก็ตาม ทว่าเขาก็ยังอยากเห็น เพราะลางสังหรณ์บอกเขาว่าอักขระสามตัวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใหญ่หลวงกับขั้นพลังไม่อาจกล่าว!
ตอนที่ซูหมิงแผ่ขยายจิตสัมผัสเข้าไปในแหวนสีขาวอีกครั้ง เขาเห็นว่าอักขระตัว ที่สองระบำยออกไปข้างนอก สีของอักขระเป็นสีดำ ช่วงที่มันกระจายออก เบื้องล่างฟ้าครามในพื้นที่แปดสิบล้านจั้งพลันกลายเป็นดินสีดำ!
นี่คือดินสีดำ ถึงจะเป็นสีดำ แต่กลับต่างกับสีดำของอากาศอย่างชัดเจน หนึ่งคือพื้นดินจริงๆ อีกหนึ่งคือปกคลุมด้วยดินสีดำ!
ภายในฟ้ากระจ่างดาวแปดสิบล้านจั้ง มีฟ้าคราม มีแผ่นดิน ฟ้ากระจ่างดาวในพื้นที่นี่ถูกเปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นหนึ่งโลก!
อภินิหารภาพนี้ทำให้ผู้ฝึกฌานทั้งหมดในระยะแปดสิบล้านจั้งสับสน ทว่าสับสนได้ไม่นานนัก เมื่ออักขระตัวที่สามขยายออก ทุกคนที่เห็นภาพนี้ล้วนเกิดความรู้สึก ฟ้าดินหมุนกลับ
ราวกับว่าตอนนี้โลกหมุนกลับ ฟ้าครามกลายเป็นแผ่นดิน แผ่นดินเป็นฟ้าคราม สิ่งที่ไม่ขยับคือร่างของทุกคน แต่ความรู้สึกลวงตาฟ้าดินกลับด้านนี้กลับทำให้ ผู้ฝึกฌานทั้งหมดหน้าขาวซีด เกิดความรู้สึกเวียนหัวในบัดดล
ฟ้าดินพลิกกลับ!
พลังฟ้าดินพลิกกลับในระยะแปดสิบล้านจั้งต่างพุ่งเข้ามาพร้อมกันในเวลานี้ ก่อนหลั่งทะลักเข้าไปในลำแสงตรงกลาง ไปรวมอยู่ที่กายเนื้อร่างจริงซูหมิง
โครม! เวลานี้แม้ร่างจริงซูหมิงยังคงโปร่งใส แต่เส้นเลือดลมภายในกับอักขระเหล่านั้นล้วนสั่นไหวและเกิดการบิดเบี้ยว หากเปรียบอักขระร่างจริงซูหมิงเป็นผนึกแห่งชีวิต เช่นนั้นตอนนี้ผนึกถูกย้อนกลับภายใต้พลังแห่งฟ้าดินพลิกกลับแล้ว ทำให้ผนึก….เปิดออก!
ตี้เทียนนอกลำแสงมองภาพนี้ด้วยความตื่นเต้น เขาเข้าใจเผ่ายมโลกมาก ตอนนี้มองออกว่าผนึกแห่งเส้นเลือดลมในร่างเผ่ายมโลกนี้ถูกเปิดออกแล้ว!
ยามนี้เอง อักขระที่กลายเป็นแผ่นดินและท้องฟ้าและยังมีอักขระไร้รูปที่พลิกกลับฟ้าดินเหมือนขยับแสงวิบวับพร้อมกัน ทันใดนั้นเกิดเสียงครึกโครมไปทั่วโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ภายใต้เสียงดังสนั่น ซูหมิงพลันรู้สึกว่าอักขระสามตัวนี้กำลังหมุนวนไม่หยุด ภายใต้กฏบางอย่าง พวกมันต่าง…ปล่อยพลังแห่งกาลเวลาเหมือนของเผ่ายมโลกออกมา
ทันทีที่พลังแห่งกาลเวลาออกมาก็แผ่ขยายออกไปโดยรอบทันที บ้างก็ไหลไปอย่างรวดเร็ว บ้างก็ไหลย้อนกลับ ผลในจุดนี้มองเห็นได้ชัดจากตัวตี้เทียนและไป๋เฟิ่ง
บางครั้งพวกเขาสองคนก็แก่ชราลงอย่างชัดเจน กลิ่นอายพลังแก่ชราลงเรื่อยๆ บางครั้ง…..ตี้เทียนก็เหมือนวัยหนุ่ม ไป๋เฟิ่งก็เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงดำเนินมาราว สิบกว่าลมหายใจแล้วก็หยุดลง!
