Skip to content

สู่วิถีอสุรา 426

ตอนที่ 426 ข้าเข้าใจเขา

นางเป็นสตรีที่แผ่กลิ่นอายหนาวเยือกทั้งตัว มีใบหน้างดงามอย่างยิ่งกับเส้นผมสีม่วง อายุราวยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี รูปร่างผอมสูง สวมอาภรณ์สีม่วง ตรงเอวผูกแส้สีขาวเอาไว้ ทำให้ส่วนเอวนางเว้าลงไปอย่างงดงาม ทั้งยังโค้งขึ้นอย่างมาก ปกคลุมสะโพกกับขาเรียวยาวของนางไว้

ขณะเดินผมยาวแกว่งไปมา ดวงตาเย็นชา ใบหน้างามเฉยเมย จะบอกว่านางเย็นชาปานน้ำแข็งก็คงไม่เกินไป โดยเฉพาะเมื่อความงามของรูปลักษณ์นางช่วยขับเน้นความเย็นชานี้ จึงยิ่งดูงดงามและเย็นเยือกมากเป็นพิเศษ

ซูหมิงหัวเราะแห้งๆ ในใจ แม้ใบหน้าสวมหน้ากากจะไม่เผยความรู้สึกๆ ใด ทว่าเขารู้จักหญิงคนนี้…จะให้กล่าวจริงๆ คือเขาเคยเห็นนาง…

สตรีผู้นี้คือคนของวิหารเทพเชมันที่เขาเคยพบตอนหงหลัวควบคุมร่างกาย อีกทั้งเพราะพลังหยินของนางมีไม่พอ สุดท้ายจึงไม่ได้ใช้วิชาเงาหงส์พ่ายมังกรกับนาง

‘หงหลัวหนอหงหลัว…เหตุใดตอนนั้นเจ้าต้องบอกว่าตัวเองชื่อซูหมิงด้วย…’

ซูหมิงหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ รู้สึกปวดศีรษะยกใหญ่ ต่อหน้าสตรีผู้นี้ เขามีความรู้สึกคล้ายถูกเอาเปรียบอย่างบอกไม่ถูก

ตอนที่เขาฟื้นคืนสติ ในแต่ละภาพความทรงจำตอนหงหลัวควบคุมร่างกายตน จะมีความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหงหลัว ภายใต้ความรู้สึกนั้น เขาจำได้แม่นถึงสายตาเคียดแค้นที่สตรีผู้นี้มองตน

‘หากนางรู้ว่าข้าเป็น….ข้า เฮ้อ’ ซูหมิงระงับความขมขื่นในใจ พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ มองหญิงผู้นั้นเดินเข้ามา

เดิมทีหนานกงเหินด้านข้างยิ้มบางๆ อยู่ แต่พอเห็นสตรีผู้นี้ก็รอยยิ้มค้างเหมือนกับซูหมิง แล้วยิ้มเจื่อนแทน

“น้องเล็ก เจ้าจะออกไปข้างนอกรึ?” หนานกงเหินกระแอม รีบกล่าวกับสตรีผู้เย็นชาที่กำลังเดินมา

“ที่แท้เจ้าก็ยังไม่ตาย”

สตรีเย็นชาปานน้ำแข็งมาอยู่ห่างจากซูหมิงกับหนานกงเหินหนึ่งจั้ง ก่อนกล่าวอย่างเย็นเยือก หากลบความเย็นชาออกจากน้ำเสียงจะไพเราะมากทีเดียว

หนานกงเหินกระแอมไออีกครั้ง เมื่อถูกนางพูดขัดขึ้น จึงยิ้มแห้งพลางส่ายศีรษะ

“น้องเล็ก เหตุใดเจ้าถึงพูดกับพี่ใหญ่เช่นนี้ ช่างเถอะๆ ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก ท่านผู้นี้คือ….”

