ตอนที่ 1372 ภัยพิบัติสามรกร้าง 4
ในมหาโลกสามรกร้าง เมื่ออีกโลกกลางมวลอากาศข้างบนมาถึงก็เกิดการทับขึ้น ทุกชีวิตถูกทำลายล้าง ทุกอย่างเข้าสู่กลียุคราวกับวันสิ้นโลก
เกิดการตายขึ้นทุกแห่งหน!
มีเพียงพายุของสองโลกบนล่างที่ตอนนี้เกิดเสียงระเบิดดังไม่หยุดในมวลอากาศ ในเสียงครึกโครมนี้ ตรงจุดที่คนนอกมองไม่เห็น ซูหมิงกับดวงจิตสามรกร้างกำลังต่อสู้แห่งความเป็นตายครั้งใหญ่
พวกเขาไม่ได้ใช้อภินิหารอะไร แต่ใช้ดวงจิตชนกัน เมื่อเกิดเสียงดังสนั่น กระทั่งร่างเงาสองคนที่มองไม่เห็นกลางสายลมเหมือนหลอมรวมกันเป็นร่างเดียว
“ซูหมิง ไฉนเจ้าต้องหลงผิด เจ้ากับข้าเป็นผู้ฝึกฌาน แต่ซางเซียงเป็นเพียงสิ่งมีชีวิต ไฉนเจ้าต้องทำเช่นนี้!”
“ข้าไม่ได้ทำเพื่อซางเซียง แต่ทำเพื่อตัวเอง หากอยากมีชีวิตรอดก็มีแต่ต้องทำแบบนี้!”
“การมีชีวิตรอด…ไม่ใช่เรื่องยาก หลังจากเจ้ากับข้ากลายเป็นซางเซียงแล้ว พวกเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ญาติพี่น้องของเจ้าก็ดี สหายก็ดี ทุกอย่างของพวกเราจะยังอยู่ต่อไป!”
“…ข้าเคยบอกกับเจ้าเรื่องชายหนุ่มชุดคลุมดำที่เป็นตัวแทนแห่งการทำลายล้างบนเข็มทิศนั่นแล้วไม่ใช่รึ เจ้า…ยังไม่เชื่อรึ?”
“คนที่เจ้าพูดถึงมีอยู่ในความทรงจำข้า เขามีนามว่าเสวียนจั้ง แต่เขาตายไปแล้ว เรื่องนี้ตอนนั้นข้าไม่ได้บอกกับเจ้า แต่ตอนนี้ข้าจะบอกเจ้าให้ชัดเลยว่าเขา…ตายไปแล้ว! เขาตายไปไม่รู้กี่ปีแล้ว กระทั่งตอนที่ซางเซียงเก้าตัวกำเนิดเขาก็ได้ตายจากไปแล้ว เขาจะมาปรากฏตัวอีกได้อย่างไร!
ไม่ว่าเจ้าเห็นอะไร สิ่งเหล่านั้นคือเรื่องที่เกิดขึ้นในกาลอดีต เขา…ไม่มีทางปรากฏตัวที่นี่ และกลิ่นอายมรณะของซางเซียงก็ไม่ใช่เพราะเขา แต่เป็นเพราะหากซางเซียงยังกินข้าไม่ได้เพื่อเป็นร่างสมบูรณ์ มันก็จะตายจริงๆ และการตายของมันหมายถึง การผงาดขึ้นของเราสองคน!”
“เช่นนั้น…ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงล่ะ?”
“ข้าก็สังเกตเขามานานแล้ว เขามาจากโลกซางเซียงอีกตัวจริงๆ ถึงขั้นข้ายังสงสัยว่าเขาเคยเหมือนกับข้าในโลกซางเซียงตัวนั้น คือยึดดวงจิตซางเซียง แต่การมาของเขา จะบอกไม่ได้ว่าซางเซียงตัวนั้นตายแล้ว
มิเช่นนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว เจ้าไม่ได้ยึดร่างซางเซียง แต่เจ้ายึดร่างข้า ดังนั้นเจ้าเลยไม่รู้ว่าหากยึดร่างครั้งแรก เว้นแต่สองฝ่ายจะสมบูรณ์แบบ มิเช่นนั้นจะมี คนหนึ่งตาย อีกคนก็ต้องตายเช่นกัน!
