Skip to content

สู่วิถีอสุรา 557

ตอนที่ 557 ปะทะกัน

บนพื้นดิน ช่วงที่ทวนฝังอสูรพุ่งลงมา ศพดวงตาสีเทาจำนวนมากในบริเวณที่มันผ่าน สีเทาในดวงตาพลันหายไป จากนั้นก็พากันตัวสั่นเหมือนตื่นจากความฝัน!

ดวงตายามตื่นขึ้นของบุรุษสตรีคนชราและเด็กตอนมองทวนฝังอสูรบนท้องฟ้า ซูหมิงเห็นชัดในพริบตาเดียวว่าคนเหล่านี้…ตื่นขึ้นจริงๆ ราวกับฟื้นคืนชีพ!

“คนเหล่านี้ไม่มีความแค้นกับเจ้า กระทั่งยังไม่เคยพูดจาร้ายๆ กับเจ้า ทว่าเจ้า…กลับจะสังหารพวกเขาทั้งเป็น ซูหมิง หากเจ้าลงมือ เจ้าสงบจิตใจได้อย่างนั้นรึ? จิตใจเปลี่ยนของเจ้าอยู่ในนั้น ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะผ่านจิตใจเปลี่ยนครั้งต่อไปอย่างไร!

เจ้าสังหารคนที่ไม่มีความผิดมากขนาดนี้ กฎที่เจ้ายึดถืออยู่ที่ใด!” ซือหม่าซิ่นหัวเราะดังลั่น ดูเบิกบานใจยิ่งนัก

“แต่หากเจ้าไม่สังหาร คนเหล่านี้ก็จะรบกวนจิตใจเจ้า เช่นนั้นก็ต้องยอมรับการต่อสู้อันไร้สิ้นสุดของยอดวิชาเมล็ดพันธุ์หมานของข้า ซูหมิง! ไป๋ซู่เหลือเวลาไม่มากแล้ว เจ้าจะเลือกอย่างไรดี…..” ซือหม่าซิ่นอีกคนหัวเราะเสียงดังเช่นกัน

ซูหมิงเงียบ เขามองแผ่นดินตรงจุดที่ทวนยาวพุ่งลงไป มันสร้างแรงปะทะสีม่วงกระจายสู่รอบๆ ทำให้คนที่ตื่นขึ้นมาเหล่านั้นกรีดร้อง ร่างกายล้วนสลายหายไปอย่างน่าเวทนายิ่ง เมื่อแรงปะทะกระจายเป็นวงกว้าง…จนกระทั่งมีคนตื่นมากขึ้น ร่างกายพวกเขาแหลกเป็นชิ้นๆ ภายใต้แรงปะทะนี้ ก่อนสลายหายไปท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน

เสียงกรีดร้องยังคงดังก้อง ซูหมิงตัวสั่น กฎของเขาคือหากคนอื่นไม่ล่วงเกินตนจะไม่ลงมือก่อน นี่คือกฎที่เขายึดถือมาโดยตลอด!

ทว่ายามนี้ซือหม่าซิ่นใช้กฎนี้มาบีบบังคับ คนเหล่านี้ไม่มีความแค้นกับตน

ทวนยาวกลับสังหารพวกเขาจนสิ้นคล้ายกับคราวเผ่าแดนภูต แต่น่าสะพรึงยิ่งกว่า ทำให้ซูหมิงเงียบงันไป

เสียงหัวเราะซือหม่าซิ่นดังกังวาน การต่อสู้ของเขากับซูหมิงไม่ได้ใช้วิชาง่ายๆ เขาจะให้ซูหมิงแพ้ตนในด้านการต่อสู้ และที่สำคัญกว่าคือเขาจะให้ซูหมิงแพ้ในด้านจิตใจด้วย หากไม่ทำแบบนี้คงไม่อาจระบายความแค้น หากไม่ทำเช่นนี้ ก็ไม่นับว่าทำลายคนผู้หนึ่งอย่างแท้จริง!

