Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1332

ตอนที่ 1332 ครั้งนี้ เจ้าแพ้แล้ว!

เพราะเทพสัตว์ห้าหน้านี้ ตอนนั้นมันไม่ยอมต่อฟ้าดิน ไม่เคารพสามรกร้าง ใช้พลังอำนาจเย่อหยิ่งเหนือผู้ใดสำเร็จจนมีพลานุภาพสูงส่ง กวาดล้างจักรวาล ขนานนามในช่วงหนึ่งว่าไร้พ่าย!

ความมั่นใจว่าไร้พ่ายนั้นรวมอยู่ที่ตัวเทพสัตว์ห้าหน้าในอดีต ทำให้ตอนที่มันคำรามไปทั่วจักรวาลได้ท้ารบกับสามรกร้าง ศึกครั้งนั้น…มันแพ้

แต่แม้จะแพ้ แม้ร่างจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ แม้วิญญาณจะถูกผนึกในอากาศธาตุ แต่ว่า…ความมุ่งในการต่อสู้ของมัน ความไม่ยอมของมันกลับคงอยู่ยาวนานในฟ้าดิน

ดังนั้นถึงเกิดศาสนาเทพสัตว์ห้าหน้านั้นขึ้น ถึงมีคนรุ่นหลังกราบไหว้สัตว์ตัวนี้ กระทั่งปรารถนาจะได้หลอมรวมกับเสี้ยววิญญาณเคียดแค้นของมัน

จะเห็นได้ว่าเทพสัตว์ห้าหน้าในอดีตมีความสง่างามและโอหังเพียงใดในจักรวาล ซูหมิงใช้วิชาคำสาปรวมเสี้ยววิญญาณของเทพสัตว์ห้าหน้าในอากาศธาตุ ใช้ดวงจิตเขาเป็นเส้นรวมขึ้นเป็นกายเนื้อ จึงพูดได้ว่าหลังจากเทพสัตว์ห้าหน้าตายไปในตอนนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มันมาเยือนอีกครั้งในความหมายแท้จริง

หากผู้ฝึกฌานศาสนาเทพสัตว์ห้าหน้าในยุคสมัยในอดีตเหล่านั้นเห็นเหตุการณ์นี้จะต้องตกใจแน่นอน และจะต้องเกิดความฮึกเหิมต่อซูหมิงอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพราะร่างเงาเทพสัตว์ห้าหน้าที่พวกเขารวมขึ้นไม่อาจเทียบกับเทพสัตว์ที่สร้างออกมาจากวิชาคำสาปของซูหมิงได้เลย

หนึ่งเป็นมายา อีกหนึ่งเป็นของจริง หนึ่งเหนี่ยวนำได้เพียงความคิดของตัวมัน อีกหนึ่ง…เป็นดวงจิตของเทพสัตว์ห้าหน้าในอดีตอย่างสมบูรณ์แบบ

เมื่อคำพูดซูหมิงดังก้อง ตุ๊กตาเทพสัตว์ห้าหน้าที่รวมจากเส้นนับไม่ถ้วนพลันตัว สั่นสะท้าน มันเงยหน้าคำรามเสียงดังสนั่น ทำให้เส้นทางเลือดเนื้อสั่นไหว ถึงขั้นทำให้ฟ้าฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนข้างนอกเส้นทางสั่นสะเทือน

ภายในเสียงคำรามแฝงไว้ด้วยกาลเวลาเนิ่นนานไม่มีสิ้นสุด ทั้งยังมีความยึดมั่นต่อฟ้า ต่อดิน ต่อทุกชีวิต รวมถึงความไม่ยอมและบ้าคลั่งที่รุนแรงจนยากจะบรรยาย

เหมือนกับว่ามันยังคิดถึงชีวิตในอดีต ยังคงมีความแค้นและมุ่งมั่นในการต่อสู้ที่ สั่งสมในกาลเวลาไม่รู้เท่าไรกับเรื่องที่มันแพ้สามรกร้างในตอนนั้น

มันไม่ยอมตาย ไม่รู้กี่ปีมานี้ หลังจากตอนนั้นที่วิญญาณมันออกจากร่าง มันร้องคำรามไร้เสียงสะเทือนฟ้าไม่รู้กี่ครั้ง เสียงคำรามมันมีเพียงประโยคเดียว

“หากให้โอกาสข้าอีกครั้ง!”

