Skip to content

สู่วิถีอสุรา 923

ตอนที่ 923 ยอดจ้าวเชมันคือใคร

เทียนเสียจื่อ อาจารย์คนแรกในความหมายที่แท้จริง!

กำลังสำคัญของยอดเขาลำดับเก้า และยังเป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือของแดนอรุณใต้ กระทั่งฐานะและเบื้องหลังยังลึกลับอย่างยิ่ง คนนอกไม่รู้ แต่ศิษย์ของเขารู้ว่าอาจารย์พวกเขาเคยออกจากแดนมรณะหยิน เคยมีอาจารย์เป็นผู้อาวุโสสำนักดาราสัจธรรม

ตลอดชีวิตนี้เขารับศิษย์เพียงสี่คน!

ศิษย์ใหญ่ ผู้สืบทอดเชมันเก้าอรุณ เป็นประมุขเชมันในยุคนี้ ขั้นพลังไม่เท่าไร แต่จิตใจตั้งมั่นกลับมากพอจะฝืนชะตาฟ้า เขายอมถูกตี้เทียนใช้งานเพื่อความแข็งแกร่ง อาศัยพลังของตี้เทียนตัดหัวตัวเอง แล้วกลายเป็นสิงกาน!

ขวานใหญ่อยู่ในมือ กวัดแกว่งกลางท้องนภา!

ศิษย์คนรอง เรียกตัวเองว่าฮวา (ดอกไม้) บุคลิกสุภาพอ่อนโยน แต่กลับเป็นดวงจิตของราชาภูตผี ไม่รู้ว่าอยู่มานานเท่าไรแล้ว ลอยล่องอยู่กลางฟ้าดิน หมื่นภูตผีกราบไหว้ หากไม่ใช่เพราะแดนหมานเล็กเกินไป หากเขาเดินออกจากน้ำวนมรณะหยินได้ เช่นนั้นอนาคตคงไม่มีขีดจำกัด

ศิษย์คนที่สามดูเหมือนเบาปัญญา ทว่ากลับเกิดจากสมบัติล้ำค่าที่ผนึกแดนมรณะหยินไว้ ผนึกทุกอย่าง วงแหวนอาคมทุกชนิด เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาจะเหมือนไม่มีอยู่ เขาให้ความสำคัญกับไมตรีจิตและความยุติธรรม ทั้งยังเชี่ยวชาญวิชาด้านความฝัน หากวิชานี้บรรลุถึงระดับสูงก็เพียงพอจะเขย่าท้องนภาได้

ศิษย์คนที่สี่ ซูหมิง ชาวเผ่ายมโลก นายน้อยแห่งโลกแท้จริงที่ห้า กายเนื้อแยกกับวิญญาณ ตัวอยู่แดนเซียน วิญญาณอยู่แดนรกร้างต้นกำเนิดจิต เป็นเทพหมานรุ่นสี่ของเผ่าหมาน ใช้ร่างแยกเอ้อชาง มีเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิต เส้นทางชีวิตคดเคี้ยวเลี้ยวลด โชควาสนาไม่มีสิ้นสุด ร่างแยกขั้นพลังสามารถเข้าสู่ใจกลางโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ร่างแยกกลืนนภามีกายที่แกร่งถึงที่สุดในฟ้าดิน หากวันหนึ่งร่างแยกทั้งหมดรวมกับกายเนื้อ ระดับความแกร่งคงยากจะบรรยาย

ไม่ว่าใคร หากมีศิษย์สี่คนนี้ คนนั้นจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ต้องแสดงอะไรอีก!

เทียนเสียจื่อสอนซูหมิงให้รู้จักจิตใจเปลี่ยน ให้เขาหาวิธีทำจิตใจสงบ และยังเปิดเส้นทางการฝึกฝนให้เขา ทำให้เขา…มีจิตใจของผู้แข็งแกร่งจนเดินมาถึงตอนนี้ได้!

ซูหมิงใจสั่นสะท้านยากจะบรรยายความรู้สึกรุนแรงนี้ ตอนนี้เขาตัวสั่น สายตามองร่างมายาบนหัวคนยักษ์ เขาไม่นึกเลยว่าจะมาเจออาจารย์….ที่ทะเลดาราต้นกำเนิดจิต!

