Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 324


บทที่ 324 ข้าไม่ได้จะให้อุ้ม! (ต้น)

……

ลัทธิขงจื๊อ!……

……

เมื่อทบทวนสิ่งที่ได้ยิน เยี่ยฉวนนิ่วหน้าเล็กน้อย “ลิทธิขงจื๊อ อย่างนั้นหรือ?” ……

..

โม่หยวนพลันหน้าก่อนจะพูดว่า “นี่เป็นคำสอนที่มีมาแต่โบราณ ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้คำสอนเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา จึงหลงเหลือมรดกตกทอดคำสอนถึงชนรุ่นหลังไม่มากนัก มีความจริงที่ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ว่าเราสองคนเป็นผู้สืบทอดหลักคิด และมีภาระหน้าที่หนึ่งคือการฟื้นฟูคำสอนของหลักคิดขงจื๊อ”

เยี่ยฉวนย้อนถามเสียงเรียบ “ทำไมจึงเป็นข้า?”

อีกฝ่ายส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “เราสองคนเคยอยู่ในแผ่นดินฉางหลาน และสถานศึกษาฉางหลาน นอกจากนั้นยังเคยอยู่ที่สถานศึกษาฉางมู่ในแผ่นดินชิงด้วย ถึงแม้สองสถานศึกษาจะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ให้คนมาเรียนรู้ แต่ทั้งสองกลับไม่มีการสอนทางวิชาการเลย เพราะทั้งสองแห่งมุ่งเน้นการฝึกฝนพลังปราณและความแข็งแกร่งของศิษย์ แทนที่จะมีการสอนความรู้และหลักคิด”

เมื่อคนพูดจบประโยคเขาหยุดนิดหนึ่ง สายตาคนเบนมาทางเยี่ยฉวนก่อนกล่าวต่อไปว่า “เดิมเราคิดจะล้มเลิกความตั้งใจ หากท่านที่ปรึกษาลู่ไม่มาหาและบอกให้เราลองมาสอนที่นี่ ซึ่งเจ้าทำให้เราทั้งคู่ประหลาดใจและมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าเป็นคนดีคนหนึ่ง อีกทั้งยังสำเร็จเป็นจ้าวกระบี่ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่เรา……”

เมื่อคนพูดถึงตอนนี้ เยี่ยฉวนเอ่ยขัดจังหวะทันควัน “พวกท่านคงมองข้าออกทะลุปรุโปร่งทั้งหมดสินะ!”

น้ำเสียงของคนพูดบ่งชี้ชัดว่าตกใจไม่น้อย! ด้วยที่ผ่านมาเขาจะซ่อนเร้นความกล้าแกร่งด้วยกฎแห่งเต๋ามาโดยตลอด!

โม่หยวนหัวเราะน้อยๆ “ถ้าข้าคิดไม่ผิดเจ้ามีกฎแห่งเต๋าด้วย ใช่ไหม?”

กฎแห่งเต๋า!

ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามหากได้แต่นิ่งงัน เขาประเมินความสามารถของคนสองคนเบื้องหน้าต่ำไปจริงๆ!

บัณฑิตชราโม่หยวนพูดขึ้นว่า “เราจะบอกให้เจ้าคลายกังวลก็ได้ ว่าพวกเราไม่มีทั้งความอาฆาตพยาบาทกับเจ้าและไม่กล้ามี”

ไม่กล้า!

เมื่อครั้งที่อาจารย์สตรีลึกลับออกจากหอคอยแห่งเรือนจำมาสังหารฝ่ายตรงข้ามของเยี่ยฉวน พวกเขาพบเห็นมากับตาตนเอง

เซียนกระบี่ งั้นหรือ?

เซียนกระบี่นั้นเขาก็เคยพบมาก่อน แต่ที่สตรีลึกลับเช่นนั้น หาใช่แค่เซียนกระบี่ไม่……! ทำเอาทุกครั้งที่นึกถึงพลันความกลัววูบจับขั้วหัวใจ กระทั่งเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ด้วยสตรีลึกลับมิใช่เซียนกระบี่ธรรมดา นางเป็นมากกว่าเซียนกระบี่อะไรนั่นเสียอีก!

