Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 218


บทที่ 218 เลือดต้องล้างด้วยเลือด! (ปลาย)

หลังช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป เยี่ยฉวนตัดสินใจเดินลงจากเทือกเขาฉางหลาน ชายหนุ่มมุ่งหน้าตรงไปยังหอสำนักอัปสรเมรัยสาขาหนึ่ง เมื่อเยี่ยฉวนไปถึง จ้าวหอชั้นเก้าพลันรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับเขาด้วยตนเอง

เมื่อเข้าพักยังห้องรับรอง เยี่ยฉวนนำของล้ำค่าออกจากหอคอยแห่งเรือนจำมากองไว้เบื้องหน้า “ของเหล่านี้คือ?” เสียงจ้าวหอชั้นเก้าถามอย่างสงสัย

เยี่ยฉวนจึงตอบว่า “ผู้อาวุโส ของล้ำค่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่ข้ายึดมาได้ จึงอยากให้ท่านช่วยนำออกประมูลสักหน่อย”

จ้าวหอชั้นเก้าถามเสียงขรึม “เจ้าต้องการเงินอย่างนั้นหรือ?” อีกฝ่ายพยักหน้า ด้วยเป็นธรรมดาที่เงินถือเป็นปัจจัยสำคัญ!

การก่อสร้างสถานศึกษาไม่อาจพึ่งพาสำนักอัปสรเมรัยและราชสำนักเจียงไปเสียทุกอย่าง เพราะไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง! นอกจากนั้นเยี่ยฉวนต้องเตรียมปัจจัยเงินให้เพียงพอสำหรับโม่อวิ๋นฉีและคนอีกสองในการฝึกฝนพลัง จึงมีความจำเป็นต้องใช้เงินอีกมาก! อีกทั้งต่อไปเมื่อรับศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่ายก็ย่อมจะพุ่งขึ้นเป็นเงาตามตัว

เงิน! เวลานี้เขาจำเป็นต้องเตรียมเงินทองไว้ให้มาก!

จ้าวหอชั้นเก้านิ่งอยู่เป็นครู่ จากนั้นจึงพยักหน้าและพูดว่า “ของล้ำค่าเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความพิเศษ มีหลายสิ่งเป็นศาสตราวุธชั้นเยี่ยมยอด ข้าคิดว่าลำพังที่นี่จะไม่สามารถจัดการประมูลขายได้ทุกชิ้น เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้ามอบของพวกนี้ไว้กับข้า ข้าจะให้เบื้องบนประเมินมูลค่าสิ่งของและทางเราจะรับซื้อไว้ทั้งหมด ข้าจะนำของล้ำค่านี่ไปประมูลขายทั่วแผ่นดินชิง แต่เจ้าวางใจได้ ทางเราไม่มีทางกดราคาอย่างแน่นอน แค่ขอให้ประมูลขายได้ราคาเท่ากับที่เราเสนอซื้อมาจากเจ้าทางเราก็จะคืนทุน อย่างนี้เจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่?”

เยี่ยฉวนนิ่งคิด หลังจากนั้นเขาจึงพนักหน้าหงึก “ดีขอรับ! ขออภัยที่รบกวน!”

จ้าวหอชั้นเก้าหัวเราะ “ยินดีนัก” เมื่อพูดถึงตอนนี้ จ้าวหอก้มลงหยิบแผ่นป้ายสีดำอันหนึ่งออกมาและส่งให้เยี่ยฉวน “สหายข้า นี่คือของขวัญส่วนตัวจากจ้าวหอชั้นสอง และขอร้องข้าให้นำคำพูดมาบอกแก่เจ้าด้วย ว่าหากเจ้าไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่เมื่อใด อย่าลืมแวะไปที่สำนักอัปสรเมรัยให้ได้”

“จ้าวหอชั้นสอง อย่างนั้นหรือขอรับ?” ชายหนุ่มทวนชื่อด้วยสีหน้าฉงนฉงาย

จ้าวหอชั้นเก้าพยักหน้าพลางยิ้มมุมปาก “ท่านเจ้าสำนักอัปสรเมรัยได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนแล้ว ฝากมาขอบใจทั้งเจ้าและอาจารย์ ตอนนี้ข้าได้เลื่อนเป็นจ้าวหอชั้นห้า แต่ยังทำหน้าที่ดูแลสาขาที่แคว้นเจียงไปพลาง ต่อเมื่อเจ้าออกจากแคว้นเจียง ข้าจึงค่อยออกจากแคว้นด้วยเช่นกัน”

“เข้าใจแล้วขอรับ!” เยี่ยฉวนรีบคารวะด้วยการกระแทกกำปั้นกับฝ่ามือ ขณะเอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ!”

จ้าวหอชั้นเก้าส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธพลางยิ้มน้อยๆ “ข้าเองต้องขอบคุณต่ออาจารย์ของเจ้าด้วยเช่นกัน หากไม่สามารถพัฒนาขั้นพลังขึ้นได้อีก ข้าคงแก่ตายเสียที่แคว้นเจียงนี่เป็นแน่”

เขาหันมาชี้ไปที่แผ่นป้ายสีดำในมือเยี่ยฉวน “สหาย แผ่นป้ายชิ้นนี้มีสถานะสูงที่สุดในสำนักอัปสรเมรัย เมื่อเจ้าแสดงแผ่นป้ายนี้ต่อจ้าวหอที่มีตำแหน่งรองลงมาจากจ้าวหอชั้นห้า คนพวกนั้นจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นใครเพียงแสดงแผ่นป้ายนี้ สามารถขอความช่วยเหลือจากคนยอดยุทธ์ของสำนักอัปสรเมรัยได้ถึงสามหนโดยไม่มีค่าจ้าง หากเจ้าต้องการซื้อหาสิ่งของที่ต้องการ จะสามารถใช้ลดราคาได้ถึงหกในสิบส่วนทีเดียว!”