ดังนั้นหากผู้เฒ่าเมี่ยเซิงยึดร่างสมบูรณ์แบบ เขามาปรากฏตัวที่นี่ก็ยังอธิบายได้ว่าในตัวเขาจะต้องมีโลกหนึ่งแน่ๆ แต่หากเขาไม่ได้ยึดครองอย่างสมบูรณ์แบบ เช่นนั้นเขามาอยู่ที่นี่ก็หมายความว่าโลกซางเซียงที่เขาเคยอยู่ยังอยู่ ไม่ได้ตาย ไม่มีเสวียนจั้งชุดคลุมดำ ซูหมิง เจ้ามีสติหน่อย!
เสวียนจั้งชุดคลุมดำนั่น ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงจงใจกุเรื่องขึ้นมา ถึงขั้นที่ว่า…ซางเซียงที่พวกเราอยู่นี้จงใจกุเรื่องขึ้นมาด้วย ก็เพื่อ…ให้เจ้ากับข้าไม่ร่วมมือกัน เพื่อให้เจ้ายึดมั่น!”
“เจ้า…ยังไม่เชื่อ!” ซูหมิงกล่าวพลางถอนหายใจ ขณะเสียงดังก้องก็เริ่มกินและ ยึดร่างกับสามรกร้างอีกครั้ง ซูหมิงกำลังยึดร่างสามรกร้าง สามรกร้างกำลังกินซูหมิง ดวงจิตพวกเขาสองคนปะทุพลังที่แกร่งที่สุดในชีวิตกลางสายลม
การกินและยึดร่างแบบนี้ทำให้สายลมเกิดเป็นสีขาวและดำ สีขาวนั้นเป็นของ สามรกร้าง สีดำเป็นของซูหมิง การปะทะกันของสองคนทำให้พายุสีดำและขาวเกิดการกินกันและกัน
ไม่แสงสว่างกินเงามืด ก็เงามืดยึดครองแสงสว่าง นี่คือ…การต่อสู้แห่งดวงจิตที่ต้องเกิดผลแพ้ชนะ
ช่วงที่สองฝ่ายเหมือนยากจะรู้ผลแพ้ชนะ ผีเสื้อซางเซียงหลอมรวมเข้ามาแล้ว ทันใดนั้นเองเกิดสีสันห้าสีขึ้นกลางพายุ ทำให้พายุที่เดิมทีมีสีดำขาวกลายเป็นเจ็ดสี
สามรกร้างไม่ได้แปลกใจกับการปรากฏตัวของซางเซียง เขารู้อยู่แล้วว่าซูหมิงกับซางเซียงร่วมมือกัน ตอนนี้ทันทีที่พายุกลายเป็นเจ็ดสี พายุสามรกร้างก็ถาโถม ไปทั้งโลก กวาดล้างตัดชีวิตไปทีละชีวิต หลังเก็บพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาแล้วก็ทำการโต้กลับซูหมิงกับซางเซียง
ชั่วขณะที่ผีเสื้อซางเซียงวนเวียนพร้อมกับห้าสี ในดวงตามันฉายแววแค้นเข้ากระดูก มันแค้นสามรกร้าง ถึงขนาดที่แค้นทุกชีวิตในโลกตน ตอนนี้จ้องสามรกร้างตาเขม็ง ความแค้นที่สั่งสมมาไม่รู้กี่ปีปะทุขึ้น
“ซางเซียง ข้าในตอนนั้นยึดร่างเจ้าได้ เช่นนั้นวันนี้…ต่อให้เจ้ามอมเมาซูหมิง ข้าก็จะยึดร่างเจ้าเป็นครั้งที่สอง!
