Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 230


บทที่ 230 กระบี่จงมา! (ปลาย)

หลังจากนั้น ชายสวมชุดดำหันขวับเพ่งมองไปทางจี้อันซื่อซึ่งยืนอยู่เงียบๆ ในเวลาเดียวกันคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นชายชราที่ยืนบนกิ่งไผ่ คนสวมชุดขาว และชายวัยกลางคนสะพายกระบี่ใบมีดใหญ่ พวกเขาต่างพากันมองไปทางเดียว!

จี้อันซื่อเหลือบมองคนทั้งสี่สีหน้าเฉยเมย ไม่แสดงความรู้สึกและงัดหมั่นโถอุ่นขึ้นมากินท่าทางไม่ยินดียินร้าย

หลังจากเพ่งพิจารณาหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง ชายชราสวมชุดขาวส่ายหน้าเล็กน้อย “นางไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ดูท่าว่าจะมีความลึกซึ้งในปณิธานแห่งดาบ……” เมื่อสิ้นเสียงคนพูด บรรดาคนอื่นพากันมองหญิงสาวตรงหน้าท่าออกเกรงขามอยู่ในที

แม้ไม่ได้เป็นยอดคนหรือยอดฝีมือเหมือนคนอื่น แต่นางกลับลึกซึ้งในปณิธานแห่งดาบ ดูภายนอกเสมือนคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หญิงสาวผู้นี้กับมีความเป็นยอดฝีมือแบบฉบับที่สุดแสนจะธรรมดา ย่อมหมายความว่าในด้านทัศนคติและความทุ่มเทของนางเป็นเลิศเหนือผู้ใด! นับว่าเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดคนหนึ่ง!!

คนสูงวัยสวมชุดขาวยังคงมองมาที่จี้อันซื่อ “ข้าเดาว่าเจ้าก็คงไม่อยากไปจากที่นี่เหมือนกัน ก็ได้ พวกเราจะได้ไม่เสียเวลาถาม!”

พูดจบก็กวาดตาไปที่เยี่ยฉวนซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปเท่าใด เมื่อสายตาของเขาชายชราชุดขาวเหลือบมองเยี่ยฉวน พลันสายตาของทุกคนต่างจับจ้องมาที่เขาในเวลาไล่เลี่ยกัน!

เยี่ยฉวน!

เพียงมองครู่เดียว พวกเขาก็รู้ว่าคนผู้นี้คือคนที่กำลังเปล่งประกายเจิดจรัสที่สุดในแคว้นเจียง เจิดจรัสยิ่งกว่าอันหลานซิ่วสมัยก่อนด้วยซ้ำไป! ดังนั้นคนทั้งสี่ได้แต่มองเยี่ยฉวนเงียบๆ ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยอะไร

ชายหนุ่มเองขณะนั้นแม้ดูท่าทางสงบเฉย ไม่แสดงออกทางความรู้สึก ทว่าภายในใจทั้งร้อนรนทั้งวิตกกังวล เหตุเพราะจนถึงบัดนี้สตรีลึกลับก็ยังไม่มีการตอบสนองแม้แต่น้อย!

ในจิตใจของเยี่ยฉวน ณ เวลานี้มีแต่ความคลางแคลง “ท่านผู้อาวุโส พวกมันมาท้าทายท่านถึงที่นี่แล้ว จะนิ่งเฉยต่อพวกมันไม่ได้นะขอรับ!”

ทว่าไร้เสียงตอบรับจากสตรีลึกลับอยู่นั่นเอง! ถึงแม้จะไม่มีเสียงตอบ แต่ปรากฏมีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวละลิ่วลงมาจากชั้นที่สอง… เยี่ยฉวนหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นดูทันที และเมื่อเห็นสิ่งที่เปิดเผยบนกระดาษถนัดชัดแจ้ง พลันเขามีสีหน้าเผือดซีดจากนั้นจึงกลับคืนสภาวะจิตปัจจุบัน ผละออกจากหอคอยแห่งเรือนจำอย่างสิ้นเชิง!

ไม่มี! ไม่มีอะไรทั้งนั้น!

เยี่ยฉวนหันหน้ามองกลุ่มคนสี่คนที่กำลังลอยตัวกลางอากาศเมื่อได้ยินเสียงคนชุดขาวขึ้นว่า “สุดยอดทะยานสวรรค์ กับพื้นฐานแข็งแกร่งชนิดหาตัวจับยาก ถ่องแท้ในปณิธานกระบี่และจิตวิญญาณการต่อสู้ ผสานด้วยพลังปราณกระบี่และกายากระบี่ พละกำลังแกร่งกล้า……”

“หายาก หายากจริงๆ ความกล้าแกร่งระดับนี้เจ้าควรติดอันดับหนึ่งในสิบแห่งทำเนียบผู้เยี่ยมยุทธ์ และเมื่อถึงขั้นสันโดษเจ้าก็คงติดอันดับหนึ่งในห้าของทำเนียบได้สบาย!”