เวลาไม่ไหลเวียนอีก ไม่ย้อนกลับอีก แต่หยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์!
ทันทีที่เกิดการหยุดนิ่ง พลังนี้พลันหดลง สุดท้ายก็ไปรวมอยู่ที่ร่างจริงซูหมิงในลำแสงทั้งหมด ทำให้ทุกอย่างจากโลก
ภายนอกกลับมาเป็นปกติ มีเพียงร่างจริงซูหมิงที่เวลาถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ต้องอยู่ในกาลเวลาหยุดนิ่ง
ช่วงที่เวลาหยุดนิ่ง เสียงเหนื่อยล้าจากซิงจี๋เต้าดังแว่วมา
“ตี้เทียน รีบแลกชีวิตเร็ว!”
ตี้เทียนเงยหน้าตะโกนเสียงดัง จิตแรกเขาบินออกไป ก่อนเผาไหม้ตัวเองกลางอากาศ จนเผาไหม้ครบสองลมหายใจแล้วก็ถึงขีดจำกัด แล้วปรากฎออกมาเป็น…..วิญญาณ สีทองดวงหนึ่ง!
ตี้เทียนอาศัยการสูบพลังจากกายเนื้อมาเสริมพลังให้กับจิตแรกเขาได้ในเวลาอันสั้น อีกทั้งยังใช้พลังจากการเผาจิตแรกบีบวิญญาณที่หลอมรวมกับจิตแรกแล้วออกมา สีทองของวิญญาณยังแผ่กระจายพลังของผู้ยิ่งใหญ่อันแกร่งกล้า!
กระทั่งเขาอาศัยการเผากายเนื้อกับจิตแรกมาทำให้วิญญาณกลับมามีขั้นพลังอย่างในอดีตได้ในเวลาสั้นๆ แต่มันจะอยู่ไม่นานนัก อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปความเสียหายจะรุนแรงอย่างยิ่ง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในเสี้ยวพริบตานี้ ตี้เทียนไม่เพียงแต่ฟื้นขั้นพลังในอดีตกลับมา แต่ยังก้าวหน้าไปอีก เห็นได้ชัดว่าหลายปีมานี้
แม้เขาจะมีขั้นพลังสู้ในอดีตไม่ได้มาตลอด แต่ในด้านการตระหนักรู้ก็มีเพิ่มมาไม่น้อย
ช่วงที่พลังนี้ปรากฏขึ้น คนชุดคลุมดำกับซิงจี๋เต้ายังเงยหน้ามอง ดวงตาหรี่เล็กลง
ขณะเดียวกันวิญญาณสีทองของตี้เทียนกลายเป็นสายรุ้งยาวสีทองสายหนึ่ง ข้ามผ่านลำแสงเชื่อมสวรรค์ไปปรากฏอยู่ข้างใน มองกายเนื้อโปร่งใสของซูหมิงที่ถูกหยุดนิ่งเอาไว้ด้วยแววตาละโมบ
เขาเพียงมองแวบหนึ่งแล้วก็เคลื่อนไหวเข้าไปอย่างไม่ลังเล พุ่งเข้าไปยังกายเนื้อซูหมิงในพริบตา ภาพนี้อยู่ในสายตาซูหมิง ก่อนกลายเป็นการยิ้มเยาะในใจ
ที่เขามาถึงที่นี่และซ่อนตัวในร่างชายชราคนชุดคลุมดำก็เพื่อตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องทำไม่ใช่เอาร่างกายคืนก่อนหน้าตี้เทียน แต่มันง่ายกว่านั้นมาก ขอเพียงทำให้ตี้เทียนล้มเหลวก็พอแล้ว หากตี้เทียนล้มเหลว เช่นนั้นในระหว่างที่หาอีกคนมาแลกชีวิต ซูหมิงที่เป็นกาฝากในตัวชายชราชุดคลุมดำจะมีเวลาและมีความมั่นใจมากพอในการชิงร่างจริงกลับมาอย่างง่ายดาย
จนกระทั่งช่วงที่วิญญาณตี้เทียนหลอมรวมเข้าไปในกายเนื้อซูหมิง ชายชรา คนชุดคลุมดำจึงทำการช่วยเหลือ ดวงตาเขาขยับประกายวาว ทันใดนั้นปรากฏแสง สีดำขึ้นบนตัวเขา
