Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1173

ตอนที่ 1173 วงแหวนวงแหวนอาคมธูปสวรรค์

ซูหมิงหน้าเปลี่ยนสี ท่าทางการมองไปทางตะวันออก โดยเฉพาะประกาววาวในดวงตาทำให้ศิษย์พี่ใหญ่ค้างมือขวาไว้ที่ไหสุรา หู่จื่อข้างๆ หรี่ตาลงเพ่งมองซูหมิง

ส่วนศิษย์พี่รอง สีหน้าเปลี่ยนจากยั่วเย้าก่อนหน้านี้ทันที กระทั่งยังแฝงไว้ด้วยความเงียบ สายตามองซูหมิง

“เกิดอะไรขึ้น?” ศิษย์พี่ใหญ่ถามเสียงต่ำ หลังซูหมิงหน้าเปลี่ยนสี สิ้นคำพูดศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่ศิษย์น้องสี่คนต่างจริงจัง พลันมีแรงกดดันปกคลุมที่นี่ ทำให้หญิงที่ติดตามศิษย์พี่รองหลายคนต่างมีสีหน้าตกใจ

สิ่งที่พวกนางตกใจคือความจริงจังของศิษย์พี่ศิษย์น้องเหล่านี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะทำให้ผืนฟ้ารอบๆ เกิดความอึดอัด ทำให้พายุหมุนรอกระลอกคลื่นเหมือนจะหยุดนิ่ง และทุกอย่างที่นี่ยังเงียบกริบ

กลิ่นอายมารของศิษย์พี่ใหญ่ กลิ่นอายภูตผีประหลาดของศิษย์พี่รอง ความบ้าคลั่ง กล้าหาญของหู่จื่อ ยามนี้อบอวลอยู่รอบตัวพวกเขา แต่กลับไม่ปะทุออกมา เพียงแต่เหมือนว่าขอเพียงซูหมิงพูด พวกเขาสามคนจะจ่ายทุกอย่างเพื่อศิษย์น้องเล็กคนนี้

ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะพลังซูหมิงสูงที่สุด ไม่ใช่เพราะพวกเขาสามคนฟังคำสั่งเขา ถึงขั้นต่อให้ซูหมิงมีพลังสูงกว่านี้อีก หากไม่ใช่ศิษย์น้องเล็ก พวกเขาจะไม่มองแม้แต่หางตา

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะซูหมิงคือคนยอดเขาลำดับเก้า เป็น…ศิษย์น้องเล็กของพวกเขา!

“ไม่มีอะไร ร่างแยกคนหนึ่งของข้าอยู่ทางตะวันออก ตอนนี้ขาดการเชื่อมต่อกับข้าไป มีพลังอย่างหนึ่งกดเหนือวิญญาณในร่างแยกข้า” ซูหมิงกลับมามีสีหน้าปกติ แล้วพูดอธิบายคร่าวๆ

“ทางตะวันออก…หู่จื่อ!” ศิษย์พี่ใหญ่เอ่ยเรียบๆ เพิ่งกล่าวจบ หู่จื่อแสยะปากยิ้ม ก่อนยกมือขวาขึ้นกดบ่าซูหมิงเอาไว้ ดวงตาปิดลง ทันทีที่หลับตา ซูหมิงพลันสังเกตเห็นว่ากลิ่นอายพลังของหู่จื่อหายไปในพริบตา แม้แต่จิตสัมผัสยังตรวจไม่พบ หากไม่ใช่เพราะตาเนื้อเห็นว่ายังอยู่ มิเช่นนั้นคงยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ใด

“วิชาแห่งเต๋าความฝันของหู่จื่อ เขาสำเร็จวิชาอยู่เล็กน้อยตอนออกจากแดนหมาน ตอนนี้ผ่านมาหลายปี เขาผ่านอะไรมาไม่น้อย ดูท่าคงจะชำนาญวิชานี้มากขึ้น วิชานี้สามารถใช้การเข้าฝันอาศัยผ่านความรู้สึกเจ้ามองเห็นส่วนวิญญาณเจ้าได้” ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวเนิบๆ ตอนนี้เองหู่จื่อตาเหลือกเป็นลูกตาสีขาว ภายในเป็นประกาย สีขาวประหลาด