คนที่ตายอยู่ใต้ทวนฝังอสูร หากโลกนี้มีวัฏจักร พวกเขาจะไม่เข้าไปอยู่ในวัฏจักรนั้น แต่จะต้องวนเวียนอยู่รอบๆ ทวนฝังอสูรไปชั่วนิรันดร์ และกลายเป็นวิญญาณนักรบ

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนซือหม่าซิ่น ซูหมิงในตอนนี้จะเสียกฎที่ยึดถือไป จากนั้นเขาจะปลูกเมล็ดพันธุ์อันซับซ้อนตรงส่วนลึกในใจซูหมิง เมล็ดพันธุ์นี้เติบโตเร็วมาก จนกระทั่งมาแทนทุกอย่างของซูหมิง กลายเป็นต้นกำเนิดทำลายจิตใจอีกฝ่าย

เพียงแต่ว่าเรื่องแบบนี้ บางทีก็ไม่ใช่สิ่งที่ซือหม่าซิ่นคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ซูหมิงยืนอยู่กลางอากาศ เส้นผมค่อยๆ กลายเป็นสีขาวครึ่งหนึ่ง ร่างกายค่อยๆ หดเล็กลง รอบตัวมีพายุหมุน หน้าตาออกไปทางซู่มิ่ง

เขาไม่ได้แปลงเป็นซู่มิ่งอย่างสมบูรณ์ ทว่าขณะแปลงครึ่งหนึ่งนี้ เขายกมือขวาขึ้นสะบัดไปทางผืนดิน ชั่วขณะที่ซือหม่าซิ่นกำลังอึ้งงันอยู่นั้นก็พลันหรี่ม่านตา เห็นว่าศพจำนวนมากที่ตายไปบนพื้นรวมตัวขึ้นแล้วกลับมาเป็นร่างสมบูรณ์อีกครั้ง

แรงปะทะสีม่วงที่กระจายออกก็ปรากฏขึ้นไกลๆ อีกครั้ง มันไม่หายไปแต่ม้วนกลับมา กาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างย้อนกลับในชั่วพริบตา

ขณะกำลังย้อนกลับ ซูหมิงมองแผ่นดิน มองใบหน้าคนแปลกตาที่ฟื้นคืนชีพกลับมา กระทั่งเขาเห็นความหลุดพ้นในความหวาดกลัวและสับสนในเสี้ยววินาทีก่อนตายจากใบหน้าเหล่านั้น

ซูหมิงเห็นสีหน้าหลุดพ้นนี้ขณะใช้อภินิหารย้อนเวลา

เขาหลับตา ลดมือขวาลง เส้นผมขาวครึ่งหนึ่งกลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง ชั่ววินาทีเดียวก็คืนร่างเดิม ไม่กลายเป็นซู่มิ่งแล้ว

วินาทีที่เขาลืมตาขึ้นผืนดินยังคงอยู่ ราวกับว่าการย้อนเวลาทั้งหมดเป็นภาพมายา เหมือนกับความฝัน ยามนี้ความฝันยังคงเป็นแบบนั้น มีโลหิตอบอวล เศษมือเท้าเต็มไปหมด หลังจากแรงปะทะสีม่วงกระจายออกเป็นวงกว้าง เสียงร้องโหยหวนยังคงดังก้อง

แต่ในใจซูหมิงไม่สั่นไหวอีก เพราะว่า…

บนแผ่นดิน เขาเห็นรางๆ ว่าวิญญาณที่ถูกทวนฝังอสูรสูบไปนั้น ตอนนี้เวลารวมตัวกันออกมา ไม่ว่าจะเป็นบุรุษสตรีหรือคนชราและเด็ก พวกเขาไม่มีความเคียดแค้นทางสีหน้า แต่เผยความซาบซึ้งใจ ยามที่แต่ละคนถูกสูบเข้าไปในทวนฝังอสูร พวกเขาเหล่านั้นกลับประสานมือคารวะซูหมิง

ซือหม่าซิ่นเห็นภาพนี้ สีหน้าพลันบึ้งตึง ก่อนแค่นเสียงหึเย็นชา ในจุดที่อยู่ไกลออกไปอีกมีศพอยู่จำนวนมาก ยามนี้พวกเขาไม่รอให้ซูหมิงเข้ามาหาแล้ว แต่ดวงตาเป็นประกายสีเทาแล้วพากันลุกขึ้นทั้งหมด

เมื่อพวกเขายืนขึ้น ร่างกายก็เปลี่ยนไปราวกับหลอมละลาย ทั้งหมดกลายเป็นรูปลักษณ์ซือหม่าซิ่น!

