Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 139



HH

บทที่ 139 พวกเจ้าถึงกับซึมไปเลยหรือ? (ต้น)

เยี่ยฉวนจากกับน้องสาวไปเป็นเวลานาน เวลานี้ได้กลับมาเสียที แน่นอนว่าในใจของเขาจะต้องรู้สึก

ตื่นเต้นอย่างมาก!

เขากับน้องไม่เคยห่างกันนานเท่านี้มาก่อน ดังนั้นภายหลังจากหลายวันที่แยกจาก จึงทำให้เขารู้สึกคิดถึงนางมากเหลือเกิน ในเวลานี้จึงอยากเจอหน้าน้องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!

เยี่ยฉวนใช้เวลาวิ่งขึ้นเขาเพียงชั่วพริบตาเดียว

ทว่าเมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา เขากลับรู้สึกผวาในใจเล็กน้อยเมื่อมองหาไม่พบเยี่ยหลิง!

เสียงที่ตะโกนนั้นดังมิใช่น้อย ทุกคนในสถานศึกษาฉางหลานย่อมได้ยินทั่วกันหมด โดยปกติแล้วน้อง

จะต้องรีบรุดออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงของตน!

ทว่าครั้งนี้ เยี่ยหลิงไม่ออกมา!

“เกิดอะไรขึ้น?”

เยี่ยฉวนใจหายวาบขณะเดียวกันเขารีบผลุนผลันเข้าไปที่ห้องโถง ที่นั่นเขาได้พบกับจี้อันซื่อที่ออกมา

พอดี นางมองหน้าก่อนจะบอกว่า “มีเรื่องเกิดขึ้นกับนาง”

เขาได้ยินคำบอกกล่าวเต็มสองหู

หึ่ง!

เสียงสะท้านแห่งกระบี่ภายในกายกลับสะท้อนก้องออกมาภายนอกกายของชายหนุ่ม!

นัยน์ตาจ้องเขม็งตรงมายังหญิงสาว “นางอยู่ที่ใด?”

แววตากร้าวพร้อมสังหาร!

เมื่อเห็นแววสังหารฉายชัดมิซ่อนเร้น จี้อันซื่อขมวดคิ้วก่อนเอ่ยว่า “เจ้าต้องใจเย็นก่อน เจ้า……”

ฉันพลันนั้นร่างของคนตรงหน้ากระโจนพรวด เพียงในพริบตาปลายกระบี่ในมือของเยี่ยฉวนจี้ตรงกึ่ง

กลางระหว่างหัวคิ้วของหญิงสาว เสียงถามดุดันกราดเกรี้ยว “ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง นางอยู่ที่ใด?”

หางเสียงสั่นพลิ้ว ย่อมแสดงว่าความเดือดดาลนั้นเข้าใกล้จุดมรณะเต็มที

นอกจากนั้นแม้กระบี่ในมือยังสั่นสะท้าน!

จี้อันซื่อจ้องสายตาไม่ว่างเว้น “เฟินเจี้ยต้องการให้เจ้าไปที่เชิงเขาฉางซาน ข้าส่งสัญญาณให้ท่านปู่

ทราบแล้วเขากำลังจะมาถึงในไม่ช้า เจ้า……”

ทว่ายังทันสิ้นประโยค เยี่ยฉวนพลันหันหลังกลับและถลันลงจากเขาไปทันที

“อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด!”

นางทำได้เพียงตะโกนไล่หลังอย่างเร่งด่วนเท่านั้น!

ทว่าเยี่ยฉวนซึ่งหายลับไปอย่างรวดเร็ว กลับไปปรากฏกายที่เชิงเขาแล้ว

เมื่อการณ์ที่ปรากฏเช่นนั้นอีกฝ่ายสีหน้าหมองลงทันที ด้วยรู้เต็มอกว่าเหตุการณ์เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น!

นางจึงจัดการบีบศิลาถ่ายสัญญาณอีกครั้ง จากนั้นตนเองเร่งวิ่งตามเยี่ยฉวนลงจากเขาโดยไม่รอช้า

ที่เชิงเขา ตลอดเส้นทางเยี่ยฉวนวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต นัยน์ตาแดงก่ำราวกับสีโลหิต สีหน้าเหี้ยมเกรียม

และบ้าดีเดือด

น้องสาวเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นเดียวในชีวิต เขาจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเด็ดขาด!

