บทที่ 115 ข้าเชื่อมั่นในตัวเขา! (ต้น)
พวกที่อยู่ทางซ้ายมือ คู่ชายหญิงซึ่งมีท่าทางตื่นตัวพร้อมสู้พลันถอยห่างออกไปสองสามก้าว!
ทั้งนี้เพราะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าใครลอบโจมตีเป่นเฉินกันแน่ แต่ที่แน่ชัดก็คือการที่คนผู้นั้นทำแบบนี้ได้ นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าคนผู้อยู่เบื้องหลังของชายหนุ่มนั้นหาใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน!
เป่ยเฉินพลังปรากฏสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเก
ด้วยแม้แต่ตัวของนางเองก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้ร่างกระเด็นอย่างไม่เป็นท่าเช่นนี้
มันเป็นใคร?
นางกวาดสายตาเย็นชาไปรอบๆ ทว่ากลับไม่เห็นสิ่งผิดปกติอื่นใด ในที่สุดจึงหันกลับมาจ้องมอง
เยี่ยฉวนซึ่งอยู่ไม่ห่างออกไปมากนัก ชายหนุ่มมีท่าทีเฉยเมย มือกำลังขยับชายเสื้อจัดให้เข้าที่ “เจ้าคิดว่ามีคน
ใหญ่คนโตคอยช่วยเหลือได้เพียงคนเดียวหรือ?”
เขาพูดพลางทำท่ายกนิ้วชี้ขึ้นแกว่งเบาๆ ด้วยท่าทางยียวน “อันที่จริงข้าก็มีเจ้านายใหญ่ช่วยเหลือ
เหมือนกัน ในสนามประลอง ใครบ้างไม่มีคนคอยหนุนหลัง? เจ้า……”
เพี๊ยะ!
ทันใดนั้น เสียงวัตถุสะบัดมาในอากาศอีกครา เป็นเหตุให้ร่างของคนผู้หนึ่งกระเด็นออกจากที่ไปอีก
แต่ครั้งนี้หาใช่เป่ยเฉินที่ถูกพลังสะบัดร่างออกไป คนผู้นั้นคือเยี่ยฉวน!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทำให้ทั้งเป่ยเฉินและคู่ชายหญิงต่างสับสนงงงัน!
เยี่ยฉวนเองก็สับสนไม่แพ้กัน “นี่มันบ้าอะไร? เจ้านั่นตีทุกคนที่ไม่ชอบ! แต่ถ้าจะตีน่าจะทำเวลา
ที่ไม่มีคนนอกมิใช่หรือ? อย่างนี้แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?!”
ชายหนุ่มจำต้องค่อยผุดลุกขึ้น บนใบหน้าซีกขวาปรากฏรอยอุ้งเท้าเช่นเดียวกัน
บรรยากาศบริเวณนั้นพลันแปรเปลี่ยน
“อะแฮ่ม!” เขาทำทีกระแอมให้สุ้มให้เสียงก่อนพูดว่า “เจ้าออกไปก่อน ที่นี่มีแต่คนดีทั้งนั้น สหาย……
เชิญนั่งก่อน จะเจรจากันไม่ใช่หรือไร?”
เป่ยเฉินได้ยินเช่นนั้น นางก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมา “เจ้าพูดจริงหรือ?”
ทว่าชายหนุ่มสีหน้าเคร่ง “ข้าเองไม่คิดเหมือนกันว่าพวกเราจะเจรจากันได้ ข้า……”
อีกฝ่ายส่ายหน้าเป็นเชิงขัดก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดจบประโยค “ถึงตอนนี้ ข้ามั่นใจแล้วว่าเจ้าเพี้ยนไป
แล้วจริงๆ ดี มันทำให้เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา……”
เสียงพูดขาดหายไปอย่างกะทันหัน
ภาพที่เห็นคือเยี่ยฉวนจากที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม บัดนี้เขาหันหลังกลับวิ่งออกไปในทิศทางตรงข้ามเสียแล้ว! ด้วยความว่องไวของชายหนุ่ม เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นก่อนที่ร่างของเขาจะกลืนหายไปในเงาแห่งความมืด
เป่ยเฉินมองตาม สีหน้าและแววตาเหี้ยมเกรียมดุดันยิ่ง!
ชายสวมผ้าคลุมสีขาวเห็นเช่นนั้น พลันเหลือบมองเป่ยเฉินด้วยแววตาเย็นชา “มัวพล่ามไร้สาระ!”
จากนั้น ทั้งคู่ชายหญิงต่างทะยานออกตามหลังเยี่ยฉวนไปโดยไม่รอช้า
เป่ยเฉินมองตามแววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มุมปากยกขึ้นอย่างเข่นเขี้ยวหมายมาด ไม่นานร่างของนางก็ได้พุ่งทะยานออกจากที่แห่งนั้นไปโดยเร็ว พื้นดินที่ผ่านล้วนถูกเหยียบย่ำยุ่งเหยิงวุ่นวาย!
