Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1228

SVTASR

ตอนที่ 1228 ร่างแยกโลกแท้จริง

ซูหมิงเพ่งมองน้ำวนฟ้ากลางมือ ผ่านไปพักใหญ่ถึงหลับตาลงช้าๆ ตอนที่หลับตาลง จิตเขาหลอมรวมเข้าไปในน้ำวน ประหนึ่งข้ามผ่านโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ทำให้ ทุกแห่งในโลกนี้ไม่มีจิตอื่น

นี่เป็นความรู้สึกประหลาดมาก โลกแท้จริงดาราสัจธรรมคือเขา เขาคือโลกแท้จริงดาราสัจธรรม แต่แท้จริงแล้วจะให้พูดจริงๆ คือซูหมิงยึดครองโลกแท้จริง ดาราสัจธรรมแล้วเปลี่ยนให้เป็นร่างแยกของตน

ร่างแยกของหนึ่งโลกแท้จริง!

ร่างแยกนี้เคลื่อนไหวไม่ได้ และยังไม่มีอภินิหารน่าตะลึงอะไร แต่ว่า…ทุกสิ่งมีชีวิตในโลกนี้จะอยู่ในกุมมือซูหมิง และยังมีทุกคนที่เข้ามาจากข้างนอก ก็ต้องถูกเขาลงโทษช่นกัน

เพราะนี่คือโลกของเขา!

ขณะหลับตาเงียบๆ เขารู้สึกถึงศิษย์พี่ใหญ่ รู้สึกถึงบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงกับ ฉางเหอบนดาวห่างไกลผู้คนแห่งหนึ่งในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม และยังรู้สึกถึง หญิงชุดคลุมดำคนนั้น กระทั่งเห็นชัดเหมือนยืนอยู่ตรงหน้านาง

จนกระทั่งเขาเห็นร่างเงาหนึ่งกลางฟ้าในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมกำลังสับสน เหมือนเข้าก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้ สายตามองไปรอบๆ อย่างตึงเครียด

ร่างเงานี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังยมโลก นั่นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่กำเนิดในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม แต่เป็นคนจากโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก อีกทั้งซูหมิงยังรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังของซูเซวียนอีในตัวคนนี้ รู้สึกว่าเมื่อเขามาถึง เขาก็รีบเก็บจิตสังหารไปอย่างรวดเร็วเพราะดาราสัจธรรมเปลี่ยนเจ้าของ

ซูหมิงเพียงใช้ดวงจิตกวาดผ่านร่างเงานี้แล้วก็ไม่ได้สนใจอีก แต่สังเกตโลกแท้จริงดาราสัจธรรมของตนอีกครั้ง

“ร่างแยกโลกแท้จริง…” ผ่านไปพักใหญ่ ซูหมิงพูดพึมพำ ในความรู้สึก เขาสังเกตเห็นว่าระดับชีวิตตนเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้นเล็กน้อยหลังยึดครองโลกแท้จริงดาราสัจธรรมสำเร็จ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งเสริมระดับชีวิตเขา ทำการผลัดเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องไปยังระดับที่สูงกว่าซึ่งเหนือกว่าเมื่อก่อน

ขณะอยู่ในการตระหนักรู้ ซูหมิงสัมผัสทุกอย่างในอารมณ์ความคิดเงียบๆ จนกระทั่งอารมณ์ความคิดค่อยๆ เหมือนเปลี่ยนเป็นช้าลง จากนั้นเขาถึงลืมตาขึ้น

ชายชราวิญญาณสวรรค์ข้างกายมองมา ทันทีที่สองคนสบตากัน น้ำวนฟ้ากระจ่างดาวในมือขวาซูหมิงพลันหายไป มันหลอมรวมเข้าไปในฝ่ามือ ละลายอยู่กลางวิญญาณเขา

“ความรู้สึกหลังยึดครองโลกแท้จริงแล้วเปลี่ยนเป็นร่างแยกเป็นอย่างไรบ้าง?” ชายชราวิญญาณสวรรค์ถามขึ้น

“น่าเสียดายร่างแยกนี้ นอกจากพลานุภาพเจตนารมณ์สวรรค์แล้ว ก็ไม่มีอภินิหารอื่นๆ เลย” ซูหมิงเงียบอยู่ชั่วครู่แล้วตอบกลับนิ่งๆ

“โลกนี้ไม่ดับสูญ วิญญาณเจ้าก็จะไม่ดับสูญ โลกนี้ไม่ตาย ดวงจิตเจ้าจะคงอยู่ ชั่วนิรันดร์ เรื่องนี้คือโชควาสนาครั้งใหญ่ที่สุด ส่วนอภินิหารอื่นๆ …ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ความคิดผู้