“ไม่สนใจ” นางกล่าวด้วยเสียงเย็นชา ไม่มองซูหมิงแม้แต่หางตา ก่อนจะเดินผ่านระหว่างทั้งสองคนไป หนานกงเหินรีบเปิดทางให้ ซูหมิงแอบถอนหายใจแล้วหลีกทางเช่นกัน ปล่อยให้สตรีผู้นี้เดินออกจากประตูเมืองไป

“นางคือ?” ซูหมิงลังเลครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น เขาอยากรู้ฐานะอีกฝ่าย ภายภาคหน้าจะได้หาวิธีหลีกเลี่ยงได้

“นางคือหนานกงซานน้องสาวคนเล็กของข้าเฮ้อ เพราะตอนเยาว์วัยฝึกฝนวิชาบางอย่าง นางจึงเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็ไม่เท่าไร ทว่าหนึ่งปีก่อนตอนนางปิดด่านฝึกฝนดันเกิดเหตุไม่คาดคิด ทำให้พลังหยินนางเข้มข้นขึ้นจนกลายเป็นอย่างตอนนี้…” หนานกงเหินยิ้มเฝื่อนพลางกล่าว จากนั้นเดินเข้าไปในเมืองเชมันพร้อมกับซูหมิง

เสียงเอะอะดังแว่วเข้ามา เมืองนี้ครึกครื้นยิ่งนัก มีคนเผ่าเชมันอยู่ไม่น้อย เมื่อยืนอยู่ตรงนั้นจะลืมไปเลยว่าที่นี่คือโลกเก้าหยิน

พอได้ยินหนานกงเหินบอกว่าเกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อหนึ่งปีก่อน ซูหมิงรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย แอบถอนหายใจเบาๆ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าหนานกงเหินที่ตนพบระหว่างทางจะเป็นพี่ใหญ่ของนาง

“ไม่คิดเลยว่านางก็มาด้วย ที่น้องสาวข้าเย็นชาด้วยก่อนหน้านี้ หวังว่าสหายโม่จะไม่ถือสา เฮ้อ พูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น สหายโม่เคยได้ยินเรื่องที่แผ่นดินเชมันปรากฏผู้แข็งแกร่งที่โดดเด่นที่สุดของยุคเมื่อหนึ่งปีก่อนหรือไม่?” หนานกงเหินส่ายศีรษะ หลังจากอธิบายให้ซูหมิงฟังแล้วจึงกล่าวขึ้นอย่างสบายๆ

ซูหมิงยิ้มขมขื่นในใจยิ่งขึ้น เขามองหนานกงเหินแวบหนึ่ง เห็นอีกฝ่ายกล่าวเพียงตามอำเภอใจ จึงส่ายศีรษะเหมือนไม่รู้อะไร

“ข้าปิดด่านฝึกฝนมาหลายปี เรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อนเคยได้ยินมาบ้าง ทว่าก็รู้ไม่มากจริงๆ”

หนานกงเหินถอนหายใจ แล้วพาซูหมิงกับเด็กหนุ่มสาวสามคนเดินไปบนถนนเมืองเชมัน สองข้างทางคึกคักยิ่งนัก มีร้านค้าแผงลอยตั้งอยู่หลากประเภท ส่วนใหญ่จะขายของจำเป็นสำหรับเผ่าเชมัน นอกจากนี้แล้วก็มีของพิเศษบางอย่างในโลกเก้าหยิน

เทียบกับภยันตรายข้างนอกแล้ว ที่นี่สบายกว่ามากและดูสงบสุขด้วย

“พูดถึงผู้แข็งแกร่งเชมันที่เด่นที่สุดของยุคเมื่อหนึ่งปีก่อน ระดับพลังเขาสูงกว่าเชมันระดับสูงสุดเสียอีก!” ตอนที่หนานกงเหินกล่าว เขามีสีหน้าเลื่อมใสและใฝ่หา

“ระดับพลังเหนือกว่าเชมันระดับสูงสุด ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาฝึกฝนอย่างไร หลังจากปรากฏตัวแล้ว ในช่วงหลายวันนั้นก็ไปท้าสู้กับผู้แข็งแกร่งเผ่าเชมันของเราจำนวนมาก คนที่แพ้ให้กับเขาจะถูกสูบพลังไปมากกว่าครึ่งด้วยวิธีพิเศษ!

เรื่องนี้ในความคิดของคนมากมายมองว่าเขาเลวจนไม่อาจให้อภัยได้ แต่ข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น!” หนานกงเหินเอ่ยด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม ตอนพูดถึงคนผู้นี้ คลื่นอารมณ์ของเขาไม่สงบนิ่ง

ซูหมิงกะพริบตา ไม่กล่าวอะไร

“ข้ารู้ว่าบุคคลนั้นต้องคิดว่าผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ไม่คู่ควรจะมีระดับพลังเลย ฉะนั้นจึงไม่สังหารพวกเขา แต่สูบพลังมากกว่าครึ่งมาแทน นี่คือการบอกกับผู้พ่ายแพ้เหล่านั้นทางอ้อมว่า หากวันหนึ่งพวกเขาเหนือกว่าตนได้ ก็มาหาเขาแล้วเอาพลังคืนไป! เรื่องนี้ข้าเข้าใจ ข้ากระจ่างแจ้ง ข้ารู้ดี!

