ตอนที่ 699 ภัยพิบัติกับกระบี่เจ้าสังหาร
นี่คืออุบายสุดท้ายของเผ่าเซียน เป็นอุบายใช้สำหรับเผ่าหมาน สมบัติล้ำค่าชิ้นแรกนอกจากผนึกศิษย์พี่ใหญ่ผู้แข็งแกร่งรองจากซูหมิงให้เป็นรูปปั้นแล้ว ยังตัดความหวังในการผงาดขึ้นอีกครั้งของเผ่าหมานหากซูหมิงตายด้วย
สมบัติชิ้นที่สอง เจาะจงใช้กับชาวเผ่าหมานทั้งหมด ระเบิดศีรษะเทพหมานรุ่นสองเพื่อสร้างแรงปะทะจู่โจมสายเลือด การจู่โจมสายเลือดนี้ หากไม่มีสายเลือดหมานก็จะไม่ส่งผลใดๆ ทว่าหากมีสายเลือดหมาน มันจะเป็นภัยพิบัติ
ยามนี้ชาวเผ่าหมานทั้งหมดกระอักเลือดพร้อมกัน ร่างกายแห้งเหี่ยวโดยพลัน ประดุจว่าสายเลือดในร่างกายถูกผนึกไว้ ช่วงที่กระอักเลือดร่างกายยังถูกแรงปะทะอัดจนกระเด็นออกไปรอบๆ
เสวี่ยซาก็ดี ชื่อเหลยเทียนก็ช่าง ไม่ว่าใคร ไม่ว่าขั้นพลังใด ล้วนกระอักเลือดจากการโจมตีสายเลือดนี้ ร่างกายบาดเจ็บหนัก ทั้งยังมีชาวเผ่าหมานเกือบหมื่นกลายเป็นเถ้าธุลีลอยหายไปทันที
เผ่าหมานที่เหลือล้วนบาดเจ็บสาหัส ถูกแรงปะทะพัดปลิวออกไปรอบๆ อย่างต่อเนื่อง พริบตาเดียวบนแผ่นดินตรงนี้ไม่มีเผ่าหมานเหลืออยู่เลย
ทุกคนถูกปะทะลอยไป ไม่รู้ว่าไปไกลกี่หมื่นลี้ ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่รอดชีวิตจากการโจมตีสายเลือด เว้นแต่…ซูหมิงยังคงยืนอยู่ที่เดิมกับรูปปั้นศิษย์พี่ใหญ่และรูปปั้นในระยะหลายร้อยจั้งรอบๆ นอกจากนี้แล้วก็เหลือเพียงเผ่าเซียน อีกทั้งในตอนนี้ โลหิตสดจากเผ่าหมานเหล่านั้นรวมกันกลางอากาศกลายเป็นวงแหวนอาคมโลหิต ก่อนดิ่งลงมายังแผ่นดิน ปกคลุมชาวเซียนทั้งหมดไว้
“พวกเจ้าใช้อาคมเคลื่อนย้ายกลับสำนักเซียนบนเผ่าหมานของตัวเองไปก่อน แล้วเปิดอาคมใหญ่ตรงซุ้มประตูภูเขา รักษาตัวอยู่ที่นั่น รอเซียนมาเยือนครั้งต่อไป แล้วเราจะใช้โลหิตล้างเผ่าหมาน!” เสียงอื้ออึงดังมาจากในวงแหวนอาคมที่เหลืออยู่เพียงหนึ่ง กึกก้องไปรอบๆ ร่างเงาเซียนที่นี่ค่อยๆ หายไปในวงแหวนอาคมสีแดงทีละคน
หลังจากเผ่าเซียนหายไปหมดแล้ว นอกจากศพกับโลหิต ที่นี่ก็เหลือเพียงซูหมิงที่ยังยืนอยู่ เขามองท้องฟ้า สีหน้าไม่คลุ้มคลั่งอีกแต่สงบนิ่งลง อุบายของเซียนทำให้เขาได้รู้อีกครั้งว่าศัตรูแข็งแกร่งมากเพียงใด