ฝึกฌานจะเข้าใจได้ บางทีหากเจ้ากลายเป็นโลกแท้จริงดาราสัจธรรมนานเข้าก็อาจจะเข้าใจเอง” ชายชราวิญญาณสวรรค์มองซูหมิง แม้สีหน้าจะสงบนิ่ง แต่ซูหมิงก็ยังสังเกตเห็นความชื่นชมในใจชายชรา

‘ไม่ใช่สิ่งที่ความคิดผู้ฝึกฌานจะเข้าใจได้…’ ซูหมิงเงียบ เขาพิจารณาคำพูดอย่างละเอียด นี่ไม่ใช่ว่าชายชราเข้าใจหลังยึดครองโลกแท้จริงมากกว่าเขา แต่เป็นเพราะชายชราอยู่มานานหลายปี อีกทั้งยังห่างจากเทพบรรพชนอีกก้าวเดียว ดังนั้นในด้านความรู้จึงมากกว่าซูหมิงมาก เพียงแต่เรื่องนี้อยู่มาก่อนซูหมิงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นชายชราเองจึงไม่รู้ละเอียดนัก

“ข้าน่าจะเข้าใจ…” นัยน์ตาเขาพลันขยับประกายวาว ก่อนเอ่ยขึ้นช้าๆ พลางยกมือขวาขึ้นชี้ฟ้ากระจ่างดาวตรงหน้า ทันใดนั้นเองเหมือนมีพลังไร้รูปรวมมาจากรอบๆ กลางฟ้า ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นหินผุพังยักษ์หลายก้อน หินเหล่านี้เพิ่งปรากฏก็ พุ่งไกลออกไปอย่างเร็วไว พริบตาเดียวหินผุพังเป็นพันเป็นหมื่นก้อนอัดแน่นอยู่เต็มฟ้า ยามอยู่ไกลๆ จะเป็นสายรุ้งยาวสว่างวาววับ

“ใช้ความคิดผู้ฝึกฌานตระหนักรู้ร่างแยกโลกแท้จริงไม่ได้ ดังนั้นต้องมองตัวเองเป็นดวงจิตสูงสุดของโลกนี้จริงๆ ก่อน มี

ในไม่มี ทุกอย่างอยู่ระหว่างหนึ่งความคิด” ซูหมิงพึมพำ เขาชี้มือขวาไปอีกทางอีกครั้ง ทันใดนั้นฟ้าบิดเบี้ยว ชั่วพริบตาเดียวปรากฏดาวดวงหนึ่งขึ้น ดาวดวงนี้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แวบเดียวก็กลายเป็นดาวแท้จริงสมบูรณ์ดวงหนึ่ง

ดวงตาซูหมิงสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างโบกมือ ผืนฟ้าเกิดเสียงอึกทึก มันเกิด รอยแยกยักษ์ขึ้น มีขนาดยาวหมื่นจั้ง ดูแล้วน่าสะพรึงกลัว

“ร่างแยกโลกแท้จริง พลังของจิตและความคิด ใช้จิตเป็นผืนฟ้า ให้ความคิดไม่มีสิ้นสุด!” ขณะซูหมิงพึมพำ ในดวงตาสองข้างมีแสงสีแดงสว่างวาบ ทันใดนั้นมีสายฟ้าสีแดงสายหนึ่งส่งเสียงดังสนั่นพร้อมกับปรากฏกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ก่อนพุ่งตรงไปยังดาวดวงนั้น ทะลวงเข้าไปข้างใน ดาวดวงนั้นสั่นสะท้านก่อนหายไป

“นี่คือ…ภัยพิบัติ!” ขณะที่ซูหมิงพูดพึมพำ ชายชราวิญญาณสวรรค์ข้างๆ พลันหรี่ตาลง

“เปลี่ยนรูปเป็นสิ่งใดก็ได้ ขอแค่อยู่ระหว่างหนึ่งความคิด…นี่คือหนึ่งในอภินิหารของร่างแยกโลกแท้จริง เช่นนั้น

หากข้าหลอมรวมกับตัวเองแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่…” ขณะซูหมิงตกอยู่ในห้วงความคิด จู่ๆ มุมปากก็ยกยิ้มทีละน้อย จากนั้นยกมือขวาโบกไปยังฟ้าไกลๆ ฉับพลันนั้นภายในผืนฟ้าที่ห่างกับเขายิ่ง รอบตัวร่างเงาคนจากโลกจักรพรรดิยมโลกนั้นที่ยังอยู่ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมและตอนนี้กำลังถอยไปอย่างรวดเร็วเหมือนอยากออกจากโลกนี้เกิดระลอกคลื่นขึ้น