หากให้โอกาสมันอีกครั้ง ซูหมิงไม่ได้ยินประโยคนี้ ไม่มีใครได้ยิน แต่ในกาลเวลาไม่รู้นานเท่าไร ในหลายยุค มันยังคงดังก้องฟ้า และตอนนี้…ซูหมิงให้โอกาสมันแล้ว!

เมื่อเสียงคำรามดังกังวาน ทั้งจักรวาลสั่นไหว สามรกร้างหน้าเปลี่ยนสีเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกเป็นเพราะซูหมิง ครั้งที่สอง…เป็นเพราะเทพสัตว์ห้าหน้า!

ทันทีที่เสียงคำรามเทพสัตว์ห้าหน้าดังกังวาน ห้าหัวของเทพสัตว์ดูดุร้ายและ บ้าคลั่งขึ้นมาพร้อมกัน ดวงตาสิบดวงเผยประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะเดียวกันปรากฏเงามายายักษ์ขึ้นนอกตัวมัน เงามายานี้สมจริงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนว่าอีกไม่นานก็จะรวมออกมาเป็นเทพสัตว์ห้าหน้าในอดีต รวมเป็นร่างกายสะเทือนฟ้าดินนั้น

แทบเป็นช่วงที่เทพสัตว์ห้าหน้าร้องคำราม นอกตัวมันปรากฏเงามายา ซ้ำยังใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งไปที่วงกลมฝุ่นละอองยักษ์ที่เกิดจากเศษแหวนวงนั้น…

ความรู้สึกถึงอันตราย ความรู้สึกที่ว่าหลุมพรางสังหารเพื่อกินซูหมิงกำลังจะ พังลงนั้นลอยขึ้นมาในใจสามรกร้างอย่างชัดเจน เขาในตอนนี้กำลังตรงไปที่ เทพสัตว์ห้าหน้า หมายจะขวางไม่ให้มันออกไป

แต่ซูหมิงอยู่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อขวางสามรกร้างเช่นกัน หมายจะให้เทพสัตว์ห้าหน้าออกไปจากเส้นทางเลือดเนื้อ

ทุกอย่างบรรยายช้า แต่ตอนที่เกิดขึ้นเป็นเพียงพริบตา พอสามรกร้างเข้ามาใกล้ เทพสัตว์ห้าหน้าก็เข้าไปในวงกลมจากฝุ่นละอองเกือบครึ่งตัวแล้ว วงกลมนี้เหมือนมีอีกโลกหนึ่งอยู่ ร่างเทพสัตว์ห้าหน้าที่เข้าไปในวงกลมเหมือนเข้าไปในกระจก

“เจ้าจะไปไม่ได้!” นัยน์ตาสามรกร้างขยับประกายวาว ร่างกายพลันเปล่ง แสงสว่างเรืองรอง ภายใต้แสงนี้ ร่างกายเขาจมอยู่ในแสง ก่อนกลายเป็นฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งคว้าไปทางเทพสัตว์ห้าหน้า

ดวงตาซูหมิงเป็นประกายเย็นชา เขาจะไม่ยอมให้สามรกร้างขวางเทพสัตว์ห้าหน้าอย่างเด็ดขาด นี่เกี่ยวข้องกับความเป็นตายของเขา ถึงเขาในตอนนี้จะใช้พลังของ เศษชิ้นส่วนปีกซางเซียงอาศัยจังหวะที่สามรกร้างขวางเทพสัตว์ห้าหน้าหนีไปจากที่นี่ได้ก็ตาม

การทำแบบนี้ดูเหมือนเป็นสิ่งถูกต้องมาก แต่ว่า…ซูหมิงไม่ทำ!

เขาไม่ออกไปแบบนี้ ไม่อยากใช้ประโยชน์จากเทพสัตว์ห้าหน้า และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ…เกียรติไม่ยอมให้เขาทำแบบนี้ เขามีเหตุผลอะไรที่ต้องหนี เขาต้องอยู่ที่นี่ ทำลายหลุมพรางของสามรกร้างอย่างทะนงองอาจ คนที่หนีต้องไม่ใช่ซูหมิง แต่ควรจะเป็น…สามรกร้าง

ดังนั้นเมื่อความคิดที่ว่าจะใช้เศษปีกซางเซียงโผล่ขึ้นมาก็ถูกซูหมิงสะบัดทิ้งไปทันที ก่อนแค่นเสียงขึ้นขมูกพร้อมขยับวูบไหวตัว รวมดวงจิต รวมวิญญาณ รวมพลังทั้งหมดกลายเป็นกระบี่สะเทือนฟ้าเล่มหนึ่ง!