นี่คือเซียน เซียนผู้มีไพ่ตายล้ำลึกอย่างยิ่ง และสืบทอดกันมาไม่รู้กี่ปี
แต่จะเห็นได้ชัดว่าการส่งสมบัติล้ำค่าลงมาเช่นนี้ อีกทั้งยังลงมาเยือนได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่รับผลกระทบของกฎเผ่าหมาน เผ่าเซียนต้องจ่ายในราคาที่แสนสาหัสยิ่งนัก
แม้ซูหมิงไม่รู้ว่าราคาต้องจ่ายนี้คืออะไร แต่มันต้องทำให้ฝ่ายเซียนปวดใจอย่างยิ่งแน่นอน
นี่คือสงครามหมานกับเซียนที่ไม่รู้แพ้ชนะ เผ่าเซียนไม่ได้ชัย เผ่าหมานก็ไม่เช่นกัน หากใช้การโจมตีสายเลือดกับเมื่อก่อนนี้ ชาวเผ่าหมานคงตายไปมากกว่าครึ่ง ตอนนี้ต่อให้เป็นการโจมตี แต่ก็ได้สายเลือดลุกโชนกับขั้นพลังทั้งเผ่าหมานที่ยกระดับขึ้นช่วยเอาไว้
ฉะนั้น ถึงผลกระทบจากการโจมตีสายเลือดยังรุนแรงมากอยู่ ทว่ากลับมีคนรอดชีวิตมากขึ้น หนำซ้ำหากรอดชีวิต หลังจากสายเลือดถูกโจมตีเช่นนี้แล้ว ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดการปะทุอีกครั้ง
สำหรับเผ่าหมานแล้ว บางทีอาจไม่ใช่เรื่องแย่
ขณะเดียวกัน ผู้ฝึกฌานเผ่าเซียนในแดนหมานล้มตายกันไปมากมายจากสงคราม พวกเขาไปจากที่นี่ไม่ได้ แม้ถูกเคลื่อนย้ายกลับไปสำนักตนบนเผ่าหมาน แต่ก็ไม่มีความโอหังและเย่อหยิ่งดังในอดีตแล้ว
อีกทั้งเสียงจากวงแหวนอาคมที่บอกกับเซียนทุกคนว่า พอกลับถึงสำนักแล้วให้เปิดวงแหวนอาคมใหญ่ที่ซุ้มประตูภูเขา ก็เป็นการเปิดเผยเรื่องเรื่องหนึ่งเช่นกัน
เผ่าเซียน ในระยะเวลาสั้นๆ นี้เกรงว่าคงจะไม่มีคนมาเยือนอีก และไม่อาจฉวยโอกาสคราวนี้มาเยือนได้ ต้องให้ชาวเซียนบนแผ่นดินหมานเปิดซุ้มประตูภูเขาเพื่อคุ้มกันตัวเอง ถึงอย่างไรการโจมตีสายเลือดก็ส่งผลเพียงที่นี่ ทว่าแผ่นดินรกร้างบูรพาและเกาะอรุณใต้ยังมีชาวเผ่าหมานอีกมากกำลังเดินทางมาที่นี่
สงครามที่เดิมทีเป็นการคัดเลือกเข้าหอคอยรกร้างบูรพาระหว่างสำนักเซียนกับอสูร กลับกลายเป็นสงครามระหว่างหมานกับเซียน สุดท้ายก็จบลงที่สองฝ่ายต้องจ่ายในราคาที่หนักหนาสาหัส
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังไม่จบคือ จิตอาฆาตของซูหมิงต่อเซียน!