เขาเป็นชายวัยกลางคน สวมเสื้อคลุมเทา นี่คือผู้ฝึกฌานจักรพรรดิยมโลกที่ ซูเซวียนอีส่งมาตรวจสอบความคิดแห่งยมโลก เพียงแต่ว่าเขายังไม่ทันหาสาเหตุพบ ซูหมิงก็ยึดครองโลกแท้จริงดาราสัจธรรมแล้ว ทำให้ซูเซวียนอีต้องแย่งชิง หลังซูเซวียนอีพ่ายไป ชายวัยกลางจึงออกไปไม่ทัน ตอนนี้เขาหน้าขาวซีด ร่างกลายเป็นสายรุ้งยาว ยามนี้เขามีอยู่เพียงความคิดเดียวคือออกจากโลกแท้จริงดาราสัจธรรมให้เร็วที่สุดแล้วกลับโลกจักรพรรดิยมโลก

แต่ว่าเมื่อผืนฟ้ารอบตัวเขาเกิดระลอกคลื่นขึ้นอย่างไร้รูป ชายคนนี้หน้าเปลี่ยนสี ทันใดนั้นเองกลางผืนฟ้าตรงหน้ามีระลอกคลื่นรวมเข้ามานับไม่ถ้วน และยังมี ประตูยมโลกบานใหญ่โผล่ขึ้นมา

ความใหญ่ของประตูนี้เหมือนว่าจะค้ำยันฟ้ากระจ่างดาวได้ ช่วงที่มันโผล่มา ชายคนนี้หรี่ตาลงดูตกใจ

“หลังจากหลอมรวมกับข้าแล้ว ประตูยมโลกของข้า…จะเป็นประตูยมโลกของดาราสัจธรรม เมื่อประตูนี้ปรากฏ…จะมีแต่ความตายไม่มีใครรอด” ชั่วขณะที่ซูหมิงยิ้มมุมปาก ประตูยมโลกมหึมาตรงหน้าชายวัยกลางคนเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่น จากนั้นเองชายวัยกลางคนร้องโหยหวนเสียงแหลม ร่างกายแห้งเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว วิญญาณ พลังชีวิต เลือดเนื้อไปจนถึงทุกอย่างของเขาหายไปเป็นส่วนใหญ่ตอนที่ประตูยมโลกเปิดออก

จนกระทั่งประตูยมโลกเปิดออกด้วยความกว้างสามนิ้ว ชายวัยกลางคนเสื้อคลุมเทากรีดร้อง ทั่วร่างหายไป ร่องรอยทุกอย่างถูกประตูยมโลกสูบไป

‘ภัยพิบัติดวงจิต ประตูยมโลก และยังมี…’ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววครุ่นคิด จนกระทั่งในความคิดลอยขึ้นมาเป็นภาพจำหนึ่ง ในภาพนั้นมีมือสองข้างกำลังใช้เชือกหญ้าผูกปม ตอนที่สองมือถักขึ้นเป็นตุ๊กตา เจ้าของสองมือนั้นเงยหน้าขึ้นเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

นั่นคือบิดาของเสียวโฉ่วเอ๋อร์ เป็นคนในครอบครัวที่ยากจะลืมในความทรงจำเขา

เป็นวิธีผูกปมหญ้านี้ที่ทำให้ซูหมิงเข้าใจพลังแห่งคำสาป ใช้ปมหญ้าสาป รวมพลังฟ้าดินเข้ามา วิชานี้มีส่วนช่วยในชีวิตเขาเยอะมาก ตอนนี้เขายึดครองโลกแท้จริง ดาราสัจธรรมแล้ว หลังมีร่างแยกโลกแท้จริงแล้ว เขาก็นึกไปถึงวิชาคำสาปนี้อีก ค่อยๆ เกิดหนึ่งความคิดหนึ่งขึ้น

‘ใช้พลังของหนึ่งโลกแท้จริงรวมเป็นปมหญ้า…เปลี่ยนมันเป็นคำสาป…พลานุภาพจะเป็นอย่างไร?’ ซูหมิงใจสั่นไหว เขาหลับตาลงและแผ่ขยายจิตสัมผัส ผืนฟ้าของ โลกแท้จริงดาราสัจธรรมสั่นสะเทือน ราวกับว่าผืนฟ้าที่นี่กลายเป็นเชือกหญ้ายักษ์ เส้นหนึ่ง ค่อยๆ ผูกขึ้นทีละปม หลังผูกปมเหล่านี้แล้วก็ถักขึ้นอย่างไร้รูปตามดวงจิต ซูหมิง จนออกมาเป็นตุ๊กตาดำราสัจธรรม

