ตอนที่ 415 สามรูปแบบแยกวายุ
ท้องฟ้าสีเทา หมอกขมุกขมัว โดยรอบปานทะเลหมอกม้วนตัวอบอวล มองแวบแรกคล้ายแยกไม่ออกว่ามันคือทะเลบนท้องฟ้าหรือทะเลบนแผ่นดิน
ซูหมิงไม่รู้สึกถึงร่างกายตัวเอง เหมือนกับว่าเขากลายเป็นสายลมในทะเลหมอก ล่องลอยอยู่กลางฟ้าดิน ไม่รู้ว่าจะไปที่ใด…
บางทีอาจผ่านไปนานมาก หรือบางทีอาจเพียงชั่วครู่เดียว จิตใจซูหมิงสับสนเล็กน้อย เขาพลันมองทะเลหมอกตรงหน้า ในทะเลเมฆสีเทาไร้พรมแดนมีบุรุษผมยาวผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่
บุรุษผู้นี้สูงผอม สวมเสื้อสีเขียว เส้นผมยาวมาก แม้ใบหน้ามิได้หล่อเหลา ทว่ากลับมีเอกลักษณ์งามสง่าแฝงอยู่ โดยเฉพาะดวงตาเรียวยาว เพียงมอบแวบแรกดุจคิ้วกับตาของสตรี ดวงตาหงส์เห็นแล้วยากจะลืมเลือน
ขณะเดียวกับที่ซูหมิงมองเขา เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตามีประกายวาววับผ่าน
“เจ้ามาแล้ว ผู้สืบทอดของข้า”
ซูหมิงตื่นตะลึง จิตใต้สำนึกที่ค่อนข้างเหม่อลอยพลันได้สติกลับมา เขานึกขึ้นได้ว่าตนกำลังสูบผลึกผู้สืบทอดหมานวายุในธารน้ำแข็งอยู่ นึกถึงช่วงสุดท้ายที่มีพายุเกิดขึ้นในความคิด อีกทั้งเมื่อพายุผ่านไป จิตวิญญาณเขาราวกับมาปรากฏอยู่ในทะเลหมอกแห่งนี้
“การสืบทอดแบบนี้ มีเพียงผู้สืบทอดคนแรกเท่านั้นถึงจะมองเห็นข้า…..คนที่สืบทอดต่อจากเจ้าจะไม่เห็นข้า แต่จะเห็นเจ้า” บุรุษดวงตาเรียวยาวกล่าวเนิบช้าด้วยเสียงอ่อนนุ่ม
“ข้าคือหมานวายุ ข้าเข้าใจพลังแห่งวายุจนกลายเป็นผู้สูงส่ง ร่วมรบกับเทพหมานต่อสู้กับหมื่นแดนแห่งโลกกาลเวลาที่เก้า จุดที่ผ่านไปไม่มีผู้ใดไม่กล้ากราบไหว้…..
หลังจากข้าติดตามเทพหมานออกจากโลกกาลเวลาที่เก้า เดินทางไปยังโลกกาลเวลาอื่นๆ เพื่อแสวงหาโอกาส ข้าก็ได้ทิ้งจิตเอาไว้เสี้ยวหนึ่ง เพื่อให้คนรุ่นหลังมาสืบทอดหมานวายุของข้า
พลังแห่งหมานวายุเปลี่ยนแปลงไปมาได้มากมาย ไม่อาจสืบทอดต่อทีละอย่าง ฉะนั้นข้าจึงรวมเนื้อหาเป็นสามรูปแบบ หากเจ้าเข้าใจทั้งหมดก็จะเข้าใจหมานวายุห้าส่วน
สามรูปแบบแยกวายุ หนึ่งคือเบิกตะวัน!” บุรุษตาเรียวยาวกล่าวเนิบๆ เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ นัยน์ตาเขาเป็นประกาย ยกมือขวาขึ้นสะบัดไปทางท้องฟ้าบนทะเลหมอก
“เบิกเมฆเปิดท้องฟ้า ให้เมฆหมุนตลบ ให้ตะวันเผยออกมา นี่คือพลังแห่งการเบิกตะวัน สิ่งที่ต้องการคือสายลม!” คล้อยหลังเสียงเขาดังก้อง ทะเลเมฆม้วนตัวกลายเป็นน้ำวนยักษ์โดยมีบุรุษผู้นี้เป็นใจกลาง เสียงครืนครืนดังขึ้น
