Skip to content

สู่วิถีอสุรา 840

ตอนที่ 840 ขีดจำกัด

ร่างแยกกลืนนภาที่มาจากการยึดวิญญาณหงส์งูเพลิงนี้ เนื่องเพราะวิชาร่างกายอันเลิศล้ำของเผ่าชื่อหั่วโหวและข้ามผ่านภัยพิบัติแรกในเก้าภัยพิบัติมาแล้ว ทำให้ร่างกายนี้กลายเป็นเจ้า เข้าสู่ระดับเจ้าปกครองโลก

ทว่าก็เพียงเจ้าปกครองโลกตอนต้นเท่านั้น เขาต้องกินพลังแห่งโลกมากกว่านี้ถึงจะข้ามผ่านภัยพิบัติต่อจากนี้ไปได้ และทำให้ร่างกายแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เพียงแต่ว่ายิ่งฝึกวิชาเงากลืนนภา ก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ จุดสำคัญคือตอนแรกก่อนที่ซูหมิงจะเข้ามาในแดนประหลาดวงแหวนบูรพา เขาไม่ได้กินพลังแห่งโลกต่อเนื่องกัน เพราะหากครั้งที่สองสมบูรณ์อีก เช่นนั้นเขาที่ไม่มีร่างแยกอีกตนก็จะต้องเอาวิญญาณหลอมรวมกับร่างแยกนี้อย่างสมบูรณ์ ทำให้พรสวรรค์ร่างแยกของเผ่ายมโลกหายไปนับจากนั้น

กระทั่งวิญญาณเขายังไม่อาจหลอมรวมกับร่างจริงในแดนเซียน

ซูหมิงเคยคิดว่าหากหาวิญญาณที่เหมาะสมสำหรับการยึดวิญญาณเจอ เขาก็จะเลือกยึดวิญญาณตามใจชอบสักครั้ง ถึงอย่างไรจะให้ขั้นพลังหยุดนิ่งเพราะเรื่องนี้ไม่ได้ แม้การเลือกแบบตามใจชอบจะมีข้อเสียมากมาย แต่ก็ต้องทำ

ทว่าตอนนี้ เรื่องที่ทำให้เขาลังเลใจในอดีตได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์แบบแล้วถึงร่างแยกเอ้อชางจะไม่ใช่ร่างแยกที่เขาอยากฝึกฝนการตระหนักรู้ แต่ต้นกำเนิดจิตที่ร่างแยกเอ้อชางฝึกฝนกลับเหนือกว่าการคาดเดาของเขา กลายเป็นโชควาสนาเปลี่ยนชีวิต

โดยเฉพาะในโชควาสนานี้ เขาหลุดพ้นจากการควบคุมของดวงจิตแห่งแดนมรณะหยิน หลุดพ้นจากผนึกที่ซ่อนอยู่อย่างลึกยิ่งของตี้เทียน สำหรับเขาแล้ว เหล่านี้ไม่เป็นรองการได้รับร่างแยกเอ้อชางเลย

นอกจากมีร่างแยกเอ้อชางแล้ว วิญญาณซูหมิงสามารถกระจายออกไปได้ หากทิ้งวิญญาณส่วนหนึ่งเอาไว้ในร่างแยกกลืนนภา ก็จะหลอมรวมกับร่างแยกกลืนนภาได้อย่างวางใจ ทำให้ฝึกฝนเก้าภัยพิบัติต่อได้

ขณะเดียวกับที่ความคิดเหล่านี้วูบผ่านในหัว เขามองร่างแยกกลืนนภา ร่างแยกนี้ก็มองเขาเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างสบตากัน เกิดเป็นความรู้สึกที่ผนึกรวมกันอย่างแนบแน่น

ความรู้สึกนี้ลึกลับและมหัศจรรย์มาก ราวกับว่าคนหนึ่งมีสองร่างกาย บางทีอาจจะเปรียบเทียบไม่เหมาะสักเท่าไร ในความรู้สึกซูหมิงตอนนี้ ร่างแยกสองคนนี้เหมือนเป็นมือซ้ายและขวา วิญญาณเขาคือสมองที่คอยควบคุมได้อย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง ไม่มีการติดขัดแม้แต่น้อย

“ร่างแยกนี้จงแกร่งขึ้นเรื่อยๆ” ตอนที่ซูหมิงกล่าวพึมพำ ร่างแยกกลืนนภาก็อ้าปากกล่าวพร้อมกับเขา

กฎเกณฑ์วนเวียนรอบๆ เมื่อสิ้นเสียงซูหมิง ฟ้ากระจ่างดาวเกิดเสียงครึกโครม เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกังวานไปรอบๆ ทำให้ฟ้าสั่นสะเทือน เกิดดาวดวงหนึ่งขึ้นรางๆ

ดาวดวงนี้เป็นสีทอง

ต่อมาก็ปรากฏดวงที่สอง ดวงที่สาม ดวงที่สี่…จนถึงดวงที่หนึ่งแสน!

