Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 244


บทที่ 244 สู้กันสักตั้งก่อน! (ปลาย)

ณ วังหลวง แคว้นเจียง

ในตอนนั้นชายวัยกลางคนกำลังเดินเข้ามาภายในท้องพระโรงวังหลวง คนที่ปรากฏอยู่บนที่นั่งหัวมังกรคือ ฮ่องเต้แคว้นเจียงนามว่าเจียงหยวน สายพระเนตรจับจ้องที่คนพลางยิ้มน้อยๆ “ผู้นำสาส์นจากแคว้นชู ฮ่องเต้ของท่านสบายดีหรือ?”

ชายวัยกลางคนตอบด้วยน้ำเสียงเมินเฉย “ทรงไม่สบายไม่ได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ!” คำตอบมีผลให้เหล่าขุนนางที่กำลังเข้าเฝ้าอยู่ภายในท้องพระโรงพากันนิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจ ฮ่องเต้เจียงหยวนเขม้นมองคนเบื้องหน้า หัวคิ้วขมวดแน่นบ่งชัดว่าค่อนข้างไม่สบายพระทัยเช่นกัน

ชายวัยกลางคนกราบทูลต่อมาว่า “ทูลฮ่องเต้ องค์ชายสามของแคว้นเราถูกศิษย์แห่งสถานศึกษาฉางหลานที่มีนามว่าเยี่ยฉวน สังหารเสียในครั้งปะทะกันที่สถานที่แห่งความลับในแคว้นหนิง พระองค์ต้องให้คำตอบกับทางเราว่าจะทรงจัดการเรื่องนี้อย่างไร!” เมื่อฟังถึงตอนนี้ ฮ่องเต้เจียงหยวนพลันมีสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

ก่อนที่อีกฝ่ายจะพลันเปลี่ยนท่าทีขึงขังแสดงอารมรณ์โกรธเกรี้ยว “คนผู้นี้สังหารองค์ชายสามแคว้นเราตามอำเภอใจ มันมีโทษถึงประหารทั้งโคตร เขา……”

ทันใดนั้นฮ่องเต้เจียงหยวนส่ายศีรษะทำนองคัดค้าน “ไม่ได้ เยี่ยฉวนเป็นคนแคว้นเจียง เราจะไม่ยอมให้แคว้นชูมาสั่งว่าเราต้องทำอะไร!”

ชายวัยกลางคนหรี่ตามองผู้ประทับนั่งบนแท่น “อะไรนะ แคว้นเจียงจะออกโรงปกป้องคนผู้นี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” สายตาของฮ่องเต้เจียงหยวนฉายแววเยือกเย็น “ถูกต้อง แคว้นเจียงจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนของเรา”

ชายวัยกลางคนกัดฟันกรอด ขณะจ้องเขม็งตาแทบไม่กะพริบ “เพียงเพื่อคนที่ชื่อเยี่ยฉวน แคว้นเจียงยอมขัดแย้งกับแคว้นชูเชียวหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เสียงตอบแผ่วเบาทว่าหนักแน่นของผู้ที่เป็นฮ่องเต้ “แคว้นเจียงมิได้ประสงค์จะเป็นศัตรูแคว้นชู แต่ในเมื่อเยี่ยฉวนเป็นคนของแคว้นเรา ดังนั้นแคว้นเจียงจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องเขาเป็นอันขาด!”

ใบหน้าของชายวัยกลางคนยามนี้บิดเบี้ยวด้วยความขัดเคืองใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าแคว้นเจียงจะกางปีกโอบอุ้มเยี่ยฉวนถึงขนาดนี้ แม้แต่บรรดาขุนนางในท้องพระโรงต่างพากันนิ่งเงียบ

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเยี่ยฉวนคือใคร ชายหนุ่มผู้มีความมหัศจรรย์ ผู้ที่สามารถทำลายสถานศึกษาฉางมู่จนล่มสลาย… จึงแน่ชัดว่าทุกคนตระหนักในใจว่าอาจารย์คนที่อยู่เบื้องหลังเยี่ยฉวนฝีมือไม่ใช่ธรรมดา!”