ซูหมิงอยู่ข้างๆ มองน้ำวนทะเลเมฆ กระทั่งยังจินตนาการได้ว่าหากเงยหน้าขึ้นจากผืนดิน สิ่งที่เห็นจะต้องเป็นภาพน่าตะลึงอย่างแน่นอน
“สายลมมาจากที่ใด?” บุรุษดวงตาเรียวยาวยิ้มบาง
“สายลมมาจากการสะบัดแขนเสื้อข้า ส่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ม้วนทะเลเมฆ ขณะทะเลเมฆกลายเป็นน้ำวน มันจะส่งกลับคืนมาหลายเท่า! จะให้พูดชัดๆ คือ เบิกตะวันแบ่งเป็นสามขั้นตอน หนึ่งคือส่งสายลม สองยืมสายลม และสามละลายสายลม สุดท้ายก็คือ…เบิกตะวัน!” บุรุษดวงตาเรียวยาวพลันกำหมัดขวา ทันใดนั้น น้ำวนจากทะเลเมฆรอบตัวหลั่งไหลเข้ามายังเขาพร้อมกัน ซูหมิงตื่นตกใจ เขาเห็นว่าน้ำวนนั้นหายเข้าไปในกำปั้นมือขวาของอีกฝ่าย!
ราวกับขณะกำหมัดก็คือช่วงเวลาที่ทะเลเมฆไร้จุดสิ้นสุดรวมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับในหมัดขวาของเขาตอนนี้กำน้ำวนทะเลเมฆไร้พรมแดนเอาไว้
ประหนึ่งพลังในมือเขาคือพลังไร้ขีดจำกัดจากสายลมของฟ้าดิน
“เบิกตะวัน!” เขาปล่อยหมัดขวาไปข้างหน้า ดูเหมือนเบาๆ ทว่าเมื่อต่อยหมัดไปกลับเกิดพายุคลั่งไร้รูปจากในมือ เมื่อมันปะทุออกมาปานยามรุ่งอรุณเงียบสงบเกิดสายฟ้าผ่าดังสนั่น ราวกับผิวทะเลเงียบระเบิดเป็นคลื่นลมหมื่นจั้ง เหมือนกับบนผิวหน้าดินเกิดเสียงดังสนั่นฟ้าดิน!
พายุคลั่งกลายเป็นมังกรวายุ พุ่งทะยานออกไปพร้อมกับเสียงคำราม มันฉีกท้องฟ้า ทำให้มวลอากาศเกิดหลุมยักษ์ มังกรวายุร้องคำรามก่อนมุดตัวหายไปเข้าในนั้น
“รูปแบบที่สอง ฝังจันทรา!” บุรุษหมานวายุดวงตาเรียวยาวหรี่ม่านตาลง ในแววตามีประกายสีดำ
“ส่วนตัวข้าชอบรูปแบบนี้มาก รูปแบบนี้ข้าไม่ได้สร้างขึ้นเอง แต่ข้าตระหนักรู้มาจากตำนานโบราณเรื่องหนึ่ง ทั้งยังไปโบราณสถานอีกหลายแห่ง สุดท้ายก็ได้วิชาตำนานโบราณนี้มา
ข้าคิดเสมอว่าวิชานี้เดิมทีก็มีอยู่ เพียงแต่มันหายไปในกาลเวลา ข้าฟื้นฟูมันกลับมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในยุคบรรพกาล มีตำนานกล่าวว่าเมื่อผู้คนตายลงจะไม่ฝังฟ้า ไม่ฝังลงดิน แต่ฝังในสายลม ใช้สายลมเป็นการฝังศพ…” บุรุษผู้นี้ยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มดูชั่วร้ายเล็กน้อย ก่อนใช้สองนิ้วมือขวากดไปทางแผ่นดินด้านล่าง
ซูหมิงก้มหน้ามองลงไป ก็เห็นว่าพื้นดินด้านล่างพลันเกิดภาพมายา ภาพมายานี้คงอยู่ไม่นานนักก็ชัดเจนขึ้น สิ่งที่ปรากฏในสายตากลับมิใช่ผืนดิน แต่กลายเป็นกลุ่มคน
