ตอนที่ 293 ประนีประนอม
ขณะซูหมิงยิ้มฝืดเฝื่อน เทียนเสียจื่อที่อยู่ไกลออกไปเดินหน้าหนึ่งก้าว มวลอากาศเกิดระลอกบิดเบี้ยว ร่างเขาเหมือนซูหมิงตอนใช้ความเร็งสูงสุด หายไปในชั่วพริบตา แล้วมาปรากฏอยู่ตรงหน้าชายชราผมขาว
ชายชราผมขาวหรี่ม่านตาลง กำลังจะถอยหนี พบว่ามือซ้ายซูบผอมของเทียนเสียจื่อกลับจับเสื้อผ้าเขาเอาไว้
“ข้าไม่ใช่คนบ้า ข้าไม่ได้บ้าจริงๆ ข้ารักษาหายแล้ว หายหมดแล้ว…เหตุใดเจ้าถึงว่าข้าบ้า!” เทียนเสียจื่อตาแดงก่ำ ตะโกนใส่ชายชราผมขาว สีหน้าและอารมณ์ของเขา ไม่ว่าใครก็มองออกว่าเหมือนถูกล่วงรู้ความลับ ยามหวาดกลัวและตึงเครียด พยายามจะอธิยายเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง
ภาพนี้อยู่ในสายตาชองชาวเผ่าแดนภูตโดยรอบ สายตาที่มองเทียนเสียจื่อเต็มไปด้วยความหวาดกลัวหยั่งลึก
ชายชราผมขาวใจสั่น นี่มิใช่ครั้งแรกที่เจอเทียนเสียจื่อ เขาพอรู้มาบ้างเกี่ยวกับข่าวลือบางส่วนของเทียนเสียจื่อ
เดิมทีไม่ได้ใส่ใจมากนัก ทว่าตอนนี้ถูกเทียนเสียจื่อจับเอาไว้ เขาจึงพบทันทีว่าเทียนเสียจื่อตรงหน้ามีความน่ากลัวที่ทำให้เขาตื่นตะลึง
“น่าตายนัก ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้บ้า เจ้าไม่เชื่อรึ? เจ้าไม่เชื่อรึ?” ขณะเทียนเสียจื่อตะโกน มีน้ำลายกระเด็นมาจากปากเล็กน้อย ทำให้ชายชราผมขาวที่อยู่ใกล้กับเขามากพยายามดิ้นรนเพื่อหลบ ทว่า….กลับทำไม่ได้
“เทียนเสียจื่อ เจ้ามันบ้า เจ้าจะทำอะไร ที่นี่คือเผ่าแดนภูต ที่นี่คือเผ่าชายแดนเหนือของเผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์ อีกทั้งข้ายังเป็นผู้นำกองรักษาการณ์เผ่าแดนภูต!
หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า ข้าจะให้เจ้ากับศิษย์ยอดเขาลำดับเก้าทั้งหมดลงหลุมไปพร้อมกัน!” ชายชราผมขาวดิ้นรนพลางตะโกนเสียงต่ำ สีหน้าโกรธแค้น แต่ภายใต้ความโกรธซ่อนความกลัวเอาไว้
“เจ้า เจ้า เจ้า…” เทียนเสียจื่อร้อนใจจนคล้ายมีน้ำตาคลอ ปานจะหยดลงได้ทุกเมื่อ ก่อนแผดเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“เหตุใดเจ้าต้องว่าข้าเป็นบ้า ข้าไม่ใช่ ข้าไม่ใช่คนบ้า ข้ารักษาหายแล้วจริงๆ ไม่เชื่อ…ไม่เชื่อเจ้าดูนี่!” เทียนเสียจื่อเหมือนนึกอะไรออก คว้าตัวชายชราผมขาวพลางใช้มือขวาล้วงไปในอกเสื้อ แล้วหยิบแผ่นไม้บันทึกแผ่นเล็กออกมา
เมื่อหยิบแผ่นไม้บันทึกมาแล้ว เทียนเสียจื่อก็โยนไปด้านหลัง แผ่นไม้บันทึกกลายเป็นแสงอ่อนตรงไปหาซูหมิงที่อยู่ไม่ไกลนัก
“เจ้าสี่ อ่านอักษรบนนั้นให้อาจารย์ที อ่านให้พวกเขาฟัง!” เทียนเสียจื่อมีสีหน้าลำพองใจ ทว่ายังจ้องชายชราผมขาวอย่างดุดัน
ซูหมิงตะลึงงัน รับแผ่นไม้บันทึกมา พอก้มหน้ามองก็มีสีหน้าประหลาด
“อ่านสิ!” เทียนเสียจื่อกล่าวอย่างไม่พอใจ
“เอ่อ…” ซูหมิงลังเลครู่หนึ่ง แล้วอ่านน้ำเสียงก้องกังวานโดยรอบ
“เขตตะวันตกเผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์….ขอรับรองว่าเทียนเสียจื่อไม่ใช่คนบ้า ขอรับรองว่าเขาหายดีแล้ว…” ซูหมิงกะพริบตา ยิ้มฝืนๆ เงยหน้ามองเทียนเสียจื่อ
เทียนเสียจื่อมีสีหน้าลำพองใจ จ้องชายชราผมขาวพร้อมตะโกนอย่างอวดดียิ่งนัก
“เป็นอย่างไร นี่คือหลักฐาน เห็นรึยัง เขตตะวันตกเหมันต์สวรรค์ออกใบรับรองให้ข้า!”