กระบี่เล่มนี้คือ การโจมตีที่แกร่งที่สุดในชีวิตเขาที่เคยใช้ตอนลงมือกับชายหนุ่ม ชุดคลุมดำระหว่างการใช้อภินิหารย้อนเวลา!

กระบี่เล่มนี้ ซูหมิงให้ทางเลือกสองทางกับชายหนุ่มสามรกร้าง ทางเลือกแรกคือล้มเลิกการขวางเทพสัตว์ห้าหน้า แล้วหมุนตัวกลับมาสู้กับตน

ทางเลือกที่สองไม่ล้มเลิกการขวางเทพสัตว์ห้าหน้า แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรับการโจมตีนี้ของตน!

ความจริงดูเหมือนมีสองทางเลือก แต่สำหรับสามรกร้างแล้ว นี่เป็นทางเลือกเดียว กลิ่นอายพลังรุนแรงที่ปะทุมาจากตัวซูหมิงก่อตัวเป็นการโจมตีที่แกร่งที่สุดตรงไปยังสามรกร้าง ตอนนี้เองนัยน์ตาชายหนุ่มสามรกร้างฉายแววดิ้นรนเสี้ยวหนึ่ง แต่ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นแน่วแน่

เขาเชื่อว่าตนรับการโจมตีของซูหมิงได้ เขาเชื่อว่าเทพสัตว์ห้าหน้าไม่อาจหนีออกจากมือตนได้ ด้วยความมั่นใจเลยทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้ทันที

เขากัดฟันไม่หลบการโจมตีที่แกร่งที่สุดของซูหมิงที่กำลังเข้ามาใกล้ ปล่อยให้กระบี่มายาที่รวมทุกอย่างของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ในพริบตา เขาไม่มองแม้แต่หางตา แต่ใช้ฝ่ามือยักษ์ข้างนั้นพุ่งไปหาเทพสัตว์ห้าหน้า

เพียงชั่ววูบเดียว…

ฝ่ามือแปลงจากสามรกร้างกดเข้าที่ตัวเทพสัตว์ห้าหน้าที่เข้าไปในวงกลม ฝุ่นละอองครึ่งหนึ่ง พลันเกิดเสียงดังสนั่นฟ้าดินขึ้น กึกก้องไปทั้งในเส้นทางเลือดเนื้อ ท่ามกลางเสียงครึกโครมยังเหมือนมีเสียงตะโกนของสามรกร้าง

“แหลกไปเสีย!”

พร้อมกันนั้น กระบี่ที่แกร่งที่สุดที่รวมขึ้นจากชีวิต ดวงจิตไปจนถึงวิญญาณของ ซูหมิงเข้ามาใกล้แทบจะในเวลาเดียวกัน กระบี่แทงเข้าไปในฝ่ามือร่างแปลงสามรกร้าง เมื่อเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นซ้อนทับกับเสียงครึกโครมก่อนหน้านี้แล้วถึงปะทุเป็น คลื่นเสียงที่รุนแรงยิ่งกว่า สั่นสะเทือนหมอกรอบๆ จนหมุนม้วนถอยไป สะเทือนจนเส้นทางเลือดเนื้อสั่นไหว โดยรอบเกิดรอยร้าวขึ้นจำนวนมาก

เทพสัตว์ห้าหน้าเปล่งเสียงคำรามแหลมสุดขีด ร่างมันพลันสั่นไหว ฝ่ามือจาก สามรกร้างแฝงไว้ด้วยพลังที่ทำลายล้างได้ทุกชีวิต ดวงจิตสามรกร้างในนั้นมากพอจะสังหารทุกสิ่ง กระทั่งการโจมตีครั้งนี้ไม่เป็นรองพลังแห่งเคราะห์ภัยที่จะเกิดขึ้นเมื่อ สี่ปีกโลกซางเซียงซ้อนทับกันเลย ในพริบตานี้ กายเนื้อที่กำลังสมจริงขึ้นเรื่อยๆ นอกตัวเทพสัตว์ห้าหน้าสั่นไหวแล้วพังลงเป็นเสี่ยงๆ พลังทำลายล้างจากสามรกร้างเข้าปะทะกับร่างที่รวมขึ้นจากพลังคำสาปของซูหมิง