ชายวัยกลางคนแสยะยิ้มเยือกเย็น “ดี งั้นเราจะได้เห็นดีกัน!” พูดจบคนก็หันหลังกลับออกไปทันที

ทันทีที่คนลับหลังไป เสียงของฮ่องเต้เจียงหยวนสั่งการใครบางคน “ส่งคนไปสถานศึกษาฉางหลาน แจ้งผู้เยี่ยมยุทธ์เยี่ยฉวนให้ระวังคนจากแคว้นชู มันต้องใช้อุบายสกปรกแน่!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

“…”

ณ แคว้นชู

แคว้นชูตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นเจียง เนื่องจากระยะทางค่อนข้างห่างไกล จึงไม่ปรากฏว่าดินแดนทั้งสองเคยมีข้อบาดหมางระหว่างกันมาก่อน

วังหลวง

ปัง!

เสียงดังสนั่นอึงอลออกมาจากภายใน ถัดมาไม่นานมีเสียงตวาดกราดเกรี้ยวตามมา “งามหน้านักแคว้นเจียง!”

เจ้าของเสียงทรงอำนาจเป็นชายวัยกลางคน เขาสวมผ้าคลุมปักลวดลายมังกรสง่างาม คือฮ่องเต้ชูจ้าวเทียนแห่งแคว้นชู! ด้านข้างเป็นสตรีผู้หนึ่งแต่งกายสง่างามตามจารีตนิยมของสตรีในราชสำนัก ทว่านัยน์ตามีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า “ฝ่าบาทเพคะ เราต้องแก้แค้นให้ฮั่นเอ๋อร์ ไม่อย่างนั้นเขาจะตายตาหลับได้อย่างไร?”

ฮ่องเต้ชูจ้าวเทียนจ้องเขม็งไปที่ชายวัยกลางคนที่ยืนค้อมตัวอยู่เบื้องหน้า “แคว้นเจียงกล้าออกโรงปกป้องคนผู้นั้น อย่างนั้นหรือ?”

คนที่ถูกถามพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ฮ่องเต้แคว้นเจียงยังตอบกลับมาด้วยวาจาแข็งกร้าวยิ่งนัก เขาฝากมาทูลพระองค์ว่าถ้าแคว้นชูกล้าแตะต้องชายผู้นั้น แคว้นเจียงจะไม่ไว้หน้าและจะตอบแทนให้สาสมพ่ะย่ะค่ะ!”

“งั้นก็ดี! ดีทีเดียว!” สีหน้าของฮ่องเต้แห่งแคว้นชูดุดันแฝงรอยมาดร้าย “เจ้าแคว้นนั่นมันอยากก่อสงครามกับเรา เพียงเพื่อปกป้องเยี่ยฉวน”

ทันใดนั้นชายชราผู้ที่ยืนสงบนิ่งที่ด้านข้าง พลันเอ่ยขึ้นทันควัน “ฝ่าบาท เกี่ยวกับเรื่องนี้พระองค์อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พลันฮ่องเต้ชูจ้าวเทียนหันมาทางคนพูดอย่างสนใจ ชายชราทูลตอบด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “ข้าเคยสืบเรื่องของชายหนุ่มที่ชื่อเยี่ยฉวนมาแล้ว คนคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา แม้ยังอายุน้อยและขั้นพลังได้เพียงทะยานสวรรค์แต่สามารถสังหารยอดยุทธ์ขั้นสันโดษ ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ถูกฆ่าตายเมื่อครั้งเหตุการณ์ในสถานที่แห่งความลับล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ รวมทั้งกานสือซานจากสถานศึกษาฉางมู่แห่งต้าอวิ๋นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

กานสือซาน! เมื่อได้ยินคนกล่าวจบ ใบหน้าของฮ่องเต้พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดฉับพลัน! ด้วยคนผู้นั้นใครต่างย่อมรู้ดี ว่าเขาคือหนึ่งในยอดฝีมือแห่งทำเนียบผู้เยี่ยมยุทธ์!