แผ่นดินบนชั้นแปด ศพสีเทานับไม่ถ้วนมีราวหลายหมื่นคน หนึ่งทวนของซูหมิงสังหารไปเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เวลานี้ศพดวงตาสีเทากลายเป็นซือหม่าซิ่นเยอะขึ้น พวกเขาร้องคำรามพร้อมกันแล้วบินขึ้นฟ้ากลายเป็นสายรุ้งยาวจำนวนมาก ในสายรุ้งเหล่านั้นล้วนเป็นซือหม่าซิ่น มุ่งหน้ามายังซูหมิงทั้งหมด!

“ซูหมิง ยี่สิบปีมานี้เจ้ามีขั้นพลังขนาดนี้ได้แล้ว ข้าละตกใจจริงๆ เดิมทีคิดว่าโชคของข้าหายากยิ่งในโลกนี้แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าเองก็มีดวงชะตาเช่นนี้เหมือนกัน…

ทว่าโชคชะตาแบบนี้จะลดน้อยลงจากการเข่นฆ่า จะอ่อนลงเมื่อจิตใจตั้งมั่นถูกทำลาย จะสลายเพราะความดุร้ายหายไป และจะสูญสิ้นเพราะความเฉยชา…ข้าจะมอบการต่อสู้ที่ทำลายโชคชะตาของเจ้า!

ที่นี่มีข้านับหมื่นคน ทุกคนคือร่างของข้า ข้าจะให้เจ้าสังหารข้าหลายหมื่นครั้ง จนกระทั่งเจ้าสังหารไม่หยุด ต่อให้เจ้าไม่ยอมรับอีก เมื่อเจ้าสังหารข้าไปเรื่อยๆ ความโกรธของเจ้าก็จะลดน้อยลง สภาพจิตใจจะเหนื่อยล้าจนถูกทำลาย ความดุร้ายของเจ้าจะหายไปมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ถึงตอนนั้น เจ้า….ก็ไม่รู้ว่าจะมีคุณสมบัติต่อสู้กับข้าหรือไม่!”

ซือหม่าซิ่นหลายหมื่นคนกล่าวพร้อมกัน เสียงนี้ผสานรวมกัน ก่อเป็นเสียงดังสนั่นปานอำนาจสวรรค์ที่อยู่จุดสูงสุด ทำให้นัยน์ตาซูหมิงเพ่งสมาธิมอง

เขาไม่เคยดูถูกซือหม่าซิ่นมาก่อน ตอนนั้นเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นอย่านั้น

ซือหม่าซิ่นต่างจากศัตรูคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง คนอื่นๆ เพียงอยากสังหาร ทว่าซือหม่าซิ่นให้ความสำคัญกับการทำลายจิตใจมากกว่า!

เหมือนกับตอนนั้นที่ให้ไป๋ซู่มาเป็นตัวนำปลูกหมาน ตอนนี้ก็เช่นกัน ทำทุกอย่างเพื่อรบกวนจิตใจ ทุกอย่างล้วนแฝงไว้ด้วยความพิลึกของซือหม่าซิ่น! โดยเฉพาะคำพูดของซือหม่าซิ่น ซูหมิงรู้ว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตนจะสังหารซือหม่าซิ่นหลายหมื่นครั้ง จากนั้นไม่ว่าความแค้นจะล้ำลึกมากเพียงใดก็ต้องค่อยๆ หายไปจากการสังหาร จนท้ายที่สุดความแค้นจะกลายเป็นเพียงคำพูด ไม่อาจฝังลงลึกอีก

หากความเคียดแค้นไม่อาจฝังลงลึก เช่นนั้นจิตใจแน่วแน่ก็ยากจะยืดหยัดต่อไป หากจิตใจไม่แน่วแน่ การต่อสู้ครั้งนี้ซูหมิงต้องแพ้อย่างแน่นอน!