“ทางตะวันออก…ธูปยักษ์เก้าดอก มีเจ็ดดอกมอดดับ สองดอกติดไฟ…ผู้ฝึกฌานแสนคน…” หู่จื่อหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาปิดลง ครู่ต่อมาก็ลืมตาขึ้น มือขวายก จากบ่าซูหมิง ก่อนตรึกตรองอยู่ชั่วขณะ แล้วทำสัญลักษณ์มือชี้ไปยังมวลอากาศ ฉับพลันนั้นปรากฏภาพหนึ่งขึ้นกลางอากาศ

ภาพนั้นเลือนรางเล็กน้อย แต่ก็ยังเห็นชัด นั่นคือมวลอากาศฟ้ากระจ่างดาว กลางฟ้ามีธูปสวรรค์ตั้งตระหง่าน สองดอกติดไฟ ผู้ฝึกฌานแสนคนนั้งฌานอยู่รอบๆ ทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นเต้นและบ้าคลั่ง หน้าสุดคนเหล่านี้และใกล้ธูปติดไฟสองดอกมากที่สุด มีร่างเงาหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น ร่างเงานี้มีสีหน้าเหยเกย กำลังหลับตาเหมือนต่อสู้ดิ้นรน ร่างกายสั่นไหว คล้ายว่ากำลังเจ็บปวดจนไม่อาจบรรยาย

ทว่าสีหน้าเขากลับดันมีความสุขสบายถึงที่สุด

ร่างเงานี้คือร่างแยกกลืนนภาของซูหมิง

“วงแหวนวงแหวนอาคมธูปสวรรค์!” ศิษย์พี่รองหรี่ตามองก้านธูปยักษ์เก้าดอกในภาพมายาพลางกล่าวเสียงต่ำเนิบช้า

“มิน่าล่ะ ร่างแยกศิษย์น้องเล็กอยู่ข้างวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ย่อมต้องเกิดความรู้สึกขาดการเชื่อมต่อกับเจ้าอยู่แล้ว เพราะวงแหวนอาคมนี้นอกจากจะทำให้คนเกิดความรู้สึกว่าทะลวงพลังปลอมๆ แล้ว ยังมีอีกความลับหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

ที่นั่นทำให้ร่างแยกตัดขาดจากร่างจริงได้ อีกทั้ง…ยังทำให้ร่างแยกเกิดจิตสำนึกของตัวเองขึ้นมา ดังนั้นยอดฝีมือแห่งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมถึงไม่เคยมีใครส่ง ร่างแยกไปที่วงแหวนอาคมธูปสวรรค์

ทว่าดูเหมือนร่างแยกนี้ของศิษย์น้องเล็กยังต่อสู้ดิ้นรนอยู่ เรื่องนี้มีความแปลกอยู่เล็กน้อย ตามที่ข้าเข้าใจ ตอนนี้ข้าน่าจะไม่ดิ้นรนแล้ว แต่ควรจะตัดขาดเสี้ยววิญญาณกับเจ้าไปอย่างสมบูรณ์แล้วถึงจะถูก” ศิษย์พี่รองขมวดคิ้วมองซูหมิง

“วงแหวนวงแหวนอาคมธูปสวรรค์…” ซูหมิงมองภาพมายานั้นด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับ

“ข้าก็เคยได้ยินเรื่องวงแหวนอาคมธูปสวรรค์มาก่อน เล่าลือว่ามันอยู่มาตั้งแต่กำเนิดโลกแท้จริงดาราสัจธรรม อีกทั้งดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ถูกใครวางเอาไว้ มิหนำซ้ำตอนแรกสุดธูปติดไฟเก้าดอก ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปกลับมอดดับไปเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือเพียงสองดอกที่ยังติดไฟ”

“ไม่ใช่สองดอก ก่อนหน้านี้มีสามดอก อย่างน้อยสุดก็ก่อนเกิดพายุหมุนในฟ้ากระจ่างดาว พวกมันติดไฟสามดอก! ข้าเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่นั่นเป็นวงแหวนอาคมจริงๆ แต่ด้วยความเก่าแก่ของมัน ข้าเลยไม่เข้าใจมัน กระทั่งในความรู้สึกข้า มีบางด้านในวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ที่…คล้ายกับข้า” หู่จื่อกล่าวเสียงต่ำ พูดจบ พวกซูหมิงพากันใจสั่นไหวทันที

หู่จื่อคือวิญญาณที่กำเนิดมาจากวงแหวนอาคมมหึมาที่ปกคลุมนอกแดนมรณะหยิน และเขาคือส่วนหนึ่งในวงแหวนอาคมนี้ หลังเทียนเสียจื่อรับเขามาด้วยวิธีใด ไม่ทราบแล้ว ถึงก่อร่างเป็นคนและรับเป็นลูกศิษย์

