Skip to content

สู่วิถีอสุรา 135

ตอนที่ 135 ลำดับแปดขั้นรวมโลหิต

“ตอนนี้ที่นี่น่าจะปลอดภัยแล้ว” ซูหมิงพึมพำ เก็บหน้ากากสีดำลงไปแล้วหลับตานั่งขัดสมาธิ ตกเข้าสู่ในภวังค์ หลายวันต่อมา ด้วยโอสถแดนใต้จำนวนมาก อาการบาดเจ็บในร่างกายซูหมิงจึงหายเป็นปกติ

เขาเงียบอยู่นานจนล้มเลิกความคิดที่จะไปจากที่นี่ แต่เลือกอาศัยอยู่ต่อโดยแผ่ขยายทุ่งหญ้าสีแดงในขอบเขตสิบจั้ง เมื่อจัดการเสร็จแล้วจึงซ่อนตัวอยู่ภายใน

เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างเชื่องช้า หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน…..

จนกระทั่งสี่เดือนให้หลัง ซูหมิงยังคงออกไปไหนไม่ไกล เขาใช้โอสถวิญญาณผาเพิ่มพลังอย่างเงียบๆ อยู่ในโพรงต้นไม้

ในหลายเดือนมานี้ เขาติดต่อกับเหอเฟิงบ่อยครั้ง และได้เข้าใจเรื่องราวมากมาย พอยิ่งได้ฟังประสบการณ์ของเหอเฟิงในช่วงหลายปีมานี้ยิ่งได้บทเรียนจากเขา

ทุ่งหญ้าสีแดงยังคงอยู่ในระยะสิบจั้ง แม้เหอเฟิงจะเคยบอกซูหมิงว่า หากทุ่งหญ้าสีแดงสูบกินเลือดเนื้อที่มากพอจะเพิ่มขอบเขตได้ก็ตาม ทว่าเมื่อทุ่งหญ้าขยายใหญ่ขึ้นมันจะสูบกลืนพลังโลหิตของผู้ควบคุมอย่างรวดเร็ว พลังสูบกลืนที่น่ากลัวดังกล่าวมากเกินกว่าซูหมิงจะรับไหว ยิ่งขอบเขตกว้างพลังดูดกลืนจะยิ่งน่าสะพรึง เหอเฟิงเองยังรับไม่ไหว ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ใช้มัน

เขาบอกซูหมิงด้วยว่า เมื่อนานมาแล้วหนังสัตว์ผืนนี้ถูกสร้างขึ้นจากทุ่งหญ้า มีระยะสิบลี้หนึ่งฟางชุ่น ตอนนั้นในเผ่าเขาหาน นอกจากจ้าวหมานและยอดฝีมือไม่กี่คนแล้ว ไม่มีใครทนแรงดูดกลืนของมันได้ แทบช่วงเสี้ยววินาทีจะถูกสูบพลังโลหิตจนตายตก

แม้แต่พวกจ้าวหมานยังแสดงพลังได้ไม่นานนัก จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไปทุ่งหญ้าจากหนังสัตว์ก็ค่อยๆ แห้งเหี่ยว ชาวเผ่าเขาหานถึงมีคนใช้ได้มากขึ้น

ทว่าขณะเดียวกันด้วยขอบเขตที่เล็กลงจึงทำได้เพียงป้องกันไม่มีผลอย่างอื่น จุดนี้ทำให้ซูหมิงแปลกใจ เขาใช้ทุ่งหญ้าสีแดงมาเกือบปีแล้ว ยังไม่เคยประสบเรื่องดูดกลืนพลังโลหิตของผู้ควบคุมมาก่อน แต่เรื่องนี้ซูหมิงได้แต่ขบคิดในใจ ไม่ได้ถามเหอเฟิง

หนังสัตว์ทุ่งหญ้าผืนนั้น ซูหมิงเคยถามประวัติหลายครั้ง มันเป็นดังที่เขาคาดไว้จริงๆ เป็นหนึ่งในมรดกจากบรรพบุรุษเขาหาน เพียงแต่เพราะความน่ากลัวของพลังดูดกลืน ทำให้ผู้คนยากจะต้านทานไหว จึงค่อยๆ ถูกมองข้ามไป

อีกทั้งขณะที่ซูหมิงกำลังสอบถามเหอเฟิงไปเรื่อยๆ เขาพบเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือในช่วงที่วางทุ่งหญ้าสีแดง ในความคิดเขาเกิดเป็นภาพหลอน เหมือนว่าเหอเฟิงจะไม่เคยประสบมาก่อน กระทั่งชาวเผ่าเขาหานผู้ครอบครองก่อนหน้าทุกรุ่นยังเหมือนกับเหอเฟิงยังไม่พบเบาะแสอะไรเลย