เขาทำทุกอย่างเพื่อน้องได้!

ระหว่างทางเยี่ยฉวนบุกตะลุยผ่านผู้คนไปอย่างไม่สนใจใยดี มีชาวบ้านที่จดจำใบหน้าของเยี่ยฉวนได้

“เยี่ยฉวนนี่นา……เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ท่าทางเขากำลังรีบไปที่สถานศึกษาฉางมู่!”

“ไม่มีทาง! เขาจะยอมไปตายหรือ?”

“ไป ไป พวกเราไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา……”

โดยทันทีทันใดเสียงชาวบ้านที่แตกตื่น ตื่นเต้น ทุกคนพากันเดิมตามเขามาด้วยคนแล้วคนเล่า

ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าวิ่งเต็มเหยียด ในไม่ช้าก็มาถึงยังเชิงเขาฉางซาน ที่ทางเดินขึ้นเขาเยี่ยหลิงถูกมัดมือทั้งสองข้างไว้ด้วยเชือกสีดำและผูกโยงห้อยอยู่บนเสาไม้ต้นหนึ่ง ใบหน้าซีดเผือดหมองหม่น ท่าทางหมดอาลัยและหวาดกลัว

เยี่ยฉวนมาถึงยังสถานที่เชิงเขาฉางซานและเห็นสภาพของเยี่ยหลิง เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออกในขณะ

เดียวกันรู้สึกราวกับสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกบอกไม่ถูกไปชั่วขณะ

เวลาเดียวกัน เยี่ยหลิงพลันสายตาปะทะกับร่างของพี่ชายเช่นกัน น้ำตาพลันหยดลงมาโดยอัตโนมัติ

“ท่านพี่ หนีไป หนีไปเร็วเข้า……”

คนเป็นพี่ค่อยหลับตาลงช้าๆ หยาดน้ำใสซึมออกมาก่อนจะไหลลงมาทางหางตา

ขณะนั้นเอง ศิษย์แห่งฉางมู่บางส่วนออกมาได้พบกับเยี่ยฉวนในเวลานั้น หนึ่งในกลุ่มกำลังจะอ้าปาก

พูดบางอย่าง ทว่าไม่ทันด้วยกระบี่ในกายของชายหนุ่มตวัดออกจากร่างกาย ตรงเข้าบั่นเจ้าศิษย์ฉางมู่ผู้นั้น!

ฉับ!

กระบี่หลิงซิ่วสะบัดลงสู่พื้น ฉันพลันร่างของศิษย์ฉางมู่ที่อยู่เบื้องหน้าขาดสะบั้นลงครึ่งท่อน

โลหิตแดงฉานพุ่งกระฉูดไปทั้งบริเวณปนเปไปด้วยอวัยวะภายในทั้งห้าที่กระจัดกระจาย!

ศิษย์ที่เหลือและชาวเมืองยืนมองด้วยความตกตะลึง

โดยเฉพาะผู้คนที่ติดตามมาด้วยเห็นเป็นความสนุกสนาน “เยี่ยฉวนทำอะไร? เขามาเพื่อฆ่าหรือ?”

ขณะนี้เยี่ยฉวนสังหารศิษย์แห่งฉางมู่หนึ่งคนด้วยหนึ่งกระบี่ แต่เขาไม่หยุดเพียงแค่นั้น ชายหนุ่มกระชับกระบี่หลิงซิ่วและพุ่งกระบี่ออกไปตรงหน้าโดยฉับพลัน

ท่ามกลางกลุ่มศิษย์ฉางมู่ หนึ่งในนั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนเร่งก้าวถอยหลังออกหนึ่งก้าว ถึงกระนั้นกระบี่ในมือเยี่ยฉวนกลับพุ่งตรงมาถึงตัวเสียแล้ว

ฉับ!

ศีรษะของคนที่ก้าวถอยขาดสะบั้นปลิวไปจากคอ!

ชายหนุ่มถลันเข้าไปทางเบื้องหลังร่างที่ปราศจากหัวของศิษย์ฉางมู่ เขายกมือขวาและขยับกระชับ

กระบี่หลิงซิ่วในกำมือก่อนพลันสะบัดลงตัดร่างคนอย่างรุนแรง

ฉั่วะ!