ปีนั้นที่เทียนเสียจื่อหายตัวไป ก็เป็นความเจ็บปวดในใจของเหล่าลูกศิษย์ พวกเขาสาบานว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชีวิตนี้ต้องหาอาจารย์ให้พบ ถึงอาจารย์จะไม่อยู่แล้ว ก็ต้องใช้โลหิตของฟ้ามาแก้แค้นให้

ยามนี้ซูหมิงอยู่ทะเลดาราต้นกำเนิดจิตเพียงลำพัง ศิษย์พี่ของเขาอยู่โลกแท้จริงดาราสัจธรรม พวกเขาแยกกันมาพันกว่าปีแล้ว แต่ใจที่ว่าเขาเป็นศิษย์ยอดเขาลำดับเก้ายังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าเมื่อใด เขาก็ยังเป็นคนยอดเขาลำดับเก้า เขาคือศิษย์คนที่สี่ของเทียนเสียจื่อ!

‘อาจารย์…’ ซูหมิงเกิดอารมณ์ชั่ววูบโดยไม่อาจควบคุม ทว่าเขาไม่ใช่เด็กหนุ่มในตอนนั้นแล้ว รู้ว่าอารมณ์ชั่ววูบไม่ช่วยอะไรมากนัก ซ้ำแล้วยังเปิดเผยความคิดของคน มีแต่ได้ไม่คุ้มเสีย

เขากดอารมณ์ชั่ววูบในใจลงไป สายตามองคนยักษ์เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า มองชายร่างผอมบางพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เสี้ยวขณะเดียวก็เข้าใกล้ชาวเผ่านักสู้คนนั้น ก่อนจะยกมือขวาขึ้นชกหมัดไป

ไม้เท้ากระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาวเผ่านักสู้คนนั้นพ่นโลหิต ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดร่างจึงถอยไป ทำให้หลบอันตรายครั้งนี้ไปได้อย่างฉิวเฉียด ตัวเขาห้อเหยียดถอย และยังมุ่งหน้าไปทางเรือรบสิบสามลำของซูหมิง

ชายร่างผอมบางคนนั้นตามไปอย่างไม่ลังเล

นัยน์ตาผู้ฝึกฌานบนเรือรบสิบสามลำล้วนฉายแววเย็นชา และยังมีหลายคนยืนขึ้น หญิงแมวข้างกายซูหมิงนัยน์ตาจ้องเพ่ง

แรงกดดันกระจายมาจากเรือรบสิบสามลำ เพ่งเป้าหมายไปยังชาวเผ่านักสู้กับชายร่างผอมบาง

“ให้พวกเขาเข้ามา” สิ้นเสียงซูหมิง แรงกดดันจากเรือรบสิบสามลำพลันหายไป

“เฟิ่นโฮ่ว ซือลู่อี๋…” ชาวเผ่านักสู้ที่เข้ามาคนนั้นเอ่ยกับพวกซูหมิงอย่างเร่งร้อน แต่คำพูดซับซ้อนเข้าใจยาก ไม่รู้ความหมายเลย ทว่าจากสีหน้าและสภาพแล้วจะต้องเป็นการขอความช่วยเหลือแน่นอน

“เขาให้พวกเราช่วยเขา แล้วจะมอบสมบัติล้ำค่าในเผ่าให้เป็นการตอบแทน” หญิงแมวพูดเสียงเบา

ซูหมิงเงียบงัน แต่จ้องชายร่างผอมบาง เห็นอีกฝ่ายพ่นโลหิตขณะไล่ตามมา ร่างกายพลันกลายเป็นหมอกโลหิต ความเร็วเพิ่มขึ้น ช่วงที่ชาวเผ่านักสู้ขึ้นมาบนเรือ เขาก็ไล่ตามมาทัน หมอกทะลวงผ่านร่างอีกฝ่าย เสียงโครมดังก้อง ชาวเผ่านักสู้คนนั้นมีโลหิตไหลจากทวารทั้งเจ็ด ก่อนจะล้มลงบนเรือ

หมอกรวมขึ้นกลายเป็นร่างเงาชายผอมบาง เขาจ้องคนสำนักดาราสัจธรรมทุกคนอย่างดุร้าย ตัวโค้งราวกับสัตว์ร้าย แล้วถอยไปช้าๆ เอามือคว้าชาวเผ่านักสู้ที่ตายไปคนนั้น ช่วงที่กำลังจะจากไป ซูหมิงก็กล่าวขึ้น

“เจ้าคือเผ่าใดของเผ่าเชมัน ยอดจ้าวเชมันของเจ้าคือใคร” ทุกคนในสำนักดาราสัจธรรมไม่เข้าใจคำพูดของซูหมิง จึงต่างพากันงุนงง นี่คือภาษาเผ่าเชมัน ตอนนั้น ซูหมิงเคยเรียนอยู่ในชนเผ่าเชมัน

