Skip to content

สู่วิถีอสุรา 628

ตอนที่ 628 สามก้าวสังหาร

“สู้ ก็มีราคาที่ต้องจ่าย…..”

เดิมทีทวนยาวเป็นสีม่วง ทว่าครั้งนี้ตอนที่รวมอยู่ในมือซูหมิงกลับกลายเป็นสีดำทึบทุกส่วน ราวกับเป็นตัวแทนของความตาย กลิ่นอายชั่วร้ายที่แก่กล้าแผ่กระจายออกรอบตัวซูหมิง

กลิ่นอายชั่วร้ายนี้ไม่ใช่ธรรมดาๆ มันมีความสมจริงอยู่ ช่วงที่แผ่กระจายออกมา รอบตัวซูหมิงคล้ายมีน้ำวนอยู่หนึ่งชั้น ประหนึ่งว่าน้ำวนรอบตัวนี้เป็นพายุหมุนที่กำลังร้องคำรามหมายมั่นจะฉีกแยกฟ้าดิน

ซูหมิงอยู่ในน้ำวน เส้นผมสีดำจากการย้อมปลิวไสว เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาภายใต้หน้ากากฉายแววเย็นชา ทำให้ทุกคนที่เข้ามาจากโดยรอบใจสั่นสะท้านทันใด เหมือนมีเสียงฟ้าผ่าดังในความคิด ถูกกลิ่นอายของซูหมิงบดขยี้

โดยเฉพาะตอนที่ซูหมิงเอ่ยประโยคนั้น ภายใต้แรงกดดันของพลังและสีหน้า ทุกตัวอักษรที่เอ่ยประดุจอำนาจสวรรค์ที่ระเบิดในใจทุกคน ทำให้ในสายตาพวกเขาตอนนี้ ซูหมิงกลายเป็นเซียนอสูรไร้พ่ายที่กระหายการเข่นฆ่า!

หลังจากซูหมิงยิ้มมุมปากด้วยความเย็นชา ก็กำทวนฝังอสูรเอาไว้แน่นแล้วเดินหน้าหนึ่งก้าว ใช้พลังของเขาเพียงคนเดียวสู้กับเจ็ดคนที่เหลือ เว้นไว้เพียงเซินตงกับคนที่กระอักเลือดล้มไปก่อนหน้านี้!

เจ็ดคนนี้ล้วนเป็นผู้มาเยือน เป็นผู้มีสายเลือดเซียนบริสุทธิ์ พวกเขาไม่ใช่เผ่าหมาน ต่อให้อยู่ในสำนักวิญญาณอสูรในแดนเซียนก็ยังเป็นผู้โดดเด่น ขั้นพลังอย่างต่ำสุดคือเปลี่ยนวิญญาณซึ่งเทียบเท่าวิญญาณหมานตอนกลาง!

โดยเฉพาะในนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นชายชราผมขาว สวมอาภรณ์สีครามเข้มทั้งตัว ด้านหลังนูนออกมาเล็กน้อยเหมือนกับอูฐ…เขาคือหมายเลขหนึ่งในสำนักวิญญาณอสูรถ้าไม่นับเซินตง!

และก็เป็นเขาที่บอกว่าซูหมิงโอหัง

ขั้นพลังเขาบรรลุถึงขั้นทรงอำนาจเช่นเดียวกัน แม้เป็นทรงอำนาจตอนต้น ทว่าระดับพลังในแดนเซียน ผู้ที่บรรลุถึงขั้นทรงอำนาจได้ก็ไม่ธรรมดา! ขณะชายชราหลังค่อมหรี่ม่านตา หกคนรอบตัวเขาต่างพากันทำสัญลักษณ์มือใช้อภินิหาร

แทบเป็นวินาทีที่พวกเขาใช้อภินิหาร ซูหมิงถือทวนฝังอสูรเดินหน้าสามก้าว เมื่อก้าวแรกเหยียบลงก็พลันแทงทวนยาวไปข้างหน้า มวลอากาศฉีกออกจนเกิดเสียงเล็กแหลม รอยแยกมิติถูกเปิดในชั่วพริบตา สร้างเป็นเส้นโค้งตรงไปยังชายชราผมขาวผู้แข็งแกร่งที่สุดถ้าไม่นับเซินตง ชายชราผมขาวยกมือขวาขึ้นทำสัญลักษณ์มือแล้วผลักไปข้างหน้า พลันมีแสงสีน้ำเงินอยู่ในมือก่อนกลายเป็นนกสีเดียวกันตัวหนึ่ง มันกระพือปีกพุ่งไปยังทวนแรกของซูหมิง!