ในเมื่อเจ้ากล้ามา เช่นนั้นข้าก็อยากรู้นักว่า…ใครกันแน่ที่ดวงจิตจะอยู่เป็น คนสุดท้ายไม่สลายไป!” เสียงสามรกร้างแฝงไว้ด้วยความรู้สึกว่ามีข้าที่เป็นใหญ่ ทันทีที่เสียงดังก้อง พายุสีขาวของเขาพุ่งเข้าไปปะทะกับพายุห้าสีของซางเซียง
ขณะเดียวกันพายุสีดำของซูหมิงก็ชนเข้าไปด้วยกันกับสามรกร้างและซางเซียง เกิดเป็นน้ำวนพัวพันชนกันในพริบตา
โครม!
นี่คือการชนกันทุกด้านเป็นครั้งแรกของสามดวงจิตใหญ่ในโลกนี้ การชนกันแบบนี้ทำลายดวงจิตของกันและกัน วิญญาณของแต่ละฝ่ายคลุ้มคลั่ง ต่างยึดร่างเศษแตกกระจายของกันและกัน
การชนกันครั้งนี้ซูหมิงตัวสั่นสะท้านไปทั่วร่าง พายุของเขาเหมือนจะพังลง สามรกร้างก็เช่นกัน แต่ซางเซียงสาหัสยิ่งกว่า แทบจะสลายไป กลิ่นอายมรณะในตัวมันเข้มข้นมากขึ้นหลายเท่า
ขณะเดียวกันตี้เทียนในน้ำวนมรณะหยินกระอักเลือดคำใหญ่ รูปแบบชะตาที่ลอยอยู่ข้างบนตัวเขาเกิดเสียงกึกๆ แล้วแตกออก ดวงตาตี้เทียนแดงก่ำ ยามนี้คำราม เสียงต่ำพร้อมประสานมุทราด้วยสองมือ ใช้ชีวิตทั้งหมดฟื้นฟูรูปแบบชะตา
“สามรกร้าง…ข้าจะให้เจ้าตาย!” เสียงซางเซียงดังแว่วมจากพายุระหว่างพวกเขาเป็นครั้งแรก ความแค้นในเสียงนั้นเหมือนต่อให้เป็นอีกหลายหมื่นปีก็ไม่หายไปแม้แต่น้อย เข้มข้นจนไม่หลอมละลาย ยามนี้ตอนที่เสียงดังแว่วมา ทั้งโลกนี้พลันสั่นสะเทือน
เมื่อเสียงดังขึ้น พายุห้าสีจากซางเซียงก่อขึ้นเป็นน้ำวนขยายออกไปข้างนอก พุ่งชนเข้าไปยังดวงจิตสามรกร้างอีกครั้ง
“ซูหมิง ใช้วิชาซางเซียงที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้า!” ซางเซียงชนเข้าไปพร้อมกล่าวขึ้น เสียงวนเวียนข้างหูซูหมิง แต่ซูหมิง…กลับมีสีหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่ได้ยิน
ในความคิดเขาลอยขึ้นมาเป็นคาถานั้น คาถานี้ซับซ้อนเข้าใจยาก ดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไร เป็นเพียงวิธีหมุนโคจรดวงจิต แต่ซูหมิงมีจิตเต๋าแล้ว ทันทีที่คาถานี้ลอยขึ้นมาในความคิด จิตเต๋าเขาส่งสัญญาณถึงอันตรายร้ายแรง
โครม! การชนกันครั้งที่สองทำให้สามรกร้างถอยไป พายุสีขาวแทบจะสลายไป ซูหมิงก็เช่นกัน ส่วนซางเซียง แสงห้าสีหายไปสามสี เสียงแหลมดังกึกก้องในเวลานี้
“ซูหมิง!”