นี่คือความคิดของผู้ยิ่งใหญ่ คือคุณสมบัติแท้จริงของผู้แข็งแกร่ง ผู้พ่ายแพ้จะต้องมอบพลังให้ และมันก็เป็นการปลุกเร้าพวกเขาเหล่านั้น!

ข้าคิดเสมอว่าบุคคลนี้จะต้องเป็นชาวเผ่าเชมัน มิเช่นนั้นแล้วเหตุใดเขาถึงเห็นอกเห็นใจผู้แข็งแกร่งเหล่านั้น และลงมือให้กำลังใจด้วยตัวเองเพื่อกระตุ้นการฝึกฝนของพวกเขา!” หนานกงเหินกล่าวอย่างฮึกเหิม

ซูหมิงฟังจน…ตะลึงงัน

“สหายโม่ ข้าพูดเรื่องจริง ไม่ใช่ข้าคนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ ในบรรดาผู้พ่ายแพ้เหล่านั้นมีหลายคนรู้สึกแบบเดียวกัน ข้าเคยถามพวกเขามาแล้ว” หนานกงเหินมีสีหน้าเลื่อมใส

“คนที่ข้าเคารพมากที่สุดคือผู้แข็งแกร่งที่เด่นที่สุดของยุคท่านนั้น ไม่อยากเชื่อว่าเขา…จะไปปลุกเร้าแม้แต่สัตว์ร้ายด้วย ต้องเป็นคนที่มีจิตใจอันยิ่งใหญ่เท่านั้นถึงจะทำแบบนี้ได้ ในหลายวันนั้นมีสัตว์ร้ายโชคดีหลายตัวได้พบเขาและถูกกล่อมเกลาจิตใจ บางทีในพวกมันอาจปรากฏสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นก็ได้!”

ซูหมิงหมดคำพูด เขาถูจมูกโดยไม่รู้ตัว ทว่ากลับโดนหน้ากากแทน จึงยิ้มมุมปากอยู่ใต้หน้ากาก

หลันหลันกับอาหู่ ยามนี้ได้ยินหนานกงเหินกล่าวดังนั้น ดวงตาพลันเปล่งประกาย เกิดลูกคลื่นซัดสาดในจิตใจ มีท่าทางตื่นเต้นยิ่งนัก แม้แต่เด็กหนุ่มเย็นชาแขนขวาแห้งเหี่ยวยังมีสีหน้าฮึกเหิมและเคารพ

“เช่นนั้น….เช่นนั้นเขาแข็งแกร่งเพียงใด?” หลันหลันอดใจไม่ไหวจึงถามขึ้น

“แข็งแกร่งเพียงใด? เฮอะๆ ท่านจงเจ๋อเชมันระดับสูงสุดของเผ่าทะเลใบไม้ร่วงยังถูกเขาผนึกไว้กลางอากาศจนขยับตัวไม่ได้ในมือเดียว ตอนเขากดหนึ่งมือลงผืนดิน ชาวเผ่าทะเลใบไม้ร่วงทั้งหมดถูกสะกดจนขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อย ได้แต่ลืมตามองเขา…บินลงมาอยู่ข้างสตรีศักดิ์สิทธิ์เผ่าทะเลใบไม้ร่วง โอบนางแล้วลอยขึ้นฟ้าไปไกล…นี่คือความรักของผู้ยิ่งใหญ่ ข้าชื่นชมนัก” หนานกงเหินถอนหายใจยาว

ซูหมิงอดใจไม่ไหว กระแอมเสียงหลายที เขาได้ยินคนอื่นพูดถึงเรื่องนี้แล้วมักจะรู้สึกแปลกๆ เพราะเขารู้ว่าความจริง…มันไม่ใช่อย่างนั้น

หลันหลันได้ฟังถึงตรงนี้ ดวงตาก็เปล่งประกาย อาหู่ข้างกายเห็นนางเป็นเช่นนี้จึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในใจ

“หลายวันต่อมา สตรีศักดิ์สิทธิ์เผ่าทะเลใบไม้ร่วงกลับมาพร้อมกับมังกรโลหิตของเขาด้วย ทำให้นอกจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ปลาชิวแล้ว เผ่าทะเลใบไม้ร่วงยังได้มังกรศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมาอีกตัว…เฮ้อ จริงๆ แล้วน้องสาวข้าก็ไม่เลว เหตุใดเขาถึงไม่เลือกน้องสาวข้า…” หนานกงเหินส่ายศีรษะแล้วมองซูหมิง รู้สึกว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกๆ

“สหายโม่เป็นอะไรรึ?”