ผู้อ่อนอาวุโสกว่ากำแผ่นป้ายไว้ในอุ้งมือ พลางค้อมตัวแสดงคารวะต่อจ้าวหอชั้นเก้าอีกครั้งและพูดว่า “ท่านโปรดแจ้งต่อเจ้าสำนักว่าข้าจะจดจำความกรุณาครั้งนี้เอาไว้อย่างดียิ่งขอรับ!” เมื่อได้ยินสิ่งที่เยี่ยฉวนเอ่ยออกจากจากใจจริงเช่นนี้ ท่านจ้าวหอพลันฉีกยิ้มกว้างจนแทบหุบไม่ลง

จ้าวหอชั้นเก้าคนนี้ต้องการเป็นพันธมิตรกับคนอย่างเยี่ยฉวนเป็นยิ่งนัก ด้วยไม่เพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้ามีอาจารย์ที่อยู่เบื้องหลัง แต่ทว่าเยี่ยฉวนยังเป็นทั้งยอดคนและความแกร่งกล้าที่มีอยู่ในตัวของเขาเองก็ใช่ธรรมดา!

คนคนนี้เป็นยอดแห่งยอดฝีมือ ซึ่งไม่ด้อยกว่าอันหลานซิ่ว! ต่อไปภายหน้าเขาอาจได้เป็นเซียนกระบี่……หากเป็นเช่นนั้นจริง สำนักอัปสรเมรัยจะมีมิตรเป็นเซียนกระบี่เพิ่มขึ้นอีกคน!

สหายของเซียนกระบี่ พลังกั้นขวางที่มีประสิทธิภาพ! ใครก็ตามที่บังอาจคิดร้ายกับสำนักอัปสรเมรัย จะต้องคิดให้ดีก่อนลงมือ!

ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากเหลือเกินที่สำนักอัปรเมรัยจะสานสัมพันธ์กับเซียนกระบี่ แต่สถานการณ์ถึงกับกลับตาลปัตร จากสิ่งยากกลายเป็นง่าย เมื่อชายหนุ่มตรงแสดงศักยภาพที่เขาอาจเป็นเซียนกระบี่!

เยี่ยฉวนคงไม่รู้ว่าบัดนี้คำพูดของจ้าวหอชั้นเก้ามีน้ำหนักมากขึ้นในสำนักอัปสรเมรัย ด้วยเพราะการมีชัยเหนือเดิมพันเมื่อวันก่อน!

ถ้าเขาพ่ายแพ้ ก็คงไม่แคล้วต้องจบชีวิตลงอย่างอนาถ แต่ในเมื่อเป็นผู้ชนะ สำนักอัปสรเมรัยจึงตบรางวัลอย่างงามให้เขาโดยเลื่อนตำแหน่งเป็นจ้าวหอชั้นห้า ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสูงที่สุดในเวลานี้ และอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น เขาก็จะถึงเบื้องบนแล้ว!

หลังจากนั้นไม่นาน เยี่ยฉวนได้ลากลับ สายตาของผู้สูงวัยที่มองตามหลังขณะเยี่ยฉวนเดินจากไปนั้น เต็มไปด้วยความปิติยินดี ริมฝีปากของจ้าวหอชั้นเก้าคลี่ยิ้มกว้างขวาง

เยี่ยฉวนมิได้เป็นเพียงสุดยอดแห่งยอดคนเท่านั้น ทว่าเขาให้ความสำคัญกับมิตรภาพกับผู้คนด้วย ซึ่งสิ่งนี้นับว่าสำคัญยิ่งยวดต่อสำนักอัปสรเมรัย! ด้วยถ้าลงได้ช่วยเหลือคนเช่นนี้สักครั้ง เขาจะจดจำบุญคุณผู้ที่ช่วยเหลือไปตลอดชีวิตเป็นแน่!

ด้วยความช่วยเหลือจากราชสำนักแคว้นเจียงและสำนักอัปสรเมรัย การก่อสร้างสถานศึกษาฉางหลานจึงรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่กี่วัน อาคารบางส่วนเริ่มปรากฏให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างอยู่บนแนวเขาแล้ว

ภูเขาซึ่งมีชื่อว่า จี้อวิ๋น! เยี่ยฉวนให้ชื่อภูเขาแห่งนี้ตามชื่อของอาจารย์ใหญ่จี้

เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส เยี่ยฉวนยืนสงบนิ่งอยู่บนยอดเขา ขณะหันหน้าไปทางเชิงเขาเบื้องล่าง ด้านหลังของชายหนุ่มปรากฏโม่อวิ๋นฉีและอีกสองคน

เยี่ยฉวนเอ่ยเสียงขรึม “ถึงเวลาที่เราจะไปพาศิษย์ของเรากลับบ้าน ถึงเวลาแห่งการแก้แค้นให้อาจารย์ใหญ่จี้! เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”

จากนั้น คนทั้งสี่ลงจากภูเขาจี้อวิ๋น และมุ่งหน้าตรงไปยังทิศที่เป็นที่ตั้งของสถานศึกษาฉางมู่!

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version