“ทำลายจิตใจแน่วแน่ของข้า ทำลายสภาพจิตใจข้า…”

ซูหมิงเงยหน้ามองซือหม่าซิ่นหลายหมื่นคนเข้ามาใกล้ มุมปากพลันยกยิ้มเย็นชา

ซูหมิงมีขั้นพลังกับกำลังรบในตอนนี้ได้ย่อมไม่ใช่เพราะโชคธรรมดา และไม่ใช่โชควาสนาหายากอย่างที่ซือหม่าซิ่นคิด แต่มันคือสิ่งที่เขาใช้จิตใจแน่วแน่แลกมา วัฏจักรนับครั้งไม่ถ้วนในโลกของจู๋จิ่วอินนั้น หากเป็นซือหม่าซิ่น บางทีอาจจะหาตัวเองไม่พบ

มีแค่ซูหมิงเท่านั้น เขาปรารถนาจะรู้ทุกอย่างของตัวเอง ดิ้นรนอยู่ในความสับสน เงียบและไม่ยอมศิโรราบ จิตใจที่ผ่านวัฏจักรนับครั้งไม่ถ้วนแต่ยังไม่ถูกทำลายจะสลายไปเพราะการสังหารเล็กๆ นี้ได้อย่างไร!

ต่อให้อยู่ในฝ่ายนภา เขาก็ผ่านการเลือกทางจิตใจมาหลายครั้ง กระทั่งกฎที่ยึดถือยังถูกซือหม่าซิ่นทำลายลง ทว่าด้วยความที่มีจิตใจแน่วแน่ เขาจึงเดินผ่านมันมาอย่างเงียบๆ

ข้างหูยังคงได้ยินเสียงซือหม่าซิ่นดังกึกก้อง ทว่ารอยยิ้มมุมปากของซูหมิงกลับเผยจิตสังหารในความเย็นเยียบ ร่างขยับวูบไหว ไม่มีเกราะฝังอสูร ไม่มีทวนฝังอสูร แต่ใช้การชี้ คว้า หมัด และฝ่ามือเหมือนกับอยู่ในโลกจู๋จิ่วอิน!

เสียงระเบิดดังสนั่นท้องนภา จุดที่ซูหมิงผ่านจะมีซือหม่าซิ่นตายไปเรื่อยๆ สีหน้าเขาสงบนิ่ง ไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ ความเย็นชาทางสีหน้ามีเพียงจิตสังหาร ไม่มีอื่นๆ อีก!

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ซูหมิงไม่รู้ว่าตนสังหารไปเท่าไร แต่ที่เขารู้คือจิตใจแน่วแน่ของตนยังไม่หายไป แต่กลับรวมกันมากขึ้น อีกทั้งความแค้นต่อซือหม่าซิ่นก็ไม่ลดน้อยลงเช่นกัน…มันฝังลึกมากขึ้นเรื่อยๆ

“ซือหม่าซิ่น ในเมื่อคนหลายหมื่นนี้คือเจ้า เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเจ้าต้องรับรู้ถึงความตายหลายหมื่นครั้ง คนคนหนึ่งหากถูกสังหารหลายหมื่นครั้ง เช่นนั้นจิตใจของเจ้าจะยังแน่วแน่อยู่หรือไม่!

ไม่เจอกันยี่สิบปี เจ้าในตอนนี้ทำให้ข้าผิดหวังมาก” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา ซือหม่าซิ่นจะทำลายจิตใจเขา ซูหมิงย่อมต่อต้าน

ร่างซือหม่าซิ่นจำนวนมากรอบตัวซูหมิง ยามนี้นัยน์ตาเป็นประกาย คำพูดซูหมิงคบกริบยิ่งนัก ทะลวงเข้าไปในใจซือหม่าซิ่น

การทำลายจิตใจของคน เดิมทีมันคือดาบสองคม ขณะที่ลงมือกับคนอื่นก็ต้องยอมรับการถูกคนอื่นโต้ตอบ อย่างเช่นซือหม่าซิ่นในตอนนี้ ขณะกำลังคลายจิตใจแน่วแน่ของซูหมิงจากการสังหารจนหายไป เขากลับถูกคำพูดของซูหมิงจี้จุดเข้า สภาพจิตใจจึงสั่นไหว

ชั่วขณะที่จิตใจสั่นไหว ตัวเขารอบๆ หยุดชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นซูหมิงก็กล่าวอีกครั้ง

“ข้าสังหารเจ้าหลายหมื่นครั้งได้ และก็สังหารเจ้าจนหมดสิ้นได้!” ซูหมิงกำหมัดขวาชกใส่อากาศด้านล่าง หนึ่งหมัดนี้ปล่อยพลังกระดูกหมานแปดส่วนในร่างกาย สร้างเป็นพายุคลั่งถาโถมใส่โดยรอบ ทำให้ร่างซือหม่าซิ่นจำนวนมากพากันกระเด็นถอยแล้วแหลกสลายไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version