แน่นอนว่าเหตุผลที่เขาเลือกเยี่ยฉวน เพราะคนคนนี้มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะฟื้นฟูสถานศึกษาเป็นทุนเดิม

ชายหนุ่มมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นเรื่องการศึกษาและแคว้นถิ่นฐานของตน ซึ่งเป็นความประสงค์ของคนทั้งคู่ในการที่จะเผยแพร่แนวคิดทางการศึกษาและหลักคิดของลัทธิขงจื๊อ ถ้าฉางหลานเติบโตต่อไปภายในหน้า อิทธิพลของสถานศึกษาย่อมจะเติบโตตามไปด้วย ถึงตอนนั้น หลักคิดและการศึกษาลัทธิขงจื๊อก็จะแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง!

เหตุผลที่สำคัญอีกอย่างคือเยี่ยฉวนเป็นคนมีพลังกล้าแกร่ง!

หากไร้ซึ่งความกล้าแกร่งและความสามารถที่จะพัฒนาแล้วล่ะก็ อย่างอื่นก็เป็นได้แค่สิ่งไร้สาระ!

บรรยากาศและพื้นที่โดยรอบยามนี้ตกอยู่ในความเงียบสงัด

โม่หยวนและเฟิ่งหลานทั้งสองต่างนิ่งเงียบ รอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อ

ครู่ต่อมาจึงได้ยินเสียงเยี่ยฉวนพูดมาว่า “ข้าไม่มีความรู้เรื่องลัทธิขงจื๊อ”

โม่หยวนจึงว่า “วางใจเถอะ ถ้าเจ้ารู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับลัทธิขงจื๊อขึ้นมาเมื่อไร สามารถไล่พวกเราออกได้ทุกเมื่อ ขอเพียงขึ้นชื่อว่าเจ้าเข้าร่วมกับลัทธิขงจื๊อแล้ว ต่อไป เจ้าจะได้รับการสนับสนุนกองกำลังในทุกกรณี ในฐานะที่เจ้าเป็นผู้เผยแผ่หลักคิด ตำแหน่งนี้เป็นเพียงในนาม หาได้มีข้อผูกมัดแต่อย่างใด เราจะอ้างชื่อของเจ้าในการเผยแพร่หลักคิดของลัทธิลงจื๊อและแนวคิดทางการศึกษาในภายหน้า แน่นอนว่าจะช่วยเจ้าดูแลสถานศึกษาฉางหลานให้อย่างดีที่สุด สบายใจได้”

เฟิ่งหลานรีบสนับสนุนทันที “พูดง่ายๆ ก็คือเป็นการตกลงที่จะร่วมมือกัน ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างนายและบ่าว และเป็นสถานการณ์ที่สองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันนั่นแหละ”

เยี่ยฉวนยิ้มออก “ในเมื่อพวกท่านพูดแบบนี้ ข้าก็หมดคำถาม”

ทันทีที่ได้ยินคนพูดมาเช่นนั้น ทั้งโม่หยวนและเฟิ่งหลานหันมายิ้มๆ ให้แก่กัน

ชายชราจึงส่งหีบให้แก่เยี่ยฉวน ซึ่งครานี้เขาไม่ต้องรักษามารยาท จึงรีบรับมาอย่างรวดเร็ว พลันถามว่า “ข้าจะใช้งานได้อย่างไร?”

คนส่งหีบให้ตอบว่า “การเปิดใช้งานมนุษย์ทองคำทั้งสิบสองตัวจะต้องใช้พลังชี่จิตวิญญาณเป็นตัวผลักดัน เปิดใช้งานหนึ่งมนุษย์ทองคำต่อสุดยอดศิลาจิตวิญญาณแสนชิ้น และมีระยะเวลาใช้ได้ครั้งละหนึ่งก้านธูป”

ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาถึงกับหน้าถอดสี “ใช้สุดยอดศิลาจิตวิญญาณแสนชิ้นต่อหนึ่งตัวเชียวหรือ? ทั้งระยะเวลาใช้งานครั้งละหนึ่งก้านธูป? จริงหรือ?”