หลังจากฟ้ากระจ่างดาวแสนแห่งหลอมรวมกัน รวมเอ้อชางสีม่วงและดาวแสนดวงของที่นี่เข้าด้วยกันแล้ว ดาวสีทองแสนดวงก็รวมเป็นหนึ่ง ไม่ได้กลายเป็นดาวหนึ่งดวง แต่กลายเป็นธารดาราสีทองที่รวมขึ้นจากดาวแสนดวง

แสงธารดาราไม่มีที่สิ้นสุด ภายในแสงสีทองมีสีม่วงปนอยู่ด้วย ทันทีที่ส่องสะท้อนทั้งฟ้ากระจ่างดาว ร่างแยกเอ้อชางของซูหมิงก็สะบัดมือขวาไปข้างหน้าแบบสบายๆ

“ธารแห่งดาราแสนดวง ดาวต่างๆ แห่งการเริ่มต้นแสนดวงในโลกของข้า…จงปลุกต้นกำเนิดโลกของพวกเจ้าให้ตื่นขึ้น” ช่วงที่ซูหมิงกล่าวจบ ทันใดนั้นมีกลิ่นอายพลังต้นกำเนิดโลกปะทุออกมาจากกลางดาวแสนดวงในธารดารา

ชั่วขณะที่กลิ่นอายพลังหนึ่งแสนสายรวมเข้าด้วยกันปกคลุมไปรอบๆ และสั่นสะเทือนฟ้ากระจ่างดาวนั้น ซูหมิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“พลังแห่งโลก กำเนิดกลางต้นกำเนิดโลก!”

โครม!

พลังแห่งโลกมหาศาลระเบิดมาจากในธารดาราแสนดวง มันเข้มข้นจนสุดจะบรรยาย และยังตรงไปหาร่างแยกกลืนนภาพร้อมกันในพริบตา แวบเดียวก็หลั่งทะลักเข้าสู่ทุกรูขุมขนบนผิวหนังของร่างแยกกลืนนภา

เมื่อพลังแห่งโลกรวมกันเข้ามา เส้นผมร่างแยกกลืนนภาก็เคลื่อนไหวเองแม้ไร้ลม คลื่นพลังแก่กล้าระเบิดมาจากในร่างกาย

“สูบอย่างเต็มที่เถอะ ข้าเป็นเจ้าแห่งฟ้ากระจ่างดาวแสนแห่งนี้แล้ว จากนี้ไป…จะไม่มีใครมาควบคุมข้าได้อีก!” ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองธารดาราแสนดวงพลางว่าเสียงเบา ใบหน้าเขาขาวซีด อักขระในดวงตาขวาซ้อนทับกัน ทว่าในดวงตาซ้าย…กลับดูผ่านโลกมาอย่างโชกโชน

ตอนนี้ ระหว่างกลิ่นอายพลังของร่างแยกกลืนนภาตรงหน้าทะยานขึ้นทุกที พลังแห่งโลกจากต้นกำเนิดโลกในฟ้ากระจ่างดาวแสนแห่งก็รวมกันเข้าไปไม่หยุดหย่อน ผ่านไปไม่นานก็มาถึงจุดสมบูรณ์ครั้งที่สองของวิชาเงากลืนนภา

“จากนี้ไปร่างแยกกลืนนภาจะกลายเป็นร่างกายที่มีพลังโลหิตและแข็งแกร่งที่สุดในชีวิตข้า ทุกร่างแยกของข้าหากบรรลุถึงจุดที่แกร่งที่สุด เช่นนั้นสุดท้ายหลังจากที่รวมร่างกันแล้ว…” นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย

โครม!

หลังจากร่างแยกกลืนนภาบรรลุถึงจุดสมบูรณ์ครั้งที่สองก็ก้าวเดินต่อทันที ภัยพิบัติครั้งที่สองมาถึง ทำให้ฟ้ากระจ่างดาวแสนแห่งมีกลิ่นอายพลังที่ไม่ใช่ของที่นี่เพิ่มเข้ามา

นี่ไม่ใช่กลิ่นอายพลังของซูหมิง แต่เกิดจากในร่างแยกกลืนนภาเหมือนกับตอนภัยพิบัติครั้งแรก เก้าภัยพิบัติจากวิชาเงากลืนนภาของเผ่าพันธุ์ชื่อหั่วโหว นอกจากสามภัยพิบัติสุดท้ายแล้ว ที่เหลือจะเกิดจากในร่างกายคล้ายกับการแว้งกัด