‘เรื่องนี้ หากเหอเฟิงไม่ปิดบัง นั่นแปลว่า…ข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังสัตว์ผืนนี้…’

ซูหมิงนึกสาเหตุไม่ออก มีเพียงแค่สองคำตอบเท่านั้น

ทว่าเขาเป็นคนรอบคอบยิ่งนัก ไม่ไปหาเลือดเนื้อเพื่อมาขยายขอบเขตทุ่งหญ้าสีแดง แต่ในใจกลับเกิดความสนใจเรื่องบรรพบุรุษที่นั่งฌานละสังขารในเหวลึกเมืองเขาหาน

ภายในเวลาหลายเดือน เส้นเลือดในร่างกายซูหมิงเพิ่มขึ้นไม่น้อย นี่เกี่ยวกับภัยร้ายจากโลกภายนอก ทว่าที่มากกว่าคือสภาพแวดล้อมในส่วนลึกของป่าฝน หมอกพิษที่เข้มข้นมากขึ้น ยิ่งส่งผลกระทบถึงการโคจรพลังโลหิตของเขา

เส้นเลือดในตัวเขายามนี้ เมื่อโคจรจะมีเส้นเลือดสามร้อยเจ็ดสิบกว่าเส้น ห่างจากสามร้อยเก้าสิบเก้าเส้นของเงื่อนไขลำดับแปดอีกไม่ไกล อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของโอสถวิญญาณผากลับอ่อนลงมากเช่นกัน จากที่ซูหมิงวิเคราะห์อย่างมากคงยืนหยัดเพิ่มได้อีกประมาณยี่สิบเส้นเท่านั้นจึงจะหมดฤทธิ์

ส่วนหม้อยาจากร่างกายเหอเฟิง ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเจริญเติบโตจนถึงจุดที่เงื่อนไขกำหนดไว้ หากไม่ใช่เพราะขาดสมุนไพรอีกสามชนิดกับกระดูกอีกหนึ่งชิ้นคงหลอมได้แล้ว

ชีวิตในส่วนลึกป่าฝนเงียบสงบยิ่งนัก ตั้งแต่ซูหมิงมาถึงแดนอรุณใต้ ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตเพียงลำพัง จนตอนนี้เขาชินกับความรู้สึกโดดเดี่ยวแล้ว

ฝึกฝนอย่างเงียบๆ อยู่ในโพรงไม้จนเวลาผ่านไปอีกสามเดือน

วันนี้ซูหมิงกำลังนั่งสมาธิ บนตัวเขามีเส้นเลือดสามร้อยเก้าสิบแปดเส้น ดวงตาทั้งสองข้างปิดลง แสงโลหิตบนตัวขยับวูบวาบ แทบจะทะลวงผ่านต้นไม้ใหญ่ หากไม่ใช่เพราะมีทุ่งหญ้าสีแดงอำพราง ด้านนอกคงเห็นได้อย่างชัดเจน

ผ่านไปไม่นาน เส้นเลือดบนตัวซูหมิงพลันเพิ่มขึ้นมาเป็นสามร้อยเก้าสิบเก้าเส้น หลังจากนั้นในร่างกายของเขาปะทุกลิ่นอายพลังแกร่งกล้า ภายใต้กลิ่นอายพลังนี้ เขาลืมตาขึ้น แววตาสงบนิ่ง

ขั้นรวมโลหิต ลำดับแปด

“สี่ปี…” ซูหมิงพึมพำ ตั้งแต่ที่เขาได้สติกลับมาในแดนอรุณใต้จนถึงตอนนี้เป็นเวลาสี่ปีแล้ว ภายในเวลาสี่ปี จากลำดับเจ็ดขั้นรวมโลหิตถึงลำดับแปดนับว่าไม่เร็ว เพราะเวลาส่วนใหญ่เขาใช้ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บ

‘เมื่อเดือนก่อนโอสถวิญญาณผาหมดฤทธิ์ตอนเส้นเลือดสามร้อยเก้าสิบแปดเส้น ในหนึ่งเดือนมานี้ข้าไม่พึ่งโอสถวิญญาณผา ค่อยๆ เพิ่มเส้นเลือดมาอีกสองเส้น จนตอนนี้ทะลวงสู่ลำดับแปดแล้ว…เส้นทางการฝึกฝนยากเข็ญนัก’ สีหน้าซูหมิงแน่วแน่ รู้สึกได้ถึงพลังโลหิตมหาศาลในร่างกาย