“เจ้าสี่ พลิกด้าน ด้านหลังยังมีอีก อ่านต่อ”
ซูหมิงพลิกแผ่นไม้บันทึก อ่านตัวอักษรด้านหลัง ยิ้มเจื่อนๆ พลางส่ายศีรษะ น้ำเสียงกังวานขึ้นอีกครั้ง
“เขตตะวันออกเผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์ ขอรับรองว่าเทียนเสียจื่อไม่ใช่คนบ้า ขอรับรองว่าเขาหายดีแล้ว…”
“เขตแดนรกร้างตอนใต้เผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์ ขอรับรองว่าเทียนเสียจื่อไม่ใช่คนบ้า ขอรับรองว่าเขาหายดีแล้ว…”
“เผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์ ขอรับรองว่าเทียนเสียจื่อไม่ใช่คนบ้า…..” ตอนที่ซูหมิงอ่านตัวอักษรทั้งหมด เทียนเสียจื่อมีสีหน้าได้ใจยิ่งขึ้น ชายชราผมขาวที่เขาจับอยู่อึ้งตะลึง เขาจึงอ้าปากตะโกนเสียงดัง
“ได้ยินรึยัง ข้าไม่ใช่คนบ้า ข้ารักษาหายแล้ว นี่คือหลักฐาน หากเจ้าไม่เชื่อ ข้ายังมีอีก!” เทียนเสียจื่อหยิบแผ่นไม้บันทึกจำนวนมากกว่าครึ่งจากอกเสื้อ โยนให้ซูหมิงทั้งหมด
“เผ่าที่ราบต้นอ้อ ขอรับรองว่าท่านเทียนเสียจื่อไม่ใช่คนบ้า…”
“เผ่าสวี่หลัว ขอรับรองว่าท่านเทียนเสียจื่อ…..รักษาหายดีแล้ว…..”
“เมืองหมอกนภา ขอยอมรับว่าเทียนเสียจื่อไม่ใช่คนบ้าแล้ว เขาเป็นปกติ…..”
“เผ่าใหญ่ทะเลตะวันออก ขอรับรองว่าเทียนเสียจื่อไม่ได้เสียสติ…..”