แต่รากฐานจริงๆ หู่จื่อคือสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งที่เกิดจากวงแหวนอาคม

ตอนนี้เขาบอกว่ารู้สึกคล้ายกับวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ ซึ่งนั่นก็มากพอจะยืนยันคำตอบแล้ว

“ตอนนั้นหลังข้าไปที่นั่นและสังเกตเห็นถึงความหมัศจรรย์ของวงแหวนอาคม ธูปสวรรค์ ข้ารู้สึกว่านี่คือวงแหวนอาคมนภาอย่างหนึ่ง จากที่ข้าศึกษามาบ้าง ถึงจะไม่รู้ความลับที่สุดของมัน แต่ก็คาดการณ์คร่าวๆ ได้ว่า แท้จริงแล้ววงแหวนอาคม ธูปสวรรค์คือวงแหวนอาคมอัญเชิญโบราณ!

ระยะทางการอัญเชิญของวงแหวนอาคมนี้น่าจะไม่อาจจินตนาการแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าผ่านมานานมากเลยเสียความสามารถไปแล้ว เว้นแต่จะให้ธูปเก้าดอกติดไฟอีกครั้ง มิเช่นนั้นจะไม่เกิดผล”

นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายเย็นเยียบอยู่ภายใน ก่อนลุกขึ้นยืน

“พวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องเพิ่งเจอกันก็มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว พวกศิษย์พี่ใหญ่พักก่อนเถอะ ข้าจะไปวงแหวนอาคมธูปสวรรค์สักครั้ง ไปดูว่าในวงแหวนอาคมจะมีความลึกลับเพียงใดถึงกล้าตัดส่วนวิญญาณข้า!” ซูหมิงพูดขึ้นเรียบๆ แต่เมื่อเขายืนขึ้น ความรู้สึกแข็งแกร่งแผ่กระจายมาจากตัวอย่างโดยธรรมชาติ

“ไม่เป็นไร ให้หู่จื่อไปกับเจ้าด้วยเถอะ เขาเชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงของ วงแหวนอาคม ช่วยเหลือเจ้าได้แน่ ส่วนข้ากับน้องรอง…ในเมื่อเจ้าอยากจะให้ยอดเขาลำดับเก้าเป็นสำนักเพียงหนึ่งเดียวในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมภายใต้มหันตภัย เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้าคนเดียวอีก นี่คือเรื่องของพวกเราคนยอดเขา ลำดับเก้าทุกคน

ข้ากับน้องรองจะสร้างยอดเขาลำดับเก้าอยู่ที่นี่เอง!” ศิษย์พี่ใหญ่ตรึกตรองอยู่ชั่วขณะ แล้วพูดขึ้นช้าๆ

“การสร้างสำนักไม่ใช่ง่ายๆ อย่างแค่รับศิษย์ ยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ อย่างน้อยสุดต้องมีประตูสำนัก ต้องมีระบบ เรื่องนี้มอบให้ข้ากับศิษย์พี่ใหญ่เถอะ” ศิษย์พี่รอง คลี่พัดในมือออก แล้วยิ้มพลางเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางสะโอดสะอง

หู่จื่อแสยะปากยิ้มมองซูหมิง

ซูหมิงพยักหน้า เขาประสานมือคารวะศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รอง ก่อนหมุนตัวกลับพร้อมยกมือขวาขึ้นชี้ไปยังระลอกคลื่นสีขาว ฉับพลันนั้นระลอกคลื่นขยายออกไปอีกรอบใหญ่แล้วเกิดเสียงดังอื้ออึง ก่อนแหวนสมบัติล้ำค่าลอยตรงมาหาเขา เข้ามาสวมที่นิ้วมือขวา

แม้ซูหมิงจะเก็บสมบติล้ำค่ามาแล้ว แต่ระลอกคลื่นที่นี่ยังคงมหึมา ยังคงสั่นคลอนพายุหมุน นี่คือเงาสะท้อนที่เหลือจากสมบัติล้ำค่าภายใต้การควบคุมของซูหมิง สามารถคงอยู่แบบนี้ได้อีกราวร้อยปี

นี่คือการเตรียมพร้อมหากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ระลอกคลื่นนี้จะเป็นรากฐานในการสร้างยอดเขาลำดำเก้า