เสียงคนชรากล่าวสืบไป “ตามที่ข้าสืบรู้ บัดนี้สถานศึกษาฉางมู่แห่งแคว้นเจียงล่มสลายไปสิ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ราชสำนักแห่งแคว้นเจียงและสำนักอัปสรเมรัยยังร่วมมือกับเขา เช่นนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มิฉะนั้นสองอำนาจแห่งแคว้นคงไม่ให้ความช่วยเหลือต่อเขาเช่นนี้ หากข้าคาดคะเนไว้ไม่ผิดเพี้ยน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนผู้นี้จะต้องยิ่งใหญ่มีอำนาจมากมายเหลือคณานับคนหนึ่งทีเดียว!”

ฮ่องเต้มีท่าทีว่าพระองค์เริ่มสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว “ว่าไป!” อีกฝ่ายค่อมตัวลงห่อกำปั้นคารวะน้อมรับบัญชา “กานสือซานเป็นศิษย์ชั้นหัวกะทิของฉางมู่แห่งต้าอวิ๋น เขามาถูกฆ่าตายเสียแล้ว ตามปกติสถานศึกษาฉางมู่ไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปเฉยๆ ทว่าตราบจนถึงทุกวันนี้เจ้าหนุ่มคนนั้นและศิษย์ฉางหลานยังอยู่รอดปลอดภัยกันดี นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาพ่ะย่ะค่ะ! นอกจากนั้น บรรดายอดฝีมือที่ถูกฆ่าตายในสถานที่แห่งความลับ ย่อมต้องมีกองกำลังหนุนหลังด้วยกันทั้งนั้น และกองกำลังเหล่านี้ได้ส่งคนเข้าไปที่แคว้นเจียงเพื่อหวังจะล้างแค้นให้แก่พวกที่ตาย แต่จนบัดนี้ยังไร้วี่แววข่าวคราวของคนพวกนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

คนฟังถึงกับกำหมัดเข้าหากัน “เจ้าสืบได้หรือยัง ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าหนุ่มนั่นเป็นใคร?” ชายชราสั่นศีรษะ “หน่วยสืบยังไร้ร่องรอยพ่ะย่ะค่ะ ไร้ร่องรอยใดๆ ทั้งสิ้น ฝ่าบาท……คนผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างที่สุด เช่นนั้นข้าจึงเห็นว่าเราไม่ควรสร้างความขุ่นเคืองกันอีกจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ!”

“เรื่องการตายของฮั่นเอ๋อร์ จะไม่ทำอะไรเลยเหรอ?” ในตอนนั้นเสียงคลุมเครือของสตรีสวมชุดสวยงามดังขึ้นอย่างกราดเกรี้ยว ชายชราเบนสายตาไปมอง ทว่าไม่เอ่ยว่าอย่างไร

สีหน้าของฮ่องเต้ประดุจสายน้ำที่กำลังถูกกวนตะกอนให้ขุ่นมัว ไม่มีใครรู้ว่าภายในเบื้องลึกของจิตใจเขากำลังคิดสิ่งใด เมื่อสตรีคนดังกล่าวทำท่าจะเอ่ยปาก เขาหันขวับไปจ้องหน้าพลันนางจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นสงบปากสงบคำเสียทันที……เมื่อไม่กล้าพูดนางจึงได้แต่ร่ำไห้อยู่เช่นนั้น

ความเงียบงันเข้าครอบคลุม ในที่สุดฮ่องเต้ชูจ้าวเทียนหันไปทางชายชราคนเดิมที่ยืนไม่ไกลออกไป “หาไม่พบเลยหรือ?” อีกฝ่ายค้อมตัวก้มหน้าส่ายศีรษะไปมา “ข้าส่งหน่วยสอดแนมไปหลายคน แต่ไม่มีใครพบเงื่อนงำเลยพ่ะย่ะค่ะ!” สีหน้าของชูจ้าวเทียนหมองหม่นลงทันทีที่ได้ฟัง

ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ประตูโถงท้องพระโรง “ฮ่องเต้ จะไม่ทรงแก้แค้นให้องค์ชายที่ตายไปจริงๆ งั้นหรือ?” ฮ่องเต้ชูจ้าวเทียนเงยหน้า พลางหันขวับไปทางต้นเสียงและพบว่าที่กึ่งกลางช่องประตูปรากฏร่างของชายสวมชุดดำ

เหตุการณ์นั้นยังผลให้องครักษ์นับสิบกรูกันเข้ามาภายในห้องโถงท้องพระโรง แต่คนชุดดำกลับท่าทางเย็นใจ ไม่สะดุ้งสะเทือน “กระหม่อมมาในฐานะตัวแทนขององค์ฮ่องเต้แห่งแคว้นถังพ่ะย่ะค่ะ!”

ชูจ้าวเทียนนิ่วหน้า แววตาแสดงความสงสัย “แคว้นถังงั้นหรือ?” คนที่เพิ่งเข้ามามีรอยยิ้มเยื้อนพลางกล่าว “ฮ่องเต้ของกระหม่อมมีพระราชสาส์นมายังพระองค์ เพื่อต้องการทราบว่าทรงมีพระประสงค์จะมีส่วนในการแบ่งแยกแคว้นเจียงด้วยกันหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้ชูจ้าวเทียนเค้นเสียงคำราม “เจ้าพูดง่ายเกินไปหรือเปล่า?” ชายสวมชุดดำยังคงกล่าวยิ้มๆ “แล้วถ้าร่วมมือกับสถานศึกษาฉางมู่แห่งต้าอวิ๋นล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” เมื่อได้ยินวาจาที่ซักถาม ชูจ้าวเทียนหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด

ทันทีที่เห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ชายสวมชุดดำจึงเอ่ยสืบไป “พวกเรารู้แล้วว่ามีคนอยู่เบื้องหยังเยี่ยฉวนจริง อย่างไรก็ตามสถานศึกษาฉางมู่แห่งต้าอวิ๋นรับปากว่าทางเขาจะรับมือกันคนผู้นี้เอง พวกเราสองแคว้นเพียงบุกเข้าไปและมุ่งสังหารคนที่แคว้นเจียง ด้วยกองกำลังทหาร การสังหารเยี่ยฉวนก็ทำได้ง่ายเหมือนบี้มด!”

ทว่าคนเป็นถึงฮ่องเต้ย่อมไม่วางใจอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า จึงเอ่ยถามไปว่า “ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?” ดังนั้นชายสวมชุดดำจึงชูแผ่นป้ายตราสัญลักษณ์ชนิดหนึ่ง ยื่นออกเบื้องหน้าฮ่องเต้ชูจ้าวเทียน

แผ่นป้ายไม้ดังกล่าวแกะสลักตัวอักษร ‘ต้าอวิ๋น’ ไว้ที่ด้านหลัง และคำว่าสถานศึกษาฉางมู่อยู่ด้านหน้า คำสั่งของสถานศึกษาฉางมู่แห่งต้าอวิ๋น! ชูจ้าวเทียนยังคงส่ายหน้าน้อยๆ “แค่ตราสัญลักษณ์อันเดียวยังไม่พอ!”

ในขณะนั้นเองมีร่างในชุดสีขาวเป็นชายชราอีกคนหนึ่งปรากฏขึ้นภายในโถงท้องพระโรง ทันทีทีคนเห็นผู้เข้ามาใหม่พลันสีหน้าแต่ละคนแปรเปลี่ยนสิ้นเชิง!

ทว่าคนสวมชุดดำกลับหันไปค้อมกายลงต่ำแสดงคารวะต่อชายชราสวมชุดขาวทันที “ยินดีที่ได้พบ ศิษย์อาวุโส!”

คนสวมชุดขาวผู้นี้ที่แท้เขาคือผู้พิทักษ์แห่งสถานศึกษาฉางมู่ เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าไปยังแคว้นเจียง โดยมีเป้าหมายคือเอาชีวิตของสตรีลึกลับ!

เขามิใช่คนของฉางมู่แผ่นดินชิง ทว่ามาจากสถานศึกษาฉางมู่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่! ยอดยุทธ์ผู้ที่มีขั้นพลังเหนือกว่าสุดยอดผนึกยุทธ์!