“ข้าช่วยเจ้ายึดร่างสามรกร้างได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะเปลี่ยนดวงจิตตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าหลังรวมกับเจ้าแล้ว” ซูหมิงกล่าวขึ้นเนิบช้า
แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงกล่าวขึ้น ผีเสื้อซางเซียงตัวสั่นไปทั่วร่าง ร่างมันสลายไปทำให้พายุของมันกลับมาเป็นห้าสีอีกครั้ง ก่อนพุ่งไปยังสามรกร้าง ระหว่างนั้นยัง แผ่กระจายออกเป็นน้ำวนปกคลุมซูหมิงเอาไว้ภายใน
“เซียงแห่งซาง!” เสียงแหบแห้งดังกังวาน น้ำวนจากพายุซางเซียงก่อรูปเป็นผีเสื้อห้าสี ระหว่างที่มันวนเวียน สามรกร้างหลับตาลง วูบเดียวร่างกายเขาสลายไป พายุข้างหลังก็เปลี่ยนเป็นผีเสื้อสีขาว
ซูหมิงเงียบ ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก จิตเต๋าของเขาลืมตาขึ้น ชั่ววูบเดียวร่างกายเขาสลายไปกลายเป็นผีเสื้อตัวที่สามกลางพายุในภัยทำลายล้าง เป็นผีเสื้อยักษ์สีดำ!
ผีเสื้อสามตัวชนกันอีกครั้ง นี่คือการโจมตีสุดกำลังของซางเซียง เป็นการกินอีกครั้ง ของสามรกร้าง และเป็น…การยึดร่างของซูหมิง
ขณะที่ผีเสื้อสามตัวชนกัน ในจักรวาลกว้างใหญ่นอกมหาโลกซางเซียง เข็มทิศยักษ์ที่ชายหนุ่มชุดคลุมดำนั่งขัดสมาธิอยู่มาปรากฏเหนือซางเซียงตัวนี้แล้ว เหมือนกับภาพที่ซูหมิงเห็นในอดีตฉายซ้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มชุดคลุมดำยกมือซ้ายขึ้นกดบนเข็มทิศเบาๆ
เมื่อกด อักขระทั้งหมดบนเข็มทิศพลันสว่างวูบวาบ พลังที่มากพอจะทำลายล้างจักรวาลปะทุมาจากเข็มทิศ กลายเป็นแรงดูดรุนแรงปกคลุมซางเซียงตัวนั้นใต้เข็มทิศ
หากมองไกลๆ ขนาดของเข็มทิศใหญ่กว่าซางเซียงหลายพันเท่า และก็มีแต่ตอนที่เทียบกับซางเซียงเท่านั้นถึงจะเห็นได้ถึงความมหึมาจริงๆ ของเข็มทิศ!
ปกติแล้วในจักรวาลกว้างใหญ่ ด้วยความที่ไม่มีการเปรียบเทียบ เลยมองขนาดไม่ออก แต่ตอนนี้…ความมหึมาของเข็มทิศก็ได้รับการยืนยันทางอ้อมแล้ว รวมถึงขนาดของร่างกายคนชุดคลุมดำ
เหมือนว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ผีเสื้อตัวนี้มีขนาดเท่ากับผีเสื้อปกติในสายตาคนธรรมดา!
ช่วงที่เข็มทิศนั้นปล่อยแรงสูบ ส่วนคนชุดคลุมดำแววตายังคงเย็นชานั้น ในโลกผีเสื้อซางเซียง ตอนนี้ซางเซียงที่กำลังเริ่มการกินแห่งความเป็นตายกับซูหมิงรวมถึงสามรกร้างตัวสั่นไหว มันในร่างผีเสื้อห้าสีดูหวาดกลัวและเหลือเชื่ออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“นี่มัน…กลิ่นอายพลังนี้…” ผีเสื้อซางเซียงตัวสั่นและสิ้นหวัง มันอยากจะทิ้งการกินที่นี่กลับไปยังร่างมันเพื่อดูที่มาของกลิ่นอายพลังนี้จากจักรวาลกว้างใหญ่ข้างนอก แต่ว่า…ไม่มีความจำเป็นแล้ว เพราะทันทีที่มันสังเกตเห็นกลิ่นอายพลังนี้ก็ได้เข้าใจทุกอย่าง
“เขา…ยังไม่ตายรึ?”