เวลานี้วงแหวนอาคมบนฟ้าส่งกลิ่นอายพลังทำลายล้างฟ้าดินครั้งที่สามลงมา ด้วยความแกร่งของกลิ่นอายพลังนี้ ตอนที่มันปรากฏขึ้น วงแหวนอาคมหนึ่งเดียวบนฟ้าพลันสั่นไหวอย่างรุนแรง
มันสั่นไหวเหมือนเกิดสัญญาณว่าจะพังทลาย ทว่าฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย เขาในตอนนี้เดิมทีควรจะถอยไปแล้ว แต่ยังไม่เลือกจากไป
ถึงสงครามจะสิ้นสุดลง แต่เขายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำ
ซูหมิงกระโดดขึ้น ยกมือขวาชี้นิ้วไปทางเมืองหลวงต้าอวี๋ที่น้ำแข็งละลายไปมากกว่าครึ่ง
“เมืองหลวงต้าอวี๋ จงทำลายวงแหวนอาคมมาเยือนให้ข้า ให้การมาเยือนของเผ่าเซียนนับจากนี้ยากยิ่งขึ้น!” นี่คือสิ่งที่ซูหมิงต้องทำ เมื่อชี้ไปเมืองหลวงต้าอวี๋ก็สั่นไหว แล้วลอยขึ้นอย่างเนิบๆ ตรงไปยังท้องฟ้า
เหตุที่ซูหมิงไม่ทำก่อนหน้านี้ เป็นเพราะว่าหากวงแหวนอาคมพังลง มันก็จะปรากฏขึ้นมากกว่าเดิม ถึงอย่างไรตอนที่ดวงวิญญาณเขาไปแดนเซียนก็เห็นว่าบนแผ่นดินนับไม่ถ้วนกลางฟ้ากระจ่างดาวมีวงแหวนอาคมแบบนี้อยู่จำนวนมาก
แต่ยามนี้เหลือเพียงวงแหวนอาคมเดียวบนน่านฟ้าเผ่าหมาน อีกทั้งเผ่าเซียนยังส่งสมบัติล้ำค่าสามชนิดลงมาเพื่อกำราบพวกเขา และยังให้เซียนที่อยู่ในเผ่าหมานเปิดซุ้มประตูภูเขาคุ้มกันอีกด้วย เขาจึงมั่นใจว่าเซียนจ่ายไปมากกับสงครามครั้งนี้แล้วอย่างแน่นอน
ดังนั้น หากทำลายวงแหวนอาคมเพียงหนึ่งเดียวนี้ ก็มีโอกาสสูงมากที่เผ่าเซียนจะไม่มีพลังพอเปิดวงแหวนอาคมที่มากกว่าเดิมเพื่อโต้กลับแบบก่อนหน้านี้อีก เมื่อซูหมิงชี้นิ้วมือไป ความเร็วของเมืองหลวงต้าอวี๋ก็เพิ่มมากขึ้น และยังส่งเสียงดังสนั่นฟ้าดิน เข้าใกล้วงแหวนอาคมบนฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น กลิ่นอายพลังทำลายล้างจากวงแหวนอาคมบนฟ้าก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ วินาทีที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น มีแสงสีฟ้าเส้นหนึ่งวูบวาบออกมา
มันเป็นกระบี่สีฟ้าครามเล่มหนึ่ง!
กระบี่เจ้าสังหาร ฟ้าครามผนึก นี่คือ…กระบี่ที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิต กลิ่นอายพลังจากตัวมันสร้างความตื่นกลัวให้กับซูหมิง จิตใจสั่นสะท้าน นี่คือกระบี่สังหารที่ปลิดชีพได้ทุกคนที่มีขั้นพลังต่ำกว่าก้าวที่สาม
“ผนึกวงแหวนอาคมของเผ่าเซียน หากข้ารอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ ข้าจะทำลายล้างสำนักเซียนบนเผ่าหมานทั้งหมด!” ซูหมิงเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ช่วงที่กระบี่ครามพุ่งตรงออกมา เขาก็ควบคุมให้เมืองหลวงต้าอวี๋ชนเข้ากับวงแหวนอาคมบนฟ้าอย่างรุนแรง
วงแหวนอาคมพังทลายลง วินาทีนั้น ซูหมิงเหมือนได้ยินเสียงร้องโหยหวนกับเสียงความตายนับไม่ถ้วนแว่วมาจากแดนเซียนในวงแหวนอาคม
ท้องฟ้าส่งเสียงครึกโครม…
กระบี่ครามพลันเข้ามาใกล้ซูหมิง!