เดิมทีชายร่างผอมบางจะถอยไปแล้ว แต่พอได้ยินดังนั้นกลับหยุดชะงักแล้วมอง ซูหมิงบนเรือรบอีกลำหนึ่งอย่างลึกซึ้ง เขาขยับวูบไหวพาศพออกจากเรือ กลับไปอยู่บนหินผุพังที่เขาขุดเอาไว้ จากนั้นก็นำศพเหล่านี้วางลงไปในหลุมทีละร่าง ทั้งยังกดอีกศพหนึ่งลงกับพื้นอย่างแรง ทำติดกันหลายครั้งจนเกิดเป็นหลุมลึก จึงค่อยโยนศพนี้เข้าไป

หลังโยนศพครบเก้าคนแล้ว เขาหันกลับมามองอีกครั้ง มองซูหมิงบนเรือรบพลางยกมือขวาขึ้น ทำท่าทางเอานิ้วมือปาดคอสังหารตัวเอง นัยน์ตาฉายแววเย็นชา กายวูบไหวเตรียมจะจากไป

ซูหมิงแค่นเสียงหึเย็นชา นัยน์ตาพลันลุ่มลึกเกินหยั่ง พลังของผู้ดูดวิญญาณกระจายออกมาจากดวงตา สร้างเป็นระลอกคลื่นกระจายไปรอบๆ ฟ้ากระจ่างดาว พลังของผู้ดูดวิญญาณเข้าไปยังตัวชายร่างผอมบางตามสายตาของเขา

ชายผู้นี้หยุดชะงักอีกครั้ง หันกลับมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจเป็นครั้งแรก เขายกมือขวาขึ้นตบบนตัวก่อนกระอักโลหิตออกมาทันที ร่างกลายเป็นหมอกโลหิตอีกครั้ง พริบตาเดียวก็รวมขึ้นเป็นร่างเงาโลหิต ความเร็วเพิ่มขึ้นหลายเท่า

ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าวไปอย่างไม่ลังเล

“พวกเจ้าเดินหน้าไป หาที่ปลอดภัยพักก่อน รอจนข้ากลับมา ข้ามีการเชื่อมต่อกับเรือรบอยู่ ประเดี๋ยวจะตามไป” ซูหมิงกล่าวพลางเดินออกจากเรือรบ

เก้าผู้เฒ่ายมโลกด้านหลังยังไม่ทันพูดอะไร ซูหมิงก็สั่งขึ้นอีกครั้ง

“ห้ามใครตามข้าไป รวมถึงเจ้าด้วยสวี่ฮุ่ย นี่คือคำสั่ง!”

“ข้าไม่ไปก็ได้ แต่เจ้าต้องพาเสวียนหลีไปด้วย นางเคยอยู่ทะเลดาราต้นกำเนิดจิตมาหลายร้อยปี เข้าใจธรรมเนียมของที่นี่มากมาย” สวี่ฮุ่ยกล่าวเรียบนิ่งอยู่บนเรืออีกลำหนึ่ง

หากไม่มีเรื่องสัตว์คลื่นเสียง ถึงคำพูดซูหมิงจะสั่งคนอื่นได้ แต่สำหรับสวี่ฮุ่ยนางจะไม่สนใจเลย แต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว นางลังเลใจกับคำพูดซูหมิง

“ไม่ได้!” เสียงซูหมิงแว่วมาไกลๆ จากนั้นเขาก็กลายเป็นสายรุ้งยาวห้อเหยียดอยู่ในชั้นหินผุพัง ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าตอนที่เขาบินไป บนเรือของเขาในห้องของกระเรียนขนร่วง เจ้าขนร่วงกำลังโยกตัวไปมาอยู่ ทั้งยังปกคลุมตัวมังกรยมโลก ก่อนจะกลายเป็นฝุ่นละอองออกจากเรือไปอย่างเงียบเชียบ ลอยล่องไปตามทางที่ซูหมิงไป

เก้าผู้เฒ่ายมโลกเงียบงัน พวกเขามองหน้ากันและกัน มีใจคิดอยากตามไปปกป้อง แต่คำพูดซูหมิงเด็ดขาดอย่างยิ่ง พวกเขาจึงแอบถอนหายใจเงียบๆ ไม่มีใครฝ่าฝืนตามไป เพราะพวกเขาเห็นสวี่ฮุ่ยไม่อยู่แล้ว

เรือรบสิบสามลำค่อยๆ เดินหน้าไป มุ่งหน้าสู่รอบนอกของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต กำลังตามหาที่ปลอดภัยเพื่อรอนายน้อยกลับมา

ภายในชั้นหินผุพัง ซูหมิงเคลื่อนตัวอย่างไม่ช้าและไม่เร็ว เขาไม่ใช้ความเร็วทั้งหมด แต่ตามชายผอมบางตรงหน้าไปอยู่ไกลๆ เงามายาเทวรูปเชมันบนตัวชายคนนี้คือเบาะแสสำคัญสำหรับเขา บวกกับเรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาจึงต้องมาเพียงลำพัง