โม่หยวนเหยียดมุมปากออกเล็กน้อย “แม้ว่าจะดูเหมือนสิ้นเปลือง แต่สิ่งนี้ควรค่าแก่การใช้งานยิ่งนัก ถ้าเจ้ามีของล้ำค่ามากพอที่จะเปิดใช้งาน หุ่นมนุษย์ทองคำทั้งสิบสองสามารถสังหารยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์ได้เลยทีเดียว”

เยี่ยฉวนส่ายหน้าพลางบิดบกมุมปาก รอยยิ้มมีร่องรอยบ่งบอกว่าอับจนหนทาง

ถึงตอนนี้ เขาจะมีสุดยอดศิลาจิตวิญญาณราวล้านชิ้นเก็บไว้แล้ว แต่ถ้านำออกมาเพื่อเปิดใช้งานสิบสิงมนุษย์ทองคำ คงต้องใช้จนหมด! หากสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเจ้ามนุษย์ทองคำทั้งสิบสองมีระยะเวลาการใช้งานหนึ่งก้านธูปต่อครั้งเท่านั้น!

ระยะเวลาสั้นมาก!

เป็นวิธีผลาญเงินทองกันง่ายๆ!

แม้ว่าของล้ำค่านี้จะดูดีแค่ไหน แต่เอาเข้าจริงเยี่ยฉวนคงไม่กล้าใช้เพราะถ้าหลงใช้งานเข้าสักตัว คงจนกรอบไปเลยทีเดียว!

คนชราโม่หยวนกล่าวสืบไป “อีกเรื่องหนึ่ง พวกเราอาจจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเจ้าอย่างโจ่งแจ้ง เพราะจะเกิดปัญหาและข้อขัดข้องบางอย่าง ถ้าพวกเราออกหน้าเมื่อไร อาจสร้างปัญหาให้กับเจ้าได้ ดังนั้น เราจะไม่ทำอย่างโจ่งแจ้ง แต่จะคอยช่วยอย่างลับๆ”

เยี่ยฉวนคลี่ยิ้มก่อนตอบว่า “เข้าใจแล้ว ต้องขอบคุณพวกท่าน!”

โม่หยวนกล่าวยิ้มๆ “ถือว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันก็แล้วกัน!”

จากนั้น คนพูดชะงักนิดหนึ่งเหมือนจะนึกอะไรออกบางอย่าง “เจ้าจำที่ปรึกษาลู่ได้หรือไม่?”

ชายหนุ่มนิ่งคิดพลันพยักหน้า “ข้าย่อมจำได้อยู่แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีกฝ่ายจึงกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงเนิบช้า “นางเป็นผู้สืบทอดแนวคิดลัทธิแสนยนิยม การเคลื่อนไหวของอาณาจักรต้าอวิ๋นในครั้งนี้อาจเป็นโอกาสที่นางรอคอย เท่าที่เรารู้คนผู้นี้เลือกองค์หญิงเก้าเป็นผู้สืบทอด เมื่อเจ้ากลับมาแคว้นเจียงแล้วควรไปพบนางสักครั้ง อาจจะได้รู้อะไรหลายอย่าง!”

ลู่จิ้วเก๋อ!

ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ “ตกลง ผู้อาวุโสภายหลังจากที่ข้าไปแล้ว ฝากพวกท่านช่วยดูแลฉางหลานด้วยขอรับ!”

โม่หยวนยกมือขึ้นลูบเครายาวที่คางพลางพยักหน้า “ไม่มีปัญหา เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เจ้าเดินทางไปไค่หยางก็ระมัดระวังด้วยก็แล้วกัน”

เยี่ยฉวนเอ่ยอำลาอีกเล็กน้อยต่อสองอาวุโสก่อนผละจากไป

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version