“ถึงอย่างไรเม็ดโอสถก็มีขีดจำกัด จะใช้นานไม่ได้ โอสถวิญญาณผาหมดฤทธิ์แล้ว บางทีอาจเป็นเรื่องดีสำหรับข้า เพราะจากนี้ไปจะได้ไม่ต้องพึ่งมันอีก

อีกอย่างข้ายังมีโลหิตหมานสองหยด มันน่าจะทำให้เส้นเลือดข้าทะยานเพิ่มขึ้นมาได้สักครั้ง! จากนั้นก็หาสถานที่สักแห่งทำเพลิงโลหิตแผดเผา!

ไม่รู้ว่าเพลิงโลหิตแผดเผาครั้งที่ห้าเส้นเลือดข้าจะเพิ่มอีกเท่าไร…’ ความรุนแรงของเพลิงโลหิตแผดเผา ซูหมิงเข้าใจอย่างลึกซึ้ง หลายครั้งก่อนหน้านี้แทบทะยานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทว่าระดับความยากและอันตรายก็สูงมากเช่นกัน

ซูหมิงเงียบไปชั่วครู่ ก่อนหยิบขวดเล็กมาจากถุงเก็บวัตถุ เขามองขวดเล็ก ความเย็นชาในแววตาหลอมละลาย ฉายแววอ่อนโยนและหวนคิดถึง

ขวดเล็กนี้ท่านปู่มอบให้เขาด้วยตัวเอง ภายในบรรจุโลหิตหมานสองหยดของจิงหนานจ้าวหมานเผ่าร่องลม

เขากำขวดหลับตาลง นึกถึงท่านปู่ นึกถึงชนเผ่า นึกถึงเหลยเฉิน นึกถึงทุกอย่างกับเสี่ยวหงในตอนนั้นอย่างอดไม่ได้ และยังมีเงาร่างอรชรส่งยิ้มหวานจูงมือกับเขาอยู่บนพื้นหิมะ

‘ซูหมิง ท่ามกลางหิมะนี้ พวกเราจะเดินไปจนถึงวันที่ผมขาวเลยหรือไม่…’

ซูหมิงตัวสั่น รอยแผลเป็นบนใบหน้าราวกับอาบโลหิต ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปนานจึงค่อยๆ อ่อนแสงลง เขาลืมตา แววตาเรียบนิ่งไม่มีความอ่อนโยน และกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง เพียงแต่ว่าในส่วนลึกของความสงบซ่อนความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเห็น

“จบแล้ว…”

ซูหมิงก้มหน้าเปิดขวดเล็กในมือ วางไว้ตรงริมฝีปากแล้วกระดกลงไป มีโลหิตหมานเพียงหยดเดียวจากขวดเล็กหลอมละลายอยู่ในปาก เขาสัมผัสได้ถึงการปกป้องจากท่านปู่อีกครั้ง เพราะกลัวว่าเขาจะใจร้อนดื่มโลหิตหมานไปจนหมด ฉะนั้นทุกครั้งจึงดื่มได้เพียงหยดเดียว

“ท่านปู่ ซูหมิงไม่ใจร้อนเหมือนตอนเด็กแล้ว…” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา โคจรโลหิตในร่างกาย ดูดซับพลังจากโลหิตหมานหนึ่งหยดมาเพิ่มเส้นเลือดตัวเองอีกครั้ง

เวลาผ่านไปทีละวัน หนึ่งเดือน สองเดือน……ไม่นานก็ผ่านไปสามเดือน

สามเดือนให้หลัง วันหนึ่งในยามเช้าตรู่ ซูหมิงเก็บทุ่งหญ้าสีแดงบนพื้น นำกระดูกสองชิ้นเก็บเข้าไปในถุงเก็บวัตถุ จากนั้นนำหม้อยาใส่ตามเข้าไป ก่อนเดินออกจากโพรงไม้

เขาไม่หันกลับไปมอง เพียงแต่เดินไกลออกไปทีละก้าว ทุกก้าวที่เหยียบลงทำให้ดินโคลนบนพื้นสั่นไหว ราวกับแรงกดดันจากซูหมิงทำให้สัตว์แมลงในดินโคลนต้องหลีกหนี