ครู่ต่อมา ระหว่างการไล่ล่า ซูหมิงยกมือขวาสะบัดไปข้างหลัง มวลอากาศพลันเกิดเสียงดังปังๆ จากนั้นสุนัขใหญ่สีดำและเหลืองร่างแปลงกระเรียนขนร่วงกับมังกรยมโลกก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกาย

สุนัขใหญ่สีดำร่างแปลงกระเรียนขนร่วงยักคิ้วหลิ่วตา ซ้ำยังกระดิกหาง มีท่าทางเหมือนจะเอาใจ

“ตามไป” ซูหมิงถลึงตามองกระเรียนขนร่วงทีหนึ่ง

กระเรียนขนร่วงรีบพยักหน้า เห่าเสียงดังไล่หลังเงาชายผอมบางที่อยู่ไกลๆ จากนั้นก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง สุนัขใหญ่สีเหลืองด้านหลังตามไปอย่างเอื่อยเฉื่อย สายตามองไกลออกไปตลอดเวลา

ภายในชั้นหินผุพัง ชายร่างผอมบางขมวดคิ้ว นัยน์ตามีจิตสังหารวูบผ่าน แต่กลับไม่หยุดฝีเท้า เขามีลางสังหรณ์ว่า คนที่ไล่ตามมาข้างหลังคือผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

คนแบบนี้ เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะเอาชนะได้ และสิ่งที่ทำให้ในใจเขาตกใจระคนสงสัยไปอีกคืออีกฝ่ายพูดภาษาเผ่าเชมันได้ และยังรู้จักคำว่าจ้าวเชมัน กระทั่งในความรู้สึกเขา เหมือนว่าในตัวอีกฝ่ายมีความคุ้นเคยรางๆ ของเผ่าเชมันอยู่

โดยเฉพาะสายตาของฝ่ายนั้น ทำให้เขาเกิดความรู้สึกถึงเชมันผู้ดูดวิญญาณ

ครั้นเห็นอีกฝ่ายไล่ตามมา ชายร่างผอมบางจึงแค่นเสียงหึเย็นชา แล้วพลันเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าไปทางขวา ทะลวงผ่านหินผุพังทีละก้อน ความเร็วก็สูงขึ้นเรื่อยๆ

ซูหมิงอยู่ข้างหลัง สายตามองชายผู้นี้อย่างเย็นชา เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะไปที่ใดกันแน่ จึงตามไปอย่างไม่เร่งรีบอะไร ถึงอย่างไรจากท่าทางของอีกฝ่าย คงจะไม่ยอมเปิดปากตอบคำถามเขาง่ายๆ แน่

เวลาผ่านไปทีละวัน พริบตาเดียวก็ครึ่งเดือน

ครึ่งเดือนนี้ ซูหมิงยังคงรักษาระยะห่างกับอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่มากไม่น้อย ระยะนี้เขาทำให้ชายร่างผอมบางเกิดแรงกดดัน ดังนั้นแล้วจึงเกิดเป็นการคุกคามอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งเดือน

การคุกคามนี้มากพอจะทำให้คนที่มีจิตใจอ่อนแอเสียสติได้

ทักษะการล่าเหยื่อแบบนี้ ซูหมิงเชี่ยวชาญมาแต่เยาว์วัยแล้ว ตอนนี้ยิ่งชำนาญกว่าเดิม แน่นอนว่าหากไม่มีกระเรียนขนร่วงที่พูดพึมพำไม่หยุดตลอดทาง บางทีอาจจะดีกว่านี้

“เฮ้ย หลานชาย อย่าบินเร็วขนาดนั้นสิ ให้ปู่กระเรียนของเจ้าพักสักประเดี๋ยว….”

“อุบ๊ะ เจ้ายังหนีอีก ย่ากระเรียนเจ้าเถอะ ในตัวเจ้ามีหินผลึก ท่านกระเรียนคนนี้ได้กลิ่นแล้ว กลิ่นนี้แหละ เจ้าอย่าหนี!”

“เจ้ารอก่อน ท่านกระเรียนตามเจ้าทันเมื่อไร ข้าจะให้สุนัขเหลืองกัดก้นเจ้า ฉีกก้นเจ้าออกมา!”

สุนัขใหญ่ตัวสีเหลืองชินกับการยั่วเย้าของกระเรียนขนร่วงแล้ว มันกลอกตาและไม่สนใจแม้แต่น้อย แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในใจถึงเกิดความรู้สึกชั่ววูบว่าอยากเข้าไปกัดก้นคนตรงหน้าจริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version