ทันทีที่ทวนฝังอสูรปะทะกับนกก็เกิดเสียงดังสนั่นฟ้ากระจายเป็นวงกว้าง นกตัวนั้นระเบิดกระจุย ขณะเดียวกันซูหมิงก็เดินก้าวที่สองพร้อมกับแทงทวนยาวไปอีกครั้ง มันทะลวงผ่านความว่างเปล่าจนดังหึ่งๆ ก่อนมาปรากฏอยู่ตรงหน้าชายชราผมขาว

ทวนนี้รวดเร็วยิ่ง จังหวะที่ชายชรายังเห็นไม่ชัด ปลายทวนก็แผ่กระจายไอหนาวออกมา ส่งผลให้เส้นผมด้านหลังเขาพลันขาดไป ชายชราผมขาวมีสีหน้าหวาดกลัว แม้จะคาดเดาขั้นพลังอีกฝ่ายไว้ในใจแล้ว คิดว่าในเมื่อกล้ามาแย่งของจากปากเสือก็จะต้องมีดีอยู่บ้าง แต่ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะแกร่งขนาดนี้! ก้าวแรกพร้อมกับทวนแรกก็ทำลายปราการของตน ก้าวที่สองพร้อมกับทวนที่สองก็มาอยู่ตรงหน้าตนในพริบตา พลังทำลายฟ้าดินจากปลายทวนสร้างความหวาดผวาให้กับชายชราคนนี้ กระทั่งในความตื่นกลัว เขายังรู้สึกรางๆ ถึงกลิ่นอายพลังก้าวที่สองของเผ่าเซียนในทวนนั้น!

สิ่งนี้มากพอจะทำให้วิญญาณเขาสลายไปได้ ทว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นทรงอำนาจของเซียน แม้ในใจจะตื่นกลัว กลับรีบร้อนถอยหลังอย่างไม่ลังเลแล้วทำสัญลักษณ์สองมือ โล่ยักษ์อันหนึ่งพลันบินมาจากถุงเก็บวัตถุของเขา โล่นี้เป็นสีเขียวทุกส่วน ภายในเปี่ยมล้นไปด้วยพลังชีวิต ลักษณะกลม ด้านบนยังแกะสลักอักขระเอาไว้จำนวนมาก หลังจากเรียกโล่นี้มาแล้วมันก็เปล่งแสงสีเขียวสว่างจ้า

“จัว! (เสาสั้นบนคาน)” หลังจากชายชราผมขาวถือโล่ไว้ ก็ตะโกนเสียงดังในทันที

ระหว่างที่เสียงดังกึกก้อง ตัวโล่พลันเปลี่ยนไป เดิมทีมันซ้อนทับกันอยู่ แต่ยามนี้กลับกระจายออก สร้างขึ้นเป็นโล่เหมือนกันเก้าอันแล้วซ้อนทับเข้าด้วยกัน ก่อนต้านทวนที่สองของซูหมิงไว้

ตอนนี้ชายชราผมขาวหวาดกลัวอยู่ในใจ เขาไม่คิดว่าจะต่อต้านอย่างไรอีก แต่ตั้งใจว่าจะออกไปให้พ้นจากสิ่งน่าสะพรึงกลัวตรงหน้าให้เร็วที่สุด

เขามีความรู้สึกเด่นชัดว่าโล่ป้องกันคงขวางได้ไม่นานนัก แต่ขอแค่อีกฝ่ายหยุดชะงักชั่วครู่หนึ่ง เขาก็จะเคลื่อนย้ายจากไปได้ในทันที

ทว่าทุกอย่างนี้ ตั้งแต่ซูหมิงเดินก้าวแรกมาจนถึงตอนนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น เร็วจนตั้งตัวไม่ทันสักเท่าไร คนอื่นๆ โดยรอบยังคงเข้ามาใกล้และใช้วิชาอยู่ แต่ต่อให้รอบตัวชายชรามีสหายร่วมสำนักอยู่ด้วย

แต่ด้วยทวนยาวสองครั้งติดของซูหมิงนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนว่าตนอยู่เพียงลำพังในกองทัพศัตรู