แสงแห่งกระบี่เป็นประกายแปลบปลาบสะท้อนในลานโล่ง ฉับพลันร่างของศิษย์แห่งฉางมู่ขาดครึ่งท่อนไปอีกหนึ่งรายด้วยกระบี่นั้น!

“ผู้ฝึกกระบี่……เขาคือยอดผู้ฝึกกระบี่……”

มีเสียงคนหนึ่งร้องขึ้นมาตามด้วยอีกหลายคนในที่นั้น

“ยอดผู้ฝึกกระบี่!”

จนในที่สุดเสียงที่เกิดขึ้นในลานก็ได้กลายเป็นเอะอะอึกทึก!

ด้วยผู้ฝึกกระบี่หาได้ยากยิ่งในแคว้นเจียง มิใช่ว่าไม่มีเอาเสียเลย มีอยู่แต่เพียงน้อย คนส่วนใหญ่

กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผู้ฝึกกระบี่ ด้วยภายในใจเกิดภาพมายาว่าเป็นผู้ท่องเที่ยวพเนจร โดยมีกระบี่เป็นพาหนะระหว่างสวรรค์และโลก

ช่วงเวลาที่พวกเขารับรู้การเป็นยอดผู้ฝึกกระบี่แท้จริงของเยี่ยฉวน ทุกคนในที่นั้นพากันแตกตื่นระคนตื่นเต้น

จังหวะเดียวกันนั้น ทุกคนต่างหลงลืมเหตุการณ์อันน่าพิศวงระหว่างสถานศึกษาฉางมู่และสถานศึกษาฉางหลานไปชั่วขณะ กลายเป็นความปรารถนาที่จะได้ชมฉากสังหารของผู้ฝึกดาบ!

และแล้วข่าวที่เยี่ยฉวนติดตามมาปะทะกับศิษย์แห่งฉางมู่ได้ถูกโหมกระพือออกไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ช้าไม่นานผู้คนมากมายจึงพากันมารวมตัวที่เชิงเขาฉางซาน เวลานี้จำนวนคนที่เดินเข้ามาที่เชิงเขายิ่งทวีขึ้น

ทุกทีๆ

เท่าที่เห็นได้ในระยะนี้ เยี่ยฉวนสังหารศิษย์แห่งฉางมู่ไปแล้วหลายคน!

ศิษย์เหล่านั้นล้วนตายด้วยฝีมือของเขาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น!

ทันใดนั้น บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งปรากฏตัวเบื้องหน้าเยี่ยฉวน ผู้นั้นมิใช่ใครเขาคือหลีซิ่ว หนึ่งในสามรองอาจารย์ใหญ่แห่งสถานศึกษาฉางมู่

หลีซิ่วมองเยี่ยฉวนด้วยแววตาเย็นชา “เจ้าสังหารศิษย์ฉางมู่ต่อหน้าธารกำนัล เจ้า……”

ชายหนุ่มได้ยินวาจาของผู้มาใหม่ เขายกกระบี่ขึ้นชี้หน้าหลีซิ่งพร้อมกับพูดว่า “สังหารคนต่อหน้าธาร

กำนัลอย่างนั้นหรือ? เป็นศิษย์ของฉางมู่มิใช่หรือที่เรียกให้ข้ามาที่นี่? ข้ามาอยู่นี่แล้วอย่างไร ว่าแต่พวกเจ้า

ไปมุดหัวกันอยู่ที่ใด?”

ขณะที่ผรุสวาทอย่างโกรธเกรี้ยว เขาพลันยกกระบี่ฟาดฉับลงไปที่ศิษย์แห่งฉางมู่ที่กำลังหมองเศร้าซึ่ง

อยู่ไม่ไกล

ฉับ!

อีกหนึ่งร่างที่โลหิตซ่านกระเซ็นด้วยฝีมือของเขา!

เยี่ยฉวนมองหน้าหลีซิ่วพร้อมคำรามเสียงลั่น “พวกเจ้ามีเพียงเท่านี้ พวกศิษย์แห่งฉางมู่อยู่ไหน? ออกมาสิ!”

— จบตอน —

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version