Skip to content

สู่วิถีอสุรา 333

ตอนที่ 333 เด็กชาย

บนที่ราบ วันที่ห้ายามเที่ยงวันหลังจากซูหมิงลงจากนภาหิมวันต์ ท้องฟ้าสดใสลมโชยอ่อนๆ ชั้นเมฆสีครามยืดยาวปานเกล็ดปลา แสงตะวันสว่างไสว ส่องสะท้อนแผ่นดินใหญ่ ราวกับหลอมรวมสายลมพัดผ่านหญ้าสีเขียวบนพื้น

อูตัวกำลังห้อเหยียดอยู่บนพื้นดิน เขารวดเร็วยิ่งนัก กลายเป็นสายรุ้งยาว

ซูหมิงอยู่ข้างๆ อาภรณ์สะบัดตามแรงลม ท่าทางสงบนิ่ง ไม่รู้ถึงความคิด

เขามิได้ตามหลังอูตัว ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เพิ่งร่วมมือกัน และการร่วมมือกันครั้งนี้ก็มิได้ดีนัก ฉะนั้นจึงไม่ควรทำตัวให้น่าสงสัยจนอีกฝ่ายเข้าใจผิด ซูหมิงเลยอยู่ข้างๆ อูตัว หากเงยหน้ามองบนพื้นจะเหมือนไม่ไกลนัก ทว่าความจริงแล้ว ทั้งสองคนห่างกันเกือบหนึ่งร้อยจั้ง

ขณะห้อเหยียด อูตัวตั้งใจชะลอความเร็วลงและสังเกตซูหมิง

ทว่าไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็แทบจะอ่านซูหมิงไม่ออก มองเบื้องหลังเขาไม่ได้ ก็เลยเพ่งเป้าไปยังวานรเพลิงที่ห้อเหยียดอยู่ข้างซูหมิง

‘เขาดูอายุยังน้อย ทว่าขั้นพลังกลับไม่ธรรมดา คำพูดยิ่งเฉียบคม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เพิ่งออกจากชนเผ่าสำนัก อีกทั้งยังรักสันโดษ มีเป้าหมายที่แน่นอน หากมิใช่ว่าข้าใช้คุณูปการมาล่อ เกรงว่าคงไม่ยอมเดินทางมาด้วย ดูท่าเขาก็มิใช่ว่าไม่มีช่องโหว่ เห็นได้ชัดว่าชอบชื่อเสียงและผลประโยชน์…’

วานรตัวนี้เป็นพันธุ์แปลก อูตัวไม่รู้จักมัน ยิ่งมองเขายิ่งรู้สึกว่าซูหมิงลึกลับ ในใจอูตัวใช่ว่าจะไม่มีเจตนาร้าย เพียงยามนี้กลับต้องลดลงเพราะความลังเลและความลึกลับของซูหมิง

การกระทำเหล่านี้ของอูตัวอยู่ในสายตาซูหมิง แม้อ่านใจอูตัวไม่ออกก็พอเดาได้บ้าง แม้บอกว่าไม่ครบทุกด้าน ทว่าซูหมิงก็รู้ว่าตนต้องเงียบขรึมแบบนี้ต่อไป อีกฝ่ายจะได้ไม่กล้าผลีผลาม ในจุดนี้เขามองออกตั้งแต่ที่อีกฝ่ายตามมาแต่กลับไม่ยอมลงมือแล้ว

‘บุคคลนี้ขี้สงสัย บางทีอาจเป็นข้อดีของเขา แต่ก็เป็นข้อเสียเช่นกัน คนขี้สงสัยแบบนี้ หากไม่มั่นใจจริงๆ จะไม่ลงมือเด็ดขาด’ ซูหมิงละสายตาจากอูตัว กลายเป็นสายรุ้งยาวห้อเหยียดต่อไป

ทั้งสองคนต่างสงสัยกันและกัน ขณะทะยานเวลาก็ค่อยๆ ผ่านไป เมื่อเลยยามเที่ยงวัน อูตัวที่อยู่ข้างหน้าพลันหยุดชะงัก ซูหมิงที่ตามหลังหนึ่งร้อยจั้งก็หยุดเช่นกัน