“ไสหัวไป!” ซูหมิงกล่าวนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พอสิ้นเสียง ฟ้ากระจ่างดาวก็บิดเบี้ยวทันที ดวงจิตยิ่งใหญ่ระเบิดมาจากในร่างกายเอ้อชางของซูหมิงแล้วกวาดไปยังร่างแยกกลืนนภาราวกับพายุคลั่ง

ในหนึ่งลมหายใจ ทันทีที่พายุคลั่งไร้รูปที่แฝงไว้ด้วยดวงจิตซูหมิงปะทะกับร่างแยกกลืนนภา กลิ่นอายพลังที่ไม่ใช่ของผืนฟ้านี้ซึ่งเกิดจากภัยพิบัติที่สองในร่างกายร่างแยกกลืนนภาก็หายไปในทันที

ช่วงที่ภัยพิบัติครั้งที่สองหายไป ร่างแยกกลืนนภาเงยหน้าคำรามเสียงต่ำ ขณะเดียวกันนั้น เขาพลันทะลวงจากเจ้าปกครองโลกตอนต้นขึ้นมาสู่จุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนต้นทันที บรรลุถึงเจ้าปกครองโลกตอนต้นสมบูรณ์

ความแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าทำให้ร่างแยกกลืนนภาคำรามเสียงยาว ส่งเสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าดิน เส้นผมเขาปลิวไสว ในวินาทีนี้ร่างกายเขาแกร่งขึ้นกว่าเมื่อครู่ไม่น้อย

ตอนที่กำหมัด ความรู้สึกเหมือนกุมพลังมันช่างวิเศษเลิศล้ำและน่าหลงใหล

ความแข็งแกร่งขึ้นในพริบตานี้ โดยเฉพาะการทะลวงพลังในระดับเจ้าปกครองโลก ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใครตอนนี้จะต้องตกใจระคนดีใจอย่างแน่นอน

ทว่าสองร่างแยกซูหมิงกลับขมวดคิ้วพร้อมกัน

‘พลังแห่งโลกเข้มข้นขนาดนี้ บวกกับตอนนั้นที่ชื่อหั่วโหวอธิบายให้ฟังตอนถ่ายทอดวิชานี้ หลังจากผ่านภัยพิบัติครั้งที่สอง ข้าน่าจะบรรลุถึงเจ้าปกครองโลกตอนกลาง

จากนี้ไปเพราะเจ้าปกครองโลกตอนกลางแกร่งกว่าตอนต้นมาก ฉะนั้น…ต้องผ่านภัยพิบัติครั้งที่สามและสี่ถึงจะบรรลุถึงจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนกลาง

ตอนภัยพิบัติครั้งที่ห้าก็จะก้าวสู่เจ้าปกครองโลกตอนปลาย จนถึงภัยพิบัติครั้งที่เก้าก็จะบรรลุถึงเจ้าปกครองโลกสมบูรณ์ หลอมรวมเก้าภัยพิบัติอยู่ในร่างกาย รวมออกมาเป็นภัยพิบัติจันทรา และกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับภัยพิบัติจันทรา’

‘ทว่าตอนนี้ข้าสำเร็จภัยพิบัติครั้งที่สองแล้วกลับอยู่เพียงจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนต้น….น่าจะมีปัญหาเล็กน้อย’ ร่างแยกซูหมิงสองคนนัยน์ตาฉายแววตรึกตรองพร้อมกัน หลังมองกันและกันแล้ว ดวงจิตร่างแยกเอ้อชางก็เคลื่อนไหว ดวงจิตมหาศาลของเขาพลันไปรวมอยู่ที่ตัวร่างแยกกลืนนภา หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเขาควบคุมพลังแห่งโลกให้หลั่งไหลเข้ามาอีกครั้ง

ครั้นร่างแยกกลืนนภาสูบกินและถึงจุดสมบูรณ์ครั้งที่สาม หลังจากซูหมิงลบภัยพิบัติครั้งที่สามไป ร่างแยกกลืนนภาก็แกร่งขึ้นอีกครั้ง เกิดเสียงระเบิดดังไม่หยุดในร่างแยกกลืนนภาราวกับเสียงกลอง ตอนนี้เอง ร่างแยกกลืนนภาก็ทะลวงจากจุดสูงสุดของเจ้าปกครองโลกตอนต้นไปสู่เจ้าปกครองโลกตอนกลาง!