ชายชราชุดดำพยักหน้า “แทบไม่เคยพบเห็นคนเช่นนี้ว่ามีในแคว้นเจียง หรือแม้แต่ในแผ่นดินชิงเสียด้วยซ้ำ! วันนี้เขายังกล้าแกร่งปานนี้ ในวันข้างหน้าข้าว่าต้องยิ่งใหญ่กว่าทัวป้าฝู่แห่งแคว้นหนิงแน่!” จากนั้นคนพูดเหลือบมองไปทางชายชรายืนบนกิ่งไผ่ “ท่านจะว่าอย่างไร?”

คนถูกถามเหยียดมุมปากบิดเบี้ยว “คนยิ่งเป็นยอดฝีมือ มันยิ่งสมควรตาย” เสียงพูดขาดคำ บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงัดลงฉับพลัน!

สายตาของชายชราชุดดำและคนชุดขาวยังคงจ้องจับอยู่ที่เยี่ยฉวนแน่แน่ว ทว่าไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรอีก

สมควรตาย!

เป็นเรื่องปกติที่จะไม่ปล่อยให้คนเช่นชายหนุ่มคนนี้เติบโตขึ้นต่อไป!

สำหรับพวกเขา ถ้าไม่ได้เยี่ยฉวนเป็นมิตรก็ยอมเป็นศัตรู จึงเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ต้องกำจัดศัตรูชนิดถอนรากถอนโคนไม่ให้เหลือ เพื่อตัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า!

ทันใดนั้นชายผู้สะพายดาบใหญ่ร้องถามเยี่ยฉวนมาจากที่บนอากาศ “ข้าขอถามว่าปณิธานกระบี่ของเจ้าเป็นอย่างไร?”

ปณิธานกระบี่!

เยี่ยฉวนส่ายศีรษะช้าๆ ความจริงแล้วเขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าปณิธานกระบี่ของตนเป็นเช่นไร และยังคงเฝ้ากังขามาโดยตลอด ถ้าสตรีลึกลับปรากฏกายออกมาอีก ครั้งหน้าเขาจะต้องหาคำตอบให้สิ้นสงสัยให้ได้!

ทว่าปัญหาใหญ่เวลานี้คือสตรีลึกลับจะปรากฏตัวเมื่อใด!

เขาคงไม่สามารถรับมือกับคนกลุ่มนี้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงเปิดฉากจู่โจมไปแล้ว!

ชายสวมชุดขาวกวาดตามองจากที่บนฟ้าไปทั่วบริเวณ ก่อนจะหันกลับมาที่เยี่ยฉวน “อาจารย์ของเจ้าอยู่ไหน เหตุใดนางยังไม่ออกมา?”

เยี่ยฉวนนิ่งเงียบ แต่ภายในใจนั้นมีเสียงตะโกนก้อง “ท่านเซียนกระบี่……อย่าเพิ่งกรรมฐานสิขอรับ ออกมาเสียที……มีคนมาท้าสู้อยู่นี่!” ทว่ายังคงเงียบกริบ ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าซีดเซียว

นางคงอยากสั่งสอนศิษย์คนนี้!

พลันมีเสียงของชายสวมชุดขาวดังขึ้นมาว่า “สงสัยว่าคงต้องหาความกดดันสักหน่อยแล้ว นางจึงจะยอมออกมา!” ขาดคำนั้น เขาผลักฝ่ามือข้างขวาและกดช้าๆ ลงไปที่เยี่ยฉวนและคนอื่นๆ ทั้งสามที่ยืนอยู่ข้างล่าง

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นขณะเดียวกันพลังประหลาดมีน้ำหนักมหาศาลราวภูเขานับสิบลูกถล่มทลายลงจากฟากฟ้า แรงกดโถมทับลงบนร่างกายของเยี่ยฉวนและพวกจนเกือบทรุดเข่าฮวบ ทว่าพวกเขาพยายามฝืนยืนหยัดต้านทานต่อพลังนั้นอย่างเต็มที่

กระทั่งแต่ละคนกระอักพรวดเป็นโลหิตสด!