“สหายโม่ ข้างหน้ามีเผ่าเชมัน!” อูตัวหลับตา ราวกับใช้วิชาพิเศษบางอย่างตรวจสอบ ผ่านไปพักหนึ่งจึงลืมตาขึ้นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

ความจริงแล้วท่าทางพวกนี้เขาแสร้งทำ เขาไม่รู้หรอกว่ามีเผ่าเชมันอยู่แถวนี้จริงๆ แต่เขารู้ว่าตนนัดหมายกับชาวเผ่าเชมันเอาไว้เพื่อแลกเปลี่ยนกัน

เขาอยากได้ผลึกเชมัน แลกกับวิธีอำพรางตัวให้กลายเป็นเผ่าหมาน เดิมทีแผนเป็นเช่นนั้น ทว่าหลังจากพบซูหมิง อูตัวจึงเปลี่ยนแผน เขาไม่อยากบอกวิธีพรางตัว แต่ก็ยังอยากได้ผลึกเชมันด้วย

“ตามที่ข้ารู้สึก ข้างหน้ามีเพียงคนเดียว คลื่นระดับพลังไม่สูง น่าจะเป็นนักรบเชมันระดับต้น บุคคลนี้ข้าจะสังหารเองเพื่อแสดงความจริงใจ สหายโม่รอดูอยู่ข้างๆ ก็พอ ข้าจะจัดการเอง!” อูตัวยิ้มมองซูหมิง นัยน์ตากลับเย็นชา

ความเย็นชานี้เห็นชัดว่ามิได้ใช้กับซูหมิง ซูหมิงได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า ในใจยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับพลังวิชาที่อูตัวใช้ค้นหาพวกเผ่าเชมัน

นัยน์ตาอูตัวขยับประกายเย็นชา พลันเดินหน้าหนึ่งก้าวแล้วพุ่งทะยานไปตรงสุดที่ราบ ความเร็วของเขาพริบตาเดียวก็หนึ่งร้อยจั้ง ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ดุจดาวตก

ซูหมิงที่ตามอยู่ด้านหลังแววตาราวสายฟ้า จ้องอูตัวทะยานไกลออกไป

ช่วงที่อูตัวทะยานลงเข้าไปใกล้ พลันมีร่างคนผู้หนึ่งยืนขึ้นมาจากทุ่งหญ้า บุคคลนี้สูงยิ่งนัก สวมหมวกหนังเขาวัว กลิ่นอายพลังทะมึนทึบโอบล้อมรอบตัว หลังจากร่างคนยืนขึ้น ประหนึ่งมีพายุม้วนบนแผ่นดิน ทำให้ทุ่งหญ้าโดยรอบพลิ้วไหวไม่หยุด

บนหน้าชายร่างกำยำมีรอยสัก ทว่ายามนี้เลือนรางเล็กน้อย มองเห็นไม่ชัดเท่าไรนัก เห็นชัดเพียงอย่างเดียวคือริมฝีปากชายร่างกำยำคนนี้มีรอยฉีกแนวตั้ง ทำให้ริมฝีปากแบ่งเป็นสี่กลีบดูน่าสะพรึง

ตอนชายร่างกำยำเห็นอูตัวห้อเหยียดเข้ามาจากบนท้องฟ้า แววตามืดสลัวเป็นมันวาว แสยะยิ้มมุมปาก ทว่ายามนี้ริมฝีปากสี่กลีบแยกจากกันจนดูน่ากลัว กระทั่งมีตัวอ่อนแมลงอ้วนหลายตัวมุดออกมาจากปากขณะยิ้ม ก่อนตกลงสู่พื้น

เดิมทีอูตัวเคลื่อนตัวเร็วอย่างยิ่ง ทว่ายามเข้าใกล้แล้วเห็นชายร่างกำยำปากแหว่ง รวมถึงตัวอ่อนแมลงในปากอีกฝ่าย สีหน้าพลันเปลี่ยนไปและหยุดชะงัก ขณะเดียวกับที่คิดจะล่าถอย ชายร่างกำยำเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า เสียงคำรามเต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย ก่อนจะกระโดดลอยขึ้น กางแขนทั้งสองข้างตรงเข้ากอดอูตัว