เจ้าปกครองโลกตอนกลางต่างกับเจ้าปกครองโลกตอนต้นโดยสิ้นเชิง เหมือนกับตอนนั้นที่ซูหมิงสังหารเจ้าปกครองโลกตอนต้น ทว่ากลับต้องหนีเมื่อเจอกับเจ้าปกครองโลกตอนกลาง นี่คือขั้นพลังที่ต่างกันโดยสมบูรณ์สองชนิด กระทั่งกล่าวได้ว่าเจ้าปกครองโลกตอนกลางคือเจ้าปกครองโลกที่แท้จริง มีเพียงถึงขั้นพลังนี้เท่านั้นถึงจะมองผู้ฝึกฌานระดับฟ้าเป็นเพียงมดปลวกได้

ถึงจะแกร่งขึ้นมาก แต่ซูหมิงก็ยังขมวดคิ้ว เขาตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรวมพลังแห่งโลกจากฟ้ากระจ่างดาวแสนแห่งเข้ามาอีกครั้ง

เวลาค่อยๆ ผ่านไป ครึ่งชั่วยามต่อมาร่างแยกกลืนนภาก็ถึงจุดสมบูรณ์ครั้งที่สี่ ซูหมิงขจัดภัยพิบัติครั้งที่สี่และร่างแยกแกร่งขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางพลังมหาศาลสั่นสะเทือนรอบๆ ผ่านไปอีกหลายชั่วยาม จุดสมบูรณ์ครั้งที่ห้าก็มาถึง

ความเร็วในการเพิ่มและฝึกฝนแบบนี้ หากชื่อหั่วโหวตื่นขึ้นมาตอนนี้จะต้องเบิกตากว้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจแน่นอน เพราะในเผ่าพันธุ์เขาไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน กระทั่งเขายังไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวิชาเงากลืนนภาฝึกฝนกันเช่นนี้

ต้องควบคุมฟ้ากระจ่างดาวแดนหนึ่งให้ได้ก่อนถึงจะมีสิทธิ์

หลังขจัดภัยพิบัติครั้งที่ห้าหายไป ร่างกายร่างแยกกลืนนภาก็แกร่งขึ้นจนถึงระดับเกือบจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนกลาง หากกลับไปเมื่อพันปีก่อน เขาในระดับนี้ใช้เพียงพลังโลหิตก็สามารถสู้กับบรรพบุรุษตระกูลจ้าวได้อย่างสูสี

รู้กันดีว่าบรรพบุรุษตระกูลจ้าวก็เป็นเพียงจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนกลางเท่านั้น ขั้นพลังแบบนี้ทำให้ตระกูลเขากลายเป็นอันดับสามในเขตวงแหวนบูรพา ซึ่งจะเห็นได้ถึงความแกร่งของเขา

‘ไม่ถูกต้องจริงๆ ภัยพิบัติครั้งที่สองไม่ได้แกร่งขึ้นตามที่คาดเอาไว้ก็ไม่เป็นไร แต่ภัยพิบัติครั้งที่ห้ากลับไม่ทำให้บรรลุถึงเจ้าปกครองโลกตอนปลายด้วย ตอนนี้ร่างแยกกลืนนภาบรรลุถึงเพียงเกือบจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนกลางเท่านั้น

เป็นเพราะร่างแยกนี้ของข้าแข็งแกร่ง วิชานี้เลยไม่สมบูรณ์แบบหรือว่า…ร่างแยกนี้มีข้อบกพร่องกันแน่’ นัยน์ตาซูหมิงแวววาว ตอนที่หมุนโคจรพลังแห่งโลกให้ไปรวมยังร่างแยกกลืนนภาอีกครั้งนั้น เขาก็เข้าใจคำตอบ

เพราะร่างแยกกลืนนภา…ไม่อาจสูบพลังแห่งโลกได้อีก ภัยพิบัติครั้งที่ห้าเป็นขีดจำกัดแล้ว

‘เป็นข้อบกพร่อง ข้อบกพร่องของหงส์งูเพลิง’ ซูหมิงส่ายศีรษะ

‘ทว่าทุกสิ่งมีชีวิตในโลกล้วนมีข้อบกพร่อง ฉะนั้นต้องเสริมข้อบกพร่องของตัวเอง…ข้าไม่รู้ว่าข้อบกพร่องของหงส์งูเพลิงคืออะไร หากแต่…..จะต้องมีสักวันที่เติมเต็ม’ ซูหมิงตกอยู่ในห้วงความคิดพลางหลับตาลง ร่างแยกกลืนนภาก็หลับตาตามไปด้วย

“จิตใจเปลี่ยนครั้งที่สาม…ก็ควรจะสิ้นสุดลงแล้ว” ซูหมิงพึมพำเสียงเบา ผ่านมาพันปี การตัดสลับกันของเวลาและการหวนคะนึงคิดกลายเป็นเส้นบางๆ ในก้นบึ้งหัวใจ เส้นนี้เหมือนกับจุดเริ่มต้นของพู่กัน ตอนนี้…เป็นวงกลมแล้ว

ช่วงที่สองร่างแยกซูหมิงหลับตาลง ตรงกลางดาวแสนดวงในธารดาราแห่งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพพร้อมกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version