“ระลอกคลื่นที่นี่สั่นคลอนพายุหมุนได้ ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง พวกท่านส่งจิตสัมผัสเข้าไปหลอมรวมก็จะควบคุมมันได้ นี่คือเงาสะท้อนสมบัติล้ำค่าที่ข้าวางเอาไว้ สามารถสื่อสารผ่านตรงนี้ได้” ซูหมิงมองศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองอีกครั้ง ก่อนหมุนตัวกลายเป็นสายรุ้งยาวขยับวูบไปทางมวลอากาศ

หู่จื่อหัวเราะเสียงดังอยู่ข้างๆ เขากระโดดบินขึ้นตามไป ส่วนกระเรียนกลอกตาและรีบตามไปเช่นกัน ขณะสายรุ้งยาวขยับวิบวับ ร่างเงาซูหมิงกับหู่จื่อหายไปแล้ว

คล้อยหลังซูหมิง ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองก็ไม่ได้ว่าง แต่พูดคุยกันถึงทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการสร้างยอดเขาลำดับเก้า จากนั้นก็ต่างฝ่ายต่างเริ่มลงมือกัน

กลางผืนฟ้า ซูหมิงเคลื่อนตัวในมวลอากาศด้วยความเร็วระดับพริบตา หู่จื่อเองก็ไม่ได้ช้ากว่าเท่าไร ก้าวเท้ายาวไปพลาง ดื่มสุราไปพลาง ห้อเหยียดไปพลาง

แต่จะเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ความเร็วทั้งหมดของซูหมิง ถึงจะขาดการเชื่อมต่อกับร่างแยกไป ทว่าเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว รีบไปก็ไม่มีประโยชน์

สองคนห้อเหยียดกลางฟ้า จุดที่ผ่านพายุหมุนจะม้วนถอยไป เปิดเป็นเส้นทาง รอยแยกยักษ์สายหนึ่ง จนกระทั่งสองคนบินผ่านไปนานมาก รอยแยกนั้นถึงค่อยๆ ถูกพายุหมุนกลบ

ไม่กี่วันต่อมา ภายใต้ความเร็วดุจเคลื่อนย้ายพริบตาของซูหมิงกับหู่จื่อ พวกเขาก็มาถึงเขตของวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ ร่างเงาซูหมิงกับหู่จื่อก้าวเดินออกมากลางฟ้าบิดเบี้ยวที่มีพายุหมุนเบาบางห่างไปหลายหมื่นจั้ง

เพิ่งเดินออกมา ซูหมิงก็เห็นธูปสวรรค์เก้าดอกยักษ์อยู่ไกลๆ มีความสูงหมื่นจั้ง เก้าดอกล้อมรอบเป็นวงกลม ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่

โดยเฉพาะธูปสวรรค์สองดอกที่ยังติดไฟ ควันจากพวกมันลอยอยู่กลางฟ้า เห็นหัวธูปวูบวาบไปมาอยู่ในควัน ตอนที่มองไปจะอดถูกดึงดูดสมาธิทั้งหมดไปมิได้

“ที่นี่คือวงแหวนอาคมธูปสวรรค์!” หู่จื่อกล่าวเสียงต่ำอยู่ข้างซูหมิง ตอนนี้สีหน้าซื่อๆ จริงจังขึ้นมา

ดวงตาซูหมิงเป็นปกติ ทว่าลูกตาดำกลับหดลงเล็กน้อย เขาไม่ได้เห็นเพียง วงแหวนอาคมธูปสวรรค์มหึมาเท่านั้น แต่ยังเห็นผู้ฝึกฌานแสนคนนั่งขัดสมาธิอยู่นอกวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ไกลๆ แต่ละคนมีสีหน้าต่างกัน ทว่าทุกคนจะมีความคลุ้มคลั่งอยู่ รวมถึง…ร่างเงาหนึ่งที่แทบจะนั่งขัดสมาธิติดกับธูปสวรรค์สองดอกที่ยังติดไฟ รอบๆ ร่างเงานี้ถูกควันโอบล้อม ดูแล้วขมุกขมัวเล็กน้อย

นั่นคือร่างแยกกลืนนภาของซูหมิง!

ร่างแยกที่คุ้นเคยในอดีต ตอนนี้ในสายตาเขา บางทีอาจจะเป็นเพราะควันขมุกขมัวจึงเกิดเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งที่เขารู้สึกแปลกตา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version