ความรู้สึกนี้ยังไม่สิ้นสุด การหยุดชะงักเพียงชั่วครู่ที่เขาต้องการไม่เกิดขึ้น แทบจะเป็นช่วงที่เขาเรียกโล่ป้องกันออกมา ทวนยาวซูหมิงก็ทะลวงเข้าไปในโล่ เกิดเป็นเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวในชั่วพริบตา ชั้นหนึ่งของโล่แตกกระจายเป็นชิ้นๆ รวมถึงชั้นสอง ชั้นสาม ชั้นสี่ และชั้นห้า ล้วนระเบิดกระจุยในพริบตาเดียว สร้างเป็นแรงปะทะเขย่าขวัญทุกคนที่หมายจะเข้ามาใกล้ซูหมิง

และยังมีโล่ชั้นหก ชั้นเจ็ด ชั้นแปด และชั้นเก้า พวกมันระเบิดกระจายออกด้วยทวนยาวทรงพลังของซูหมิง เศษนับไม่ถ้วนกระจายออกเป็นวงกว้าง ชั่วขณะเดียวกันนี้ซูหมิงก็เดินก้าวที่สาม!

พอเหยียบก้าวสามลง ซูหมิงแทงทวนยาวเข้าไปอีก ทวนยาวครั้งที่สามนี้มาพร้อมกับเสียงอื้ออึงสนั่นแก้วหูคนโดยรอบ มันตรงไปยังด้านหน้าชายชราผมขาวที่กำลังถอยหนี

ความเร็วของทวนนี้มากกว่าทวนที่สอง กระทั่งอยู่เหนือกว่าจิตสัมผัสของคนรอบด้าน ในตัวมันมีกลิ่นอายชั่วร้ายและหนาวเยือก อีกทั้งระหว่างพุ่งไปยังทำให้ชายชราที่กำลังถอยอยู่หยุดชะงักโดยจิตใต้สำนึก ทั้งตัวพลันหนาวเยือก ข้างหูเหมือนได้ยินเสียงคำรามของวิญญาณร้าย เขามีสีหน้าเลื่อนลอยเล็กน้อย เบิกตากว้าง ในความคิดปรากฏภาพมายาต่างๆ ในภาพเหล่านั้น เขาเห็นทุกคนที่ตายด้วยทวนฝังอสูร เห็นภาพการตายอย่างน่าสยดสยองนับไม่ถ้วน

“วิญญาณที่อยู่ในทวนฝังอสูรจะไม่เข้าสู่วัฏจักร จะไม่หายไปกับฟ้าดิน แต่จะถูกขังอยู่ในทวนฝังอสูรชั่วนิจนิรันดร์ และกลายเป็นวิญญาณแห่งทวนนี้!” ประโยคนี้ดังก้องอยู่ในความคิดชายชราผมขาว เขาตัวสั่น เห็นวิญญาณนักรบหลายร้อยตนแผ่กลิ่นอายชั่วร้ายขึ้นฟ้า วิญญาณนักรบเหล่านั้นติดตามทวนยาวมา ประหนึ่งจะเข้ามาฉีกร่างเขา

“ช่วยข้าด้วย!” ชายชราผมขาวสมกับเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นทรงอำนาจ รู้ว่าทวนของซูหมิงมีกลิ่นอายพลังสร้างชะตา อานุภาพของมันจึงยิ่งน่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะหลังจากผ่านพิธีชำระล้างในฝ่ายนภาของสำนักเหมันต์สวรรค์ วิญญาณในทวนนี้ก็เพิ่มมากขึ้นไม่น้อย จึงมีอานุภาพแกร่งขึ้น

ทว่าชายชราผมขาวกลับดิ้นรนจนได้สติกลับมาจากภาพมายาของทวนฝังอสูร แล้วร้องเรียกให้ช่วยได้ จะเห็นได้ว่าความแน่วแน่ของบุคคลนี้ไม่ธรรมดาเลย

เพียงแต่ว่าเขามาเจอซูหมิง วินาทีที่เขาร้องขอให้ช่วย ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่คนโดยรอบเข้ามาใกล้ เซินตงหรี่ม่านตาพร้อมกับเดินหน้าหนึ่งก้าว

ในใจชายชราผมขาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กระทั่งยังนึกเสียใจที่เลือกมาเยือนเผ่าหมาน ทันใดนั้นตรงระหว่างคิ้วเขากลับปรากฏรอยโลหิตฉีกออกหนึ่งเส้น รอยนี้เพิ่งขยายตัวก็เกิดเสียงดังตึก หัวใจชายชราหยุดนิ่งแล้ว โลกที่เขาเห็นอยู่ถูกแช่แข็ง มีเพียงทวนยาวสีดำทะลวงผ่านระหว่างคิ้วแล้วทะลุศีรษะไปเกือบครึ่ง

พลังที่ทำลายล้างทุกสิ่งอย่างแผ่กระจายมาจากทวนฝังอสูร ทะลวงเข้าไปในร่างกาย ท่ามกลางเสียงดังปุดๆ ชายชรามีโลหิตไหลตรงมุมปาก ดวงตามีเส้นเลือดฝอย ทว่าลูกตาดำกลับขุ่นมัวไร้สติสัมปชัญญะ วิญญาณแรกในร่างยังไม่ทันหนีก็ถูกพลังจากทวนฝังอสูรบดขยี้ก่อนสูบกลืนเข้ามา

ตรงปลายทวนที่ทะลุถึงด้านหลังศีรษะชายชรามีโลหิตหยดลงมาหลายหยด เกิดเสียงดังเปาะแปะยามตกถึงพื้น เสียงนี้ดังไม่หยุด โดยเฉพาะตอนที่โลหิตจากปลายทวนถึงพื้น มันลากยาวลงมาเป็นเส้นโลหิต ทำให้โดยรอบเงียบสงัดโดยพลัน

เซินตงมาปรากฏตัวอยู่ห่างออกไปหลายจั้งด้วยสีหน้าตึงเครียด ใบหน้าดูย่ำแย่อย่างยิ่ง สายตาที่มองซูหมิงมีความยำเกรงอยู่ ทั้งยังอึมครึมยิ่งกว่า

ส่วนคนอื่นๆ ตอนนี้หยุดชะงักในท่าที่กำลังใช้วิชา พวกเขายืนอยู่ที่เดิมและมองซูหมิงด้วยความกลัว มองทวนยาวทะลวงระหว่างคิ้วชายชราผมขาว มองรอยโลหิตไหลลงพื้น และยังมีเสียงของหยดโลหิตจากปลายทวน

เป่าชิวยิ่งใจเต้นระรัว แม้นางจะรู้ว่าซูหมิงแข็งแกร่งมาก แต่กลับไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะสังหารผู้แข็งแกร่งขั้นทรงอำนาจของเซียนได้ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ นี่แทบจะเรียกได้ว่าสังหารในพริบตา!

จากเริ่มต้นจนจบ ทุกอย่างเป็นเพียงพลังแห่งสามทวนกับสามก้าวของซูหมิง!

ท่ามกลางศัตรูโดยรอบ ในนั้นมีผู้แข็งแกร่งหมายเลขหนึ่งของสำนักวิญญาณอสูรอยู่ ชั่ววินาทีที่อีกฝ่ายกำลังใช้วิชา ซูหมิงก็ใช้วิธีที่อหังการอย่างยิ่งลงมือสังหารคนหนึ่งด้วยสามก้าว!

และคนที่เขาลงมือสังหารก็คือผู้แข็งแกร่งขั้นทรงอำนาจของสำนักอสูร!

“ข้าบอกแล้ว ถ้าจะสู้ พวกเจ้าก็ต้องจ่าย…ต่อไปเป็นใคร?” ซูหมิงกล่าวเรียบนิ่ง ดึงทวนยาวออกจากหว่างคิ้วชายชราผมขาวอย่างเนิบช้า เมื่อทวนยาวหลุดจากร่างก็เกิดเสียงดังปึก ชายชราผมขาวหรือผู้แข็งแกร่งขั้นทรงอำนาจล้มลงกับพื้น นอนแน่นิ่งไป

“ก้าวที่สอง ขั้นมองนิพพาน! นี่มันกำลังรบของก้าวที่สอง!”

“ไม่ใช่มองนิพพาน เขาเป็นเผ่าหมาน กลิ่นอายพลังเมื่อครู่เป็นของเผ่าหมาน!”

“ระดับพลังแห่งการสร้างชะตา!” ผู้มาเยือนหลายคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี สายตาที่มองซูหมิงถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำทั้งหมด

“ทวนฝังอสูร…” เซินตงจ้องทวนในมือซูหมิงขณะเอ่ยเสียงแหบแห้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version