ซูหมิงที่อยู่กลางอากาศมองตาไม่กะพริบ เมื่อเขาเห็นชายร่างกำยำก็พลันหรี่ม่านตาลง ในสายตาซูหมิง ชายร่างกำยำคนนี้มีพลังความตายเข้มข้นทั้งตัว ทว่าพลังความตายนี้ไม่เผยออกมาก่อนอีกฝ่ายปรากฏตัว เห็นได้ชัดว่าซ่อนเอาไว้ในร่างกาย

หากเพียงเท่านี้คงไม่เท่าไร แต่ซูหมิงกลับรู้สึกถึงความเป็นตายจากในตัวชายร่างกำยำ เหมือนเป็นวัตถุดิบที่เขาต้องการหลอมโอสถชิงวิญญาณ!

แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงเป็นเช่นนี้ ทว่าความรู้สึกของวัตถุดิบในการหลอมโอสถชิงวิญญาณ ซูหมิงคิดว่าเขามองไม่พลาด

‘ต่างเพียงจุดเดียว บางทีวัตถุดิบสำหรับหลอมโอสถชิงวิญญาณต้องมีพลังความตายมากกว่าครึ่ง นำมาระงับพลังชีวิตอ่อนแรง ทำให้คนเคลื่อนไหวไม่ได้ทว่าก็ยังรู้ตัวอยู่ เหมือนมีพลังชีวิตอยู่ภายใน พลังความตายอยู่ข้างนอก!

แต่บุคคลนี้ พลังความตายหลอมรวมเข้ากับพลังชีวิต และบรรลุถึงความสมดุลพิลึกบางอย่าง ราวกับพลังความตายอยู่ข้างใน พลังชีวิตอยู่ข้างนอก เมื่อเป็นเช่นนั้นจะทำให้คนผู้นี้สามารถควบคุมร่างกาย เหมือนกึ่งเป็นกึ่งตาย!’ นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายวูบวาบ จ้องชายร่างกำยำกลางอากาศด้วยแววตาดูสนใจ

ตรงกันข้ามกับซูหมิง ยามนี้อูตัวกำลังห้อเหยียด ทว่าชายร่างกำยำที่กระโจนเข้ามากลับยิ้มเยาะและเพิ่มความเร็วมากขึ้น ประดุจกำลังตรงเข้ามา

ด้วยขั้นพลังของอูตัว เดิมทีตอนเห็นชายร่างกำยำเขาจะไม่ตอบสนองเช่นนี้ ทว่าที่เขาหน้าเปลี่ยนสีก็เป็นเพราะรู้จักสภาพของชายร่างกำยำผู้นี้ดี สภาพแบบนี้ในเผ่าเชมันเรียกว่าอมตะ คนที่ทำแบบนี้ได้มีเพียงผู้ดูดวิญญาณแห่งเผ่าเชมัน!

อูตัวเคยสังหารขั้นดูดวิญญาณมาก่อน เขารู้ถึงความน่ากลัวของผู้ฝึกฝนมันดี

ยามนี้ขณะล่าถอย เขากวาดสายตามองพื้นอย่างเร็ว หมายมั่นจะหาผู้ดูดวิญญาณแห่งเผ่าเชมันที่ซ่อนตัวอยู่ให้พบ ขณะเดียวกันชายร่างกำยำหัวเราะเยาะพลางตรงเข้ามาใกล้ แววตาอูตัวมีประกายเย็นชา ระหว่างถอยก็ยกมือขวาขึ้นคว้าอากาศ

มวลอากาศเหนืออูตัวเกิดเสียงดังกึกๆ พลันปรากฏภูเขาน้ำแข็งสีครามยักษ์หนึ่งลูก อูตัวสะบัดมือ ภูเขาน้ำแข็งก็พลันพุ่งตรงเข้าใส่ชายร่างกำยำ

ทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าใส่กันจนเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง ชายร่างกำยำตัวสั่น ภูเขาน้ำแข็งตรงหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ เหตุที่แตกมิใช่ว่ามันพังทลาย แต่เป็นอภินิหารของอูตัว เศษน้ำแข็งเหล่านั้นกลายเป็นกริชแหลมนับไม่ถ้วนทะลวงผ่านชายร่างกำยำ แยกแขนขาทั้งสองข้างและศีรษะออกจากกัน