บนแผ่นดินปรากฏคนขมุกขมัวนับไม่ถ้วน มองเห็นชุดและใบหน้าไม่ชัด พวกเขาล้วนคุกเข่ากับพื้น ในปากพึมพำคำที่ซูหมิงไม่เข้าใจ เมื่อมองจากท้องฟ้า จำนวนคนเหล่านั้นมีหลายหมื่นคน
ผู้คนเหล่านี้อยู่กันแน่นขนัด รวมเป็นวงกลมยักษ์ ตรงใจกลางสุดเป็นพื้นที่โล่ง นอกจากหอคอยไม้สูงตระหง่านหลายหลังบนพื้นและยอดหอคอยแล้ว มีศพผู้หนึ่งถูกมัดและแขวนเอาไว้สูง
“ผู้สืบทอดของข้า ตั้งใจมองให้ดี!” บุรุษดวงตาเรียวยาวพลันกล่าว ซูหมิงรีบเพ่งสมาธิ ระงับความตื่นตะลึง มองตาไม่กะพริบ
ผู้คนหลายหมื่นที่ล้อมรอบหอคอยไม้สูงใหญ่เริ่มค่อยๆ ขยับตัวเดินไปยังทิศทางหนึ่ง ทุกคนต่างก้าวเดิน หากมองจากบนท้องฟ้าจะเหมือนว่าวงกลมจากกลุ่มคนกำลังหมุนอยู่ ภาพนี้ทำให้ซูหมิงรู้สึกประหลาดนัก
เขามองไม่ออกว่าการทำแบบนี้มันเกี่ยวอะไรกับวิชาฝังจันทรา ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป หลายหมื่นคนบนพื้นก็เริ่มวิ่ง พอคนหลายหมื่นคนวิ่งพร้อมกัน วงกลมจึงหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ
‘หรือว่าเมื่อทุกคนวิ่งก็จะกลายเป็นน้ำวน แล้วจึงเกิดสายลม?’ นัยน์ตาซูหมิงเพ่งมอง
เมื่อหลายหมื่นคนเริ่มวิ่ง ไอร้อนแผ่กระจายมาจากตัวทุกคน ภายใต้การโคจรพลังโลหิต ภายในร่างกายย่อมปะทุไอร้อนออกมา หนึ่งคนอาจไม่มาก ทว่าจากการวิ่งของคนหลายหมื่น ไอร้อนจึงลอยขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อไอร้อนเหล่านั้นแผ่จากตัวผู้คนแล้วก็ค่อยๆ ลอยขึ้นฟ้า
ขณะเดียวกัน ในกลุ่มคนที่วิ่งอยู่มีหลายร้อยคนกระโดดลอยขึ้น มายืนอยู่เหนือศพที่ถูกมัดแขวนไว้บนหอคอยไม้ยักษ์ ก่อนนั่งขัดสมาธิกลางอากาศ จากนั้นก็ปล่อยไอหนาวเยือกจากร่างกาย แผ่กระจายอบอวลโดยรอบ ทำให้หนาวเย็นขึ้นมาใดทันใด
ภาพต่อมาทำให้ซูหมิงตกใจใหญ่ เขาเห็นกับตาว่าพอคนหลายร้อยปล่อยไอหนาวเยือกแล้ว ไอความหนาวก็แผ่กระจายลงไปด้านล่าง ขณะเดียวกันก็ปะทะเข้ากับไอความร้อนจากการวิ่งของคนหลายหมื่นข้างล่าง
ทันทีที่ปะทะกันก็เกิดพายุคลั่งขึ้น ส่งเสียงหวีดหวิวลากยาว หลายหมื่นคนบนพื้นพลันคำรามพร้อมกัน
“ฝัง!” เสียงนี้สะเทือนนภา คนหลายหมื่นวิ่งเร็วขึ้น ไอความร้อนแผ่กระจายมากขึ้น คนหลายร้อยที่นั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ ยามนี้ลืมตาขึ้นแล้วตะโกนพร้อมกัน