ทางด้านเยี่ยฉวน ตอนนี้ชายหนุ่มได้อาศัยจังหวะดังกล่าวในการกลืนหายไปกับกลางความมืดรอบข้าง ระหว่างนั้นเขาก็ได้ครุ่นคิดอะไรบางอย่างไปด้วย
เมื่อได้ฟังถ้อยคำของเป่ยเฉิน นั่นก็พลันทำให้ชายหนุ่มกระจ่างในทันทีว่าเหตุใดพวกที่ติดตามจึงค้นหา
เขาพบ เพราะเจ้าใหญ่นายโตนั่นเองที่เปิดเผยที่ซ่อนของเขาต่อนาง!
“มีคนที่ฝ่าฝืนกฎการล่าสมบัติ!”
“พวกเขากล้าฝ่าฝืนเพราะรู้ว่าข้ามีเพียงคนเดียวลำพัง ถ้าอันหลานซิ่วอยู่คนสำคัญจากเบื้องบนผู้นั้นคงไม่กล้า แน่นอนที่สุดเพราะเห็นว่าข้าหัวเดียวกระเทียมลีบคนสำคัญจากเบื้องบนจึงทำกับข้าเช่นนี้!”
ชายหนุ่มคิดด้วยความแค้นใจเขายืนกำหมัดแน่น ไม่ว่าตนเองจะหลบซ่อนอยู่ที่ใด เป่ยเฉินและคนพวกนั้นย่อมติดตามหาเขาจนพบได้วันยังค่ำ!
ด้วยพลังของชายหนุ่มในตอนนี้แล้ว เมื่อไม่เหลือหนทางหนี ย่อมเป็นไปได้ยากที่จะเผชิญหน้ากับคนทั้งสามนั่นพร้อมกันอย่างแน่นอน
ระหว่างทางนั้นเขานิ่วหน้าอย่างครุ่นคิด เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ คิ้วที่ขมวดแน่นก็เริ่มคลายลง ชาย
หนุ่มหยุดลง ก่อนจะหันมองรอบกาย แล้วจึงตัดสินใจวิ่งออกไปยังเชิงเขาลูกหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป เยี่ยฉวน
กลิ้งม้วนตัวลงกับพื้นและไปหยุดลงเบื้องหน้าเชิงเขา โดยระหว่างที่กลิ้งไปบนพื้นดินเขาก็ได้ล้วงหยิบคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีออกมาซุกเข้าไปในกองใบไม้ที่ปกคลุมหนาทึบละแวกนั้น
ทุกอย่างกระทำล้วนแต่แนบเนียนจนยากที่จะสังเกตเห็น!
เมื่อสำเร็จแล้วจึงกลิ้งตัวออกไปอีกด้านของเนินเขา ก่อนจะออกวิ่งเต็มกำลังไปอีกระยะหนึ่งและหยุด
ชะงักลง เพียงชั่วห้าลมหายใจเท่านั้น พลันบังเกิดเงาสีขาวปรากฏวูบขึ้นเบื้องหน้า!
คนผู้นั้นคือเป่ยเฉิน!
ถัดจากการปรากฏกายของเป่ยเฉิน เพียงสามอึดใจคู่ชายหญิงก็ได้ตามมาสมทบ!
เมื่อเห็นเป่ยเฉินโผล่มา ชายหนุ่มพลันพุ่งทะยานเข้าหานางอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเยือกเย็นผุดขึ้นมุม
ปาก ทันใดนั้นร่างตรงหน้ากลับกลายเป็นเงาสีขาวสว่างวาบพุ่งสวนเข้าหาเยี่ยฉวน ทันทีที่ถึงระยะ นางพลัน
ผลักฝ่ามือออกพุ่งกระแทกบริเวณหน้าอกของคนตรงหน้า ทว่าแรงปะทะกลับมิได้รุนแรงด้วยยั้งมือไว้!
เมื่อเห็นพลังสังหารรุกไล่ติดตามเช่นนี้ แทบที่จะหลบ ทว่าเยี่ยฉวนหาได้หลบหลีก เขาปล่อยให้พลัง
ฝ่ามือนั่นพุ่งเข้าหาปะทะลำตัวโดยไม่ออกต้านทาน
ผัวะ!
ร่างของเยี่ยฉวนกระเด็นออกไปไร้ทิศทางราวกับว่าวที่ขาดออกจากสายป่าน เขาหล่นกระแทกกับต้นไม้อย่างแรงก่อนร่วงลงสู่พื้นดิน
ภาพที่เห็นทำให้เป่ยเฉินนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ “เจ้าทำบ้าอะไร?”
— จบตอน —