ซูหมิงอ่านไปอ่านมา แอบตะลึงในใจ ตัวอักษรในทุกแผ่นไม้บันทึกต่างกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นคนละลายมือกัน หากแผ่นไม้บันทึกเหล่านี้เป็นเหมือนที่ว่าไว้ด้านบน แบ่งกันเป็นของแต่ละชนเผ่า เช่นนั้นเทียนเสียจื่อ…
ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเห็นเมืองหมอกนภา เห็นเผ่าใหญ่ทะเลตะวันออก…
เมื่อซูหมิงอ่านจบ มิใช่เพียงแค่เขาที่ตื่นตะลึง ทุกคนที่ได้ยินโดยรอบล้วนเหม่อลอย มองเทียนเสียจื่อที่ยังลำพองใจอยู่กลางอากาศเป็นตาเดียว
“ข้าก็บอกไปแล้วว่าข้าไม่ได้บ้า ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อหรือยัง!” เทียนเสียจื่อมีสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งนัก แม้จะสวมผ้าคลุมศีรษะอยู่ ก็ยังมองออกจากคำพูด รวมถึงแววตาและปากที่ปรากฏออกมา
ชายชราผมขาวที่ถูกเทียนเสียจื่อจับตัวอยู่ ยามนี้เบิกตากว้าง เงียบไปพักหนึ่ง เขาไม่กล้าพูดอีกแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจอย่างที่สุดแล้วว่าเทียนเสียจื่อตรงหน้าเป็นบ้าจริงๆ หากตนยังยืนยันพูดต่อ เกรงว่าคงต้องรับเพลิงโทสะจากเทียนเสียจื่อ
สำหรับคนบ้าคนนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้หมด
‘คนบ้า….นี่มันคนบ้า หากแผ่นไม้บันทึกพวกนั้นเป็นของจริง เขาก็เป็นบ้าอยู่ดี คนปกติที่ไหนจะไปตามที่ต่างๆ เพื่อขอใบรับรองว่าตัวเองไม่บ้า…..หากแผ่นไม้บันทึกเป็นของปลอม เขาก็ยังเป็นบ้าอยู่ดี…’ ชายชราผมขาวผู้นำกองรักษาการณ์เผ่าแดนภูต ยามนี้ปิดปากสนิท
“หืม? เจ้าไม่พูดรึ? เจ้าดูถูกข้า!” เทียนเสียจื่อถลึงตามอง กล่าวจบ แม้แต่ซูหมิงยังเห็นใจชายชราผมขาว
“ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะดูถูกข้า หะ หะ หะ…เหตุใดเจ้าถึงดูถูกข้า เจ้ายังคิดว่าข้าเป็นคนบ้าใช่หรือไม่!” เทียนเสียจื่อเกิดโทสะในฉับพลัน สีหน้าตึงเครียด นัยน์ตาฉายประกายคล้ายคิดอยากฆ่าปิดปากคน
ประกายแสงนี้ บางทีคนอื่นอาจอ่านความหมายไม่ออก ทว่าชายชราผมขาวที่ถูกจับตัวกลับอ่านออกอย่างชัดเจน
“เจ้าทำเกินไปแล้ว ข้าให้เกียรติเจ้าขนาดนี้ ข้าหยิบหลักฐานมาให้เจ้าดูขนาดนี้แล้ว เจ้ากลับยังคิดว่าข้าเป็นคนบ้า!” เทียนเสียจื่อมีท่าทีโกรธแค้น ยกมือขวาขึ้น ดูจากท่าทางแล้ว เหมือนอยากลงมือบีบคอสังหารชายชราผมขาวให้ตาย
ชายชราเบิกตากว้าง พยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่ก่อนหน้านี้เขาพบว่า การโคจรขั้นพลังทุกอย่างในตัวเขาเหมือนเสียพลังไปเพราะถูกเทียนเสียจื่อบีบคอ จึงแสดงออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง
ยามนี้เทียนเสียจื่อยกมือขวา ความกลัวตายอบอวลอยู่ในความคิดของชายชราผมขาว ทำให้เขามีสีหน้าตื่นกลัว เหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่าเทียนเสียจื่อไม่มอบโอกาสนั้นให้เขา บีบคอเขา ออกแรงสองมืออย่างหนักหน่วงจนใบหน้าชายชราผมขาวพลันแดงขึ้น
นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย เขารู้ว่าหากชายชราผมขาวตาย เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที แต่เขากลับไม่เกรงกลัว แววตามีจิตสังหาร ทันทีที่ชายชราผมขาวถูกอาจารย์สังหาร เขาจะลงมืออย่างรวดเร็ว สังหารก่อนที่คนอื่นจะจู่โจมสวนกลับ
ศิษย์พี่รองกับชายร่างกำยำตัวดำทำลายภูตผีเด็กสิบแปดตนเรียบร้อย ทั้งยังมีไม่น้อยที่ถูกศิษย์พี่รองกลืนกิน รูปร่างของเขาในตอนนี้ยังคงเป็นลักษณะที่ปรากฏหลังฟ้ามืด ทั้งตัวปล่อยไอหนาวเยือก สีหน้าเย็นชา ยามนี้ในแววตาเย็นชามีจิตสังหารเหมือนกัน
ทว่าขณะที่ชายชราผมขาวกำลังจะถูกเทียนเสียจื่อบีบคอตาย ชาวเผ่าแดนภูตทั้งหมดบนพื้นล้วนมีสีหน้าคลุ้มคลั่งภายใต้ความตื่นกลัว คิดจะโจมตีสวนกลับโดยไม่สนสิ่งใด
ทันใดนั้นมีเสียงชราแฝงไว้ด้วยความจำใจ ดังแว่วมาจากอากาศ
“เจ้าไม่ใช่คนบ้า เจ้าหายดีแล้ว…..ข้าโม่ซานขอรับรองให้เจ้า”
น้ำเสียงลอยเข้ามา ปกคลุมแผ่นดินใหญ่ ขณะเดียวกัน ชายชราผมขาวในสองมือของเทียนเสียจื่อพลันตัวสั่นสะท้าน แตกละเอียดกลายเป็นแมลงเล็กสีดำจำนวนมาก แมลงเหล่านั้นม้วนตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นผืนใหญ่ บินทะยานออกห่างหลายร้อยจั้ง ก่อนรวมกลับมาเป็นชายชราผมขาวอีกครั้ง
เขายังคงมีสีหน้าหวาดกลัว เหมือนเพิ่งรอดจากความตาย และคุกเข่าไปทางอากาศด้านข้าง
“คารวะจ้าวหมาน ขอบคุณบุญคุณที่จ้าวหมานช่วยชีวิต…”
ตรงจุดที่ชายชราผมขาวคุกเข่า มวลอากาศเกิดระลอกคลื่นกระเพื่อม ภายในค่อยๆ มีชายชราสวมชุดคลุมดำเดินออกมา ชายชราคนนี้ไม่สนใจผู้นำกองรักษาการณ์เผ่าแดนภูต แต่มองเทียนเสียจื่อ
“เทียนเสียจื่อ…..” เขาเพิ่งกล่าว เทียนเสียจื่อก็แค่นเสียงหึเย็นชา ไม่สนใจผู้นำกองรักษาการณ์เผ่าแดนภูตเช่นกัน แต่ถลึงตามองชายชราชุดคลุมดำ
“ข้าไม่ใช่เทียนเสียจื่อ!”
ช่วงที่จ้าวหมานแดนภูตปรากฏ ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน เขารู้สึกถึงแรงกดดันวูบวาบ แรงกดดันนี้ทำให้พลังโลหิตทั้งตัวเหมือนจะแข็งค้าง สีหน้าเคร่งขรึมตามมา ทว่าพอได้ยินคำพูดของอาจารย์ ราวกับว่าแรงกดดันนั้นหายไปทันที
ซูหมิงยิ้ม เขารู้สึกรางๆ ว่าหากจ้าวหมานแดนภูตพูดต่อ บางทีอาจารย์อาจราวีไม่เลิก และนำมาซึ่งคำพูดก่อนหน้านี้อีกรอบ
“เช่นนั้นข้าคงจำผิดคน เจ้าชื่ออะไร?” จ้าวหมานแดนภูตในชุดคลุมดำยิ้ม สีหน้าไม่มีความโกรธหรือยินดีแม้แต่น้อย กล่าวเรียบๆ มองเทียนเสียจื่อ
“ข้าเทียนเสียจื่อ! มารดาเจ้าเถอะ เจ้าไม่รู้จักข้ารึ? ตอนเจ้าเยาว์วัยข้ายังเคยอุ้มเจ้าอยู่เลย เจ้ากลับไม่รู้จักข้าเสียแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะถามว่าข้าเป็นใคร?” เทียนเสียจื่อถลึงตามอง มีท่าทางโกรธเคือง
จ้าวหมานแดนภูตมีสีหน้าจนปัญญา ขณะส่ายศีรษะก็ประสานมือคารวะเทียนเสียจื่อ
“อาจารย์อา อย่าก่อเรื่องอีกเลย…เรื่องนี้ข้าก็เพิ่งรู้สาเหตุ เป็นชาวเผ่าข้าเองที่ผิด…..ข้าจะจับเดรัจฉานตัวนั้นมาเอง” เขาฝืนยิ้มพลางกล่าว ยกมือขวาขึ้นสะบัด พลันมีเงาคนโซเซเดินออกมาจากมวลอากาศข้างกาย และถูกบังคับให้คุกเข่าลงตรงนั้น
เขาเป็นชายวัยหนุ่มแน่น เปลือยท่อนบน เส้นผมม้วนคอหลายรอบ มีสีหน้าโกรธแค้นและไม่ยินยอม ทั้งยังตื่นกลัว