“จันทรา!” หลังจากเสียงตะโกน ไอหนาวพลันเพิ่มขึ้นหลายเท่า เมื่อปะทะกับไอความร้อนจะเหมือนกับอากาศหมุนเวียนเปลี่ยนที่ เกิดเป็นพายุรุนแรงยิ่งขึ้น มันโถมกระหน่ำใส่ศพที่ถูกมัดแขวนอยู่บนหอคอยไม้ยักษ์ ทำให้เลือดเนื้อศพแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วท่ามกลางพายุไร้รูป สุดท้ายก็เป็นศพหนังหุ้มกระดูก
ทุกอย่างยังไม่จบ มีเสียงตะโกนคำว่า ‘ฝัง’ ‘จันทรา’ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สายลมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ขณะซูหมิงกำลังตื่นตะลึง เขาก็เห็นว่าศพกลายเป็นเถ้าธุลี ลอยขึ้นตามลม แล้วค่อยๆ สลายไปกับฟ้าดิน สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงพิธีกรรมบางอย่าง เมื่อทุกอย่างจบแล้วก็กลายเป็นภาพมายาอีกครั้ง แล้วหายไปจากสายตาซูหมิง
“สิ่งนี้เรียกว่า ฝังจันทรา” บุรุษดวงตาเรียวยาวกล่าว
ซูหมิงเหม่อมองแผ่นดินใหญ่เลือนรางที่กลับมาเป็นปกติ ในใจเกิดคลื่นลูกใหญ่ เขาไม่ได้ตื่นตะลึงกับวิชาศพจันทรา แต่เป็นสติปัญญาของคนเหล่านี้ และยังมีสายลม….ทำแบบนี้ได้อย่างไร
‘นี่คือเหตุของการเกิดสายลม…..การปะทะกันของความร้อนและเย็น บางทีอาจพูดได้ว่าเป็นการไหลเวียนของความร้อนและความเย็นจึงเกิดสายลม…..ใช่ ข้าปล่อยหมัดไปก็เกิดสายลม ทว่าข้าไม่เคยขบคิดมาก่อนเลยว่าเหตุใดจึงเกิดสายลม ตอนนี้ดูแล้ว ต้นเหตุของสายลมก็คือการไหลเวียนของไอสองชนิด’ ซูหมิงเหมือนจะเข้าใจแล้ว
“ผู้สืบทอดของข้า ในโลกใบนี้ไม่ว่าที่ใดล้วนมีสายลม แต่หากเจ้าแยกสายลมในพื้นที่หนึ่งออก ทำให้พื้นที่นั้นไม่มีสายลมอีก เช่นนั้นเจ้าก็จะกลายเป็นเจ้าปกครองพื้นที่นั้น! ไม่มีลมก็เท่ากับไม่มีลมหายใจ ไม่มีลมหายใจก็เท่ากับไม่มีพละกำลัง ตอนที่พลังฟ้าดินถูกสูบเข้าไป ไม่มีลมหายใจใดๆ อยู่ เมื่อนั้นจุดที่เจ้าอยู่จะกลายเป็นเขตต้องห้ามของสิ่งมีชีวิต หรือก็คือวิชาแยกวายุของข้า!”
“สามรูปแบบแยกวายุ แฝงการตระหนักรู้ในวายุทั้งชีวิตของข้าไว้ ข้าถ่ายทอดมันให้เจ้าแล้ว ตัวเจ้ามีต้นกำเนิดวายุอยู่ จะเก็บเกี่ยวได้มากเพียงใดก็อยู่ที่ความเข้าใจของเจ้า…..สุดท้าย นอกจากแยกวายุแล้ว ข้าจะใช้จิตของข้าที่เหลืออยู่นี้มอบโอกาสให้เจ้าสามครั้ง ทุกครั้งจะเป็นอภินิหารหนึ่งรูปแบบ ตอนนี้คือครั้งแรก บรรลุเบิกตะวัน!” บุรุษดวงตาเรียวยาวกล่าวจบก็ค่อยๆ เลือนหายไป จากนั้นมีสายลมพัดตรงเข้ามาม้วนตัวซูหมิง ห่อหุ้มเอาไว้ข้างใน