สายตาของผู้มาใหม่จ้องแน่วไปยังฮ่องเต้ชูจ้าวเทียน “พวกข้าจะจัดการคนที่อยู่เบื้องหลังเยี่ยฉวนเอง ถ้าแคว้นชูและแคว้นถังร่วมมือกันทำลายแคว้นเจียงลงได้และสังหารเยี่ยฉวนสำเร็จ สถานศึกษาฉางมู่จะตบรางวัลให้แก่แคว้นของพวกท่านอย่างงาม!”

ภายในหอโถงพระโรงเงียบงันไปครู่ใหญ่ ในที่สุดชูจ้าวเทียนกัดกรามกรอดขณะตรัสว่า “ตกลง เราจะร่วมมือด้วย!” เมื่อชายชราชุดขาวได้คำตอบเป็นที่พอใจ เขาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่ร่างจะค่อยเลือนหายไป

ณ ศาลเจ้าฮ่าวหรัน สถานศึกษาฉางมู่แห่งต้าอวิ๋น

ชายชราสวมชุดขาวยืนสงบนิ่ง ใบหน้าแหงนเงย สายตามองขึ้นไปเหนือศาลเจ้าฮ่าวหรันที่บนหลังคา คนที่ยืนเบื้องหลังชายชรา เขาคือมู่ซ่วนชิงอาจารย์ใหญ่แห่งสถานศึกษาฉางมู่

มู่ซ่วนชิงยามนี้สีหน้าแสดงออกว่ากำลังยุ่งยากใจ ทีท่าลังเลอย่างเห็นได้ชัด “ข้าว่ามันเสี่ยงเกินไป พวกเรายุติเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่า!”

อีกฝ่ายส่ายหน้าช้าๆ “ช้าไปแล้ว อาจารย์ใหญ่ฉางมู่ก็ตายแล้ว ยังไงเสียเจ้าหนุ่มนั่นไม่ยอมรามือแน่ เขาเป็นยอดฝีมือเกรงว่าเมื่อใดที่เขาสำเร็จเป็นเซียนกระบี่ มันจะไม่พาให้พวกเราต้องคุกเข่าคำนับขออภัยหรือ? คนของฉางมู่อย่างพวกเราไม่มีวันยอมคุกเข่าให้ใคร สตรีลึกลับคนนั้นเคยพูดว่าไม่ยอมให้ใครข่มเหงชายหนุ่มนั่น ฉะนั้นเราจำต้องเปลี่ยนวิธีการ!”

เสียงอีกฝ่าย มู่ซ่วนชิงถอนใจแผ่วเบา “ข้าจะไปอาณาจักรต้าอวิ๋นเพื่อเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้เกาซาน……ในเมื่อพวกเราตั้งใจที่จะทำสิ่งใดแล้ว เราก็ต้องจัดการให้ถึงที่สุด” ชายชราสวมชุดขาวพยักหน้าเนิบนาบพลางกล่าวว่า “จัดการให้ถึงที่สุด!”

ในวันถัดมา กองทหารม้าเกราะเงินจำนวนหกหมื่นนายมุ่งหน้าลงทางตอนใต้ อีกทั้งยังมีทหารราบพลทวน 12,000 นายแห่งแคว้นเยว่เข้าร่วมด้วย……ในเวลาเดียวกันด้านนอกเขตเมืองชายแดน ปรากฏทหารม้าเกราะดำยกกองกำลังตบเท้าเข้าประชิด……!

ณ วังหลวงแห่งแคว้นหนิง ทัวป้าเหยียนกำลังพิจารณาตราประทับคำสั่งของสถานศึกษาฉางมู่ต้าอวิ๋น เบื้องหน้าไม่ไกลนักมีร่างชายสวมผ้าคลุมสีดำ

ไม่แน่ชัดว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ทัวป้าเหยียนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับบดขยี้ตราประทับคำสั่งของสถานศึกษาฉางมู่แหลกละเอียดคามือ “แคว้นหนิงของข้าจะไม่ยอมก้มหัวให้ใคร!”

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version