ร่างเทพสัตว์ห้าหน้าที่รวมจากคำสาปซูหมิงสั่นไหวอีกครั้ง ชั่ววูบเดียวก็เกิด เค้ารางจะพังลง ในตอนนี้เองเทพสัตว์ห้าหน้าร้องคำรามอย่างไม่ยอม ความบ้าคลั่งที่เก็บไว้มาไม่รู้กี่และหลายยุคสมัยปะทุขึ้น สิ่งที่ระเบิดออกมาคือความคลุ้มคลั่งที่จะ ไม่ยอมแพ้เป็นครั้งที่สอง และยังมีดวงจิตที่แกร่งที่สุดในชีวิตมัน ถึงขั้นเหนือกว่า ตอนท้ารบกับสามรกร้างในตอนแรก!

ดวงจิตที่แกร่งที่สุดในชีวิตนี้ออกมาจากร่างเทพสัตว์ห้าหน้า กลายเป็นความ บ้าคลั่งทั้งชีวิตมัน ก่อนเข้าปะทะอย่างรุนแรงกับพลังทำลายล้างของสามรกร้างโดยมีร่างกายมันอยู่ตรงกลาง

ระหว่างที่เสียงโครมดังก้องไม่รู้จบสิ้น เทพสัตว์ห้าหน้าร่างพังทลายลง ร่างครึ่งหนึ่งหายไป แต่ว่า…ด้วยร่างที่หายไปครึ่งหนึ่งนี้ ด้วยความบ้าคลั่งและไม่ยอมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยความแค้นที่สั่งสมมาหลายยุคไม่รู้กี่ปี ทำให้ขณะเดียวกับที่ร่างครึ่งหนึ่งของมันแหลกเป็นเสี่ยงๆ นั้น…มันฝืนให้ร่างอีกครึ่งต้าน การโจมตีของสามรกร้างเอาไว้ได้!

“สามรกร้าง สามรกร้างสมควรตาย ต่อให้ข้าต้องสู้สุดชีวิตก็ไม่มีทางแพ้เจ้าเป็นครั้ง ที่สองอย่างเด็ดขาด!” เสียงคำรามเทพสัตว์ห้าหน้าดังกึกก้อง ห้าหัวของมันมีสี่หัวระเบิดออก กลายเป็นพลังที่แกร่งที่สุดในชีวิตมันต่อต้านพลังทำลายล้างของ สามรกร้าง

ท่ามกลางเสียงดังสนั่นจากการต่อต้าน เทพสัตว์ห้าหน้าที่เหลือเพียงหัวเดียวกับอีกเกือบครึ่งตัวพุ่งเข้าไปในวงกลมฝุ่นละอองนั้น!

พุ่งออกจากวงกลม พุ่งออกจากเส้นทางเลือดเนื้อนี้ ใช้ร่างแห่งคำสาปพุ่งออกไปอย่างสมบูรณ์ เหตุการณ์นี้ทำให้สามรกร้างใจสั่นสะท้าน เดิมทีเขาคิดว่าจะสังหารได้ในการโจมตีครั้งเดียวแน่ แต่กลับคาดการณ์ผิดพลาด ความผิดเช่นนี้ หากอยู่ในเวลาปกติคงไม่อะไร แก้ไขเล็กน้อยก็ได้แล้ว แต่ว่า…ตอนนี้ ความผิดพลาดเช่นนี้ก่อให้เกิดผลสุดท้ายสองอย่าง

ผลอย่างแรกคือ หลุมพรางนี้ถูกทำลาย ซึ่งตอนนี้กำหนดเอาไว้แล้ว!

ผลอย่างที่สองคือ การโจมตีที่แกร่งที่สุดของซูหมิงระเบิดความบ้าคลั่งที่ทำให้ สามรกร้างรู้สึกถึงอันตราย

“ครั้งนี้…เจ้าแพ้แล้ว” หลังจากฝ่ามือสามรกร้างกลับมาในร่างคนอีกครั้ง ตอนที่หมุนตัวกลับ ตอนที่การโจมตีที่แกร่งที่สุดของซูหมิงทะลวงเข้ามา นี่คือคำพูดราบเรียบจากซูหมิงที่ดังก้องข้างหูเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version