นั่นคือแสงแก่นยมโลก นั่นคือการช่วยกำราบด้วยแสงแก่นยมโลกในตอนแลกชีวิตตามที่เขารับปากไว้กับตี้เทียน แทบเป็นทันทีที่แสงแก่นยมโลกปรากฏขึ้น ซูหมิงก็ ละทิ้งแผนการเดิมไปทันที แต่เป็นจิตสัมผัสไปตามแสงแก่นยมโลกออกไป ขณะเดียวกับที่วิญญาณตี้เทียนหลอมรวมเข้าไปในกายเนื้อเขา จิตสัมผัสซูหมิง…..ก็เข้าไปในกายเนื้อตัวเองเป็นครั้งแรก
ความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนลอยขึ้นในใจเขา นั่นคือกายเนื้อที่เขาเฝ้าปรารถนามานาน นั่นคือร่างจริงที่เฝ้าใฝ่ฝัน ตอนอยู่แดนหมาน ตอนที่เขารู้ว่าตนเป็นวิญญาณ เขาก็นึกถึงวันนี้ วันที่ตนจะชิงกายเนื้อกลับมา
ความคิดนี้จะถูกเขากดเข้าไปในแดนต้นกำเนิดจิต ยึดมั่นอยู่ในส่วนลึกในใจอยู่นาน จนถึงตอนนี้เขาได้เข้าใกล้กายเนื้ออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้ใช้จิตสัมผัสหลอมรวมเข้าไป ความรู้สึกที่ว่าต้องการเวลาเล็กน้อยในการหลอมรวมก็จะควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ทำให้เขาเกิดอารมณ์ชั่ววูบในการหลอมรวมเข้าร่างจริงโดยไม่สนสิ่งใด
เขารู้สึกได้ว่าเส้นเลือดลมในกายเนื้อตอนนี้ที่ถูกหยุดนิ่งกำลังถูกตี้เทียนยึดครองไปอย่างรวดเร็ว หากเขายึดครองได้ทั้งหมด การแลกชีวิตของตี้เทียนจะสำเร็จ
ซูหมิงระงับอารมณ์ชั่ววูบในใจเอาไว้ เพียงยิ้มเยาะในใจ แค่เขาปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตี้เทียนก็จะล้มเหลวแล้ว ทว่าช่วงที่ซูหมิงกำลังจะลงมือนั้น ในใจเขาพลันเกิดความรู้สึกถึงอันตรายสุดบรรยาย
อันตรายนี้มาจากกายเนื้อร่างจริง ขณะเดียวกันช่วงที่อันตรายโผล่ขึ้นมา ซูหมิงรู้สึกจากกายเนื้อเหมือนว่าในความคุ้นเคยมีเสี้ยวความแปลกตาอยู่!
“ไม่ถูกต้อง! ซูหมิง กายเนื้อนี้มีอะไรแปลกๆ !” ต่อมากระเรียนขนร่วงร้องเสียงแหลม ส่งเสียงเล็กดังกึกก้องในใจซูหมิงด้วยความตึงเครียด
“ซูหมิง กายเนื้อนี้ไม่ถูกต้อง สมควรตาย นี่คือผนึกวิญญาณพันล้านศพ นี่คือวิชาผนึกที่ร้ายกาจยิ่งซึ่งมีเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์ของห้องโถงมืดของฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณเท่านั้นถึงจะใช้ได้! ซูหมิง นี่ไม่ใช่กายเนื้อเจ้า นะ…นะ…นี่คือศพเผ่ายมโลกที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะจากศพพันล้านศพ!
รีบเก็บจิตสัมผัสเร็ว หากช้าไปก้าวเดียวเจ้าจะต้องพบกับมหันตภัยไม่มีจบสิ้น สมควรตาย ใครกันช่างชั่วช้าเช่นนี้….หากศพนี้ระเบิดจะทำลายหนึ่งโลกแท้จริงได้อย่างง่ายดาย!”