ไม่นานนัก คนทั้งสี่เบื้องล่างเริ่มรู้สึกเสมือนร่างกายกำลังถูกฉีกทึ้งอวัยวะแขนขาออกจากตัว!

ทันใดนั้นเสียงคำรามดังรอดไรฟัน ขณะเยี่ยฉวนผลักดันจิตวิญญาณการต่อสู้ไหลหลั่งออกภายนอก พลันนั้นเองจิตวิญญาณการต่อสู้กลับกระแทกเข้าภายในกายอย่างรุนแรงราวถูกยับยั้งกระทันหัน!

เยี่ยฉวนรวบรวมสมาธิ ชายหนุ่มยกขาข้างขวากระแทกลงบนพื้น ขณะกำลังผลักออก

……กระแสจิตวิญญาณการต่อสู้พลันเพิ่มขึ้น เป็นตอนนั้นเองที่เขาผสานเข้ากับปณิธานกระบี่!

สองผสานปณิธานรวมเป็นหนึ่งออกต้านทานพลังกดดันของชายชราชุดขาว!

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า คนสวมชุดขาวหรี่ตาเขม็นมอง “ปณิธานสองผสาน! เจ้าคิดประสานสองปณิธานสินะ!” จากนั้นคนพูดค่อยผลักฝ่ามือข้างขวาและกดลงต่ำอีกครั้ง

เปรี๊ยะ!

ทันทีนั้นพื้นปฐพีข้างใต้เท้าของพวกเยี่ยฉวนเริ่มปริแยกเป็นแนว ถึงกระนั้นคนทั้งสี่คนบนพื้นดิน กลับยังคงพยายามต้านทานเต็มกำลัง ไม่มีใครสักคนที่ยอมอ่อนข้อทรุดเข่าลง!

เมื่อเห็นเช่นนั้นชายชราสวมชุดขาวทำท่าจะออกปะทะ ขณะที่เยี่ยฉวนคำรามก้องสู่คนบนท้องฟ้า “ข้าจะฆ่าเจ้า!” สิ้นเสียงคำรามก้อง เยี่ยฉวนกระแทกเท้าลงบนพื้นดินส่งร่างให้ลอยขึ้นสู่อากาศฉับพลัน!

แม้ไม่มีทางเอาชนะ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ต้องสู้!

แม้สุดท้ายจะต้องตาย เขาก็ต้องผลักออกเสียหนึ่งกระบี่ให้จงได้!

ชายชราสวมชุดขาวบิดมุมปากอย่างหยามเหยียด ขณะที่มือข้างขวาค่อยผลักออกและพลิกกดลงต่ำทีละน้อย

ตู้ม!

พลังกดปะทะร่างที่กำลังลอยขึ้นสูงของเยี่ยฉวนอย่างรุนแรง จนเขาละลิ่วร่วงหล่นลงกระแทกพื้นเบื้องล่างทันที ด้วยแรงกระแทกทำให้พื้นดินในบริเวณแยกแตกเป็นโพรงลึกกว่าสี่จั้ง!

คนชรากำลังตั้งท่าออกปะทะซ้ำอีกรอบ พลันนั้นเองเสียงของคนผู้หนึ่งดังสะท้านขึ้นที่ในลานกว้าง “ถามหาข้าอย่างนั้นหรือ?” คนสวมชุดขาวชะงักมือ เขาและคนอื่นต่างหันขวับไปยังที่มาของเสียง

ในที่ไกลออกไป ณ ป่าไผ่หนาทึบ ปรากฏร่างของสตรีสวมชุดยาวสีขาวผู้หนึ่งยืนนิ่งอยู่บนใบไผ่ ยืนตรงเอามือไพล่หลังทั้งสองข้าง มองเห็นวัตถุสีขาวและสีดำพันรอบนิ้วมือ

ทันทีที่สายตาปะทะเข้ากับร่างสวมชุดยาวสีขาว ชายชราชุดขาวและพวกท่าทางระแวดระวังขึ้นมาทันที!

หญิงลึกลับหันไปชี้ที่เยี่ยฉวน พลางกล่าวกับเขา “ไม่ต้องมอง ข้าจะปัดกวาดที่นี่สักหน่อย!” จากนั้นนางยื่นมือสองข้างออกไปเบื้องหน้าและพลิกฝ่ามือแบออก

“กระบี่จงมา!”

ทันใดนั้นหอคอยแห่งเรือนจำภายในกายของเยี่ยฉวนเกิดอาการสั่นไหวรุนแรง พลันกระบี่เล่มหนึ่งในสามเล่มบนหลังคาหอคอยไหวสั่นรุนแรงกว่าเล่มอื่น……

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version