คนนอกมองไม่เห็นตุ๊กตาตัวนี้ มันอยู่ในใจซูหมิง วิชานี้รวมความคิด รวมความเข้าใจต่อวิชาคำสาป ใช้ดาราสัจธรรมเป็นรากฐาน ใช้ดวงจิตและความคิดเป็นเชือก ใช้คำสาปเป็นปม ตอนที่พวกมันปรากฏขึ้นทีละส่วนจนสมบูรณ์แล้วนั้น ซูหมิง ลืมตาขึ้น

ฉับพลันนั้นเองทั่วทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมสั่นสะเทือน ราวกับว่าทุกส่วนกลายเป็นพลังคำสาป เมื่อซูหมิงยกมือขวาชี้ผ่านฟ้าไกลๆ ไปยังโลกจักรพรรดิยมโลก เขาพลันรู้สึกชัดเจนว่าดวงจิตทั้งหมดของร่างแยกโลกแท้จริง รวมถึงเจตนารมณ์สวรรค์บรรพชนวิญญาณของเขากลายเป็นเส้นสีแดงฉานสายหนึ่งที่มีการกัดกร่อนและคำสาปรุนแรง จากนั้นมันก็พุ่งไกลออกไปด้วยความเร็วไม่อาจบรรยาย

ภายในนั้นแฝงไว้ด้วยจิตสำนึกซูหมิง แฝงไว้ด้วยทุกอย่างของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม และยังมี…กลิ่นอายพลังที่ทำให้เขาใจสั่นไหวรวมถึงทำให้ชายชราวิญญาณสวรรค์ข้างๆ หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

“นี่คือ…ดวงจิตสามรกร้าง!” ชายชราวิญญาณสวรรค์หลุดปากพูดขึ้น แต่เขาพลันสังเกตเห็นถึงความต่าง เส้นสีแดงที่ซูหมิงรวมด้วยคำสาปไม่ใช่ดวงจิตสามรกร้าง แต่ก็ใกล้เคียงอย่างยิ่ง!

“ซูหมิง เก็บวิชานี้ เร็ว!” ชายชราวิญญาณสวรรค์กล่าวอย่างเร่งรีบ และยังแผ่ขยายจิตสัมผัสให้กลายเป็นเจตนารมณ์สวรรค์พุ่งไปยังเส้นสีแดงนั้นเพื่อขวางมันเอาไว้

ซูหมิงใจสั่น เป็นตอนนี้เองเขาเกิดความรู้สึกเด่นชัดบางอย่าง เขารู้สึกว่าใน มหาโลกสามรกร้าง นอกจากตนแล้วยังมีดวงจิตโลกแท้จริงมหึมาอีกสามดวง มิหนำซ้ำนอกจากดวงจิตสามดวงแล้ว ยังมีดวงจิตที่สูงสุดจนไม่อาจบรรยายและเหมือนแค่ความคิดเดียวก็ผนึกดวงจิตสามดวงนั้นได้!

ดวงจิตนั้นกำลังหลับใหล แต่มันที่หลับใหลอยู่นี้ทำให้ซูหมิงรู้สึกชัดว่าระดับชีวิตมันคือ…เจ้าแห่งสามรกร้าง!

ดวงจิตนี้เกิดเค้าลางจะตื่นขึ้นเสี้ยวหนึ่งตอนที่ซูหมิงแผ่กระจายพลังคำสาป นี่ทำให้เขาใจสั่นสะท้านพร้อมกับเก็บวิชาคำสาปทันที ให้มันหายไปกลางมวลอากาศ

“เจ้ารู้สึกถึงรึยัง?” ชายชราวิญญาณสวรรค์มองซูหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน และยังมีความเหลือเชื่อในวิชาของซูหมิง

“นั่นคือ…ดวงจิตสามรกร้าง?” ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามขึ้นเนิบๆ

“ไม่ผิด นั่นคือดวงจิตสามรกร้างที่กำลังหลับใหล เจ้าอย่าถามทุกอย่างที่เกี่ยวกับดวงจิตนี้ ตอนที่ภัยพิบัติรกร้างมาเยือน

เจ้า ตอนที่ข้ามั่นใจในการคาดเดาของข้า ข้าจะบอกเจ้าเอง แต่ก่อนหน้านั้น…ห้ามให้มันตื่นอย่างเด็ดขาด!

วิชาที่เจ้าใช้เมื่อครู่นี้…จงจำเอาไว้ให้ดี หากไม่จำเป็นจริงๆ ห้ามใช้ วิชานี้…สร้างความตื่นตกใจแก่ขั้นไม่อาจกล่าวได้!” ชายชราวิญญาณสวรรค์มองซูหมิงอย่างจริงจัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version