ภายในเวลาครึ่งปีซูหมิงประดุจผลัดเปลี่ยนกระดูก ตอนแรกที่ถูกบีบให้เข้ามาอยู่ในนี้ ตัวเขามีเส้นเลือดสองร้อยกว่าเส้น ทว่ายามนี้ภายใต้ฤทธิ์โอสถวิญญาณผาจึงทะลวงมาจนถึงสามร้อยเก้าสิบเก้าเส้น จนเมื่อโอสถวิญญาณผาสิ้นฤทธิ์ ภายในสามเดือนเขาดูดซับพลังจากโลหิตหมานสองหยด ทำให้เส้นเลือดในยามนี้…

“เหอเฟิง สมบัติที่เจ้าซ่อนเอาไว้ต้องไปอีกไกลเท่าไร”

ซูหมิงเดินอยู่ในป่าฝน ทุกฝีก้าวไปได้ไกลหลายจั้ง เขาสวมเสื้อยาวสีฟ้า ขณะเดินทางแมลงประหลาดบนพื้นจำนวนมากต่างพากันหลีกหนี ภายใต้แรงกดดันนั้น กระทั่งสัตว์ปีกและพืชแปลกบริเวณใกล้เคียงยังไม่กล้าเข้าใกล้

“นายท่าน จากตรงนี้ไปประมาณครึ่งเดือน ที่นั่นเป็นถ้ำเซียนที่ข้าน้อยอาศัย ทว่าลึกลับยิ่งนัก ผู้อื่นยากจะหาเจอ” ในหัวซูหมิงมีเสียงเหอเฟิงดังก้องด้วยความเคารพ ในน้ำเสียงนอกจากความเคารพแล้ว ยังมีความสงสัยราวกับตื่นตะลึงในการเปลี่ยนแปลงของขั้นพลังซูหมิง

สีหน้าซูหมิงเย็นชา ไม่กล่าวสิ่งใดอีกตลอดทาง เดินต่อไปอย่างเงียบๆ จนผ่านไปอีกหลายวัน เขาเดินออกมาจากส่วนลึกป่าฝน หมอกพิษจางลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดก็หายไป เขาเห็นเบื้องหน้าไม่ไกลเป็นถ้ำภูเขาที่เขาใช้รักษาบาดแผลตอนนั้น

เสวียนหลุนไม่อยู่ หานเฟยจื่อก็ไม่อยู่เช่นกัน

ป่าฝนกว้างใหญ่ มีการสัญจรที่สะดวกสบาย น้อยคนนักจะสังเกตการณ์ได้ครบถ้วน และที่สำคัญที่สุดคือหลังจากเหอเฟิงหลอมรวมกับตราประทับซูหมิงแล้ว เหอเฟิงยังเคยลงตราประทับใส่ตัวเสวียนหลุนและหานเฟยจื่อทำให้ซูหมิงสัมผัสได้ หากสองคนนั้นเข้าใกล้เขาจะตรวจพบก่อนทันที

ก่อนหน้านี้หากเหอเฟิงไม่ฟังคำพูดของหานเฟยจื่อ หลังจากวางแผนแล้ว ใช้วิกฤตมาทะลวงชำระล้าง ก็คงไม่พบกับเสวียนหลุนและไม่ต้องมีจุดจบอย่างตอนนี้

ขณะกำลังเดินออกจากป่าฝนมุ่งหน้าไปยังแหล่งซ่อนสมบัติของเหอเฟิง ซูหมิงพลันชะงักฝีเท้า เขานึกอะไรบางอย่างได้ ร่างกายขยับไหวมาอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ นั่งขัดสมาธิหลับตาทั้งสองข้าง ปล่อยเคล็ดวิชาตราประทับ เริ่มนั่งทำสมาธิ

เหอเฟิงเห็นซูหมิงทำเช่นนี้ก็งุนงงไม่เข้าใจ ทว่าเขากลับไม่รบกวน ในครึ่งปีกว่านี้เขาระวังตัวมาโดยตลอด ในความรู้สึกเขาความคิดของซูหมิงค่อยๆ ลึกล้ำมากขึ้น

เวลาผ่านไปอีกหลายวัน ซูหมิงยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหนราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง เหอเฟิงเริ่มแปลกใจมากขึ้น มีหลายครั้งคิดจะถาม พอนึกถึงความเย็นชาของซูหมิงในเวลาครึ่งปีกว่าจึงเลือกเก็บเอาไว้

จนกระทั่งครึ่งเดือนผ่านไป ในช่วงที่มีเสียงดังแว่วมาแต่ไกล ซูหมิงลืมตาขึ้น มุมปากเผยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโส……ผู้อาวุโส…….”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version