“ไม่มีอะไร ข้าแค่รู้สึกทึ่งในการกระทำของเขา…” ซูหมิงถอนหายใจ

“จริงๆ แล้วน้องสาวข้าก็เจอผู้แข็งแกร่งท่านนี้ น่าเสียดาย…พวกเขาไม่มีวาสนาต่อกัน พบกันครั้งแรกก็ทำให้น้องสาวข้าป่วยด้วยโรครักและเคียดแค้น ฉะนั้นเลยเย็นชามากขึ้น” หนานกงเหินมองพวกซูหมิง เดินผ่านถนนหลายเส้น เดินไปพลางถอนหายใจไปพลาง

“ผู้แข็งแกร่งท่านนั้นตอนนี้อยู่ที่ใดรึ? แล้วเขามีนามว่าอะไร” อาหู่ถามขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว

“เขาหายตัวไป ข้าสงสัยว่าเขาคงจะรู้สึกว่าแผ่นดินเชมันไม่มีใครมีค่าพอให้เขาปลุกเร้าอีกเลยจากไป…ส่วนนามของเขาคือ…ซูหมิง! หรือซูหมิงผมแดง!”

ยามหนานกงเหินกล่าวถึงชื่อ ซูหมิง เขาพลันมีสีหน้าฮึกเหิมและเลื่อมใสอีกครั้ง

ฝ่ายซูหมิงหยุดชะงัก ในใจนอกจากขมขื่นแล้วยังหัวเราะแห้งๆ เรื่องนี้เขาเคยเตรียมใจมาก่อน ทว่าพอได้ฟังด้วยตัวเองแล้ว ความรู้สึกมันก็ยังต่างกัน

ซูหมิงกระแอมไอ ขณะกำลังจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา อาหู่ข้างกายถามขึ้นอีกหนึ่งประโยค

“ผมแดง? ผมเขาเป็นสีแดงรึ?”

“ไม่ผิด ไม่ว่าจะเป็นคนอื่นเล่าลือหรือข้าเห็นด้วยตาตัวเอง เขามีผมแดงจริงๆ ริมฝีปากสีม่วง ตรงระหว่างคิ้วมีตราสัญลักษณ์ดอกท้อ นี่คือจุดเด่นที่สุดของเขา หากเจ้ามีโอกาสได้พบเขาจะต้องกราบไหว้ เพราะความยิ่งใหญ่ของเขา มิใช่สิ่งที่คนในโลกใบนี้จะเข้าใจได้ ทว่าข้าเข้าใจ!

ข้ารู้จัก ข้าเข้าใจเขา…” หนานกงกล่าวเสียงเบา

“ผมแดง หน้าซีดขาว ริมฝีปากม่วง…ตราสัญลักษณ์ดอกท้อ…”

หลันหลันพึมพำ ลักษณะแบบนี้นางเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ยามนี้เงยหน้าขึ้นเห็นแววตาที่ซูหมิงมองตนแล้ว หลันหลันก็หน้าเปลี่ยนสี นางนึกออกแล้ว เมื่อหนึ่งปีก่อนคนลักษณะแบบนี้ปรากฏอยู่บนน่านฟ้าของเผ่านาง หนึ่งปีให้หลังกำลังสวมหน้ากากยืนอยู่ตรงหน้าตน นางหน้าเปลี่ยนสี เพราะยืนอยู่หลังหนานกงเหิน หนานกงเหินจึงมองไม่เห็น อีกทั้งเพราะสายตาของซูหมิงตอนนี้ทำให้นางใจสั่นไหวเลยรีบก้มหน้าลง ในใจตึงเครียดและหวาดกลัว

อาหู่หน้าซีดขาว ทว่าเมื่อเห็นสายตาซูหมิงแล้วกลับมีสีหน้าเป็นปกติ ราวกับไม่มีเรื่องอะไร เขาดึงมือหลันหลัน แต่แผ่นหลังกลับมีเหงื่อเย็นอาบชุ่ม

ซูหมิงมองหลันหลันกับอาหู่เรียบๆ ก่อนละสายตากลับมามองหนานกงเหิน

“เจ้าเคยเห็นเขาหรือไม่?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version