ไม่มีโลหิตไหล มีเพียงตัวอ่อนแมลงจำนวนมากแตกรังกระจัดกระจายอยู่กลางอากาศ

“อูตัว เจ้าคงสบายดี…” ยามนี้เอง มีเสียงแหลมเย็นเยือกดังแว่วมาจากแผ่นดิน ช่วงที่เสียงนี้ดังกังวาน แววตาชายกำยำที่ถูกแยกส่วนพลันเปล่งแสงทึบ ร่างทุกส่วนก็เปล่งแสงทึบเช่นเดียวกัน ก่อนพลันเข้ามารวมตัวกันปานมีแรงดึงดูด และกลายเป็นชายร่างกำยำอีกครั้ง

เพียงแต่ว่าบนตัวเขามีรอยร้าวยาวหลายจุด เหมือนว่าบุคคลี้เป็นตุ๊กตาที่ฉีกขาดแล้วเย็บกลับเข้ามาใหม่ จึงมีรอยเย็บเหลือไว้บนตัว

ชายร่างกำยำแสยะยิ้มก่อนเคลื่อนตัวไปอีกครั้ง ครั้งนี้มิได้ตรงเข้าใส่อูตัว แต่กลายเป็นสายรุ้งยาวตรงไปทางซูหมิง เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับคำสั่งใหม่มา!

“หยาเคอ!” เมื่ออูตัวได้ยินเสียงแหลม สีหน้าพลันจริงจัง ข้างกายเขาปรากฏภูเขาน้ำแข็งสีครามสามลูก ภูเขาน้ำแข็งนี้อยู่รอบตัวเขา แผ่ไอหนาวเยือกภายใต้แสงตะวัน

ภายในทุ่งหญ้า ต้นหญ้าพลันแห้งเหี่ยวเป็นวงกว้าง ก่อนมีเด็กชายคนหนึ่งเดินออกมา เด็กคนนี้หลับตาเอาสองมือไพล่หลัง ยิ้มมุมปากเย็นชา

อูตัวยกมือขวาแล้วชี้ลงพื้นอย่างไม่ลังเล ภูเขาน้ำแข็งสามลูกพลันเคลื่อนตัวไปทางแผ่นดิน ก่อเป็นแรงกดดันมหาศาล ทำให้พื้นพสุธาเกิดเสียงอึกทึกดังสนั่น

เด็กคนนั้นยิ้มเยาะและไม่หลบหนี แต่ยกมือขวาขึ้นผลักไปข้างหน้า ภายในมือขวาเขามีแสงสีดำวิบวับ แสงสีดำแผ่ขยายในชั่วพริบตา แล้วจึงกลายเป็นประตูแสงลักษณะวงรีตรงหน้าเด็กชาย

เสียงคำรามดังมาจากในประตูแสง จากนั้นมีเท้าแห้งเหี่ยวก้าวออกมา ผิวหนังหุ้มกระดูก บนตัวมีรอยแผลเลือดจางๆ หลายจุด ผู้เดินออกมาเป็นคนแห้งเหี่ยวทั้งตัวที่สูงราวหนึ่งจั้งกว่า

มองแวบแรกบุคคลนี้เหมือนกับโครงกระดูก ทว่านัยน์ตากลับเปล่งแสงหม่น เมื่อปรากฏตัวแล้วก็ส่งเสียงคำราม พุ่งตรงเข้าใส่ภูเขาน้ำแข็งสามลูก

แทบจะเป็นช่วงที่เด็กชายคนนี้แสดงวิชาเชมันเฉพาะของผู้ดูดวิญญาณ ชายร่างกำยำบนท้องฟ้ายิ้มเยาะพร้อมกับตรงเข้าใส่ซูหมิง เขารวดเร็วยิ่งนัก มีกลิ่นอายพลังความตายเข้มข้น พลังความตายนี้ลากยาวตามหลังเขามาประหนึ่งปกคลุมฟ้าดิน และเข้าใกล้ซูหมิงมากขึ้นเรื่อยๆ

ซูหมิงจ้องชายร่างกำยำ ดวงตาฉายแววประหลาดใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version